คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
คนที่บอกว่าไม่มี วิทยาศาสตร์เขาออกมาประกาศรึยังครับว่าไม่มี หรือเขาบอกว่านั่นคือพลังงาน ถ้าเป็นพลังงานก็แสดงว่าต้องมีการตรวจพบได้ บางทีเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของโลก มีมานานแล้ว เป็นสิ่งที่อยู่ในกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ เพียงแต่คนเรายังไม่เข้าใจ ก็เลยบอกว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ อันนี้บอกเพราะตัวเองเคยเจอมากับตัวทั้งเห็นและได้ยิน
ปล.มนุษย์จะกลัวทุกสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ
ปล.มนุษย์จะกลัวทุกสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
เท่าที่เคยฟังมาผ่าน ๆ ทฤษฎีสตริงคงใกล้เคียงสุดที่ว่าเอกภพอาจมีถึง 11 มิติ ซึ่งเราสังเกตได้เพียง 4 มิติ มิติที่เกินมาเป็นมิติพิเศษที่มีการขดตัวอยู่อย่างเล็กมากจนเราสังเกตไม่ได้และมีระยะห่างจากมิติเราเพียง 1 มม. และอาจมีกฎธรรมชาติที่แตกต่างไปจากเอกภพของเรา ซึ่งหากเราสามารถมองเห็นโลกในระดับอะตอมได้ (ไม่ใช่แค่ส่องกล้องเป็นจุด ๆ) เราอาจจะพบความลับของจักรวาลอีกมากมายที่ซ่อนอยู่
เรื่องนี้สำคัญเพราะมันตรงกับตำราของศาสนาพุทธ ที่ว่า กายของเทวดาละเอียดอ่อนมากหากไม่มีสายตาที่สามารถมองเห็นโลกในระดับปรมาณู (เทียบได้กับอะตอม) ก็ไม่สามารถเห็นเทวดาได้
และมีหลายครั้งที่กล่าวว่าเทวดาสามารถมีวิมานหรือกองทัพอยู่ในวัตถุเล็ก ๆ เช่นเกสรดอกไม้ได้โดยที่เทวดาไม่ได้ตัวเล็กลง (การขดตัวของมิติทับซ้อน)
อีกอย่างตรงกับหลักของการปฏิบัติที่เราจะเห็นเทวดาหรือภพภูมิอื่น ๆ จะต้องเริ่มจากจุดที่เล็กกว่าปลายเข็มเพื่อผ่านเข้าไปยังภพเหล่านั้น ท่านว่าเหมือนมองผ่านรูบนผนังแล้วเห็นภูเขา เห็นดวงอาทิตย์ของอีกฝั่งอย่างนั้น ซึ่งภพเหล่านั้นไม่ได้อยู่ห่างไกล แต่อยู่ติดกับภพของเราเลย
และดูจากเทคโนโลยีที่มนุษย์ค้นพบ มนุษย์สามารถทำทุกอย่างประดุจเป็นเทวดาทั้ง ๆ ที่เคยเป็นเรื่องไกลตัว เช่น มองที่ไกล มองอนุภาคเล็ก ๆ เหาะเหินเดินอากาศ ดำน้ำ ดำดิน สื่อสารทางไกล มองเห็นสรรพสิ่งในโลก ค้นคว้าความรู้ได้รวดเร็วประดุจมีญาณ สร้างหุ่นบริวารที่คิดได้เอง และแม้หลาย ๆ อย่างยังทำไม่ได้แต่ก็มีทฤษฎีรองรับ ฉะนั้น เชื่อว่ามันมีวิธีที่มนุษย์จะทำได้แน่นอนเพียงแต่ว่าจะค้นพบไหมและเมื่อไร
ทางศาสนาพุทธ เทคโนโลยีคืออิทธิฤทธิ์หรือฤทธิ์ทางใจอย่างหนึ่ง เป็นความสามารถดั้งเดิมของมนุษย์ที่สามารถเปลี่ยนความคิดให้เป็นความจริงได้ เพียงแต่ใช้กรรมวิธีคนละอย่างกับนักบวชเท่านั้น
เรื่องนี้สำคัญเพราะมันตรงกับตำราของศาสนาพุทธ ที่ว่า กายของเทวดาละเอียดอ่อนมากหากไม่มีสายตาที่สามารถมองเห็นโลกในระดับปรมาณู (เทียบได้กับอะตอม) ก็ไม่สามารถเห็นเทวดาได้
และมีหลายครั้งที่กล่าวว่าเทวดาสามารถมีวิมานหรือกองทัพอยู่ในวัตถุเล็ก ๆ เช่นเกสรดอกไม้ได้โดยที่เทวดาไม่ได้ตัวเล็กลง (การขดตัวของมิติทับซ้อน)
อีกอย่างตรงกับหลักของการปฏิบัติที่เราจะเห็นเทวดาหรือภพภูมิอื่น ๆ จะต้องเริ่มจากจุดที่เล็กกว่าปลายเข็มเพื่อผ่านเข้าไปยังภพเหล่านั้น ท่านว่าเหมือนมองผ่านรูบนผนังแล้วเห็นภูเขา เห็นดวงอาทิตย์ของอีกฝั่งอย่างนั้น ซึ่งภพเหล่านั้นไม่ได้อยู่ห่างไกล แต่อยู่ติดกับภพของเราเลย
และดูจากเทคโนโลยีที่มนุษย์ค้นพบ มนุษย์สามารถทำทุกอย่างประดุจเป็นเทวดาทั้ง ๆ ที่เคยเป็นเรื่องไกลตัว เช่น มองที่ไกล มองอนุภาคเล็ก ๆ เหาะเหินเดินอากาศ ดำน้ำ ดำดิน สื่อสารทางไกล มองเห็นสรรพสิ่งในโลก ค้นคว้าความรู้ได้รวดเร็วประดุจมีญาณ สร้างหุ่นบริวารที่คิดได้เอง และแม้หลาย ๆ อย่างยังทำไม่ได้แต่ก็มีทฤษฎีรองรับ ฉะนั้น เชื่อว่ามันมีวิธีที่มนุษย์จะทำได้แน่นอนเพียงแต่ว่าจะค้นพบไหมและเมื่อไร
ทางศาสนาพุทธ เทคโนโลยีคืออิทธิฤทธิ์หรือฤทธิ์ทางใจอย่างหนึ่ง เป็นความสามารถดั้งเดิมของมนุษย์ที่สามารถเปลี่ยนความคิดให้เป็นความจริงได้ เพียงแต่ใช้กรรมวิธีคนละอย่างกับนักบวชเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 15
มนุษย์เรา มีประสาทสัมผัสแค่ประมาณ 6 อย่าง ที่มีขอบเขตจำกัด
เอาแค่อินฟาเรดหรือ UV หรือคลื่นเสียงที่ต่ำกว่า 20hz เราก็ไม่สามารถรับรู้ได้แล้ว
ฉะนั้นการที่จะสร้างเครื่องมือที่จับสัญญาณวิญญาณ
ซึ่งเราก็ต้องใช้มนุษย์เป็นตัว calibrate ว่าสิ่งที่เครื่องรับสัญญาณจับได้นั้นมันคือวิญญาณ
ซึ่งมันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากครับ เพราะเราไม่มีประสาทสัมผัสครอบคลุมตรงนั้น
แต่ทว่าเราสามารถต่อยอดมันได้ คล้ายๆการจับคลื่นจากอวกาศ
หรือเหมือนที่เราสามารถรู้จัก IR หรือ UV กันมาได้
โดยการสังเกตุจากสภาพแวดล้อม ดูการเปลี่ยนแปลง แต่ทว่ามันก็ยังยากมากๆๆๆๆอยู่ดีครับ
เพราะเราไม่สามารถโฟกัสมันได้ ว่าอะไรมีเหตุมาจากวิญญาณ เพราะบนโลกมันวุ่นไปหมด
ไม่เหมือนปรากฏการทางดาราศาสตร์
ที่นานๆจะเกิดทีและค่อนข้างรุนแรง(มันถึงมาถึงโลกได้)
สัญญาณที่จับได้จึงสามารถนำไปสอดคล้องกับเหตุการณ์ได้อย่างมีนัยยะ
ทั้งนี้ มนุษย์เราในบางบุคคล หรือบางเหตุการณ์
นั้นสามารถสื่อถึงกันได้ โดยไม่ได้ใช้ประสาทสัมผัสปกติ
เช่น การระลึกถึงกันในเวลาเดียวกัน หรือการรับรู้ถึงรังสีอำมหิต(อันนี้เจอกับตัวเอง)
หรือพฤติกรรมฝูงชน เช่น การระบาดทางอารมณ์
(การระบาดทางอารมณ์นี่ ผมว่ามันอาจไม่ใช่ก็ได้ เพราะมันเห็นและได้ยิน ถึงได้เป็นตามกัน)
ผมจึงค่อนข้างเชื่อได้ว่า มันน่าจะมีพลังงาน ที่ส่งผลต่อมนุษย์ในด้านนี้อยู่
เพียงแต่ประสาทสัมผัสเราไม่สามารถรับรู้ มันได้เท่านั้น
หวังว่าในอนาคต น่าจะมีคนทำให้ (ไสย=นอน)ศาสตร์ มันตื่นขึ้นมาได้
ปล.ผี กับ วิญญาณ ในนัยยะของการรับรู้ มันคือคนละอย่างนะครับ หวังว่าคงเข้าใจ
เอาแค่อินฟาเรดหรือ UV หรือคลื่นเสียงที่ต่ำกว่า 20hz เราก็ไม่สามารถรับรู้ได้แล้ว
ฉะนั้นการที่จะสร้างเครื่องมือที่จับสัญญาณวิญญาณ
ซึ่งเราก็ต้องใช้มนุษย์เป็นตัว calibrate ว่าสิ่งที่เครื่องรับสัญญาณจับได้นั้นมันคือวิญญาณ
ซึ่งมันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากครับ เพราะเราไม่มีประสาทสัมผัสครอบคลุมตรงนั้น
แต่ทว่าเราสามารถต่อยอดมันได้ คล้ายๆการจับคลื่นจากอวกาศ
หรือเหมือนที่เราสามารถรู้จัก IR หรือ UV กันมาได้
โดยการสังเกตุจากสภาพแวดล้อม ดูการเปลี่ยนแปลง แต่ทว่ามันก็ยังยากมากๆๆๆๆอยู่ดีครับ
เพราะเราไม่สามารถโฟกัสมันได้ ว่าอะไรมีเหตุมาจากวิญญาณ เพราะบนโลกมันวุ่นไปหมด
ไม่เหมือนปรากฏการทางดาราศาสตร์
ที่นานๆจะเกิดทีและค่อนข้างรุนแรง(มันถึงมาถึงโลกได้)
สัญญาณที่จับได้จึงสามารถนำไปสอดคล้องกับเหตุการณ์ได้อย่างมีนัยยะ
ทั้งนี้ มนุษย์เราในบางบุคคล หรือบางเหตุการณ์
นั้นสามารถสื่อถึงกันได้ โดยไม่ได้ใช้ประสาทสัมผัสปกติ
เช่น การระลึกถึงกันในเวลาเดียวกัน หรือการรับรู้ถึงรังสีอำมหิต(อันนี้เจอกับตัวเอง)
หรือพฤติกรรมฝูงชน เช่น การระบาดทางอารมณ์
(การระบาดทางอารมณ์นี่ ผมว่ามันอาจไม่ใช่ก็ได้ เพราะมันเห็นและได้ยิน ถึงได้เป็นตามกัน)
ผมจึงค่อนข้างเชื่อได้ว่า มันน่าจะมีพลังงาน ที่ส่งผลต่อมนุษย์ในด้านนี้อยู่
เพียงแต่ประสาทสัมผัสเราไม่สามารถรับรู้ มันได้เท่านั้น
หวังว่าในอนาคต น่าจะมีคนทำให้ (ไสย=นอน)ศาสตร์ มันตื่นขึ้นมาได้
ปล.ผี กับ วิญญาณ ในนัยยะของการรับรู้ มันคือคนละอย่างนะครับ หวังว่าคงเข้าใจ
ความคิดเห็นที่ 14
ทำได้
แต่ปล่อยให้เป็น อย่างที่มันเป็นน่ะดีอยู่แล้ว
วิญญาณ เปรียบเหมือนซอฟแวร์ของทุกสรรพสัตว์
องค์ความรู้เรื่องวิญญาณ เป็นดาบ2คม
พอๆกับองค์ความรู้เรื่องซอฟแวร์นั่นแหละ
ศาสนิกชน เมื่อได้รู้เรื่องวิญญาณ พวกเค้าจะทำแต่ความดี เพื่อไปสู่ภพที่ดีหลังความตาย
พวกคนชั่ว พวกไสยศาสตร์ เมื่อได้รู้เรื่องวิญญาณ ก็จะสรรหาวิธีโกง วิธีทำเรื่องชั่วๆได้ทุกรูปแบบ ทำให้สิ่งที่น่าสะพรึงอยู่แล้ว ยิ่งน่าสะพรึงขึ้นไปอีก
และหากนักวิทยาศาสตร์ ได้รู้เรื่องวิญญาณอีก พวกเค้าก็จะสรรหาวิธีapply เป็นสิ่งที่น่าสุดสะพรึง ยิ่งกว่าพวกไสยศาสตร์ได้ทำมานานแล้ว อีกหลายเท่านัก
เรื่องสำคัญบางเรื่อง จึงปล่อยให้เป็นอย่างที่มันเป็นนั่นแหละดีแล้ว
โลกเรามีคน7พันล้านคน
มีศาสนิกชน5-6พันล้านคน
มีคนที่ไม่ได้นับถือศาสนาใดๆ 1พันกว่าล้านคน
การที่มีคนรอดตั้ง5-6พันล้านคนแล้ว
จะมีคนไม่รอดแค่1พันล้านคนก็ไม่เป็นไร
อย่างมากพวกเค้าก็แค่restartกลับมาใหม่
แต่หากพวกเค้าได้รู้ Chip lostครับ
แต่ปล่อยให้เป็น อย่างที่มันเป็นน่ะดีอยู่แล้ว
วิญญาณ เปรียบเหมือนซอฟแวร์ของทุกสรรพสัตว์
องค์ความรู้เรื่องวิญญาณ เป็นดาบ2คม
พอๆกับองค์ความรู้เรื่องซอฟแวร์นั่นแหละ
ศาสนิกชน เมื่อได้รู้เรื่องวิญญาณ พวกเค้าจะทำแต่ความดี เพื่อไปสู่ภพที่ดีหลังความตาย
พวกคนชั่ว พวกไสยศาสตร์ เมื่อได้รู้เรื่องวิญญาณ ก็จะสรรหาวิธีโกง วิธีทำเรื่องชั่วๆได้ทุกรูปแบบ ทำให้สิ่งที่น่าสะพรึงอยู่แล้ว ยิ่งน่าสะพรึงขึ้นไปอีก
และหากนักวิทยาศาสตร์ ได้รู้เรื่องวิญญาณอีก พวกเค้าก็จะสรรหาวิธีapply เป็นสิ่งที่น่าสุดสะพรึง ยิ่งกว่าพวกไสยศาสตร์ได้ทำมานานแล้ว อีกหลายเท่านัก
เรื่องสำคัญบางเรื่อง จึงปล่อยให้เป็นอย่างที่มันเป็นนั่นแหละดีแล้ว
โลกเรามีคน7พันล้านคน
มีศาสนิกชน5-6พันล้านคน
มีคนที่ไม่ได้นับถือศาสนาใดๆ 1พันกว่าล้านคน
การที่มีคนรอดตั้ง5-6พันล้านคนแล้ว
จะมีคนไม่รอดแค่1พันล้านคนก็ไม่เป็นไร
อย่างมากพวกเค้าก็แค่restartกลับมาใหม่
แต่หากพวกเค้าได้รู้ Chip lostครับ
ความคิดเห็นที่ 12
ผมเชื่อว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากวิญญาณอยู่ในมิติฝ่ายวิญญาณ ส่วนวิทยาศาสตร์อยู่ในกรอบมิติฝ่ายโลก จึงไม่สามารถพิสูจน์ข้ามมิติได้
หากเราเชื่อว่าพระเจ้าผู้ประเสริฐทรงมีสภาพเป็นวิญญาณ การพิสูจน์ว่าพระเจ้าผู้ประเสริฐมีจริง จึงเป็นการพิสูจน์ว่าวิญญาณมีจริงในทางอ้อม
จงแสวงหาพระเจ้าผู้ประเสริฐ เพื่อจะพบพระองค์ได้
หากท่านสนใจการพิสูจน์ว่าพระเจ้าผู้ประเสริฐมีจริงหรือไม่
สามารถศึกษาได้จากลิงค์นี้ครับ https://pantip.com/topic/36323199/comment34 และ 34-2
หากท่านสนใจที่จะศึกษาทางของพระเยซูคริสต์ในเบื้องต้น ซึ่งพระองค์มีความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
โดยพระองค์รักมนุษย์ทุกคนมาก และผมเชื่อว่าเป็นทางที่มีความสุขอย่างแท้จริง
สามารถศึกษาได้จากลิงค์นี้ครับ https://pantip.com/topic/36545170/comment1 และ 2
***ผมมีความเชื่อบางอย่างต่างจากคริสเตียนส่วนใหญ่ เนื่องจากตีความในคัมภีร์ไบเบิลบางตอนต่างกัน***
ขอพระเจ้าผู้ประเสริฐประทานสันติสุขให้แก่ท่าน
ในความรักของพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นพระเจ้าผู้ประเสริฐ
หากเราเชื่อว่าพระเจ้าผู้ประเสริฐทรงมีสภาพเป็นวิญญาณ การพิสูจน์ว่าพระเจ้าผู้ประเสริฐมีจริง จึงเป็นการพิสูจน์ว่าวิญญาณมีจริงในทางอ้อม
จงแสวงหาพระเจ้าผู้ประเสริฐ เพื่อจะพบพระองค์ได้
หากท่านสนใจการพิสูจน์ว่าพระเจ้าผู้ประเสริฐมีจริงหรือไม่
สามารถศึกษาได้จากลิงค์นี้ครับ https://pantip.com/topic/36323199/comment34 และ 34-2
หากท่านสนใจที่จะศึกษาทางของพระเยซูคริสต์ในเบื้องต้น ซึ่งพระองค์มีความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
โดยพระองค์รักมนุษย์ทุกคนมาก และผมเชื่อว่าเป็นทางที่มีความสุขอย่างแท้จริง
สามารถศึกษาได้จากลิงค์นี้ครับ https://pantip.com/topic/36545170/comment1 และ 2
***ผมมีความเชื่อบางอย่างต่างจากคริสเตียนส่วนใหญ่ เนื่องจากตีความในคัมภีร์ไบเบิลบางตอนต่างกัน***
ขอพระเจ้าผู้ประเสริฐประทานสันติสุขให้แก่ท่าน
ในความรักของพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นพระเจ้าผู้ประเสริฐ
แสดงความคิดเห็น
วิทยาศาสตร์ สามารถสร้างเครื่องมือสัมผัสวิญญาณได้ไหมครับ ?