กระทู้นี้เป็นกระทู้เเรก ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะครับ
อยากชวนเพื่อนๆชาวพันทิปมาแชร์ประสบการณ์ พบรัก แชร์ได้ทุกเพศทุกวัย หญิงชาย เจอกันตั้งแต่อายุเท่าไหร่ จีบกันยังไง เล่ามาได้เลยนะครับ จขกท.รอจิกหมอน
ขอแทนตัวเองว่า"เรา" นะครับ เราอายุ 23 ปี เราเป็นเกย์นะ ตั้งแต่เกิดมา เรายังไม่เคยมีแฟนเลย 5555
ก่อนหน้านี้ เราเคยชอบผญ.นะ เราพึ่งมารู้ตัวตอนเราเรียนปวส.ปี2 ว่าจริงๆแล้ว เราชอบผู้ชาย
ขอร่ายยาวเรยแล้วกัน ใครที่ชอบแบบ สรุปกระชับจับใจ ข้ามส่วนนี้ไปได้เลยนะครับ (=
************************************************
ตอนเรียน เราเป็นเด็กค่อนข้างเรียบร้อย เรียนดี เวลามีกิจกรรม อาจารย์ก็จะมาจีบให้ไปร่วมอยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่า เป็นเรียนที่เด่นกิจกรรมสุดๆ เราเล่นดนตรีไทย(ระนาดเอก) เล่นโขน ร้องเพลง แข่งวิชาการ (คณิต วิทย์ อังกฤษ) กีฬาเอย เป็นพิธีกร เป็นมัคคุเทศก์เอย เราแจมทุกงานอ่ะ 5555
ด้วยความที่ไม่ค่อยดื้อ และเราเป็นคนพูดเพราะ ไม่ค่อยกระด้างกระเดื่อง (โอ้ยย ชีวิตวันเด็กช่างขาวใส ในทุ่งลาเวนเดอร์มากก ต่างจากปัจจุบันแท้ล่ะ 555)
ก็จะมีคนทักบ้างแหละ กระซิบกระซาบกันบ้างแหละ "ว่าแกรๆ คนนี้เป็นปล่าววะ??" ประมาณนี้
ซึ่งตอนนี้ เราก็ไม่อะไร เพราะตอนนั้น เรากูรู้สึกว่าตัวเอง เป็นเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ก็ตอบไปว่า “ปล่าวๆ เราก็ชอบผญ.เนี่ยแหละ“
ในชีวิตเรา เราแอบชอบผญ.มา 3 คนนะ คนเเรกเรียนห้องเดียวกัน บ้านใกล้กัน กลับบ้านด้วยกันประจำำ พอรู้ตัวอีกทีก็ชอบไปแล้ว ชอบอยู่2ปี เราก็ขึ้นม.ปลาย
ม.ปลายเราก็จะดูแลตัวเองดีขึ้นมาหน่อย 5555 เราเป็นประธานนักเรียน 3 ปี เรยมีคนรู้จักพอสมควร บวกกับเราเข้ากิจกรรมบ่อยด้วย ก็จะเริ่มมีคนมาปลื้มบ้าง รุ่นน้องก็มี รุ่นพี่ก็มา ทั้งชายทั้งหญิงแหละ (แหม่ๆ แลอวยตัวเองเนาะ)แต่เราก็ไม่ได้คบหรือคุยกับใครนะ เพราะว่าเรามีคนในใจ คนนี้เป็นเพื่อนเหมือนกัน แต่อยู่คนละโรงเรียน เจอกันตอนไปอิงลิชแคมป์
โอ้ยยย คือแบบบบบ สวยมากกกกก บางคนจะชอบบอกว่า ชอบคนน่ารัก มองยังไงก็ไม่เบื่อ แต่เราเป็นคนชอบคนสวยนะ แล้วคนนี้คือดีย์ต่อใจเรามากกก โครงหน้าสวยมาก จมูกโด่ง ปากกระจับ ตาสวย ยิ้มละลาย ใจจะวายเวลาสบตาตอนยิ้ม
เรามีเพื่อนผช.ไปค่ายด้วยกัน3คน แต่ละคนคือหันมองพร้อมกัน แล้วแบบ ออร่ามันกระแทกทะลุกระจกตาอ่ะ 555 เราเรยชิงพูดว่า "จองงง คนนี้ตูจอง"
คนนี้ชื่อตูน ฉลาด เรียนเก่ง เด็กเพชรของโรงเรียน คือมองทีแรกว่าโดนใจ พอได้คุยเท่านั้นแหละ แม่เจ้า ทำไมเพอเฟคขนาดนี้ หลงรอบที่ล้านแปด
หาเฟสนานมากกกก เพราะคนละโรงเรียนกัน จนได้เฟสมาวันสุดท้าย ประทับใจแค่ไหน สุดท้ายก็ได้เป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน จนจบ.ม.ปลาย ตูนก็ไปเรียนต่อที่ม.ในจังหวัด
ส่วนเรา ฐานะทางบ้านไม่ดี ถึงขั้นย่ำแย่เรยแหละ บ้านเราจนมากกก เราช่วยที่บ้านทำงานตั้งแต่จำความได้ เราเลยตั้งใจว่า ถ้าไม่ได้ทุน เราจะเรียนปวส. เพราะน้องเรา ก็เรียนตามเรามาติดๆ เราห่วงว่าที่บ้านจะมีปัฯหาค่าใช้จ่าย เราติดหลายคณะ หลายมหาลัยอยู่นะ เราลงวิศวะเคมีลาดกระบัง มนุษย์อิ้งม.บู แล้วก็วิศวะมหิดล แต่ไม่ได้ทุน เราเลยลงเรียนปวส.แทน
ตอนเรียนปวส.ก็เหมือนๆม.ปลายแหละ เรียบร้อย เรียนดี เด็กกิจกรรม
แต่เห็นอย่างนี้ เราเป็นคนมีเพื่อนน้อยนะ เพราะว่าเราเป็นคนที่ มีกำแพงโพรเทคตัวเองพอสมควร ก็จะไม่ค่อยคุยกับใครมาก คุยแต่กับคนที่สนิทจริงๆ คือคุยต่อยหอยมากกก แล้วเราแซวเก่ง เป็นคนชอบด่าตลกๆ เรียกเสียงฮา
แต่ถ้านอกนั้น เราจะยิ้ม แล้วพยักหน้ากับก้มหัวนิดๆ แต่ถ้าเป็นสถานการที้ต้องคุย เราก็คุยนะ นั่งกินข้าว เวลานั่งเรียนข้าวกันก็จะคุยแก้เขินบ้าง
ตอนนั้นเราแอบชอบเพื่อนคนนึง คนนี้เคมีเข้ากันมาก ไม่ขอเอ่ยชื่อเพราะเดี๋ยวนางมาอ่านเจอจะรู้ว่าเราแอบหนีมาตั้งกระทู้ 5555 อยู่กลุ่มเดียวกัน ไปเินห้าง ดูหนัง กินข้าวด้วยกันตลอด คือเราใจตรงกันนะ คือรู้ใจเลยล่ะ
นางชิงไปมีสามีก่อนเราเเล้ว แต่ยังรักกันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือชวนกันแรดบ้าง คลายเคลียด ดูหนัง กินข้าวด้วยกันปกติ ตอนนี้นางแต่งงาน มีลูกน้อยแล้ว เราก็ไปเที่ยวหา ไปช่วยเลี้ยงเด็กน้อยขี้อ้อนบ้าง
คุยกันทุกวันจริงๆ ไม่ได้ตัวติดกัน ไม่ได้โทรหากันตลอดนะ
แต่ละคนมีชีวิตที่ต้องใช้ แต่ว่าไม่เคยลืมกัน ว่างก็ทักหากัน แซวบ้าง ระบายบ้าง เจอปัญหา ก็จะคุยกัน ช่วยกันคิด
เรากับนางมองเผินๆเหมือนแฟนกันอ่ะ ยิ่งอุ้มตัวเล็กเดินห้างด้วยนะ 5555 relationship goal เรยจร้าาาา
ทีแรก เราแค่รู้สึกสับสน บางที เราอาจจะรู้อยู่ลึกๆแหละ แต่ไม่อยากคิดมาก แค่อยากเป็นเด็กชายธรรมดาๆคนนึงเท่านั้น
จนถึงจุดที่เราคิดว่า เห้ยยย เราต้องกลับมาถามใจตัวเองใหม่นะ ว่าความจริงมันเป็นยังไง ความรู้สึกที่มันเข้ามา มันเพิ่มขึ้นๆ จนกลายเป็นว่า จุดนั้น เราเริ่มรู้สึกดีกับผู้ชายแล้วนะ
ทีแรกก็เคลียดๆนะ เหมือนมันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ค่อนข้างวุ่นวาย สับสน จนเราเเน่ใจ และค่อยๆยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ come out หรือเล่าให้ใครฟังนะครับ
เรียนจบ จับใบดำใบแดง อีมือไม่รักดี ก็พาลาภมาให้จร้าาาา
ลาบเลือดด้วยสิจ้ะ สีแดงโล่มาเชียว 5555
เข้าไปเป็นทหาร สำหรับเรา ก็ถือเป็นประสบการณ์ ที่น่าจดจำอย่างหนึ่งในชีวิตนะ เราเป็นรองหัวหน้า ก็คอยช่วยตอน ดูแลเพื่อนในรุ่น เราหัวไว อ่านชีทแปบเดียวเข้าใจ เราก็จะไปทวน ไปช่วยถามเพื่ิอน
ฝึกเสร็จ ขึ้นกองร้อย เราก็ได้ดูแลงานเอกสาร ขายของ แล้วก็ช่วยหมู่จ่าดูแลคลัง ดูแลกองร้อย
เราโชคดีมากกกกกก หมู่ๆจ่าๆ มีแต่คนเอ็นดู เราไม่ได้ลำบากเลยตั้งแต่ขึ้นกองร้อย ทีแรก ไม่มีคนรู้ ก็คงคิดว่าเราไม่ค่อยดื้อ แล้วก้อหัวไว สั่งอะไรทำได้หมด ไม่ต้องทวน ไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไช เราเลยได้ไปอยู่โซนสบาย คือสนิทกับแกมากกกกก จนประมาณ3เดือน เหมือนเค้าจะรู้ ทีแรกที่เค้าถาม เราก็ไม่ตอบเต็มปากเต็มคำนะ เราก็ชอบพูดว่า "จ่าก็พูดไปครับ แหล่งข่าวจ่าไม่ค่อยแม่นนะครับ" ส่วนมากจะตอบติดตลกไป
จนมาถึงจุดๆนึง เรารู้สึกสบายใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง เราวางตัวเหมือนเดิม ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ปฏิบัติกับคนอื่นเหมือนเดิม แต่เรากลับรู้สึกว่า เนี่ยยย เราก็ยังเป็นเรานะ คนรอบข้างเรา เพื่อนเรา รุ่นน้อง หมู่จ่า ทุกคนคือแบบ รักเราเพราะเราเป็นเรา ถึงเราจะเปิดใจยอมรับตัวเอง แต่ทุกคนก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีใครพูดาไม่ดี หรือแสดงท่าทีรังเกียจเราเลย ซึ่งของแบบนี้ มันรู้สึก มันสัมผัสได้จริงๆ
กลายเป็นว่า สถาบันชายชาตรี ที่มีแต่ผู้ชาย ดิบๆ ห่ามๆ หนักเเน่นๆ กลับเป็นสถานที่ ที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย เป็น safe zone เป็น comfort zone และทำให้เรารู้สึกว่า การเป็นเกย์มันก็ไม่ได้แย่อะไร รู้สึกดีที่ทุกคนยังคงมองเราเป็นเราคนเดิม
ฮั่นแน่ บางคนอาจจะถามว่า มีเรื่องอื่นอีกไหม เรื่องหนักใจในโรงนอน ตอบเรยว่าไม่มีจร้า 5555
หลังจากนั้นเราก็เคมเอ้ากับที่บ้าน พ่อแม่กับน้องเรารับรู้แล้ว กับเพื่อนสนิทๆอีกไม่กี่คน
เรื่องอย่างนี้ ส่วนตัวเราคิดว่า ยิ่งยอมรับได้เร็วเท่าไหร่ ก็มูฟออนได้ ไวเท่านั้น ถ้ายังปิดกันตัวเอง หลอกตัวเอง เชื่อเถอะ นานไปๆ ความอึดอัดใจจะสะสมจนเราไม่กล้าที่จะเปิดใจ
เราเป็นคนที่แบบ ไม่ชอบใครพร่ำเพื่ออ่ะ ถ้าใจบาง ป่านนี้มีแฟนนับไม่ถ้วนแล้วแหละ เพราะเราก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร จัดว่าหน้าตาดีเรยแหละ 5555 และเรารู้สึกว่าการจะมีอะไรกับใคร มันต้องไม่ใช่แค่เซ็กส์ แต่มันต้องเป็นเม้คเลิฟอ่ะ 5555555 ก้อเลยสวย โสด ซิง ยันทุกวันนี้
ก็มันยังไม่เจอคนที่เค้าคลิกเรา เเล้วเราก็คลิกเค้าอ่ะ
แอบชอบเพื่อนคนนึง รู้จักกันมาจะ2ปีแล้ว คนนี้รักแรกพบเรยจร้า 5555 เห็นหน้าแล้วอยากเดินตาม อยากถามว่าใช้น้ำหอมกลิ่นอะไร ซอกคอถึงน่าไซร้ขนาดนี้ 55555 พออ่านถึงตรงนี้ ไข่ไก่ในมือคนอ่าน คงสั่นระรัว อยากปาใส่หัวเราแล้วล่ะสิ
แต่เดี๊ยววววว ใจเย็นๆจร้าาา เราแซวเล่น คือเพื่อนเราเบ้าดี หล่อ สูงโปร่ง ทรงยุโรปมาก 5555 บรรยายไป ก็น้ำลายไหลไป คือมีวิสัยทัศน์อ่ะ คุยด้วยแล้ว เออ คนนี้มีหัวคิด วางตัวดี แล้วเป็นคนอบอุ่นอ่ะ คุยด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย อิ่มเอมใจมาก นิสัยน่ารักมากกกก
แต่ติดตรงที่ ฮีชอบน้องนี เราว่าฮีชอบน้องนี เราเป็นคนชอบกิน กับชอบดูหนังอ่ะ ชวนมัน มันก็จะเลี่ยงๆ เทเราตลอด ขนาดเรามีตั๋วฟรี ชวนฮีสองครั้ง ฮีเทสองครั้งรวดเรยจร้าาา 5555 สะเทือนใจ ตอนนี้เริ่มๆปลงกับผู้คนนี้แล้ว คนอาร๊ายยย ใจเเข็งจริงๆ
...... ... . . ...... ...... .... .........
ใครอ่านตั้งแต่ต้น จนถึงตอนนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณรู้จักผมประมาณครึ่งชีวิตแล้ว (คนอาร๊ายย ทำไมเม้าเก่ง)
สำหรับบางคนที่มีความรู้สึกว่า อีคนนี้น่ากลัวจัง ยิ่งอ่านถึงตอนหลังๆยิ่งไม่น่าคบ แสดงว่า คุณมาถูกทางแล้ววว อย่าได้สงสัยในความรู้สึกนั้น 55555
จบแล้วจร้าาา วันนี้เราเข้ากะดึก ก็จะแลคึกครื้นเป็นพิเศษนะ
***สำหรับใครที่รู้ตัวแต่ยังไม่ได้เคมเอ้า******
เราอยากบอกว่า ไม่ว่าเราจะรักใคร จะชอบเพศอะไร สุดท้ายแล้ว มันเปลี่ยนความเป็นเราในตัวเราไม่ได้หรอก เราเคยเป็นอย่างไร เราก็ยังเป็นอย่างนั้น กับบางคนอาจใช้เวลา แต่ไม่ช้า พวกเขาจะเข้าใจ ขอแค่เราวางตัวให้เป็น เลือกใช้คำพูดคำจาให้เหมาะสม ร่าเริงแจ่มใส ใครๆย่อมอยากเข้าหา ย่อมอยากทำความรู้จัก อยากผูกมิตรด้วยครับ
ปล.เราชอบภาษาอังกฤษนะ ใครชอบภาษา อยากมาเม้ามอย มาทำความรู้จัก อยากมาฝึกด้วยกัน ก็ยินดีเลยครับ ^^
เป็นโสดมานาน เพื่อนๆชาวพันทิป พบรักกันที่ไหน จีบกันยังไงบ้างครับ ถามไว้เป็นแนวทาง ^^
อยากชวนเพื่อนๆชาวพันทิปมาแชร์ประสบการณ์ พบรัก แชร์ได้ทุกเพศทุกวัย หญิงชาย เจอกันตั้งแต่อายุเท่าไหร่ จีบกันยังไง เล่ามาได้เลยนะครับ จขกท.รอจิกหมอน
ขอแทนตัวเองว่า"เรา" นะครับ เราอายุ 23 ปี เราเป็นเกย์นะ ตั้งแต่เกิดมา เรายังไม่เคยมีแฟนเลย 5555
ก่อนหน้านี้ เราเคยชอบผญ.นะ เราพึ่งมารู้ตัวตอนเราเรียนปวส.ปี2 ว่าจริงๆแล้ว เราชอบผู้ชาย
ขอร่ายยาวเรยแล้วกัน ใครที่ชอบแบบ สรุปกระชับจับใจ ข้ามส่วนนี้ไปได้เลยนะครับ (=
************************************************
ตอนเรียน เราเป็นเด็กค่อนข้างเรียบร้อย เรียนดี เวลามีกิจกรรม อาจารย์ก็จะมาจีบให้ไปร่วมอยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่า เป็นเรียนที่เด่นกิจกรรมสุดๆ เราเล่นดนตรีไทย(ระนาดเอก) เล่นโขน ร้องเพลง แข่งวิชาการ (คณิต วิทย์ อังกฤษ) กีฬาเอย เป็นพิธีกร เป็นมัคคุเทศก์เอย เราแจมทุกงานอ่ะ 5555
ด้วยความที่ไม่ค่อยดื้อ และเราเป็นคนพูดเพราะ ไม่ค่อยกระด้างกระเดื่อง (โอ้ยย ชีวิตวันเด็กช่างขาวใส ในทุ่งลาเวนเดอร์มากก ต่างจากปัจจุบันแท้ล่ะ 555)
ก็จะมีคนทักบ้างแหละ กระซิบกระซาบกันบ้างแหละ "ว่าแกรๆ คนนี้เป็นปล่าววะ??" ประมาณนี้
ซึ่งตอนนี้ เราก็ไม่อะไร เพราะตอนนั้น เรากูรู้สึกว่าตัวเอง เป็นเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ก็ตอบไปว่า “ปล่าวๆ เราก็ชอบผญ.เนี่ยแหละ“
ในชีวิตเรา เราแอบชอบผญ.มา 3 คนนะ คนเเรกเรียนห้องเดียวกัน บ้านใกล้กัน กลับบ้านด้วยกันประจำำ พอรู้ตัวอีกทีก็ชอบไปแล้ว ชอบอยู่2ปี เราก็ขึ้นม.ปลาย
ม.ปลายเราก็จะดูแลตัวเองดีขึ้นมาหน่อย 5555 เราเป็นประธานนักเรียน 3 ปี เรยมีคนรู้จักพอสมควร บวกกับเราเข้ากิจกรรมบ่อยด้วย ก็จะเริ่มมีคนมาปลื้มบ้าง รุ่นน้องก็มี รุ่นพี่ก็มา ทั้งชายทั้งหญิงแหละ (แหม่ๆ แลอวยตัวเองเนาะ)แต่เราก็ไม่ได้คบหรือคุยกับใครนะ เพราะว่าเรามีคนในใจ คนนี้เป็นเพื่อนเหมือนกัน แต่อยู่คนละโรงเรียน เจอกันตอนไปอิงลิชแคมป์
โอ้ยยย คือแบบบบบ สวยมากกกกก บางคนจะชอบบอกว่า ชอบคนน่ารัก มองยังไงก็ไม่เบื่อ แต่เราเป็นคนชอบคนสวยนะ แล้วคนนี้คือดีย์ต่อใจเรามากกก โครงหน้าสวยมาก จมูกโด่ง ปากกระจับ ตาสวย ยิ้มละลาย ใจจะวายเวลาสบตาตอนยิ้ม
เรามีเพื่อนผช.ไปค่ายด้วยกัน3คน แต่ละคนคือหันมองพร้อมกัน แล้วแบบ ออร่ามันกระแทกทะลุกระจกตาอ่ะ 555 เราเรยชิงพูดว่า "จองงง คนนี้ตูจอง"
คนนี้ชื่อตูน ฉลาด เรียนเก่ง เด็กเพชรของโรงเรียน คือมองทีแรกว่าโดนใจ พอได้คุยเท่านั้นแหละ แม่เจ้า ทำไมเพอเฟคขนาดนี้ หลงรอบที่ล้านแปด
หาเฟสนานมากกกก เพราะคนละโรงเรียนกัน จนได้เฟสมาวันสุดท้าย ประทับใจแค่ไหน สุดท้ายก็ได้เป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน จนจบ.ม.ปลาย ตูนก็ไปเรียนต่อที่ม.ในจังหวัด
ส่วนเรา ฐานะทางบ้านไม่ดี ถึงขั้นย่ำแย่เรยแหละ บ้านเราจนมากกก เราช่วยที่บ้านทำงานตั้งแต่จำความได้ เราเลยตั้งใจว่า ถ้าไม่ได้ทุน เราจะเรียนปวส. เพราะน้องเรา ก็เรียนตามเรามาติดๆ เราห่วงว่าที่บ้านจะมีปัฯหาค่าใช้จ่าย เราติดหลายคณะ หลายมหาลัยอยู่นะ เราลงวิศวะเคมีลาดกระบัง มนุษย์อิ้งม.บู แล้วก็วิศวะมหิดล แต่ไม่ได้ทุน เราเลยลงเรียนปวส.แทน
ตอนเรียนปวส.ก็เหมือนๆม.ปลายแหละ เรียบร้อย เรียนดี เด็กกิจกรรม
แต่เห็นอย่างนี้ เราเป็นคนมีเพื่อนน้อยนะ เพราะว่าเราเป็นคนที่ มีกำแพงโพรเทคตัวเองพอสมควร ก็จะไม่ค่อยคุยกับใครมาก คุยแต่กับคนที่สนิทจริงๆ คือคุยต่อยหอยมากกก แล้วเราแซวเก่ง เป็นคนชอบด่าตลกๆ เรียกเสียงฮา
แต่ถ้านอกนั้น เราจะยิ้ม แล้วพยักหน้ากับก้มหัวนิดๆ แต่ถ้าเป็นสถานการที้ต้องคุย เราก็คุยนะ นั่งกินข้าว เวลานั่งเรียนข้าวกันก็จะคุยแก้เขินบ้าง
ตอนนั้นเราแอบชอบเพื่อนคนนึง คนนี้เคมีเข้ากันมาก ไม่ขอเอ่ยชื่อเพราะเดี๋ยวนางมาอ่านเจอจะรู้ว่าเราแอบหนีมาตั้งกระทู้ 5555 อยู่กลุ่มเดียวกัน ไปเินห้าง ดูหนัง กินข้าวด้วยกันตลอด คือเราใจตรงกันนะ คือรู้ใจเลยล่ะ
นางชิงไปมีสามีก่อนเราเเล้ว แต่ยังรักกันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือชวนกันแรดบ้าง คลายเคลียด ดูหนัง กินข้าวด้วยกันปกติ ตอนนี้นางแต่งงาน มีลูกน้อยแล้ว เราก็ไปเที่ยวหา ไปช่วยเลี้ยงเด็กน้อยขี้อ้อนบ้าง
คุยกันทุกวันจริงๆ ไม่ได้ตัวติดกัน ไม่ได้โทรหากันตลอดนะ
แต่ละคนมีชีวิตที่ต้องใช้ แต่ว่าไม่เคยลืมกัน ว่างก็ทักหากัน แซวบ้าง ระบายบ้าง เจอปัญหา ก็จะคุยกัน ช่วยกันคิด
เรากับนางมองเผินๆเหมือนแฟนกันอ่ะ ยิ่งอุ้มตัวเล็กเดินห้างด้วยนะ 5555 relationship goal เรยจร้าาาา
ทีแรก เราแค่รู้สึกสับสน บางที เราอาจจะรู้อยู่ลึกๆแหละ แต่ไม่อยากคิดมาก แค่อยากเป็นเด็กชายธรรมดาๆคนนึงเท่านั้น
จนถึงจุดที่เราคิดว่า เห้ยยย เราต้องกลับมาถามใจตัวเองใหม่นะ ว่าความจริงมันเป็นยังไง ความรู้สึกที่มันเข้ามา มันเพิ่มขึ้นๆ จนกลายเป็นว่า จุดนั้น เราเริ่มรู้สึกดีกับผู้ชายแล้วนะ
ทีแรกก็เคลียดๆนะ เหมือนมันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ค่อนข้างวุ่นวาย สับสน จนเราเเน่ใจ และค่อยๆยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ come out หรือเล่าให้ใครฟังนะครับ
เรียนจบ จับใบดำใบแดง อีมือไม่รักดี ก็พาลาภมาให้จร้าาาา
ลาบเลือดด้วยสิจ้ะ สีแดงโล่มาเชียว 5555
เข้าไปเป็นทหาร สำหรับเรา ก็ถือเป็นประสบการณ์ ที่น่าจดจำอย่างหนึ่งในชีวิตนะ เราเป็นรองหัวหน้า ก็คอยช่วยตอน ดูแลเพื่อนในรุ่น เราหัวไว อ่านชีทแปบเดียวเข้าใจ เราก็จะไปทวน ไปช่วยถามเพื่ิอน
ฝึกเสร็จ ขึ้นกองร้อย เราก็ได้ดูแลงานเอกสาร ขายของ แล้วก็ช่วยหมู่จ่าดูแลคลัง ดูแลกองร้อย
เราโชคดีมากกกกกก หมู่ๆจ่าๆ มีแต่คนเอ็นดู เราไม่ได้ลำบากเลยตั้งแต่ขึ้นกองร้อย ทีแรก ไม่มีคนรู้ ก็คงคิดว่าเราไม่ค่อยดื้อ แล้วก้อหัวไว สั่งอะไรทำได้หมด ไม่ต้องทวน ไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไช เราเลยได้ไปอยู่โซนสบาย คือสนิทกับแกมากกกกก จนประมาณ3เดือน เหมือนเค้าจะรู้ ทีแรกที่เค้าถาม เราก็ไม่ตอบเต็มปากเต็มคำนะ เราก็ชอบพูดว่า "จ่าก็พูดไปครับ แหล่งข่าวจ่าไม่ค่อยแม่นนะครับ" ส่วนมากจะตอบติดตลกไป
จนมาถึงจุดๆนึง เรารู้สึกสบายใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง เราวางตัวเหมือนเดิม ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ปฏิบัติกับคนอื่นเหมือนเดิม แต่เรากลับรู้สึกว่า เนี่ยยย เราก็ยังเป็นเรานะ คนรอบข้างเรา เพื่อนเรา รุ่นน้อง หมู่จ่า ทุกคนคือแบบ รักเราเพราะเราเป็นเรา ถึงเราจะเปิดใจยอมรับตัวเอง แต่ทุกคนก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีใครพูดาไม่ดี หรือแสดงท่าทีรังเกียจเราเลย ซึ่งของแบบนี้ มันรู้สึก มันสัมผัสได้จริงๆ
กลายเป็นว่า สถาบันชายชาตรี ที่มีแต่ผู้ชาย ดิบๆ ห่ามๆ หนักเเน่นๆ กลับเป็นสถานที่ ที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย เป็น safe zone เป็น comfort zone และทำให้เรารู้สึกว่า การเป็นเกย์มันก็ไม่ได้แย่อะไร รู้สึกดีที่ทุกคนยังคงมองเราเป็นเราคนเดิม
ฮั่นแน่ บางคนอาจจะถามว่า มีเรื่องอื่นอีกไหม เรื่องหนักใจในโรงนอน ตอบเรยว่าไม่มีจร้า 5555
หลังจากนั้นเราก็เคมเอ้ากับที่บ้าน พ่อแม่กับน้องเรารับรู้แล้ว กับเพื่อนสนิทๆอีกไม่กี่คน
เรื่องอย่างนี้ ส่วนตัวเราคิดว่า ยิ่งยอมรับได้เร็วเท่าไหร่ ก็มูฟออนได้ ไวเท่านั้น ถ้ายังปิดกันตัวเอง หลอกตัวเอง เชื่อเถอะ นานไปๆ ความอึดอัดใจจะสะสมจนเราไม่กล้าที่จะเปิดใจ
เราเป็นคนที่แบบ ไม่ชอบใครพร่ำเพื่ออ่ะ ถ้าใจบาง ป่านนี้มีแฟนนับไม่ถ้วนแล้วแหละ เพราะเราก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร จัดว่าหน้าตาดีเรยแหละ 5555 และเรารู้สึกว่าการจะมีอะไรกับใคร มันต้องไม่ใช่แค่เซ็กส์ แต่มันต้องเป็นเม้คเลิฟอ่ะ 5555555 ก้อเลยสวย โสด ซิง ยันทุกวันนี้
ก็มันยังไม่เจอคนที่เค้าคลิกเรา เเล้วเราก็คลิกเค้าอ่ะ
แอบชอบเพื่อนคนนึง รู้จักกันมาจะ2ปีแล้ว คนนี้รักแรกพบเรยจร้า 5555 เห็นหน้าแล้วอยากเดินตาม อยากถามว่าใช้น้ำหอมกลิ่นอะไร ซอกคอถึงน่าไซร้ขนาดนี้ 55555 พออ่านถึงตรงนี้ ไข่ไก่ในมือคนอ่าน คงสั่นระรัว อยากปาใส่หัวเราแล้วล่ะสิ
แต่เดี๊ยววววว ใจเย็นๆจร้าาา เราแซวเล่น คือเพื่อนเราเบ้าดี หล่อ สูงโปร่ง ทรงยุโรปมาก 5555 บรรยายไป ก็น้ำลายไหลไป คือมีวิสัยทัศน์อ่ะ คุยด้วยแล้ว เออ คนนี้มีหัวคิด วางตัวดี แล้วเป็นคนอบอุ่นอ่ะ คุยด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย อิ่มเอมใจมาก นิสัยน่ารักมากกกก
แต่ติดตรงที่ ฮีชอบน้องนี เราว่าฮีชอบน้องนี เราเป็นคนชอบกิน กับชอบดูหนังอ่ะ ชวนมัน มันก็จะเลี่ยงๆ เทเราตลอด ขนาดเรามีตั๋วฟรี ชวนฮีสองครั้ง ฮีเทสองครั้งรวดเรยจร้าาา 5555 สะเทือนใจ ตอนนี้เริ่มๆปลงกับผู้คนนี้แล้ว คนอาร๊ายยย ใจเเข็งจริงๆ
...... ... . . ...... ...... .... .........
ใครอ่านตั้งแต่ต้น จนถึงตอนนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณรู้จักผมประมาณครึ่งชีวิตแล้ว (คนอาร๊ายย ทำไมเม้าเก่ง)
สำหรับบางคนที่มีความรู้สึกว่า อีคนนี้น่ากลัวจัง ยิ่งอ่านถึงตอนหลังๆยิ่งไม่น่าคบ แสดงว่า คุณมาถูกทางแล้ววว อย่าได้สงสัยในความรู้สึกนั้น 55555
จบแล้วจร้าาา วันนี้เราเข้ากะดึก ก็จะแลคึกครื้นเป็นพิเศษนะ
***สำหรับใครที่รู้ตัวแต่ยังไม่ได้เคมเอ้า******
เราอยากบอกว่า ไม่ว่าเราจะรักใคร จะชอบเพศอะไร สุดท้ายแล้ว มันเปลี่ยนความเป็นเราในตัวเราไม่ได้หรอก เราเคยเป็นอย่างไร เราก็ยังเป็นอย่างนั้น กับบางคนอาจใช้เวลา แต่ไม่ช้า พวกเขาจะเข้าใจ ขอแค่เราวางตัวให้เป็น เลือกใช้คำพูดคำจาให้เหมาะสม ร่าเริงแจ่มใส ใครๆย่อมอยากเข้าหา ย่อมอยากทำความรู้จัก อยากผูกมิตรด้วยครับ
ปล.เราชอบภาษาอังกฤษนะ ใครชอบภาษา อยากมาเม้ามอย มาทำความรู้จัก อยากมาฝึกด้วยกัน ก็ยินดีเลยครับ ^^