เดินทางข้ามขอบฟ้า ทำลายกำแพงสุริยันและจันทรา เดินทางไปจนสุดใต้หล้า ข้าจะกลับมาด้วยตัวเอง

สายการบินดัชต์อย่าง KLM ได้ทำการออกแบบเครื่องบินรูปตัว V ที่มีประสิทธิภาพในการบินสูงอย่างสุดจะคาดเดา มันถูกออกแบบมาให้ผู้โดยสาร
โดยสารลงที่ปีกขนาดใหญ่ทั้งสอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนคนและพลังงาน รูปร่างแห่งอนาคตที่ออกแบบมาเพื่อให้ฟลายอิ้ง V ใช้พลังงาน
น้อยกว่าแอร์บัส 350 ถึง 20% มันมีสมญานามเท่ๆอย่าง ฟลายอิ้ง V รุ่นโปรโตไทป์ของมันจะทดสอบบินเร็วๆนี้ แต่เวอร์ชั่นในโลกของเรา
จะทะยานสูงท้องฟ้าและให้บริการก็ต้องรอถึงปี 2040 มันสามารถใช้งานฐานปล่อยเดียวกับแอร์บัส 350 ได้ รูปร่างที่เล็กกว่าแต่กลับมีความสามารถในการขนผู้โดยสารในระดับเดียวกัน นอกจากนั้นบริษัทยังคาดหวังว่ามันจะมีระบบทอร์โบแฟนที่ดีที่สุด และอาจเป็นเครื่องบินรุ่นแรกของโลก
ที่บินได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะเลย และมีการใช้งานเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย ไอเดียทางวิทยาศาสตร์ของการประดิษฐ์เครื่องบินลำนี้ คือมันได้รับการสนับสนุนจาก จูตัส เบนาร์ด ความยาว 65 เมตร ดีไซน์ตัวเครื่องเป็นทรงตัววี พึ้นที่ใช่สอย 160 ลูกบากศ์เมตร ถูกวิจัยโดยมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีเดลฟ์ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งตอนนี้ร่วมมือกับ KLM เช่นเดียวกับแอร์บัส A350 ฟลายอิ้งวีมีความยาวปีกที่เท่ากัน และขนผู้โดยสารได้พอๆกัน แต่ต้านลมน้อยกว่ามาก นอกจากนั้นยังมีการใช้งานสารเคมีกลุ่มเคโรสซิน พึ้นที่ของฟลายอิ้ง V หน้าตัดมีแรงต้านอากาศน้อย นั่นหมายถึงมันจะใช้พลังงานน้อยกว่าในการบินในระยะทางเท่ากัน
อ้างอิง
https://news.klm.com/klm-and-tu-delft-join-forces-to-make-aviation-more-sustainable/
https://edition.cnn.com/travel/article/klm-flying-v-plane-scli-intl/index.html
https://www.tudelft.nl/en/ae/flying-v/
https://www.sciencealert.com/fuel-efficient-v-plane-plans-to-seat-passengers-in-its-wings?perpetual=yes&limitstart=1
เครื่องบินรูปตัววีที่ให้ผู้โดยสารนั่งที่ปีก
สายการบินดัชต์อย่าง KLM ได้ทำการออกแบบเครื่องบินรูปตัว V ที่มีประสิทธิภาพในการบินสูงอย่างสุดจะคาดเดา มันถูกออกแบบมาให้ผู้โดยสาร
โดยสารลงที่ปีกขนาดใหญ่ทั้งสอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนคนและพลังงาน รูปร่างแห่งอนาคตที่ออกแบบมาเพื่อให้ฟลายอิ้ง V ใช้พลังงาน
น้อยกว่าแอร์บัส 350 ถึง 20% มันมีสมญานามเท่ๆอย่าง ฟลายอิ้ง V รุ่นโปรโตไทป์ของมันจะทดสอบบินเร็วๆนี้ แต่เวอร์ชั่นในโลกของเรา
จะทะยานสูงท้องฟ้าและให้บริการก็ต้องรอถึงปี 2040 มันสามารถใช้งานฐานปล่อยเดียวกับแอร์บัส 350 ได้ รูปร่างที่เล็กกว่าแต่กลับมีความสามารถในการขนผู้โดยสารในระดับเดียวกัน นอกจากนั้นบริษัทยังคาดหวังว่ามันจะมีระบบทอร์โบแฟนที่ดีที่สุด และอาจเป็นเครื่องบินรุ่นแรกของโลก
ที่บินได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะเลย และมีการใช้งานเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย ไอเดียทางวิทยาศาสตร์ของการประดิษฐ์เครื่องบินลำนี้ คือมันได้รับการสนับสนุนจาก จูตัส เบนาร์ด ความยาว 65 เมตร ดีไซน์ตัวเครื่องเป็นทรงตัววี พึ้นที่ใช่สอย 160 ลูกบากศ์เมตร ถูกวิจัยโดยมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีเดลฟ์ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งตอนนี้ร่วมมือกับ KLM เช่นเดียวกับแอร์บัส A350 ฟลายอิ้งวีมีความยาวปีกที่เท่ากัน และขนผู้โดยสารได้พอๆกัน แต่ต้านลมน้อยกว่ามาก นอกจากนั้นยังมีการใช้งานสารเคมีกลุ่มเคโรสซิน พึ้นที่ของฟลายอิ้ง V หน้าตัดมีแรงต้านอากาศน้อย นั่นหมายถึงมันจะใช้พลังงานน้อยกว่าในการบินในระยะทางเท่ากัน
อ้างอิง
https://news.klm.com/klm-and-tu-delft-join-forces-to-make-aviation-more-sustainable/
https://edition.cnn.com/travel/article/klm-flying-v-plane-scli-intl/index.html
https://www.tudelft.nl/en/ae/flying-v/
https://www.sciencealert.com/fuel-efficient-v-plane-plans-to-seat-passengers-in-its-wings?perpetual=yes&limitstart=1