หลังจากห่างหายจากการดูแลตัวเองไปพักใหญ่ก็ถึงคราวที่อิฉันควรจะกลับมารักตัวเองได้แล้ว วันนี้เลยอยากมาบอกต่อสกินแคร์ที่ช่วยกอบกู้ผิวในช่วงสั้น ๆ ที่ผ่านมา พักหลังมานี้อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนผิวแพ้ง่าย อะไรนิดอะไรหน่อยก็แพ้ ทั้งคัน ทั้งสิวขึ้น ก็ยังงง ๆ เพราะไม่เคยใช้บำรุงผิวที่มีสเตียร์รอยด์ เลยเลิกใช้สกินแคร์ทุกอย่างและเลิกแต่งหน้า ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียวเท่านั้นแต่ก็ไม่ดีขึ้น กลายเป็นว่าหน้าแย่กว่าเดิม ด้วยสภาพผิวที่มันเกินมนุษย์ ยิ่งเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียทั้งหลายได้ง่ายและการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งตากแดด ตากฝุ่น มลภาวะทั้งหลายที่หมักหมมอยู่บนผิว สะสม ๆ จนอุดตัน การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียวและไม่บำรุง ยิ่งทำให้ผิวแย่ สิวขึ้นหนักกว่าเดิม ผิวกร้าน โทรมและหมอง
คราวนี้เลยถึงเวลาถึงต้องจัดการให้ถูกจุด โดยวันนี้มีสกินแคร์บำรุงผิวที่อยากแนะนำ โดยจะเน้นเนื้อสกินแคร์แบบ “เซรั่ม” เพราะค่อนข้างสบายผิว เหมาะกับผิวมัน ซึมได้ง่าย มาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ
เริ่มต้นด้วยทำความสะอาดผิว
สำหรับ Cleansing เช็คเครื่องสำอางที่ใช้แค่ตอนเย็นเป็นประจำในวันที่ต้องแต่งหน้าจริง ๆ มี 3 ตัว คือ
1. Bifesta cleansing lotion sebum (สูตรผิวมัน-เป็นสิว)
2. Bifesta milky cleansing liquid (สูตรน้ำนม)
3. Banila co clean it zero cleansing balm revitalizing (สูตรสีเขียว)

ทั้ง 3 ตัวเป็นคนละเนื้อทั้งสิ้น แต่ประสิทธิภาพการทำความสะอาดนั้นเลอเลิศระยิบระยับไม่แพ้กัน สำหรับวันไหนที่แต่งหน้าน้อยและไม่อยากเลอะเทอะก็ใช้ Bifesta ตัว lotion คู่กับสำลีได้เลย สะอาดและสบายผิวหลังใช้แต่ไม่ควรใช้กับตานะจ๊ะ แสบถึงทรวงใน ถ้าวันไหนแต่งหน้าหนักหรือไม่อยากรบกวนผิวด้วยสำลี ก็ใช้ Bifesta สูตรน้ำนมเพราะทำความสะอาดได้ดี นวดลงไปบนผิวเบา ๆ เครื่องสำอางก็หลุดกระจายและที่สำคัญ ล้างมาสคาร่ากันน้ำได้เป๊ะปังเวอร์แบบไม่แสบตาด้วยจ้ะแม่และตัวสุดท้าย Banila co บาล์มตัวดังจากเกาหลี ที่สายรสนิยมสวนทางกับรายได้อย่างอิฉันเมื่อได้รู้ว่าคุณเค้า Dupe กับ Clinique นั้น ก็ต้องรีบไขว่คว้าหามาลองทันที ตัวนี้ไม่ขอพูดอะไรมากเพราะอุดตันกระจาย หลังใช้ทุกครั้งตื่นเช้ามาก็ยินดีต้อนรับลูกสาวเม็ดใหม่บนหน้าได้เลย ขอบายจ้ะ
Clean แล้วก็ต้อง Clean อีก
ว่าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแบบล้ำลึกเข้าไปอี๊กมีทั้งสิ้น 4 ตัวจะแม่
1. Bifesta foaming whip acne care
2. Dr.Somchai acne whip foam
3. Physiogel Daily Moisture Cleanser
4. Fyne gentle facial cleansing gel

** Dr.Somchai acne whip foam หมดเกลี้ยง ทิ้งไปแล้ว ขออภัยจ้า
บอกเลยว่าทั้ง 4 ตัว มีข้อดีตรงที่หลังใช้ผิวไม่แห้งตึง ไม่สูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิว วิปโฟมของ Bifesta ละเอียดนุ่ม ละมุนกรุบ หอมอ่อน ๆ ล้างหน้าเพลินมาก ส่วน Dr.Somchai ก็มาแรงไม่แพ้กัน ราคาถูกใจหาย ทำความสะอาดได้ดี แถมขวดน่ารักเหมาะกับอิฉันทุกตรง แต่ แต่ !! เหมาะจะใช้แค่ตอนเย็นเท่านั้น อย่าว่างั้นงี๊ อิฉันว่ามันต้องมีอะไรที่อ่อนโยนมากกว่าและดีกับผิวมากกว่า เลยลองเปิดใจให้คุณ Physiogel และ คุณ Fyne อยากจะใช้ทั้ง 2 อันเลย เลือกไม่ได้ก็ต้องใช้ให้หมด โดยแบ่งเป็นเช้าใช้ Fyne เย็นใช้ Physiogel แรก ๆ เฉยมากแม่ ก็แค่ทำความสะอาดอ่ะ หลังใช้ได้สักพักขอยกให้ Fyne เป็นที่หนึ่งในดวงใจ สัมผัสอ่อนโยน ไม่ปรุงแต่ง ทำความสะอาดผิวที่แท้จริง อิฉันเลยใช้ทั้งเช้าและเย็น ให้ขึ้นหิ้งเป็น The Best ในใจตอนนี้เลย ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ พาราเบนและมิเนอรัลออยใด ๆ ปั๊วะ !!
ประเดิมผิวด้วย Toner
อิฉันมีโทนเนอร์แค่เพียงตัวเดียว ที่ไม่ได้รู้สึกอะไร ใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ไม่ตาย คือ Thayers witch hazel rose petal ว่ากันว่าช่วยปรนนิบัติผิวมัน ก็ .... เฉย ๆ อะ หมดแล้วก็คงไม่ซื้อ

ตบกระตุ้นผิว
ต่อด้วยสกินแคร์มาแรงในยุคนี้อย่างน้ำตบ อิฉันซื้อขนาดทดลองใช้มาทั้งหมดเพราะกลัวแพ้แล้วจะเปลืองเงิน

เริ่มตบหน้าตอนเช้าด้วย Origins mega mushroom กล้า ๆ กลัว ๆ อยู่นานว่าจะใช้ดีไหมเพราะเป็นคนแพ้เห็ด กลัวว่าใช้สารสกัดจากเห็ดแล้วหน้าจะอวบอิ่ม บวมเป่งเหมือนสมัยกินเห็ดเข้าไปแทนจะสวยแต่หลังใช้งานไม่เกิดอาการแพ้ใด ๆ หลังใช้งานได้ประมาณ 1 เดือน ก็จะซื้อซ้ำแน่นอน บางคนว่ากลิ่นเหม็นแต่อิฉันชอบ กลิ่นดูสมุนไพร หลังตบสบายผิว วันไหนที่ผิวล้ามากก็เอามามาร์คหน้าหรือตบไปเยอะ ๆ ซึมไว ชุ่มชื่น ปลอบประโลมผิวแพ้ได้ดีทีเดียวเชียว สำหรับตบก่อนนอน Hada labo premium lotion ขวดสีทองตัวดังจากแดนปลาดิบ ใครไปใครมาก็ต้องฝากซื้อกัน ตัวนี้ชุ่มชื่นมาก ก. ไก่ล้านตัว เหมาะกับสภาพหนังหน้าแห้งและมนุษย์ที่นอนในห้องแอร์แบบเย็นจัดราวกับอยู่ขั้วโลกเท่านั้น ไม่เหมาะกับผิวมัน ตัวนี้ซึมช้า หนึบ ๆ หมดแล้วคงไม่ซื้อต่อเพราะมันเกินไป ตื่นเช้ามาทีขนหมาติดหน้า
ปลิดชีพสิวด้วย BHA
กลายเป็นว่าจากหน้าใสกิ๊กมีแต่สิวอุดตันเต็มไปหมด หลังจากตบหน้าเพื่อเตรียมผิวแล้วก็ต้องกระตุ้นสิวอุดตันทั้งหลายให้มันผุดออกมา เคลียร์นังตัวดีออกจากหน้า โดยจะใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ BHA ซึ่งที่ลองใช้มาทั้งหมดไม่เกิดผลอันใด ไม่ผลัดสิวและไม่ได้บำรุงใด ๆ เปิดใจให้หลายรอบแล้วก็ยังไม่ทำตัวให้ดี ก็คงถึงพิธีสละตำแหน่งของ The ordinary salicylic acid 2% solution และ คุณ Fyne bha clarifying serum

ถึงตัวเจลทำความสะอาดจะได้เป็น The Best แต่คุณคนนี้ไม่ได้ไปต่อ สุดท้ายอิฉันต้องหันไปซบอก คุณ Differin คุณคนนี้ค่อนข้างจะออกแนวยามากกว่าสกินแคร์ อ่อนโยนกว่า Retin-A สำหรับมนุษย์สิวทุกท่านคงทราบสรรพคุณกันดี ตัวนี้ใช้แค่ตอนกลางคืน ทาให้ทั่วหน้า เว้นรอบดวงตา แม่นางจะช่วยผลัดผิว ดึงนังตัวดีที่อยู่ในหนังหน้าออกมาแบบผลึบผลับ อดทนหน้าแย่อีกสักเดือนสองเดือนให้สิวอุดตันประทุออกมาให้หมดและแน่นอนว่านอกจากสิวอุดตันที่ประทุ ก็ต้องมีสิวอักเสบกันบ้าง สำหรับรอบนี้ขอมอบมงให้ คุณ Skinsista v acne clear booster ขวดสีส้ม แม่คนนี้ใช้ทาทั่วหน้าตอนเช้าหลังจากลงน้ำตบ กลิ่นแย่มากถึงมากที่สุดแต่ปรนนิบัติผิวและลดการอักเสบของผิวได้ดีเวอร์ เอามงไปเลยจ้า
ประโคมเข้าไปอี๊กกกก
หลังลงตัวรักษาสิวทั้งหลายในตอนเช้าก็ถึงเพลาลงบำรุงแล้วจ้า

อิฉันเลือกใช้ La roche posay toleriane ultra light intense soothing fluid face and eyes ปั๊มไปสัก 2-3 ปั๊ม ทาทั่วใบหน้าและลำคอ สำหรับตัว Light จะเหมาะกับผิวมัน นางดีที่ทำให้ผิวอิ่มน้ำในช่วงเช้าและไม่ทำให้ผิวมันเพิ่ม ยิ่งผิวแพ้ง่ายก็ให้เค้าเลยเพราะเค้าอ่อนโยน ปลอบปละโลมผิวได้ดีเกินคาดหวัง ส่วนสกินแคร์ก่อนนอน ดิฉันคงหนีไม่รอด Estee lauder advanced night repair ซื้อขวดจิ๋วมาทดลองใช้จาก eve and boy บอกได้แค่ว่าต้องซื้อ จะซื้อต่อและจะซื้อขวดใหญ่ด้วย หึ ! นางซึมไว ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันที่จะทำให้อุดตันผิวเพิ่ม ฟื้นฟูผิวได้ดีมาก นอนน้อย ดื่มน้ำน้อย นางช่วยได้ รูขุมขนตรงช่วงหน้าแก้ม จมูก ดูกระชับขึ้นมาก วันไหนไม่ใช้เหมือนจะตาย เสพติดหนักมาก ช่วงนี้นางหมด ยังไม่มีเวลาไปซื้อขวดใหม่ อิฉันรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป ซื้อเหอะ พูดจริง ต้องซื้ออ่ะ และแน่นอนว่ามันจะยังไม่พอ ฉันต้องประโคมอีก ลอง Fyne มาแล้ว ก็ต้องลองให้ครบเซ็ตเพราะคุณคนนี้ เค้าบอกว่าเค้าเป็น Serum-in-cream ชื่อดูน่าสนใจ ก็เลยลองใช้ Fyne skin barrier serum-in-cream เค้าบอกว่าเค้ามีเซราไมด์และยังดับเบิ้ลไฮยาลูรอน ไม่อุดตัน ลดอาการแพ้ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหลาย คุณเค้าดูให้ความชุ่มชื่นแบบดับเบิ้ลชุ่มชื่น 6 ปั๊มก่อนนอนทั้งหน้าและคอ ช่วยผิวได้ดีมากแม่ ทั้งชุ่มชื่นแบบดับเบิ้ลชุ่มชื่น ตื่นเช้ามาหน้าอิ่ม สดใส ไม่กร้าน ที่สำคัญตลอดเวลาที่ทดลองใช้มา คุณเค้าไม่ทำให้ผิวอุดตันเพิ่มเลย นี่ดีจริงไม่จกตา มอบมงให้คุณเค้าขึ้นหิ้งเป็น The Best คู่กับตัวล้างหน้าไปเลย
หน้าดีแล้วอย่าลืมกันแดด
สำหรับครีมกันแดดที่ใช้ในตอนนี้ พยายามหาครีมที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และสารเติมแต่งต่าง ๆ เพราะอยากให้ผิวถูกรบกวนน้อยที่สุด หลังจากได้เตร็ดเตร่อยู่ใน Watson พักใหญ่ ก็ได้ Loreal UV perfect matte & fresh สีเขียว สูตรไม่มีน้ำมันมาด้วยราคาที่มันชวนหลงไหลเพราะชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาท

หลังใช้งานก็ไม่ได้รู้สึกดีเด่ วิเศษวิโสอันใด ถามว่าคุมมันไม๊ ? ก็ไม่ ถามว่ามันเพิ่มไม๊ ? ก็เฉย ๆ ในเรื่องของส่วนผสมอันนี้ก็เฉยมาก คงไม่ซื้อต่อแล้ว อยากจะลองเปิดใจไปใช้แบรนด์อื่นดูบ้าง
จบแล้วจ้าสำหรับสกินแคร์ที่ช่วยกู้ผิวหน้าในช่วงเปราะบางนี้ โดยอิฉันขอสรุปในสรุปเป็นสกินแคร์แนะนำอีกที ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้แล้วได้ผลหรือไม่ได้ผลมันก็อยู่ที่สภาพผิวของแต่ละคนและบุญเก่าด้วย จะถูกจะแพงถ้าใช้แล้วชอบ ใช้แล้วดีก็ซื้อไปจ้า ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้นะจ๊า อ่ะ อ่ะ อย่าเสียเวลา ขอมอบมงให้แก่คุณ Fyne gentle facial cleansing gel คุณ Estee lauder advanced night repair และ คุณ Fyne skin barrier serum-in-cream ขอเสียงปรบมือสำหรับความปั๊วะปังจ้า (แปะ แปะ แปะ)
[SR] ประโลม-ประโครมผิว กู้วิกฤติหน้าแพ้ขั้นสุด !!
คราวนี้เลยถึงเวลาถึงต้องจัดการให้ถูกจุด โดยวันนี้มีสกินแคร์บำรุงผิวที่อยากแนะนำ โดยจะเน้นเนื้อสกินแคร์แบบ “เซรั่ม” เพราะค่อนข้างสบายผิว เหมาะกับผิวมัน ซึมได้ง่าย มาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ
เริ่มต้นด้วยทำความสะอาดผิว
สำหรับ Cleansing เช็คเครื่องสำอางที่ใช้แค่ตอนเย็นเป็นประจำในวันที่ต้องแต่งหน้าจริง ๆ มี 3 ตัว คือ
1. Bifesta cleansing lotion sebum (สูตรผิวมัน-เป็นสิว)
2. Bifesta milky cleansing liquid (สูตรน้ำนม)
3. Banila co clean it zero cleansing balm revitalizing (สูตรสีเขียว)
Clean แล้วก็ต้อง Clean อีก
ว่าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแบบล้ำลึกเข้าไปอี๊กมีทั้งสิ้น 4 ตัวจะแม่
1. Bifesta foaming whip acne care
2. Dr.Somchai acne whip foam
3. Physiogel Daily Moisture Cleanser
4. Fyne gentle facial cleansing gel
ประเดิมผิวด้วย Toner
อิฉันมีโทนเนอร์แค่เพียงตัวเดียว ที่ไม่ได้รู้สึกอะไร ใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ไม่ตาย คือ Thayers witch hazel rose petal ว่ากันว่าช่วยปรนนิบัติผิวมัน ก็ .... เฉย ๆ อะ หมดแล้วก็คงไม่ซื้อ
ต่อด้วยสกินแคร์มาแรงในยุคนี้อย่างน้ำตบ อิฉันซื้อขนาดทดลองใช้มาทั้งหมดเพราะกลัวแพ้แล้วจะเปลืองเงิน
ปลิดชีพสิวด้วย BHA
กลายเป็นว่าจากหน้าใสกิ๊กมีแต่สิวอุดตันเต็มไปหมด หลังจากตบหน้าเพื่อเตรียมผิวแล้วก็ต้องกระตุ้นสิวอุดตันทั้งหลายให้มันผุดออกมา เคลียร์นังตัวดีออกจากหน้า โดยจะใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ BHA ซึ่งที่ลองใช้มาทั้งหมดไม่เกิดผลอันใด ไม่ผลัดสิวและไม่ได้บำรุงใด ๆ เปิดใจให้หลายรอบแล้วก็ยังไม่ทำตัวให้ดี ก็คงถึงพิธีสละตำแหน่งของ The ordinary salicylic acid 2% solution และ คุณ Fyne bha clarifying serum
ประโคมเข้าไปอี๊กกกก
หลังลงตัวรักษาสิวทั้งหลายในตอนเช้าก็ถึงเพลาลงบำรุงแล้วจ้า
หน้าดีแล้วอย่าลืมกันแดด
สำหรับครีมกันแดดที่ใช้ในตอนนี้ พยายามหาครีมที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และสารเติมแต่งต่าง ๆ เพราะอยากให้ผิวถูกรบกวนน้อยที่สุด หลังจากได้เตร็ดเตร่อยู่ใน Watson พักใหญ่ ก็ได้ Loreal UV perfect matte & fresh สีเขียว สูตรไม่มีน้ำมันมาด้วยราคาที่มันชวนหลงไหลเพราะชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาท
จบแล้วจ้าสำหรับสกินแคร์ที่ช่วยกู้ผิวหน้าในช่วงเปราะบางนี้ โดยอิฉันขอสรุปในสรุปเป็นสกินแคร์แนะนำอีกที ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้แล้วได้ผลหรือไม่ได้ผลมันก็อยู่ที่สภาพผิวของแต่ละคนและบุญเก่าด้วย จะถูกจะแพงถ้าใช้แล้วชอบ ใช้แล้วดีก็ซื้อไปจ้า ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้นะจ๊า อ่ะ อ่ะ อย่าเสียเวลา ขอมอบมงให้แก่คุณ Fyne gentle facial cleansing gel คุณ Estee lauder advanced night repair และ คุณ Fyne skin barrier serum-in-cream ขอเสียงปรบมือสำหรับความปั๊วะปังจ้า (แปะ แปะ แปะ)
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้