#ความรู้สึกหลังชม #Homestay #2018 #รอบ2 #แบบไม่สปอย #โฮมสเตย์ #smwo

#ความรู้สึกหลังชม #Homestay #2018 #รอบ2 #แบบไม่สปอย #โฮมสเตย์ #smwo

โฮมสเตย์ Homestay (2018) คะแนน 9/10

***หมายเหตุเกณฑ์การให้คะแนนไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เขียนล้วนๆ หากจะถามว่าอะไรเป็นเกณฑ์การให้คะแนนนั่นก็คือตัวผู้เขียนนั่นเองจอบอ.

#เกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง
เป็นหนังไทยของค่าย GDH 559 ที่ผมยกให้เป็นที่สุดของปี 2018 เลยก็ว่าได้กับเรื่อง โฮมสเตย์ (Homestay) หนังไทยแนวดราม่า-แฟนตาซี-ระทึกขวัญ ที่กำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายญี่ปุ่นเรื่อง เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม (Colorful) โดย เอโตะ โมริ โดยในฉบับหนังมีการเพิ่มเงื่อนไขเล็กน้อยในการหาสาเหตุการตายภายใน100วันไม่อย่างนั้นเขาก็จะตายและวิญญาณของเขาก็จะไม่ได้ผุดได้เกิด

#เรื่องย่อ
Homestay ว่าเรื่องของวิญญาณเร่ร่อนที่ได้รับรางวัลโดยการมาอยู่ในร่างของมินและต้องสืบหาว่าใครเป็นคนทำให้เขาต้องฆ่าตัวตาย โดยที่มีเวลา100วันในการไขปริศนา

#ความประทับใจแรก
Homestay เปิดฉากมาด้วยความแฟนตาซีสไตล์ญี่ปุ่นและทำให้ผมคนดูที่ได้ไปดูมาหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์มาด้วย ต้องประทับใจกับฉากนี้แม้ในตัวอย่างจะมีให้เห็นนิดๆหน่อยๆแต่การที่ตัวละครไปยืนไต่อยู่ที่ด้านของของตึกในแนวระนาบท้าทายแรงดึงดูดนั้นนั้นก็ทำให้ตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยสำหรับหนังไทย แม้จะเคยเห็นภาพนี้มาแล้วบ้างในการ์ตูนหรือมังงะเรื่อง บลีช เทพมรณะ แต่ก็ต้องขอบคุณทีมงานไทยที่เนรมิตฉากนี้ในฉบับหนังไทยคนแสดงให้เห็นและพึงพอใจเป็นอย่างมาก

นอกเหนือจากงานด้าน CG แล้วสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องคงจะเป็นงานภาพที่แต่ละฉากแต่ละตอนดูงดงามมีความหมาย ไม่พ้นแม้แต่ฉากที่มินได้รู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องของ พาย หรือ เฌอปราง อารีย์กุล (เฌอปราง BNK48) ก่อนจะลงมือทำบางอย่างในห้องเรียนนั้น...ภาพฉากหลังของแสงไฟที่สาดสะท้อนกระดาษและมีตัวหนังสือของชีทเรียนนั้นสร้างความประทับใจให้ผมตั้งแต่ที่ได้ดูในโรงภาพยนตร์ คงต้องขอบคุณ คุณ นฤพล โชคคณาพิทักษ์ ละมั้งที่เป็นคนกำกับภาพที่งดงามให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้

และนอกเหนือจากงานภาพที่ดีที่สุดในตัวหนัง ตัวบทที่ดัดแปลงจากนิยายแฟนตาซีของญี่ปุ่นเมื่อเข้ามาอยู่ในหนังไทยหนังเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้สวยงาม แม้ตัวปมปริศนาจะพอเดาง่ายและคลี่คลายง่ายและเนื้อเรื่องยืดยาดยืดยาวไปหน่อยแต่โดยรวมก็ทำออกมาได้ดีในสไตล์ไทยๆ

และต้องขอบคุณ เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้ที่รับบทหลักของเรื่องและแบกหนังเอาไว้ตลอดดึงดูดเราผู้ชมให้อยู่กับหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง ทั้งสีหน้าน้ำเสียงท่าทางการแสดงในการรับบทเป็นมินต้องยอมรับเลยว่า เจมส์ ธีรดนย์ ทำได้ดีมาก และมากจริงๆในการแบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้

นอกเหนือจากนั้นก็ต้องบอกว่า Homestay เป็นหนังที่กล้าเล่า เพราะตั้งแต่หนังเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง 2017 มาหนังไทยในสไตล์กล้าเล่าแบบนี้ก็ออกมาเรื่อยๆ แม้สุดท้ายแล้วจะเล่าได้ยังไม่ฉีกสุดและต้องจบลงด้วยข้อคิดเชยๆแบบไทยๆ แต่ก็นั่นแหละมันก็เป็นหนังไทยสไตล์ครอบครัวที่สามารถดูได้ทุกเพศ ทุกวัย

บทสรุปภาพรวมของหนังโฮมสเตย์ Homestay (2018) เป็นหนังที่เหมาะสำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัยและเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาในชีวิตแม้อาจจะมีคนบางคนที่คิดว่าชีวิตตัวเองโหดร้าย หรืออาจจะมากกว่าตัวมินในเรื่อง แต่ถ้าหากเรามองโลกในแง่ดีไม่โทษใครชีวิตเราก็จะสามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างดีขึ้น ขอบคุณครับ

ขอจบการบรรยาย #ความรู้สึกหลังดู โฮมสเตย์ Homestay (2018) ไว้เพียงเท่านี้หากมีคำผิดหรือพิมพ์ผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยมาไว้ที่นี้หรือหากใครต้องการแสดงความคิดเห็นก็สามารถทำได้ที่ด้านล่าง หรือหากผมเข้าใจเรื่องราวใดในเรื่องผิดไปก็สามารถติชมได้ด้านล่าง สุดท้ายนี้ขอบอกว่า ใช้ชีวิตให้มีสติและมีสติเมื่ออยู่กับคนที่เรารัก เพราะเวลามีค่า ควรใช้เวลากับคนที่เรารัก ขอบคุณที่สละเวลาในการอ่านมาจนถึงจุดนี้ หากท่านไม่อยากเสียเวลาในการทำสิ่งใดๆก็จงจำไว้ไม่แน่ผมอาจเคยทำมาแล้ว อยากให้ท่านมาเสพข้อมูลจากผมได้ที่นี่ ที่เพจ “โลกแคบ”ขอบคุณครับ

***ฝากแฟนเพจ โลกแคบ ของผมด้วยครับ จะเป็นเพจที่เป็นความรู้สึกของผมกับหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องภาพยตร์ การ์ตูน ซี่รี่ หรือเรื่องต่างๆที่ผมเคยรับชม จะพยายามแสดงออกมาตามที่ผมเข้าใจและซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเองที่สุด ขอบคุณครับ

https://www.facebook.com/โลกแคบ-2180885415324096
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ภาพยนตร์ ภาพยนตร์ไทย HOMESTAY โฮมสเตย์ (ภาพยนตร์) บทความ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่