[CR] OKINAWA เที่ยวญี่ปุ่นในราคาเบาๆ ขับรถชิวๆตระเวนกินไปเรื่อย

โอกินาว่าเป็นชื่อที่รู้จักมานานแล้ว เอาจริงๆก็รู้จักจากการอ่านหนังสือการ์ตูนตั้งแต่เด็กๆค่ะ😜 แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้ไปเที่ยวเลย จนเมือช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ พี่ชายส่งลิงค์โปรโมชั่นสายการบิน Peach มาให้ดู บอกว่าถูกมาก ไปเที่ยวกันก่อนหลานเปิดเทอมดีกว่า ซึ่งด้วยความที่ราคาตั๋วเครื่องบินเริ่มต้นที่ 1430 บาท ตาวาวเลยละ ถูกจัง เอาว่ะไปก็ไป ยังไงโอกินาว่าก็ญี่ปุ่นเหมือนกัน

หลังจากจองตั๋วได้แล้ว ก็เหลือเวลา 9 วันก่อนเดินทางไปเกาะสวาทหาดสวรรค์ 'โอกินาว่า' ที่อยู่ใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ก็เร่งหาข้อมูลที่พัก-ที่เที่ยว-การเดินทางกันวุ่นวายพอดูค่ะ
พอได้ไปแล้วสนุกมาก โอกินาว่ามีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะ อาหารการกินดีมากกกกก ราคาก็ไม่แพง

พอจบทริปนี้ ทั้งพี่ชายพี่สะใภ้ก็แนะนำให้เขียนรีวิวแบ่งปันประสบการณ์ที่ไปครั้งนี้ ก็เลยเป็นที่มาของรีวิวนี้ค่ะ

ทริปนี้เราไปกัน 5 คน ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 4คน + เด็ก 4 ขวบอีก 1คน 
จำนวนวันเดินทาง: 4 วัน 3 คืน  (11-14 พ.ค)

Day 1:  Naha Airport > Times Car Rental สาขา naha airport > Fish market Tomari Iyumachi > Blue Seal Ice Park > Okinawa Churaumi aquarium Papaiya > Churaumi Village
Day 2:  Shuri Castle > Ryukyu Sabo Ashibuna > Patisserie joie joie 326 > Mihama American Village > Community & Spa Naha Central Hotel > Ramen Dambo Naha
Day 3:  Pork Tamaga Origiri Honten > NAKAMOTO tempura snack shop > Okinawa World > Okinawa Cave cafe > Naha Kokusai Dori Shopping Street > Hellio Pub > Ramen Dambo Naha
Day 4:  Fish market Tomari Iyumachi > Okinawa Outlet Mall Ashibinaa > oHacorte Bakery > T Galleria by DFS > Times Car Rental > Naha Airport

สายการบินที่ใช้บริการ: Peach Air  (Lowcost Airlines)
โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินนี้มีปล่อยราคาดีๆออกมาเรื่อยๆค่ะ
  🔸  วิธีการจองตั๋วเครื่องบินของ Peach airline แนะนำว่า ให้จองผ่านเว็บบราวเซอร์บนคอมพิวเตอร์จะดีที่สุด  เพราะลองจองผ่านมือถือแล้วมันจองไม่ได้ค่ะ
  🔸  ราคาปกติเริ่มต้นขั้นต่ำมักจะอยู่ที่ 3180 บาท/เที่ยว ซึ่งราคานี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียม ภาษีสนามบิน ค่าโหลดกระเป๋านะคะ
  🔸 โปรตั๋วที่เชื้อเชิญเราไปคือราคาเริ่มต้น 1430 บาท/เที่ยว ซึ่งก็บอกเลยว่าจองไม่ได้ราคานี้ค่ะ 555  เสียดายอยู่ แต่ตั้งใจจะไปกันแล้ว สุดท้ายก็ตัดสินใจจองไปค่ะ 
ไฟล์ททั้งขาไปกลับเวลาดีมาก คือไปถึงเช้า สามารถเที่ยวได้เลย ส่วนขากลับ ไฟล์ทดึก สามารถเที่ยวได้เต็มวัน

  🔸 ตอนเลือกตั๋วเครื่องบิน เราสามารถเลือก package ตั๋วได้นะคะ สำหรับเราเลือก Value Peach เลือกที่นั่งฟรี โหลดกระเป๋าฟรี 1 ใบ ซึ่งก็ขอแนะนำสำหรับบางคนที่คิดว่าโอกินาว่าอาจจะไม่ค่อยมีอะไรดึงดูดขาช็อปเท่าไร และอยากประหยัดค่าตั๋ว โดยการไม่เลือกแบบเพิ่มน.น. โหลดกระเป๋า 20 กก.อาจจะเสียใจภายหลัง ถ้าเจอสินค้าโดนใจ แล้วอยากซื้ออยากขน แต่นน.เป๋าไม่พอ หรืออาจจะต้องไปจ่ายเพิ่มนน.ตอนกลับ ซึ่งราคาจะแพงกว่าซึ่งหน้าเว็บนะคะ
  🔸 เพื่อความสบายใจ ควรเตรียมเครื่องชั่งนน.กระเป๋าไปด้วยนะคะ ถือเป็นไอเท็มสำคัญที่ทำให้การจัดกระเป๋าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และไม่ต้องเสียอารมณ์ตอนเช็คอิน ที่ต้องรื้อของออก จัดเข้าๆออกๆกันใหม่
  🔸 สรุปตั๋วและค่าธรรมเนียมทุกชนิดบวกไปบวกมาทุกอย่าง สำหรับผู้ใหญ่ 4+เด็ก 1 คน  เราจ่ายทั้งหมด 49,450 บาท
สายการบิน Peach Air
ข้อดี
1. Direct fight บินตรง ไม่เสียเวลา
2. มี Promotion ออกมาเรื่อยๆ ราคาไม่แพง (มีปล่อยตั๋วเริ่มต้น 980 บาทด้วยนะคะ)

ข้อเสีย 
1. ขากลับจะเข้มงวดเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเดินทางมาก แชร์น้ำหนักกระเป๋ากันไม่ได้นะคะ
   🔸  กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 1 ใบได้ 20 kg (980 บาท)
   🔸  Carry on Baggage/กระเป๋าพกขึ้นเครื่องได้ 2 ใบ ซึ่งรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 7.0 kg
2. เปิดให้ Check-in โหลดกระเป๋าช้ามากๆ  ไม่มี Check-in Online แต่มีตู้ Check-in อัตโนมัติที่สนามบิน Naha  (แนะนำให้ไป Check-in ก่อนนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาที่เคาน์เตอร์)
3. ที่นั่งค่อนข้างเล็กค่ะ 
   🔸  ทริปนี้เราลองนั่งทั้งแบบ Standard Seat และ Pleasure Seat มาแล้ว  ส่วนตัวแล้วไม่รู้สึกว่าต่างกันมา แต่ชอบ Pleasure Seat เพราะจะนั่งสบายกว่า มีพื้นที่ให้คนขายาวมากกว่า 
   🔸  สำหรับผู้ชายตัวสูง+ขายาว ไม่แนะนำ Standard Seat เพราะเห็นพี่ชายสูง 176 ซม.นั่งขาตรงๆไม่ได้  ต้องเบี่ยงข้างเอา
4. สายการบินไม่มีหมอนและผ้าห่ม
5. อาหารเครื่องดื่ม ไม่มีบริการฟรีค่ะ แต่มีขายบนเครื่องนะคะ
6. สำหรับพ่อแม่ที่นำรถเข็นเด็กไป 
   🔸  ขาออกจากสุวรรณภูมิ เราสามารถเข็นรถเข็นเด็กไปถึงหน้า Gateได้ค่ะ
   🔸  ขากลับเข้าประเทศต้องเอารถเข็นเด็กโหลดตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็กอินเลย แล้วให้เด็กใช้รถเข็นเด็กของสนามบิน ซึ่ง....เข็นไปถึงได้แค่ตรงที่สแกนกระเป๋า ก็ไม่สามารถเข็นต่อไปได้จ้าาา ต้องจอดทิ้งค่ะ ถ้าเด็กเดินได้เอง ก็จะดีหน่อย แต่ถ้าร้องให้อุ้ม ก็อุ้มเอาโลดจ้าาาาา เดินไกลพอสมควรกว่าจะถึงGate  อ้อ...ถ้าถามว่าถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว รถเข็นมาจอดรอเราตรงหน้าประตูเครื่องหรือไม่ ...ไม่จ้าา รอรับตรงสายพานโล้ด พ่อแม่เตรียมอุ้มลูกน้อยๆยาวไปเลยจ้า กว่าจะถึงตม. 😓

การเช่ารถ
การเดินทาง: ทริปนี้เราตั้งใจจะไป Aquarium ก่อน ก็เลยคิดว่าเช่ารถขับน่าจะสะดวกที่สุด
ซึ่งก่อนตัดสินใจเลือกรถ ก็เช็คเทียบราคากันหลายที่ + ดูร้านเช่าที่มีเคานเตอร์ให้บริการที่สนามบิน Naha มีบริการรับส่ง + มีโปรโมชั่นส่วนลด อย่างเช่น
- ถ้าเช่า Times Car Rental จะได้รถ Mazda Premacy (Mazda5)  (7 ที่นั่ง เก็บกระเป๋าได้อย่างน้อย 3-4 ใบ) 
- ถ้าเช่า OTS Rent-A-Car จะได้ SIENTA (5ที่นั่ง กระเป๋า 2 ใบ) หรือ Prius  
- Toyota Rent a Car  มันไม่ระบุว่าเราจะได้รถรุ่นไหน กำลังเท่าไร? 

โดยรวมๆแล้ว ราคาค่าเช่าก็ต่างกันเล็กน้อย ประมาณ 1000 เยน แต่ดูจากความต้องการของเรา ก็เลยเลือกใช้บริการของ Times Car Rental เพราะ
1. มีเคานเตอร์ให้บริการที่สนามบิน Naha + มี Shutter bus รับส่งที่สนามบิน-ร้านเช่ารถ 
2. ได้รถที่ต้องการ เพราะว่าเรามีเด็ก รถเข็นเด็กและกระเป๋าเดินทาง 3 ใบ ก็คิดว่าหารถหลังคาสูง Mazda 5 ก็น่าจะดี จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระด้วย

สรุปก็เลือกรถเช่าสำหรับเวลา 4วัน + Booster seat  สำหรับเด็ก 4 ขวบขึ้นไป + มี GPS Navigation ภาษาอังกฤษ + ETC Device (ประมาณ easypass เมืองไทย) + ประกันแบบ Super Safety Package คุ้มครองทุกอย่าง รวมแล้วค่ารถ 30800 เยน

ข้อมูลเพิ่มเติม
  🔸 เราดูจากเว็บ https://www.visitokinawa.jp/transportation/transportation-in-okinawa/rental-car  ซึ่งเค้าแนะนำบริษัทเช่ารถที่มีจุดบริการรับสงที่สนามบิน Naha   มีเคานเตอร์ในสนามบิน มีเจ้าหน้าที่คอยชี้จุดรับรถ 

นอกจากเว็บนี้แล้วก็ยังดูได้จาก klook / kkday / ToCoo  และอื่นๆ
  🔸 ก่อนคืนรถ ต้องเติมน้ำมันเต็มถังและนำใบเสร็จมายื่นให้พนักงานตอนทำเรื่องคืนรถ
  🔸 ถ้าต้องการเปลี่ยนสาขารับหรือคืนรถ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ
  🔸 สำหรับ Times Car Rental กรณีต้องการรับรถ/คืนรถที่สนามบิน เลือก Pick-up Station เป็น Naha Airport ค่ะ

การจองโรงแรม:
เราจองผ่านเว็บ Bookingค่ะ (เพราะได้ promotion ส่วนลดรร.จากบัตรเครดิตกรุงศรี)  พัก 2 ที่คือ
1. Churaumi Village (1st village) 1 คืน ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ/Churaumi Aquarium
2. Community & Spa Naha Central Hotel 2 คืน เพราะห้องกว้าง ราคาดี อยู่ย่านช็อปปิ้งและของกิน

หลังจากตัดสินใจจองรถ จองโรงแรมเรียบร้อย เราถึงได้สรุปแผนการเดินทางทริปนี้คร่าวๆ พร้อมเดินทาง ^^ (คร่าวๆจริงๆ ทำแผนเดินทาง หาที่กินเสร็จก่อนเดินทางแค่ 1 วัน)

เตรียมตัว Check-in ก่อนเดินทาง
เนื่องจากเครื่องออก 01.25 ของวันที่ 11/05/2019 (วันพรุ่งนี้)  พวกเราก็เลยมานัดเจอกัน 3 ทุ่มที่สนามบินสุวรรณภูมิกันก่อน  แต่กว่าเราจะเก็บของเสร็จ กว่าจะถึงสุวรรณภูมิก็เกือบ 4 ทุ่มค่ะ โชคดีที่รถไม่ติด และที่จอดรถครั้งนี้หาไม่ยาก 
แต่ก็ไปจบที่การรอ check-in  สายการบินนี้เปิดให้เช็กอิน ก่อน 2 ชม. ถ้าไปก่อนอาจจะหาเคาน์เตอร์เช็กอินไม่เจอค่ะ 

ทริปนี้ เราเช็คอินที่เคานเตอร์ โซน M  แต่พอรู้พิกัด พวกเราก็รีบไปต่อคิวรออย่างไม่ย้อท้อ ก็รอสักพักใหญ่เลยค่ะ  

check-in เสร็จก็ประมาณ 5 ทุ่ม ก็รีบพุ่งตัวไป Miracle Lounges อย่างด่วนค่ะ 
แต่ต้องขอบอกก่อนว่า เนื่องจากว่าเราไม่ได้เดินทางโดย TG จึงไม่สามารถใช้สิทธิ์ของบัตรเครดิตในการใช้ Royal Orchid Lounge ได้  เราโชคดีที่พี่ชายและพี่สะใภ้ใช้บัตรเครดิตของ Citi Premier จึงสามารถใช้สิทธิ์ ที่ Miracle Lounge ได้  ซึ่งพวกเรามีผู้ใหญ่ 4 คนกับเด็ก 1 คนน่ะสิ ตอนแรกก็นึกว่าจะต้องเสียเงินเพิ่มซะแล้ว แต่ว่าเจ้าหน้าที่แจ้งว่า บัตรนี้สามารถใช้Lounge ได้ 2 ครั้งต่อปี เจ้าของบัตรสามารถเลือกใช้สิทธิ์นั้นพาผู้ติดตามเข้าได้ เราก็เลยได้ใช้บริการโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ปล. แนะนำว่า ควรเลือกเข้าใช้ที่ Miracle Lounge ที่โซน D ค่ะ  (พวกเรายอมเดินไปไกลมากก เพราะ Gate เราอยู่โซน C ก็จริงแต่ Lounge โซน C เล็กมากกกกกกกก )
อาหารของเค้าดีมีคุณภาพตามคำรำลือจริงๆค่ะ  พออิ่มกันก็ไปล้างหน้าล้างตา นั่งพักรอเวลาขึ้นเครื่องนอน 
เพี้ยนเขิน
ชื่อสินค้า:   okinawa , Japan , โอกินาว่า , ญี่ปุ่น , ท่องเที่ยวด้วยตัวเอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่