EEC - กรรมการพิจารณาซองมึน “ศาลปกครอง” รับคำฟ้อง CP เดินหน้าคดีอู่ตะเภา!?!

คงต้องลุ้นกันต่อไป .... ว่าผลสรุปแล้วจะเป็นยังไง
แต่ก็อยากให้ทุกฝ่ายมองที่ผลประโยชน์ของชาติ และคนไทยเป็นหลัก


ไม่กี่วันที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางประกาศยกคำขอทุเลาของ “กลุ่มซีพี” กรณีการประมูลสนามบินอู่ตะเภา แต่ขณะเดียวกันก็รับคำฟ้องของกลุ่มซีพีด้วย ทำเอาต้องมานั่งวิเคราะห์กันว่า แท้จริงแล้ว แปลว่าอะไร?

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 ซีพียื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ศาลวินิจฉัย ยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมพิจารณาซอง และขอให้ยังคงพิจารณาซองเอกสารทั้งหมดของซีพี ซึ่งประเด็นสำคัญนี้ ศาลรับคำฟ้องของกลุ่มซีพีไปในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเมื่อศาลรับคำฟ้อง ก็จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาไม่น้อย และหากมีผู้อุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล ก็อาจใช้เวลามากขึ้นไปอีก ทำให้กลุ่มซีพีต้องยื่นคำขอทุเลาเพิ่มเติมควบคู่กัน เพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเองกับการที่จะได้รับการพิจารณาซองอย่างทัดเทียมไปพลาง หากเทียบราคาแล้วเกิดชนะขึ้นมา แต่หากผลของศาลออกมาว่า ซีพีแพ้ไม่ให้รับพิจารณาซอง นั่นหมายถึง ผู้เสนอราคาที่ได้เป็นรายที่สอง จะเป็นผู้ชนะทันที ซึ่งรัฐจะไม่เสียประโยชน์ เพราะได้เห็นราคาของซีพี เทียบกับคู่แข่งที่เหลือ และกระบวนการเดินหน้าได้โดยไม่ติดขัด

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ศาลได้ยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง นั่นหมายถึง กระบวนการพิจารณาซองอาจฝืนเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีซองของซีพี และไม่รอผลการพิจารณาของศาล อันนี้น่าเป็นห่วงและน่าเห็นใจคณะกรรมการพิจารณาซอง เพราะหากได้ผู้ชนะไปแล้ว แต่ในภายหลังหากศาลวินิจฉัยว่า ซีพียังมีสิทธิ์ ... ในสถานการณ์เช่นนี้ วลีเดิม ๆ ว่า รัฐเสียค่าโง่ คงถูกนำมาใช้ เพราะอาจมีการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย และไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไร

ทั้งที่จริงก็รู้ดีว่า การเปิดซองประมูลทั้ง 3 เจ้า ให้มีการเปรียบเทียบแข่งขันย่อมดีกว่าการตัดสิทธิ์เพราะส่งซองช้าไป 9 นาที ในขณะที่ยังไม่ได้รับซองเอกสารของผู้ยื่นข้อเสนอครบ แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือก จึงต้องเดินเข้าสู่การตัดสินของศาล ที่ถือว่าเป็นเวทีของสุภาพบุรุษ ที่ต่างฝ่ายต่างนำข้อเท็จจริงมามอบแก่ศาล และให้ศาลชี้ทางออกที่ประเทศได้ประโยชน์ เหลือเพียงปัญหาหนักอกคือ ห้วงเวลาที่รอไม่ได้ หากพิจารณาต่อไปโดยไม่รอคำสั่งศาล ประเทศชาติจะเสียประโยชน์ ทำให้ทางออกที่อีอีซี ตั้งคณะอนุกรรมการอุทธรณ์ขึ้นมา จึงเป็นเหมือนเสียงสวรรค์ ที่เดินซ้ายไม่ได้ ขวาไม่ได้ แต่ก็มีสะพานลอยจากอีอีซี ทำให้ทุกคนพ้นปัญหา เดินหน้าอย่างไร้รอยต่อ แต่ถ้าไม่ได้ข้อยุติจากอีอีซี งานนี้ถือได้ว่า กระบวนการพิจารณาซอง ต้องรอการพิจารณาจากศาลไปโดยปริยาย และคณะกรรมการพิจารณาซอง ก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องในการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เพราะต้องรอกระบวนการและผลจากศาล โดยจะเปิดซองก่อนมิได้ ทำให้งานนี้ดูเหมือนว่า จะเป็น วิน-วิน ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ รวมถึงประโยชน์ของประเทศชาติอีกด้วย

เมื่อเข้าใจกระบวนการก็บอกได้คำเดียวว่า เห็นใจทุกฝ่าย ทุกคนต้องการทำเพื่อชาติ และการทำงานทุกขั้นตอนต้องโปร่งใส ดังนั้น การวิ่งแข่งควรได้ผู้ชนะที่เส้นชัย ไม่ใช่แพ้ฟาวล์ตอนเปิดตัว หากเสียงนกหวีดดังขึ้นจริง ทุกคนวิ่งเข้าเส้นชัย เวลานั้นคนไทยจะได้ผู้ชนะประมูลที่เสนอข้อเสนอที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ นี่แหละ ทางออกที่ดี เพราะเวทีนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้แพ้ ...

ที่มา : MGR Online
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่