วิธีให้เจอความรักที่ดีคนรักที่ดีที่ใช่

วิธีให้เจอความรักที่ดีคนรักที่ดีที่ใช่

วันนี้อยากมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับวิธีให้เราได้เจอความรักที่ดีคนรักที่ดีที่เหมาะสมกับเรา เป็นความรู้จากการอ่านศึกษาและปฏิบัติเอง อาจจะยึดหลักทางพระพุทธศาสนาและกฎแรงดึงดูดเป็นหลัก ผู้เขียนอาจจะไม่ใช่ expert อะไร แต่ผู้เขียนแค่อยากจะแบ่งปันวิธีคิด
เพื่อให้ทุกคนสมหวังมีรักแท้ที่ดี

หวังว่าจะเป็นวิทยาทานและเป็นประโยชน์ให้กับคนทั่วไปได้เข้ามาอ่านและประสบพบเจอรักที่ดีกับคนที่ใช่ในเร็ววันทุกคนรวมทั้งตัวเราเองด้วยค่ะ อย่างน้อยถ้าใครยังไม่เจอหรือได้เจอแล้ว บทความนี้จะทำให้ตัวเราเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นและสิ่งต่างๆรอบตัวจะดีขึ้นตามอย่างแน่นอน

1.     เราต้องมี　“ความเชื่อ” ว่าเรามีคุณค่า เราสมควรได้รับความรักที่ดี 

ความรักที่ดีคนรักที่ดีที่เหมาะสมคู่ควรกับเรามีอยู่จริง และเราจะเจอแน่ๆ เมื่อเราสร้างความเชื่อตรงนี้ มันจะทำให้จิตใต้สำนึกเราพาตัวเราไปพบเจอกับสิ่งที่เราเชื่อเสมอ ส่วนตัวผู้เขียน เป็นคนมีความเชื่อตรงนี้รุนแรงมาตั้งแต่สมัยเด็ก ผู้เขียนเชื่อว่า เราคู่ควรกับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ชีวิตผู้เขียนจึงนำพาผู้เขียนให้ไปเจออะไรที่เป็น ‘ที่สุด’ เสมอ ไม่ว่าจะสอบได้ที่ 1 หรือทำงานในที่ๆดีเรียนในที่ที่ดี มหาลัยที่ท้อป คนรักในอดีตที่เคยเจอก็ดูแลแบบดีมากๆ (ตอนนี้เลิกกันไปเพราะจุดมุ่งหมายชีวิตไม่ตรงกัน แต่ก็ยังรู้สึกว่าเป็นความรักที่ดีมากๆอยู่ดี) 

2.     เห็นภาพบุคคลที่เราต้องการจะได้เป็นคู่ครองคู่ชีวิตอย่างชัดเจน 

เราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไรแบบชัดเจนนะคะ ไม่ว่าจะเป็นนิสัย หน้าตา หรือรายละเอียดอื่นๆของคนคนนั้น ให้เขียนลงไปอย่างละเอียด (แต่ให้เน้นมากๆที่ คุณสมบัติที่เขาจะทำให้เรา มากกว่าคุณสมบัติภายนอกของเขาเช่น เขาต้องเป็นคนที่รักเรามาก เขาต้องซื่อสัตย์รักเดียวใจเดียว เขาเป็นคนที่ดูแลเราดีพร้อมจะเดินเคียงข้างเราเสมอ อะไรประมาณนี้) เมื่อเราเขียนขึ้นมา จิตใต้สำนึกเราจะไปดึงดูดคนแบบนั้นเข้ามาในชีวิตเราอย่างน่าอัศจรรย์ค่ะ อันนี้ผู้เขียนพิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้วหลายรอบ คนที่เข้ามาจะมีคุณลักษณะตรงตามที่เราเขียนซะส่วนใหญ่ แต่ผู้เขียนเคยไปโฟกัสที่หน้าตาและโปรไฟล์ภายนอกมากเกินไป จนเชื่อมั้ยว่า ผู้เขียนได้เจอคนคนนั้น และได้มาคบมาคุยกัน แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไม่ได้ทำในสิ่งที่เราต้องการให้เราเลย ซึ่งมันทำให้เราไม่มีความสุขในการคบกัน เมื่อผู้เขียนรู้เช่นนั้น ผู้เขียนก็เลยฟันธงไปเลยว่า ‘ไม่ใช่’ และเขาก็จะมีเหตุให้หลุดไปจากชีวิตผู้เขียนเอง เนื่องด้วยผู้เขียนมีความเชื่อมากๆว่า ผู้เขียนจะดึงดูดคนที่ดีกว่าเหมาะกว่าเข้ามาได้อีกเสมอๆ และได้ทำการโฟกัสใหม่ โดยการไม่ไปโฟกัสที่ตัวบุคคล ย้ำ! อย่าไปโฟกัสว่า ฉันต้องได้ณเดชเป็นแฟน หรืออย่าไปโฟกัสแค่เรื่องภายนอก เพราะเอาจริงๆแล้ว คนสองคนจะมาอยู่ด้วยกันได้ยาวๆ มันคือความเข้ากันด้านนิสัยใจคอและการกระทำ การโฟกัสภายนอกคุณจะได้คนที่ภายนอกแต่คบไปแล้วมารู้ว่าเสียเวลาเพราะไม่เข้ากับคุณ เป็นต้น

3.     โลกนี้มีความสมบูรณ์พร้อมเสมอให้กับเราทุกคน

อย่าคิดว่าโลกนี้มันขาดแคลนนะ อย่าคิดว่าผู้ชายดีๆผู้หญิงดีๆโสดๆมันไม่เหลือแล้ว และอย่าไปเสพพวกละครหรือชีวิตรักพังๆของคนอื่นมากจนกลายเป็นความเชื่อฝังหัวเราว่าความรักดีๆมันไม่มีจริง อย่าเชียวนะ ให้เชื่อว่า คนดีๆที่เราต้องการมันมีจริงในโลกนี้ ถึงเราจะเจอแล้ว ลองคบไปแล้ว และมันอาจไปไม่รอด เราก็สามารถดึงดูดคนใหม่ที่พร้อมกว่าเหมาะกว่ามาหาเราได้เสมอ ผู้เขียนได้พิสูจน์มาแล้วกับตัวจริงๆคือไม่เคยขาดแคลนคนที่เข้าหา เพราะมีความเชื่อตรงนี้อยู่อย่างชัดเจน 

‘There are plenty fish in the sea’ 

บางคนไม่ยอมออกจากความสัมพันธ์แย่ๆ คนที่เราอยู่ด้วยแล้วเหมือนจะสุขแต่มันก็ทุกข์มากกว่า เพราะทน เพราะคิดว่าเดี๋ยวหาไม่ได้แล้ว เอาๆไปเถอะ บางคนเหงาใครเข้ามาก็เอาๆไปเถอะ เพราะกลัวหาไม่ได้อีก กลัวว่าอายุมากจะหาไม่ได้ เขาไม่ให้เกียรติเรา เราก็ทน แล้วจิตก็ปรุงแต่งให้คิดไปว่านี่คงจะเป็น เนื้อคู่ แหละ ก็ต้องทนๆไป 
จะบอกว่าความคิดนี้ทำร้ายตัวเองมาก เพราะนอกจากเราจะไม่ปล่อยคนที่ไม่ใช่ออกไปจากจิตใจและชีวิตเราแล้ว คนที่ใช่กว่ามันจะไม่มีช่องว่างให้เข้ามาในชีวิตเรานะ เพราะจิตเรายึดคนเดิมอยู่ 
ส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่าคำว่า ‘เนื้อคู่’ มันมีอยู่จริงนะ แต่มันจะเป็น ‘คู่บุญ’ หรือ ‘คู่กรรม’ ก็แล้วแต่บุญกรรมที่เราเคยทำในอดีต และเนื้อคู่มีได้หลายคนในชีวิตคนคนหนึ่ง ถ้าเราเจอคู่กรรม คืออยู่ด้วยแล้วทุกข์ใจไม่มีความสุข ทุกข์มากกว่าสุข อยู่ด้วยแล้วเรารู้สึกตัวเล็กกว่าเขามาก ทุกการกระทำของเขามันส่งผลต่อจิตใจเรามาก เขาเข้ามาเพื่อให้เราชดใช้กรรม ให้เรารู้และยอมรับ  ส่วนตัวผู้เขียนใช้วิธีตั้งจิตภาวนาแผ่เมตตาและขออโหสิกรรมให้ และอธิษฐานจิตว่า ขอให้เจอคู่แท้คู่บุญเท่านั้น คู่ที่ไม่ใช่ขอให้ออกไป เวลาเราตั้งจิตอธิษฐานแรงกล้า คนที่ไม่ใช่จะออกไปจริงๆ อันนี้ผู้เขียนก็พิสูจน์มาด้วยตัวเองเช่นกัน คนไม่ใช่จะออกไปจากชีวิตผู้เขียนเร็วมาก ซึ่งผู้เขียนคิดว่ามันเป็นข้อดี เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ผุ้เขียนทุกข์เพิ่มขึ้นในอนาคต ยังเป็นการไม่ต่อกรรมใหม่ต่อกันไปอีก(คนบางคนยังกลัวเหงาอยู่ รู้ลึกๆว่าไม่ใช่ แต่ก็ไม่อยากปล่อย เลยไม่กล้าตั้งจิตอธิษฐานจริงๆ เขาก็ยังอยู่ในชีวิตเราและหลอกตัวเองว่านี่แหละคนที่ใช่

“....ชีวิตเราเองเราเลือกความสุขให้ตัวเราเองได้นะ”)

4.     สร้างเหตุให้พร้อมให้เหมาะสม. 

เราอยากได้คนแบบไหนเข้ามาเป็นคู่ชีวิต แล้วเราล่ะ เป็นคนแบบนั้นแล้วหรือยัง? เราทำตัวดีพร้อมหรือยัง อยากเป็นที่รัก แฟนรักเรามากๆ แล้วเราทำตัวน่ารักหรือยัง หรือเราเป็นคนที่รักคนรอบข้าง เอื้อเฟื้อเมตตาคนรอบข้างบ้างหรือไม่ ยังเอาแต่ใจตัวเองหรือยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางหรือเปล่า ยังเป็นคนที่เอาแต่เรียกร้องหรือไม่ บางคนยากได้แฟนรวย แล้วเราล่ะเป็นคนขยันทำมาหากินเพื่อให้ตัวเองร่ำรวยเองแล้วหรือยัง อยากได้คนสวยหล่อ แล้วเราดูแลตัวเองให้ดูดีแล้วหรือไม่ สิ่งที่เหมือนกันจะดึงดูดเข้าหากันเสมอ 

“ไม่ต้องตามหา แต่กรรมที่เราทำจะจัดสรรคนเข้ามาในชีวิตที่มันเหมาะกับเราเองในเวลาที่เหมาะสมที่สุด”

เพราะฉะนั้น ง่ายๆเลยคือ อยากได้ผลแบบไหน ให้สร้างเหตุแบบนั้นก่อน ฝึกพัฒนาตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น สร้างแต่เหตุดีๆ รู้จักให้แก่ผุ้อื่น มีเมตตา คนดีๆจะเข้ามาในชีวิตเองแบบไม่ต้องหาเลย มันจะเข้ามาเองแบบไม่ตั้งใจด้วย

แต่ถ้ายังสร้างเหตุไม่ดีพร้อม เราก็จะยังสามารถดึงดูดคนเข้ามาได้อยู่นะ แต่เขาก็จะเหมือนเป็นกระจกสะท้อนตัวเรา เราเป้นคนอบบไหน เราจะได้แบบนั้น ถ้าเรายังมีนิสัยที่ไม่ดีที่ยังไม่แก้ เราก้จะเจอคนแบบนั้นเข้ามาเป็นคู่เรา แล้วเราก็อาจจะไม่ชอบ สุดท้ายก็อาจจะไปไม่รอด เพราะทุกอย่างเข้ามาตามกรรมที่เราสร้าง ตามพลังงานที่เราเป็น เพราะฉะนั้น ลองเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดี ที่เราจะชอบ เป็นที่รักดูนะ แล้วเราจะว้าวว่า คนที่เราเริ่มพบเจอ มีแต่คนน่ารักๆ คนดีๆ ที่ศีลเสมอเรา