ไอซ์แลนด์ ไม่พกเงินสดไปก็เที่ยวได้!
ช่วงเวลาที่ไปคือ ช่วงสงกรานต์ เมษายน 2019 พอดีก่อนไปมีเจอแต่กระทู้เก่าๆเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์อัพเดท จะไม่มีเรื่องว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้างนะคะ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจอง กิจกรรมต่างๆ อาหารการกิน และการใช้ชีวิตค่ะ
เริ่มต้นเลย ที่ได้ไปทริปนี้ เพราะแม่อยากไป เราก็จัดการจองตั๋วเรียบร้อยก่อน 4 เดือน แต่อย่างอื่นยังไม่ได้จอง แต่แล้วอยู่ๆแม่ก็อยากไม่อยากไปซะงั้น อยากไปเที่ยวกับเพื่อน ลูกๆเลยโดนเท เซกันไปเลยทีเดียว และมารู้ว่าตั๋วเครื่องบินของลูกทั้ง 4 ทั้งหมด แคนเซิ่นและเลื่อนไม่ได้เพราะเป็นตั๋วถูก แต่ของแม่จองต่างหากเพราะนางอยากจะนั่งการบินไทยเท่านั้น เลยจองแยกกันไป … เอาล่ะ รู้ว่าจะต้องไปแน่ๆตอนต้นเดือนมีนาคม และต้องจองทุกอย่าง พร้อมกับทำวีซ่า! ซึ่งเราและน้องกังวลเรื่องวีซ่ามากเพราะอ่านจากในพันทิพทุกคนกว่าจะได้วีซ่านานๆทั้งนั้น แต่ที่อ่านมีแต่กระทู้เก่า ทำให้เราไม่ทราบสถานะการณ์ปัจจุบันเลยว่ามันทำช้าเร็วแค่ไหน เรียกว่าเสี่ยงดวงสุดๆ
ขั้นตอนแรก ให้น้องหาที่พัก+ทำแพลน เพื่อที่จะไปทำวีซ่า (ถ้าไม่มีที่พัก ไม่มีแพลนอาจจะทำวีซ่าไม่ผ่านนะคะ อันนี้ต้องเตรียมดีๆ เพราะวีซ่าให้เท่าวันเวลาที่เราไปเป๊ะๆๆ) แพลนหลักๆของเราที่คิดไว้คือ 1.อยากจะขับรถเอง 2. นอนราคากลางๆ 3. เดินบนน้ำแข็งกราเซีย น้องใช้เวลาดูราวๆ 5 วันจึงเอาที่เจอมาให้เลือก มีอยู่หลายบริษัทอยู่ที่ทำ เราเลือกอันที่ตอบเร็วที่สุดค่ะ...จะเป็นแพคเกจ local tour แบบว่าทางทัวร์จัดการให้ทุกอย่าง จองรถ จองที่พัก มีแผนทัวร์ให้ว่าจะไปไหน มีให้เลือกกิจกรรมว่าจะทำอะไรบ้าง เรียกว่าเราจ่ายทุกอย่างก่อนไป ไปถึงที่นู่นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย สบายฝุดๆ แล้วราคาก็เป็นราคาที่เรารับได้ มาถึงตอนนี้ต้องรีบตัดสินใจด้วย เพราะกลัวจะทำวีซ่าไม่ทัน ...วิธีการจองทัวร์ สามารถกดได้จากทางเวปไซต์ทัวร์เลย ซึ่งบนเวปไซต์เนี่ยจะมีให้เลือกว่า เราจะใช้บัดเจตยังไง เช่น การจองรถต้องการรถแบบไหน รถเล็ก รถใหญ่ นั่งกี่คน , ที่พักอยากได้ราคาแบบไหนไม่แพงมาก กลางๆ หรือดีหน่อย, อยากจะทำกิจกรรมอะไรบ้าง เช่น เดินบนกราเซียไม๊ ดูปลาวาฬไม๊ อันนี้ก็ให้เลือกแล้วแต่สิ่งที่อยากทำได้เลย ทางทัวร์เค้าจะจัดการจองให้ทุกอย่าง พอเราโอเคกับแผนการของเราแล้ว ก็จ่ายเงินโดยจ่ายจากทางบัตรเครดิตได้ พอจ่ายเสร็จทางทัวร์จะส่งเอกสารรับรองการเดินทางของเรา 1 ใบ กับ แผนการทัวร์ว่าเรานอนที่ไหนบ้างไปเที่ยวไหนบ้าง เพื่อที่จะเราจะได้เอาไปวีซ่าได้สบายๆ ...การจัดการนี้เราใช้ประมาณ 10 วัน และเตรียมเอกสารทำวีซ่า 3-4 วัน (ที่ไอซ์แลนด์มีชั่วโมงการทำงานน้อยมากเรียกว่าหมดเวลาปุ๊ปไม่ตอบ แถมเราไปถามตอนติดวันหยุดอีก รอกันไปค่ะ ถ้าไม่ติดเรื่อง time zone หรือวันหยุด ถือว่าตอบเร็วค่ะ)
ระหว่างที่รอคอนเฟิร์มทัวร์ เราก็ได้จองคิวที่สถานทูตเพื่อขอยื่นวีซ่า อันนี้ควรจองแต่เนิ่นๆนะคะ เรากะเวลาเอาว่าจะพร้อมเมื่อไร ซึ่งเราไปประมาณกลางเดือนมีนาคมค่ะ รายละเอียดการทำวีซ่าไปดูได้ที่สถานทูตเวปเดนมาร์คเลยค่ะ ขั้นตอนนี้ขอข้ามไปเดี๋ยวจะยาว ….ขอบอกแค่ว่าใช้เวลาทำแปปเดียว ได้วีซ่าภายใน 2 อาทิตย์เป๊ะค่ะ แล้วก็เน้นเอกสารที่ทางทัวร์ให้มา พร้อมกับทำเอกสาร 1 ใบว่าวันที่นี้เราจะไปนอนที่ไหนบ้าง พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของที่ที่เราพัก ...คืออันนี้เราไม่ได้ทำไป เค้าให้เราไปเขียนตอนทำวีซ่าเลยค่ะ...แลวก็เน้นว่า เตรียมรูปไปให้พร้อม ที่ทำมีที่ถ่ายรูปแต่แพงค่ะ แล้วก็อย่าลืมเตรียมเงินสดค่าวีซ่าไปค่ะ
ก่อนเดินทาง 2 วัน …..ไม่พร้อมเที่ยวสุดๆ งานยังไม่เคลีย ...เราอ่านทัวร์แบบผ่านๆ เพราะชื่อสถานที่เที่ยวจำค่อนข้างยาก ไม่ได้กุกเกิลดูเลยว่าเป็นยังไง ไว้ใจทัวร์สุดๆ รู้แค่ว่าเราต้องอย่าลืมใบขับขี่สากล อย่าลืมพาสปอร์ต อย่าลืมกล้อง อย่าลืมพกบัตรเครดิตไปด้วย...จัดกระเป๋าแบบงงๆ รู้แค่ว่าหนาว + ลมแรง เตรียมเสื้อหนาว+กันฝน ชุดไม่สวยไม่เป็นไร อุ่นไว้ก่อน
ณ วันเดินทาง แก๊งลูกหมี 4 คน พร้อมกันสนามบิน...เราจะขึ้นเครื่อง Fin Air ไปลงโคเปเฮเก้น ฟินแลนด์ และจะต้องต่อเครื่องไป ไอซ์แลนด์ ...แล้วเครื่องที่ต่อเนี่ยมีเวลารอ 1 ชั่วโมง ซึ่งเครื่องของเราดีเลย์จ้าาาาา ดีเลย์กันตั้งแต่กรุงเทพกันเลย ก่อนเครื่องลงก็มีประกาศจากแอร์เป็นภาษาอังกฤษว่า (เครื่องนี้ไม่มีแอร์ไทยเลย) “เนื่องจากเครื่องเราดีเลย์จากกรุงเทพ ผู้โดยสารที่ต้องไปต่อเครื่องไปยังไอซ์แลนด์ อาจจะไปต่อเครื่องทัน if you hurry...ถ้าคุณรีบ…” ลูกหมีมองหน้ากัน 4 คน และที่นั่งเราอยู่หลังสุด กว่าจะออกจะไปทันม๊ายยยย ตื่นเต้นสุดๆ พอออกจากเครื่องได้วิ่งจ้าาาาาา แล้วเจ้าพระคุณเอ้ย สนามบินใหญ่มากกกกก วิ่งไกลมาก ไม่พอ ต้องผ่าน ตม. ตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง เพราะไปไอซ์แลนด์จะไม่มี ตม.แล้ว แถวยาวใช้ได้ มีทัวร์ไทยมาต่อด้วย แถมโดนคนไทยด้วยกันแซงอีก เจ็บใจชะมัด ...เรา 4 คน เริ่มใจเย็นหลังจากโดนแซง แล้วก็ตกลงกันว่าไม่รีบก็ได้ตกก็ตก ตม. ก็ทำงานดีมาก ตรวจนานมากกกกก กว่าจะผ่าน ตม. ได้ ใช้เวลา 45 นาที น้องผ่าน ตม ได้คนแรกวิ่งไปที่เกตก่อนเลย เผื่อว่าจะทัน เพราะเห็นป้ายยังไม่ออก แต่ last call แล้วนะ พอไปถึงเกต แอร์ยิ้มๆ บอกว่าไม่เป็นไรยังรออยู่ เพราะมีกรุปทัวร์ไทยเป็นคนส่วนใหญ่บนเครื่องเลยต้องรอ (มารู้ทีหลังว่า ตอนเพื่อนไปก็รอที่ ตม. นาน และเครื่องก็รอเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้ามาแล้วเจอเหตุการณ์อย่างนี้ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ผ่าน ตม ได้ก็ลองวิ่งก่อน ถ้าเครื่องไม่รอ ทางสายการบินจะหาเครื่องอื่นให้เราไปแทน แค่เราไปถึงช้าหน่อยเอง)
จากฟินแลนด์ ไปไอซ์แลนด์ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ลงเครื่อง จะมีคนมารอรับจากบริษัททัวร์ มารับเราไปโรงแรมที่พักวันแรก ซึ่งเป็นที่พักใน Reykjavik เมืองหลวงของไอซ์แลนด์นั่นเอง ..ตอนขึ้นรถคนขับรถยื่นกระเป๋าผ้าจากทัวร์ให้ ข้างในจะมี โทรศัพท์ที่ไว้โทรตอนฉุกเฉิน แบบโนเกียรุ่นเก่า แทบจะไม่ต้องชาร์ตแบตเลย มีแผนการเที่ยวแบบละเอียด ใบจองโรงแรม ใบจอง activities รายละเอียดร้านอาหารที่แนะนำต่างๆระหว่างการเดินทาง เรามาถึงที่พักตอนเช้าแต่ก็ทางโรงแรมก็ให้เช็คอินได้เลย ระหว่างรอเวลาก็ออกไปเดินเล่นในเมือง หาอะไรกินจากในกุกเกิลว่าอะไรดัง รู้เพียงว่าที่นี่ลอปสเตอร์ดัง แล้วก็เนื้อแกะ มื้อแรกเราเลยจัด lobster ที่ Lobster House แล้วกลับมาที่พักตอนห้าโมงซึ่งเป็นเวลานัดที่จะมีคนมาพาไปรับรถที่จะใช้เดินทางในทริปนี้ ซึ่งทางทัวร์จองไว้ให้แล้วและจ่ายเงินแล้ว รถที่เราจองเป็นแบบ SUV ราคากลางๆ ประกันรถด้วยบัตรเครดิต เราเลือกประกันแบบสูงสุด ซึ่งจ่ายเพิ่มไปไม่เท่าไร ที่เราจ่ายไปก่อนหน้านี้จะ cover แค่ส่วนหนึ่ง แต่เพื่อความปลอดภัย จัดประกันแบบสูงสุดไปเลยดีกว่า เพราะค่าครองชีพที่ ไอซ์แลนด์สูงมาก รถเป็นอะไรมาถ้าต้องจ่ายไม่คุ้ม (เพื่อนเตือนมาว่า ที่นี่ลมแรง บางคันเปิดรถไม่ระวัง ลมตีประตูไปโดนรถอีกคัน หรือถึงขั้นประตูหักก็มี และที่อ่านในพันทิพกระทู้เก่า จะมีทาง off road บางทีหินดีดโดนรถอีก )....พอเสร็จกลับที่พักนอนเลยจ้าาา Time zone ต่างกันมาก มีอาการ jetlag สุดๆ
วันต่อๆไปเราก็ไปตามแพลนที่ทัวร์เสกสร้างมาให้เรา - ใครอยากลองดูแพลนก็หลังไมค์ มาขอกันได้นะจ๊ะ เราจะขอข้ามสถานที่เที่ยวไปเลย การที่ไม่รู้อะไรเลยทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและสนุกขึ้น อันนี้ไม่รู้คิดไปเองรึป่าวนะแต่เราไม่รู้อะไรเลยจริงๆ พอไปเห็นก็รู้สึกเอออดีอ่ะะะะแก
มีต่อข้างล่างนะจ๊ะ
ไอซ์แลนด์ ไม่พกเงินสดไปก็เที่ยวได้!
เริ่มต้นเลย ที่ได้ไปทริปนี้ เพราะแม่อยากไป เราก็จัดการจองตั๋วเรียบร้อยก่อน 4 เดือน แต่อย่างอื่นยังไม่ได้จอง แต่แล้วอยู่ๆแม่ก็อยากไม่อยากไปซะงั้น อยากไปเที่ยวกับเพื่อน ลูกๆเลยโดนเท เซกันไปเลยทีเดียว และมารู้ว่าตั๋วเครื่องบินของลูกทั้ง 4 ทั้งหมด แคนเซิ่นและเลื่อนไม่ได้เพราะเป็นตั๋วถูก แต่ของแม่จองต่างหากเพราะนางอยากจะนั่งการบินไทยเท่านั้น เลยจองแยกกันไป … เอาล่ะ รู้ว่าจะต้องไปแน่ๆตอนต้นเดือนมีนาคม และต้องจองทุกอย่าง พร้อมกับทำวีซ่า! ซึ่งเราและน้องกังวลเรื่องวีซ่ามากเพราะอ่านจากในพันทิพทุกคนกว่าจะได้วีซ่านานๆทั้งนั้น แต่ที่อ่านมีแต่กระทู้เก่า ทำให้เราไม่ทราบสถานะการณ์ปัจจุบันเลยว่ามันทำช้าเร็วแค่ไหน เรียกว่าเสี่ยงดวงสุดๆ
ขั้นตอนแรก ให้น้องหาที่พัก+ทำแพลน เพื่อที่จะไปทำวีซ่า (ถ้าไม่มีที่พัก ไม่มีแพลนอาจจะทำวีซ่าไม่ผ่านนะคะ อันนี้ต้องเตรียมดีๆ เพราะวีซ่าให้เท่าวันเวลาที่เราไปเป๊ะๆๆ) แพลนหลักๆของเราที่คิดไว้คือ 1.อยากจะขับรถเอง 2. นอนราคากลางๆ 3. เดินบนน้ำแข็งกราเซีย น้องใช้เวลาดูราวๆ 5 วันจึงเอาที่เจอมาให้เลือก มีอยู่หลายบริษัทอยู่ที่ทำ เราเลือกอันที่ตอบเร็วที่สุดค่ะ...จะเป็นแพคเกจ local tour แบบว่าทางทัวร์จัดการให้ทุกอย่าง จองรถ จองที่พัก มีแผนทัวร์ให้ว่าจะไปไหน มีให้เลือกกิจกรรมว่าจะทำอะไรบ้าง เรียกว่าเราจ่ายทุกอย่างก่อนไป ไปถึงที่นู่นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย สบายฝุดๆ แล้วราคาก็เป็นราคาที่เรารับได้ มาถึงตอนนี้ต้องรีบตัดสินใจด้วย เพราะกลัวจะทำวีซ่าไม่ทัน ...วิธีการจองทัวร์ สามารถกดได้จากทางเวปไซต์ทัวร์เลย ซึ่งบนเวปไซต์เนี่ยจะมีให้เลือกว่า เราจะใช้บัดเจตยังไง เช่น การจองรถต้องการรถแบบไหน รถเล็ก รถใหญ่ นั่งกี่คน , ที่พักอยากได้ราคาแบบไหนไม่แพงมาก กลางๆ หรือดีหน่อย, อยากจะทำกิจกรรมอะไรบ้าง เช่น เดินบนกราเซียไม๊ ดูปลาวาฬไม๊ อันนี้ก็ให้เลือกแล้วแต่สิ่งที่อยากทำได้เลย ทางทัวร์เค้าจะจัดการจองให้ทุกอย่าง พอเราโอเคกับแผนการของเราแล้ว ก็จ่ายเงินโดยจ่ายจากทางบัตรเครดิตได้ พอจ่ายเสร็จทางทัวร์จะส่งเอกสารรับรองการเดินทางของเรา 1 ใบ กับ แผนการทัวร์ว่าเรานอนที่ไหนบ้างไปเที่ยวไหนบ้าง เพื่อที่จะเราจะได้เอาไปวีซ่าได้สบายๆ ...การจัดการนี้เราใช้ประมาณ 10 วัน และเตรียมเอกสารทำวีซ่า 3-4 วัน (ที่ไอซ์แลนด์มีชั่วโมงการทำงานน้อยมากเรียกว่าหมดเวลาปุ๊ปไม่ตอบ แถมเราไปถามตอนติดวันหยุดอีก รอกันไปค่ะ ถ้าไม่ติดเรื่อง time zone หรือวันหยุด ถือว่าตอบเร็วค่ะ)
ระหว่างที่รอคอนเฟิร์มทัวร์ เราก็ได้จองคิวที่สถานทูตเพื่อขอยื่นวีซ่า อันนี้ควรจองแต่เนิ่นๆนะคะ เรากะเวลาเอาว่าจะพร้อมเมื่อไร ซึ่งเราไปประมาณกลางเดือนมีนาคมค่ะ รายละเอียดการทำวีซ่าไปดูได้ที่สถานทูตเวปเดนมาร์คเลยค่ะ ขั้นตอนนี้ขอข้ามไปเดี๋ยวจะยาว ….ขอบอกแค่ว่าใช้เวลาทำแปปเดียว ได้วีซ่าภายใน 2 อาทิตย์เป๊ะค่ะ แล้วก็เน้นเอกสารที่ทางทัวร์ให้มา พร้อมกับทำเอกสาร 1 ใบว่าวันที่นี้เราจะไปนอนที่ไหนบ้าง พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของที่ที่เราพัก ...คืออันนี้เราไม่ได้ทำไป เค้าให้เราไปเขียนตอนทำวีซ่าเลยค่ะ...แลวก็เน้นว่า เตรียมรูปไปให้พร้อม ที่ทำมีที่ถ่ายรูปแต่แพงค่ะ แล้วก็อย่าลืมเตรียมเงินสดค่าวีซ่าไปค่ะ
ก่อนเดินทาง 2 วัน …..ไม่พร้อมเที่ยวสุดๆ งานยังไม่เคลีย ...เราอ่านทัวร์แบบผ่านๆ เพราะชื่อสถานที่เที่ยวจำค่อนข้างยาก ไม่ได้กุกเกิลดูเลยว่าเป็นยังไง ไว้ใจทัวร์สุดๆ รู้แค่ว่าเราต้องอย่าลืมใบขับขี่สากล อย่าลืมพาสปอร์ต อย่าลืมกล้อง อย่าลืมพกบัตรเครดิตไปด้วย...จัดกระเป๋าแบบงงๆ รู้แค่ว่าหนาว + ลมแรง เตรียมเสื้อหนาว+กันฝน ชุดไม่สวยไม่เป็นไร อุ่นไว้ก่อน
ณ วันเดินทาง แก๊งลูกหมี 4 คน พร้อมกันสนามบิน...เราจะขึ้นเครื่อง Fin Air ไปลงโคเปเฮเก้น ฟินแลนด์ และจะต้องต่อเครื่องไป ไอซ์แลนด์ ...แล้วเครื่องที่ต่อเนี่ยมีเวลารอ 1 ชั่วโมง ซึ่งเครื่องของเราดีเลย์จ้าาาาา ดีเลย์กันตั้งแต่กรุงเทพกันเลย ก่อนเครื่องลงก็มีประกาศจากแอร์เป็นภาษาอังกฤษว่า (เครื่องนี้ไม่มีแอร์ไทยเลย) “เนื่องจากเครื่องเราดีเลย์จากกรุงเทพ ผู้โดยสารที่ต้องไปต่อเครื่องไปยังไอซ์แลนด์ อาจจะไปต่อเครื่องทัน if you hurry...ถ้าคุณรีบ…” ลูกหมีมองหน้ากัน 4 คน และที่นั่งเราอยู่หลังสุด กว่าจะออกจะไปทันม๊ายยยย ตื่นเต้นสุดๆ พอออกจากเครื่องได้วิ่งจ้าาาาาา แล้วเจ้าพระคุณเอ้ย สนามบินใหญ่มากกกกก วิ่งไกลมาก ไม่พอ ต้องผ่าน ตม. ตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง เพราะไปไอซ์แลนด์จะไม่มี ตม.แล้ว แถวยาวใช้ได้ มีทัวร์ไทยมาต่อด้วย แถมโดนคนไทยด้วยกันแซงอีก เจ็บใจชะมัด ...เรา 4 คน เริ่มใจเย็นหลังจากโดนแซง แล้วก็ตกลงกันว่าไม่รีบก็ได้ตกก็ตก ตม. ก็ทำงานดีมาก ตรวจนานมากกกกก กว่าจะผ่าน ตม. ได้ ใช้เวลา 45 นาที น้องผ่าน ตม ได้คนแรกวิ่งไปที่เกตก่อนเลย เผื่อว่าจะทัน เพราะเห็นป้ายยังไม่ออก แต่ last call แล้วนะ พอไปถึงเกต แอร์ยิ้มๆ บอกว่าไม่เป็นไรยังรออยู่ เพราะมีกรุปทัวร์ไทยเป็นคนส่วนใหญ่บนเครื่องเลยต้องรอ (มารู้ทีหลังว่า ตอนเพื่อนไปก็รอที่ ตม. นาน และเครื่องก็รอเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้ามาแล้วเจอเหตุการณ์อย่างนี้ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ผ่าน ตม ได้ก็ลองวิ่งก่อน ถ้าเครื่องไม่รอ ทางสายการบินจะหาเครื่องอื่นให้เราไปแทน แค่เราไปถึงช้าหน่อยเอง)
จากฟินแลนด์ ไปไอซ์แลนด์ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ลงเครื่อง จะมีคนมารอรับจากบริษัททัวร์ มารับเราไปโรงแรมที่พักวันแรก ซึ่งเป็นที่พักใน Reykjavik เมืองหลวงของไอซ์แลนด์นั่นเอง ..ตอนขึ้นรถคนขับรถยื่นกระเป๋าผ้าจากทัวร์ให้ ข้างในจะมี โทรศัพท์ที่ไว้โทรตอนฉุกเฉิน แบบโนเกียรุ่นเก่า แทบจะไม่ต้องชาร์ตแบตเลย มีแผนการเที่ยวแบบละเอียด ใบจองโรงแรม ใบจอง activities รายละเอียดร้านอาหารที่แนะนำต่างๆระหว่างการเดินทาง เรามาถึงที่พักตอนเช้าแต่ก็ทางโรงแรมก็ให้เช็คอินได้เลย ระหว่างรอเวลาก็ออกไปเดินเล่นในเมือง หาอะไรกินจากในกุกเกิลว่าอะไรดัง รู้เพียงว่าที่นี่ลอปสเตอร์ดัง แล้วก็เนื้อแกะ มื้อแรกเราเลยจัด lobster ที่ Lobster House แล้วกลับมาที่พักตอนห้าโมงซึ่งเป็นเวลานัดที่จะมีคนมาพาไปรับรถที่จะใช้เดินทางในทริปนี้ ซึ่งทางทัวร์จองไว้ให้แล้วและจ่ายเงินแล้ว รถที่เราจองเป็นแบบ SUV ราคากลางๆ ประกันรถด้วยบัตรเครดิต เราเลือกประกันแบบสูงสุด ซึ่งจ่ายเพิ่มไปไม่เท่าไร ที่เราจ่ายไปก่อนหน้านี้จะ cover แค่ส่วนหนึ่ง แต่เพื่อความปลอดภัย จัดประกันแบบสูงสุดไปเลยดีกว่า เพราะค่าครองชีพที่ ไอซ์แลนด์สูงมาก รถเป็นอะไรมาถ้าต้องจ่ายไม่คุ้ม (เพื่อนเตือนมาว่า ที่นี่ลมแรง บางคันเปิดรถไม่ระวัง ลมตีประตูไปโดนรถอีกคัน หรือถึงขั้นประตูหักก็มี และที่อ่านในพันทิพกระทู้เก่า จะมีทาง off road บางทีหินดีดโดนรถอีก )....พอเสร็จกลับที่พักนอนเลยจ้าาา Time zone ต่างกันมาก มีอาการ jetlag สุดๆ
วันต่อๆไปเราก็ไปตามแพลนที่ทัวร์เสกสร้างมาให้เรา - ใครอยากลองดูแพลนก็หลังไมค์ มาขอกันได้นะจ๊ะ เราจะขอข้ามสถานที่เที่ยวไปเลย การที่ไม่รู้อะไรเลยทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและสนุกขึ้น อันนี้ไม่รู้คิดไปเองรึป่าวนะแต่เราไม่รู้อะไรเลยจริงๆ พอไปเห็นก็รู้สึกเอออดีอ่ะะะะแก
มีต่อข้างล่างนะจ๊ะ