เรื่องสั้น "พ่อครับ...นี้มันอะไร"



เรื่อง                        พ่อครับ...นี่มันอะไร

เรื่องโดย                 นัฐพันธ์
.....................................................................................................................................................................................

                ขจร หนุ่มวัยสามสิบเอ็ด ผ่านเรื่องราวในชีวิตมาโชกโชนและผ่านการมีครอบครัวที่หย่าร้างกันเมื่อลูกชายเพิ่งเกิดได้เพียงสามเดือน ดวงใจ

เมียของเขา หนีตามผู้ชายข้างบ้านไปทั้งๆที่ลูกตัวน้อยยังไม่ทันหย่านมแม่ทำให้เขาต้องเลี้ยงดูเด็กน้อยเพียงคนเดียว แม้ชีวิตของเขาจะผ่านอะไรต่างๆมามากมายทั้งอดมื้อกินมื้อการดูถูกเหยียดหยามจากสังคมที่เห็นเขาเป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น แต่ขจรก็ไม่ดูถูกความเป็นคนที่เท่าเทียมกันของตนเองแม้แต่น้อย

ปีนี้ลูกชายอายุหกขวบปีหน้าต้องเข้าเรียนระดับชั้นประถมศึกษา จำเป็นต้องใช้เงินในการเลี้ยงดู
เขานอนก่ายหน้าผากมาหลายคืนเรื่องที่จะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าเทอมแค่ระดับอนุบาลโรงเรียน อบต ที่ผ่านมาสามปี เขาก็แทบเอาตัวไม่รอด
นี่จะต้องเสียค่าเทอมอีกจำนวนหลายพันบาทจนเกือบหมื่นบาทไหนจะค่าอื่นจิปะทะอีกมากมาย แค่คิดเขาก็ปวดหัวแล้วค่ำวันนั้นขจรแทบไม่ได้เป็นทำอะไร ครุ่นคิดแต่เรื่องจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าเทอมลูก

 เฮียอ๋า
เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถที่ขจรทำงานอยู่ ทุกเช้า เฮียอ๋าจะหยิบเงินยี่สิบบาทส่งให้เด็กชายตัวน้อยลูกของขจรเพื่อให้ไปโรงเรียน แม้ขจรจะห้ามปรามไม่ให้
เฮียอ๋าส่งเงินให้ก็ตามแต่เฮียอ๋าแกเป็นคนดี สวนทางกับหน้าตาที่ดุ โหด อย่างกับยักษ์ เด็กน้อยวัยหกขวบมักเรียกเฮียอ๋าว่า ป๊า อย่างที่เฮียอ๋าให้เรียก

ขจรเป็นคนตั้งใจทำงานเขาอยากเก็บเงินส่งให้ลูกเรียนสูงๆแต่ก็กลัวว่าจะไม่มีปัญญาที่จะส่งให้ถึงอย่างที่ใฝ่ฝันเอาไว้ ขจรเป็นคนดี
แต่วาสนามันอาภัพ ยายที่เลี้ยงดูขจรมาเล่าให้เขาฟังว่า แม่ของขจรหนีตามผู้ชายไปส่วนพ่อ เมาหย่ำเปไม่เอาไหน วันๆไม่ตีไก่ ก็ตียิ้ม  ไม่กินข้าว ก็กินเหล้าชีวิตจึงจมปรักอยู่แค่นั้น จวบจวนเขาย่างสู่วัยหนุ่ม เดินทางตามเพื่อนจนเสียคน  นั้นคือประวัติของเขาเพียงคร่าวๆ

ค่ำคืนนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาเก็บเรื่องโน้นเรื่องนี้มาคิด จนนอนไม่หลับ มองเห็นร่างลูกชายที่นอนอยู่ข้างๆน้ำตาก็ไหลออกมาด้วยความห่วง หากไม่ติดว่ามีภาระ เขาก็คงไปตามทางของเขาแล้วขจรคิดถึงคำพูดของไอ้ป๋องเพื่อนสนิทที่เจอกันในคุก ด้วยความที่เขาร้อนเงินความเลวทรามภายในจิตใจ ปีศาจร้ายก็กำเนิดขึ้น เมื่อความคิดชั่วๆของเขาคิดถึงเรื่องหาเงินขึ้นมาได้ใช่ เขาต้องหาเงินมาให้ลูกเรียน เขาเป็นพ่อ ย่อมทำได้ทุกอย่าง และเขาก้โทรหาป๋อง

และเขากับป๋องเพื่อนสนิทนัดแนะกันและทำในสิ่งที่เรียกว่าผิดกฏหมาย ป๋องในสภาพเหมือนคนเมาตัวดำหุ่นเก้งก้าง
หน้าตารหมดสง่าราศี ใครก็ๆต้องคิดว่าเขาเป็นไอ้ขี้ยา ป๋องส่งสิ่งของบางอย่างให้เขานั้นคือยา แม้เขาไม่อยากทำ แต่ด้วยความจำเป็นทำให้เขาต้องทำ 
เด็กน้อยที่มากับพ่อด้วยไม่รู้หรอกว่าผู้ใหญ่ทำอะไรกันรู้เพียงแต่ว่านั้นคือเพื่อนพ่อ

เมื่อขจรรับห่อยานั้นมาแล้วแม้มือไม้จะสั่นไปบ้างแต่เขาก็พยายามเก็บอาการทุกอย่าง เขารู้ตัวดีว่าการทำแบบนี้มันเสี่ยงที่จะโดนติดตามแต่ทำอย่างไรได้เมื่อชีวิตขับเคลื่อนด้วยเงิน ขจรขับรถเครื่องกลับบ้านด้วยใบหน้าที่ปกติที่สุดเด็กชายลูกขจร ขอออกไปวิ่งทันที แม้จะตะโกนไล่หลังให้กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ตามแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล

ขจรก้าวเข้ามาในห้องพักขนาดเล็กเขานั่งลง พลางคิดถึงเรื่องต่างๆว่าจะทำอย่างไรต่อไป ไม่ทันที่จะนั่งหายใจหายคอ
เสียงกุกกัก ดังมาแต่ไกลเหมือนคนวิ่ง ประตูถูกประชากเปิดอย่างแรงเขาจะหันไปต่อว่าลูกชาย แต่ภาพที่เห็นคือ กลุ่มชายฉกรรจ์ชุดสีกากีเต็มยศหลายคนกรูกันเข้ามาขจรใจสั่น เมื่อเห็นว่าเป็นตำรวจ

“หยุดนะ นี่คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เราได้รับรายงานว่า ที่นี่ซุกซ่อนยาเสพติดไว้เพื่อจำหน่าย เราขอค้นเพื่อพิสูจน์ความจริง”ชายวัยห้าสิบน่าจะเป็นหัวหน้า หันสั่งผู้น้อยที่ค่อยๆเข้ามาค้นในห้องแคบๆ ขจรใจสั่นเกือบเยี่ยวราด

“บอกมาว่ายาอยู่ไหน”

นายตำรวจค้นทั่วร่างของเขา แต่ไม่พบ สายตาของขจรมองไปที่กระเป๋าย่ามของเขาตำรวจเห็นรีบหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะตรวจค้น และพบห่อยามัดหนึ่ง
ใจของเขาหล่นไปที่ตาตุ่ม ตำรวจเอามันออกต่อหน้าต่อตาเขา ขจรพยายามร้องห้ามว่าอย่าเปิด อย่าเปิด อย่า ตำรวจไม่ฟังคำทัดทานของเขาแต่ใด
เอาคัทเตอร์ที่พกติดตัวมากรีดลงที่ห่อยา ก่อนจะเทมันออกมายาเม็ดสีส้มเกลื่อนกระจาย ขจรโดนตำรวจจับใส่กุญแจมือ ยาเม็ดเหล่านั้นกองเต็มพื้น
เขาคิดถึงภาพในคุกเมื่อครั้งเคยโดนคดีเสพยาเมื่อหลายปีก่อน

“รู้มั้ยว่ายาพวกนี้มันผิดกฎหมาย

ทำลายชีวิตคนและทำลายชาติบ้านเมือง” นายตำรวจเทศนาเขาขจรนั่งห่อไหลอย่างสิ้นหวัง
ก่อนจะถูกลากตัวออกมา ไทยมุงต่างเข้ามาดูส่งเสียงวิพากวิจารณ์กันต่างๆนาๆ

“ผู้กองครับ”

เสียงนายตำรวจชั้นผู้น้อยตะโกนเรียก นายตำรวจหนุ่มใหญ่หันมาหน้าคมเข้มสมชายชาตรี

“มีอะไรหมู่”

นายตำรวจชั้นผู้น้อยเข้ามากระซิบกระซาบเบาๆอะไรบางอย่าง จับใจความได้ว่า

“นายครับ มันไม่ใช่ยาบ้าครับ

แต่มันเป็นวิตามินซี” นายตำรวจหนุ่มใหญ่หน้าซีดเผือก เดินขึ้นรถแล้วขับออกไป โดยไม่หันกลบมามอง
ขจรถูกปล่อยตัวชาวบ้านยังคงส่งเสียวิพากวิจารณ์กันต่างๆนาๆ เรื่องที่ขจรโดนตรวจค้นและเกือบโดนจับ
พวกตำรวจกลับกันไปหมดแล้วขจรโล่งอก เสียงชาวบ้านวิจารณ์การทำงานของตำรวจที่จับผิดคน ต่างเห็นอกเห็นใจขจรกันเป็นแถว
จนมืดค่ำคนค่อยๆซาลงไป

เด็กน้อยวิ่งตาตื่นเข้ามาภายหลังไปวิ่งเล่น วันนี้ขจรไม่ได้ดุเด็กน้อยแต่อย่างใดที่ไปเล่นไกลจนกลับมามืดค่ำเขาซะอีกที่อมยิ้มเมื่อเห็นเด็กน้อยวิ่งกลับเข้ามาพร้อม...

“พ่อครับ นี้ห่ออะไรทำไมพ่อต้องเอามาแลกกับวิตามินซีของผมด้วย”

ขจรไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ดึงมันมาเก็บไว้ พร้อมกับพรุ่งนี้ต้องเอามันไปส่งให้กับคนซื้อ

จบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่