ซีอีโอ Huawei โดดป้อง “จีนไม่ควรลงโทษ Apple”
เผยแพร่: 27 พ.ค. 2562 19:25
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เหริน
เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งหัวเว่ย (Huawei)
โชว์ใจพระเอกสุดขั้วปกป้องแอปเปิล (Apple) ระบุไม่เห็นด้วยหากทางการจีนจะตอบโต้สงครามการค้าสหรัฐฯด้วยการออกมาตรการคว่ำบาตร
Apple ยก Apple เป็นครูทำให้ Huawei ก้าวหน้า ซึ่งไม่คิดจะเป็นปรปักษ์ด้วยในฐานะนักเรียนอยู่แล้ว
จากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
(Bloomberg) เกี่ยวกับการเรียกร้องในประเทศจีนให้คว่ำบาตร Apple ผู้บริหาร
Huawei วัย 74 ปีอย่าง Ren
กล่าวว่าเขาจะไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจีนออกมาตรการตอบโต้ผ่านคู่แข่งสัญชาติอเมริกัน
แม้ในขณะนี้ที่ความตึงเครียดระหว่าง Huawei กับสหรัฐฯกำลังคุกรุ่นยิ่งขึ้น
“อย่างแรกคือเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น
อย่างที่ 2 คือหากเกิดขึ้นผมจะเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นมาประท้วง” Ren
ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg “Apple เป็นบริษัทชั้นนำของโลก หากไม่มี Apple
ก็จะไม่มีอินเทอร์เน็ตบนมือถือ Apple ถือเป็นครูของผม Apple
ก้าวหน้ามากกว่าเรา ในฐานะนักเรียน ทำไมผมควรจะคัดค้านครูของตัวเอง”
ความคิดเห็นหัวใจพระเอกของ
Ren Zhengfei เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Huawei กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ
เพราะหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯได้จัดให้หัวเว่ยอยู่ในบัญชีดำ
ไม่อนุญาตให้บริษัทอเมริกันทำการค้าด้วยหากไม่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยหลังจากที่กูเกิล (Google) ประกาศจำกัดการใช้บริการ Google บน Huawei และเออาร์เอ็ม (ARM Holdings) ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์จนทำให้
Huawei อาจมีปัญหาในการผลิตชิป ล่าสุด บริษัทอย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft)
ก็ประกาศดึงสินค้ากลุ่มแล็ปท็อปของ Huawei ออกจากร้านค้าออนไลน์ ตามหลังการชะลอการสั่งซื้อสินค้า Huawei เพื่อจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศ
สิ่งที่ชัดเจนในวันนี้คือมาตรการของสหรัฐอเมริกากำลังคุกคามฐานะของ
Huawei ที่รุ่งเรืองบนเก้าอี้แบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 2
และผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก
มาตรการทั้งหมดมีผลต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนเพราะ Huawei
ถูกตัดแรงผลักดันเชิงบวก กลายเป็นผลดีต่อผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างซ้มซุง
(Samsung)
เนื่องจากเป็นไปได้ว่าผู้บริโภคทั่วโลกจะมองหาทางเลือกอื่นทดแทนสมาร์ทโฟน Huawei
มวยคนละชั้น
หากเทียบศักยภาพ
Huawei และ Apple ทั้งคู่มีความมั่งคั่งที่แตกต่างกันมากในตลาดจีน โดย
Huawei ส่งมอบโทรศัพท์เกือบ 30
ล้านเครื่องในจีนช่วงไตรมาสสิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 41%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่
Apple ต้องเผชิญกับพิษยอดขายไอโฟน (iPhone) ในประเทศจีนลดลง 30%
บนช่วงเวลาเดียวกัน แต่จีนก็ยังคงเป็นตลาดสำคัญสำหรับ Apple
เนื่องจากเป็นพื้นที่รวมไต้หวันและฮ่องกงด้วย คิดเป็นสัดส่วนรวมเกือบ 18%
ของยอดขายสุทธิ ในไตรมาสสิ้นสุดมีนาคมที่ผ่านมา
ด้านทิม
คุก (Tim Cook) CEO ของ Apple
เคยกล่าวในระหว่างการประกาศผลประกอบการเมื่อเมษายนที่ผ่านมา ว่ายอดขาย
iPhone ในประเทศจีนจะได้รับแรงหนุนจาก “การเจรจาทางการค้าที่ดีขึ้น"
ระหว่างรัฐบาลจีนและอเมริกัน รวมถึง
"การตอบสนองของลูกค้าที่ดีมากต่อการดำเนินการด้านราคา”
สำหรับกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
“โดนัลด์ ทรัมป์” ออกมาระบุว่า Huawei เป็นบริษัทที่ ”อันตรายมาก"
แต่แล้วก็กลับลำบอกว่า Huawei
ได้เข้าร่วมทำข้อตกลงการค้ากับจีนในวงกว้างขึ้น ทั้งหมดนี้ Ren บอกกับ
Bloomberg ว่าการใช้ Huawei เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรองนั้น "เป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่" ก่อนจะทิ้งท้ายว่า ”เราไปเกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯอย่างไร?”
ซีอีโอ Huawei โดดป้อง “จีนไม่ควรลงโทษ Apple”
เผยแพร่: 27 พ.ค. 2562 19:25
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งหัวเว่ย (Huawei)
โชว์ใจพระเอกสุดขั้วปกป้องแอปเปิล (Apple) ระบุไม่เห็นด้วยหากทางการจีนจะตอบโต้สงครามการค้าสหรัฐฯด้วยการออกมาตรการคว่ำบาตร
Apple ยก Apple เป็นครูทำให้ Huawei ก้าวหน้า ซึ่งไม่คิดจะเป็นปรปักษ์ด้วยในฐานะนักเรียนอยู่แล้ว
จากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
(Bloomberg) เกี่ยวกับการเรียกร้องในประเทศจีนให้คว่ำบาตร Apple ผู้บริหาร
Huawei วัย 74 ปีอย่าง Ren
กล่าวว่าเขาจะไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจีนออกมาตรการตอบโต้ผ่านคู่แข่งสัญชาติอเมริกัน
แม้ในขณะนี้ที่ความตึงเครียดระหว่าง Huawei กับสหรัฐฯกำลังคุกรุ่นยิ่งขึ้น
“อย่างแรกคือเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น
อย่างที่ 2 คือหากเกิดขึ้นผมจะเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นมาประท้วง” Ren
ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg “Apple เป็นบริษัทชั้นนำของโลก หากไม่มี Apple
ก็จะไม่มีอินเทอร์เน็ตบนมือถือ Apple ถือเป็นครูของผม Apple
ก้าวหน้ามากกว่าเรา ในฐานะนักเรียน ทำไมผมควรจะคัดค้านครูของตัวเอง”
ความคิดเห็นหัวใจพระเอกของ
Ren Zhengfei เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Huawei กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ
เพราะหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯได้จัดให้หัวเว่ยอยู่ในบัญชีดำ
ไม่อนุญาตให้บริษัทอเมริกันทำการค้าด้วยหากไม่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยหลังจากที่กูเกิล (Google) ประกาศจำกัดการใช้บริการ Google บน Huawei และเออาร์เอ็ม (ARM Holdings) ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์จนทำให้
Huawei อาจมีปัญหาในการผลิตชิป ล่าสุด บริษัทอย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft)
ก็ประกาศดึงสินค้ากลุ่มแล็ปท็อปของ Huawei ออกจากร้านค้าออนไลน์ ตามหลังการชะลอการสั่งซื้อสินค้า Huawei เพื่อจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศ
สิ่งที่ชัดเจนในวันนี้คือมาตรการของสหรัฐอเมริกากำลังคุกคามฐานะของ
Huawei ที่รุ่งเรืองบนเก้าอี้แบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 2
และผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก
มาตรการทั้งหมดมีผลต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนเพราะ Huawei
ถูกตัดแรงผลักดันเชิงบวก กลายเป็นผลดีต่อผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างซ้มซุง
(Samsung)
เนื่องจากเป็นไปได้ว่าผู้บริโภคทั่วโลกจะมองหาทางเลือกอื่นทดแทนสมาร์ทโฟน Huawei
มวยคนละชั้น
หากเทียบศักยภาพ
Huawei และ Apple ทั้งคู่มีความมั่งคั่งที่แตกต่างกันมากในตลาดจีน โดย
Huawei ส่งมอบโทรศัพท์เกือบ 30
ล้านเครื่องในจีนช่วงไตรมาสสิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 41%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่
Apple ต้องเผชิญกับพิษยอดขายไอโฟน (iPhone) ในประเทศจีนลดลง 30%
บนช่วงเวลาเดียวกัน แต่จีนก็ยังคงเป็นตลาดสำคัญสำหรับ Apple
เนื่องจากเป็นพื้นที่รวมไต้หวันและฮ่องกงด้วย คิดเป็นสัดส่วนรวมเกือบ 18%
ของยอดขายสุทธิ ในไตรมาสสิ้นสุดมีนาคมที่ผ่านมา
ด้านทิม
คุก (Tim Cook) CEO ของ Apple
เคยกล่าวในระหว่างการประกาศผลประกอบการเมื่อเมษายนที่ผ่านมา ว่ายอดขาย
iPhone ในประเทศจีนจะได้รับแรงหนุนจาก “การเจรจาทางการค้าที่ดีขึ้น"
ระหว่างรัฐบาลจีนและอเมริกัน รวมถึง
"การตอบสนองของลูกค้าที่ดีมากต่อการดำเนินการด้านราคา”
สำหรับกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
“โดนัลด์ ทรัมป์” ออกมาระบุว่า Huawei เป็นบริษัทที่ ”อันตรายมาก"
แต่แล้วก็กลับลำบอกว่า Huawei
ได้เข้าร่วมทำข้อตกลงการค้ากับจีนในวงกว้างขึ้น ทั้งหมดนี้ Ren บอกกับ
Bloomberg ว่าการใช้ Huawei เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรองนั้น "เป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่" ก่อนจะทิ้งท้ายว่า ”เราไปเกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯอย่างไร?”