เริ่มเลยนะคะ ที่นี่คือ สวนป่าดอยบ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่
เราชอบที่นี่มาก ที่พักราคาไม่แพงเลยถ้าเทียบกับบรรยากาศฟินๆขนาดนี้ เลยอยากจะมาแชร์ภาพบรรยากาศและประสบการณ์เดินทางครั้งนี้ให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ เผื่อใครกำลังมองหาที่พักบรรยกาศดีๆท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้อยู่ ครั้งนี้เรามาพักช่วงหน้าฝน ได้เจอละอองฝนทั้งตอนเช็คอินจนถึงตอนเช็คเอ้าท์ ชุ่มฉ่ำและดีต่อใจสุดๆไปเลยค่ะ
ปล. รายละเอียดค่าใช้จ่ายอยู่บรรทัดล่างสุดน้า
การเดินทาง
ทริปนี้เราเดินทางกันแค่สองคนอีกตามเคย ออกเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภาด้วยสารการบินแอร์เอเชีย บินไฟลท์เช้าตรู่ 6.25น.
ถึงสนามบินเชียงใหม่ 7.40น. จากนั้นก็ไปรับรถที่เคาน์เตอร์ Avis เป็นรถToyota Vios
จองผ่านเวปไซต์ AvisThailand.com มาล่วงหน้าแล้ว
เมื่อรับรถเสร็จก็ตระเวนหาอะไรอร่อยๆกินในตัวเมืองเชียงใหม่กันก่อน แล้วออกเดินทางจากตัวเมืองประมาณบ่ายสามโมง ขับรถมุ่งหน้าไปทางอ.ฮอด ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตรจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปทางอุทยานแห่งชาติออบหลวง ใช้เวลาเดินทางจริงประมาณ 2ชั่วโมงครึ่งค่ะ
ก่อนถึงที่พัก เราจะผ่านตัวอำเภอฮอดก่อน เลยจอดรถแวะซื้ออาหาร ขนม น้ำ ข้าวของเครื่องใช้ไม้ติดมือไปด้วย เนื่องจากที่พักไม่มีร้านอาหารหรือร้านขายของเลย ทางพนักงานก็แจ้งเราไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่าให้แวะซื้อไว้ก่อนเลยจะดีกว่า เพราะทางที่พักจะมีหมูกระทะและชุดอาหารเช้าไว้บริการแค่นั้น ขาดเหลืออะไรให้เราเตรียมไปเอง
ทางเข้าที่พักค่ะ จะเห็นป้ายอยู่ด้านหน้าถนนแบบนี้ มาถูกทางแล้วแน่นอนค่ะ ให้เลี้ยวเข้าไปได้เลย สรุปเราถึงที่พักตอนห้าโมงครึ่ง
ถัดไปจะขอรีวิวที่พักและบรรยากาศให้ดูแล้วนะคะ ลุยย
รีวิวที่พักและบรรยากาศ
เราจองบ้านวิวสนไว้ค่ะ เป็นบ้าน2ชั้น พักได้2คน ราคาหลังละ 1,000บาท/คืน หารกันตกคนละ 500 บาทเอง แต่ได้บ้านหลังเบ้อเริ่มแน่ะ
ในตัวบ้านพัก **ไม่มีทีวี ตู้เย็น** แต่มี
-แอร์บนห้องนอนชั้น2
-ผ้าเช็ดตัว
-สบู่ ยาสระผม
-น้ำเปล่า 2 ขวด
-กาต้มน้ำร้อน
-โต๊ะทานข้าวสำหรับ 2คน
-ราวตากผ้า
และไม่มีร้านขายของ แต่สามารถสั่งหมูกระทะ กับ ชุดอาหารเช้าได้ค่ะ
-ชุดหมูกระทะ ชุดละ 249บาท (ควรสั่งนะคะ เพราะเข้ากับบรรยากาศมาก)
-ชุดอาหารเช้า ชุดละ 100บาท (เราไม่ได้สั่งเพราะเตรียมอาหารเช้ามาบ้างแล้ว)
ประตูทางเข้าตัวบ้าน
ตอนที่เราเช็คอินฝนเพิ่งหยุดตกเองค่ะ บรรยากาศเลยเย็นสบาย ได้กลิ่นไอดิน กลิ่นฝน แถมกลิ่นใบสนนี่หอมฟุ้งกระจายไปทั่วเลย หอมมากๆค่ะ
เลยเดินเล่นถ่ายรูปแปปนึงเพราะฟ้ายังสว่างอยู่ ถ่ายรูปเล่นรอหมูกระทะที่สั่งกับพนักงานตอนเช็คอินไปพลางๆ

ในที่สุดหมูกระทะก็มาส่งแล้วค่ะ เย้ !
หมูกระทะแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ มันใช่อ่ะ เนอะๆ
หมูกระทะกับบรรยากาศแบบนี้ดีต่อใจสุดๆไปเลย ได้กินหมูกระทะอร่อยๆ ผิงไฟอุ่นๆจากเตาท่ามกลางอากาศหนาวๆหลังฝนตกนี่มันฟินมากกก
ช่วงที่หมูกระทะมาส่งตอนประมาณ 6โมงนิดๆ บรรยากาศเริ่มโพล้เพล้แล้ว
กินเสร็จก็อาบน้ำแล้วเอนหลังนอนเล่นให้หายเหนื่อยจากการตระเวนหาของกินและขับรถกันมาทั้งวัน
เล่นมือถือไปมาจนเผลอหลับไปประมาณ 3ทุ่ม ตกกลางดึกก็ได้ยินเสียงฝนตกหนักมากจนสะดุ้งตื่น
ในใจก็คิดว่าพรุ่งนี้ตื่นมาต้องอากาศดีแน่นอน ว่าแล้วก็รีบข่มตานอนต่อดีกว่า พอรุ่งเช้าตื่นมาก็เจอบรรยากาศตามรูปด้านล่างนี้เลยค่ะ
ภาพหมอกบริเวณข้างๆบ้านชั้นล่าง ช่วง 7โมงครึ่งค่ะ
บรรยากาศฝั่งหน้าบ้าน ระเบียงเปียกแฉะไปหมดเลย หมอกฝั่งนี้ก็ยังหนาอยู่
โซนนี้คือบ้านวิวสน มีทั้งหมด 5 หลัง เราได้พักหลังแรกเลยค่ะ และมีเพื่อนบ้านมาพักหลังข้างๆ(หลังที่เปิดไฟ)
ส่วนอีก3หลังที่เหลือยังไม่มีแขกมาพัก บรรยากาศเลยเงียบสงบถูกใจมากๆ
เช้านี้ตื่นมา 7โมงเช้า เปิดม่านที่ปลายเตียงดูหมอกเพลินๆ หมอกหนากว่าในรูปมาก(ถ่ายรูปไว้ไม่ทัน) และเดินลงมาชั้นล่างเพื่อสำรวจบริเวณรอบๆบ้านพร้อมสูดอากาศยามเช้าอันแสนสดชื่น แล้วบิดขี้เกียจซักเล็กน้อย ตอนนั้นมองไปทางไหนก็เปียกชุ่มฉ่ำจากฝนที่กระหน่ำลงมาเมื่อคืนไปหมดเลย จากนั้นเราก็ไม่รอช้า รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วหยิบกล้องออกไปสำรวจนอกบ้านและถ่ายรูปเล่นทันที
เช้านี้อากาศอยู่ที่ 22 องศา เย็นสบายและช่างแตกต่างจากอากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ซะเหลือเกิน
ต้นไม้ใบหญ้ายังเขียวชะอุ่ม มีน้ำค้างอยู่บ้าง
ต้นสนสามใบ ที่เปลือกสนยังชุ่มฉ่ำกับฝนที่กระหน่ำลงมาเมื่อคืน
เจอลูกสนหล่นอยู่ที่พื้น เห็นแล้วน่ารักดี เลยหยิบมาถ่ายรูปซะหน่อย

ตั้งใจจะถ่ายรูปดอกไม้มากฝาก แต่ติดน้องแมงมุมมาด้วย ^^
กุหลาบก็น่ารัก
ที่นี่เค้าดูแลตกแต่งสวนเป็นอย่างดี ขยันปลูกและดูแลตกแต่งดอกไม้ เลยมีดอกไม้สวยๆไว้ต้อนรับแขกที่มาพัก
ยืนแหงนหน้ามองต้นสนกับใบสนเอนไปเอนมาตามแรงลม เมื่อยคอไปนิดแต่มันเพลินมากเลยนะ
ที่เห็นในรูปคือไม่มีแดดเลย เจอแต่เมฆหนาๆ ก็ดีนะ ไม่ร้อนดี
ถัดจากบ้านโซนวิวสน ก็จะเป็นบ้านแฝด พักได้ 2 คน หลังละ 800บาท/คืน
เหมาะกับมาเป็นแก๊งค์แบบ4-6คนดีนะ เพราะบ้านสองหลังนี้อยู่ชิดกันมาก แถมมีโซนตรงกลางนอกบ้านใช้ร่วมกันได้
นี่คือบ้านเอเฟรม ได้ฟีลกระท่อมน้อยในป่าใหญ่สุดๆ พักได้หลังละ 4คน ราคาหลังละ ฿1,500ต่อคืน
หารกันแล้วคุ้มมากๆ โซนนี้อยู่ใกล้อาคารรับรองตอนเช็คอินเลย
ด้านหน้าบริเวณบ้านพักนี้จะมีจุดก่อกองไฟ ตามแบบฉบับการแคมปิ้งเป๊ะๆให้ด้วยนะคะ นั่งผิงไฟอุ่นๆ เม้ามอยกัน น่าสนุกดี
ในที่สุดก็ถึงเวลาต้องเช็คเอ้าท์ซะแล้ว ยังไม่อยากกลับเลย
ในใจก็ยังไม่พร้อมลงไปเจออากาศร้อนๆในตัวเมืองด้านล่างเลย เห้ออ
ปล. ถึงแม้ใกล้เที่ยงแล้วแต่อากาศที่นี่ยังเย็นสบายอยู่เลยนะ
ระหว่างทางกลับเจอชาวเขายืนชิลล์กันอยู่ เห็นว่าแต่งตัวน่ารักดีเลยแชะภาพมาฝากค่ะ

นี่คือสภาพเส้นทางระหว่างมาที่พักค่ะ จะเห็นเลยว่าเราต้องวิ่งผ่านภูเขาซึ่งเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง ต้องคอยระมัดระวังดินทรุดและหล่นมาใส่ไหล่ทาง แนะนำให้เดินทางมาที่พักช่วงกลางวัน และช่วงที่ฝนไม่ตกจะปลอดภัยกว่าค่ะเพราะระหว่างทางกลับเราเห็นสภาพไหล่ทางที่มีเศษดินเศษหินไหลหล่นลงมาบนถนนเนื่องจากเมื่อคืนมีฝนตกหนักแต่เจ้าหน้าที่คงเข้ามาเคลียร์กันตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว เลยเหลือไว้แค่ร่องรอย ยังไงขับขี่ปลอดภัยทุกท่าน

ออกมาจากที่พักไม่นานก็เจอสวนสนข้างทางสวยดี เหมือนอยู่เมืองนอกเลย
เห็นมีนักท่องเที่ยวแวะจอดรถถ่ายรูปตรงนี้กันเยอะดี เราเลยขอแวะถ่ายรูปซะหน่อย
[
[CR] พาร่างพังๆไปนอนกลางป่าสนในกระท่อมสุดปัง บรรยากาศก็อลัง ที่สวนป่าดอยบ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่กันดีกว่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้