อีกไม่กี่วันข้างหน้า Godzilla : king of the monsters ก็จะเข้าฉายแล้ว ซึ่งภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้นอกจากจะเป็นเรื่องราวภาคต่อของอสูรกายยักษ์ "ก็อตซิลล่า" แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องราวอีกบทหนึ่งของจักรวาลอสูรยักษ์ถล่มโลก(Monsterverse) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็จะมี Godzilla (2014) และ Kong: Skull Island (2017) โดยในปัจจุบันนี้ภาพยนตร์แนวที่มีการสร้างจักรวาลเรื่องราวเป็นของตัวเองกำลังนิยมมาก Warner Bros. Pictures, Legendary Pictures เลยไม่พลาดที่จะสร้างจักรวาลหนังเป็นของตัวเองซึ่งการหยิบยกนำเรื่องราวของ Godzillaมาปัดฝุ่นสร้างใหม่สำหรับผมมันน่าสนใจมากเพราะเรื่องราว Godzilla ฉบับดั้งเดิม(ญี่ปุ่น)ก็มีเรื่องราวที่สนุกน่าสนใจมากและมีตัวละครอสูรกายต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ก็มากมาย ทำให้ฉบับฮอลลิวูดคงจะมีเรื่องราวสนุกๆที่ทั้งต่อยอด,ดัดแปลงและแก้ไขจากฉบับดั้งเดิมไม่มากก็น้อยเพื่ออรรถรสในการรับชม เข้าเรื่องเลยล่ะกัน 5555 จากที่ว่ามาผมก็เลยนึกสนุกเล่นๆว่าถ้าหากประเทศไทยเราทำ "จักรวาลอสูรกาย" ขึ้นมาคงน่าสนุกและน่าสนใจไม่น้อยเพราะประเทศล้วนมีวัตถุดิบจากตำนานความเชื่อในเรื่องเหล่านี้มากมาย ผมเลยลองคิดสร้างสัตว์ประหลาดของไทยเราใน"จักรวาลอสูรกาย"เท่าที่พอทราบมาดังนี้
1. ปักษาวายุ (ครุฑ)
ถ้าใครเคยดูหนังเรื่องนี้ก็คงจะพอทราบว่ามีเรื่องราวเนื้อหาเป็นอย่างไร โดยหนังเรื่องนี้ได้ดัดแปลงเรื่องราวของครุฑ สัตว์ในตำนานที่ถือว่าเป็นเทพ ให้เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์โบราณที่เป็นต้นเหตุของการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ที่ฟื้นจากการจำศีลแล้วออกอาละวาดกลางกรุง แม้หนังจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในแง่รายได้หรือคำวิจารณ์(ดูตอนเด็กๆสนุกมาก ปัจจุบันก็ยังโอเคอยู่ อีกอย่างมีประโยคในหนังประโยคหนึ่งที่ผมชอบมากทำนองที่ว่า สัตว์ที่มีอำนาจซึ่งได้ใช้อำนาจเข่นฆ่าคน แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์เทพก็ไม่ต้องเป็นกลัวมัน เพราะสิ่งที่มันทำก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัชฉาน) แต่ก็ถือว่าทีมผู้สร้างใจกล้าบ้าบิ่นมากที่กล้าแหกแนวหนังไทย ณ ขณะนั้น ในการสร้าง ภาพยนตร์สัตว์ประหลาด ทั้งๆที่รู้ดีว่าเสี่ยงโดนเปรียบเทียบกับทางฮอลิวูด แต่ก็เสี่ยงที่จะทำ แม้cgจะยังไม่ดีมาก แต่โดยรวมผมก็ถือว่าค่อนข้างโอเคในหลายช็อต พอมาถึงสมัยนี้ cg ไทยเราก็พัฒนาไปมากพอสมควร การนำมารีเมกหรือรีบูตใหม่เพื่อสร้างเป็นหนังในจักรวาลอสูรกายไทยๆ คงจะดีไม่น้อยเพราะยังไงคนไทยเราก็รู้จัก ครุฑ ดีอยู่แล้ว
2. พญานาค
แน่นอน ตำนานพญานาค เป็นเรื่องราวที่คนไทยเรารู้จักและมักคุ้นกันดีอยู่แล้ว แต่หลังจากละครโทรทัศน์เรื่อง "นาคี" ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล เรื่องราวพญานาคก็กลายเป็นวาระแห่งชาติ(ฟีเวอร์มากๆ) เรียกได้ว่าคนดูนาคี ต้องไปตามรอยสถานที่ต่างๆที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคกันเป็นจำนวนมาก สถานที่อย่างคำชะโนดก็แทบตายเลยทีเดียว 555 จึงทำให้เกิดเรื่องราวสานต่อ "นาคี2" ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ ซึ่งหนังก็ทำรายได้ไปกว่า300-400กว่าล้านบาทกันเลยทีเดียว แม้ว่าคำวิจารณ์ของหนังจะแตกเป็น2ฝั่ง (แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ฝั่งที่ว่าห่วย 555 แต่สำหรับผมก็ว่าโอเค เพลินๆ) สิ่งที่สำคัญที่สุดและจะขาดไปไม่ได้คือcgของนาคี ที่ดีงามมากๆ สมจริงสุดๆ เนียนตาพอสมควร ซึ่งเป็นปัจจัยอีกอันที่ทำให้ละครเรื่องนี้ดังสุดขีด และcg ก็ได้ไต่ระดับไปอีกขั้น ในนาคี2 ที่ได้สร้างฉากการต่อกรกันของพญานาค2ตัว โดยที่คนดุหนังไทยไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ดู อาจเรียกได้ว่าเป็นcgที่เป็นระดับน้องๆฮอลิวูดก็ว่าได้ อวยไปป่าววะ 555 และด้วยปัจจัยต่างๆเหล่านี้ ก็ไม่แปลกที่อสูรกายตัวนี้ต้องปรากฎในจักรวาลอสูรกาย
3. ไอ้ด่างบางมุดและไอ้ด่างเกยชัย (จระเข้)
จระเข้ยักษ์ทั้งสองตัวที่มีจริงในประวัติศาสตร์ของไทย 
ซึ่งได้มีการนำไปสร้างภาพยนตร์อยู่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดปี2548ใช้ชื่อว่า โคตรเพชฌฆาต
(The Brutal River) ที่ได้นำเรื่องราวของไอ้ด่างบางมุด  แห่งคลองบางมุด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ประมาณปี พ.ศ. 2507 มาดัดแปลงสร้างเป็นหนัง (ฉากปราบมันด้วยระเบิดยังสะใจผมมาก แม้จะดูตอนเด็กแต่ก็ยังสะใจมาจนถึงปัจจุบัน 555) ซึ่งก็น่าสนใจมากหากได้บรรจุหนังเรื่องนี้ลงในจักรวาลอสูรกาย แม้ว่าจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่า2ข้อข้างบน แต่การนำสัตว์ยักษ์ที่มีตัวตนจริงในไทยและได้ออกอาละวาดสร้างความเดือดร้อนให้กับมวลมนุษย์ มาดัดแปลงตีความสร้างเป็นหนัง อารมณ์จระเข้กลายพันธุ์แบบแรมเพจ ก็น่าสนใจไม่น้อยนะครับ
นอกจากที่ผมกล่าวมาแล้ว ทุกท่านคิดว่ายังจะมีสัตว์ประหลาดในตำนานตัวใดของไทย พอที่จะสามารถมาบรรจุอยู่ใน "จักรวาลอสูรกาย" จักรวาลหนังมโนของผมได้บ้างครับ 555