สวัสดีจ้า ผู้ที่ได้เข้ามาในกระทู้นี้ ก่อนอื่นเราจะเล่าความเป็นมาในการสนใจคณะนี้ก่อนนะคะ มาแชร์กันได้นะคะ
เราได้ไปงาน OPENHOUSE TU มาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 61มาค่ะ เราเป็นเด็กตจว. นี่เลยเป็นOPEN HOUSEครั้งแรกของเรา เดิมทีเราแค่อยากไปดูว่ามีอะไรบ้างมีคณะอะไรมั้ยที่เราเหมาะ (หวังมาค้นหาตัวตนในงานนี้เลยค่ะ) ตอนมอต้นเราตั้งใจจะเป็นหมอ เพราะแม่เราอยากมีลูกเป็นหมอซักคนไว้ช่วยเหลือผู้ป่วย เมื่อตั้งตัวจะได้เปิดคลีนิคมารักษาคนไข้ที่ไม่มีตังฟรีทุกวันอาทิตย์อะไรแบบนี้ค่ะ เราอยากทำความฝันแม่ให้เป็นจริง เราเลยทำทุกอย่างทั้งอ่านหนังสือทบทวน จนเราได้3.8+มาหลายที เราดีใจที่แม่เราภูมิใจ แต่บางทีก็คิดว่าที่เราหักโหมเรียนแบบนี้ใช่สิ่งที่เราชอบมั้ย เราอยากเรียนสิ่งนี้จริงๆมั้ย เราอยากทำงานนี้ไปตลอดชีวิตรึป่าว แต่ก็ยังอยากทำต่อเพราะอยากทำให้ฝันแม่เป็นจริง เราหวังจะสอบเข้าขอนแก่นวิทย์จะได้ย้ายไปอยู่ที่นู่นเพราะที่ติวเยอะโรงเรียนก้ดี อนาคตดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ จนติดแล้วจนคุยว่าจะไปยืนยันสิทธิ์ แต่ตอนนั้นย่าเราเป็นมะเร็งพอดีเลยพลาดไป สอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศก็พลาดอีกเพราะปู่เราบอกว่าต้องเสียห้าแสนไปเรียนที่นอกแต่พอกลับมาก็ต้องซ้ำชั้นอีก เงินเป็นแสนสามารถส่งน้องๆและเราเรียนได้ที่ไทยหลายปีนะ ซึ่งตรงนี้เราเข้าใจค่ะ เราเลยหวังจะสอบชิงทุนฟรีต่างๆนาๆ
จนมอขึ้นมอสี่ค่ะ เราลงสมัครประธานนักเรียน เราเป็นสภานักเรียนค่ะ เราจึงได้มีโอกาสในการทำงานหลายๆอย่าง ได้มีโอกาสทำงานแบบที่ผู้ใหญ่ได้ทำ เราเลยบุคลิกโตเป็นผู้ใหญ่ หนักแน่นกล้า แสดงออก ความอดทนสูง ชอบเขียนชอบอ่าน ชอบรายละเอียดยิบย่อย เช่นการวางแผนในการจัดกิจกรรมงานโรงเรียนว่าควรทำอย่างไร ควรจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง จนมางานปฐมนิเทศของโรงเรียนเราค่ะ ซึ่งจัดนอกสถานที่ เราได้รับโอกาสในการเป็นหัวหน้างานในวันของน้องมอต้น ซึ่งเป็นงานที่เราสามรถตัดสินใจในการทำงานได้100เปอร์เซ็นต์ ในการทำงานนั้น
บอกได้เลยค่ะว่าเหนื่อยมากๆ หลายคนอาจจะคิดว่ารับน้องจะไปทำอะไรเยอะ แต่งานนี้เราได้แค่กำหนดการว่าเวลานี้เป็นพิธีอะไรเวลาไหนน้องๆต้องกินข้าวเวลาไหนน้องนอน เรามีแค่นั้นกับคำแนะนำคร่าวๆของคุณครูค่ะ ทั้งจะต้องดูกับข้าวน้องว่าจะมาส่งเมื่อไหร่ เตรียมจัดแถวน้องในการรับข้าว ล้างอ่างที่น้องๆต้องเอาจานข้าวไปแช่ เตรียมกวาดพื้นให้น้องปูที่นอน ต้อนรับผปค.ที่เข้ามาหาน้องๆ น้ำท่าน้องมีอาบมั้ยต้องล้างห้องน้ำรึป่าว คุณครูที่ปรึกษาของน้องๆจะเอากาแฟมั้ย และอีกเยอะค่ะ บอกได้เลยว่าดีเทลมันใหญ่จริงๆ555 เหนื่อยจนยืนไม่ไหวเลยค่ะ เพราะเวลาใครมีปัญหาหรือต้องการอะไรก็ต้องถามหาเราคนแรก โชคดีที่เพื่อนๆเราช่วยกัน งานเลยออกมาดีมากๆ
คืนแรกที่ทำงานนั้นคุณครูเข้ามาชมหลายคนว่าไม่ต้องบอกอะไรเรา เราก็สามารถทำงานนี้ได้ และทำได้ดีด้วย (ไม่ได้อวยตัวเองนะคะ คุณครูเราพูดมา) เราเลยย้อนมองตัวเอง เวลาเราเห็นน้องๆมาขอความช่วยเหลือจากเรา ทำไมเรารู้สึกดีที่น้องๆต้องการเรา เวลาคนถามอะไรเราสามารถบอกได้ว่าควรทำยังไง รอยยิ้มของน้องๆเวลาเราเดินผ่าน คำทักทายสวัสดีจากน้องๆที่เวลาเราทำอะไรให้น้องๆ เวลาเรายืนดูน้องๆมีความสุขกับกิจกรรมที่เราทำให้ น้ำแก้วเล็กๆที่น้องเอามาให้เรา การที่เพื่อนเราตั้งใจทำงานที่เรามอบหมายให้ กำลังใจจากน้องๆเพื่อนๆและครู เราหายเหนื่อยเลยค่ะที่เราได้รับกลับมา แม้จะต้องปวดมือในการล้างของสามสี่เวลาหลังอาหาร ยืนตากแดดคอยดูความเรียบร้อยเราก็ชอบจริงๆค่ะ มิตรภาพกับน้องๆสามารถทำให้เรายินดีที่จะเหนื่อย วันนั้นเองค่ะที่เรารู้ตัวเองแล้ว ว่างานแบบนี้แหละ
ที่เราชอบจริงๆ
จนทำงานใกล้หมดวาระการทำงานสถา1ปี เราก็ยังชอบเหมือนทำครั้งนั้นทุกงาน เราได้มีโอกาสพูดคุยกับป้าที่เล่าเกี่ยวคุณลุงที่ทำงาน UN ค่ะ ว่าเป็นอย่างไร
เราเลยอยากจะทำงานช่วยเหลือผู้คนแบบนี้
ในวัน OPEN HOUSE เราไปได้แค่วันเดียวและแปปเดียวจริงๆค่ะ ไม่ถึงสามชม.ได้ (เกิดเหตุขัดข้องจึงต้องรีบกลับ) เดินไปจนถึงบูธของคณะสถาปัตย์ค่ะ เราก็ศึกษาซักพักก็ต้องกลับแล้ว บังเอิญเพื่อนเราเหลือไปมองเห็นป้ายนี้ค่ะ
วิทยาลัยโลกคดีศึกษา เพื่อนเราเห็นว่าชื่อแปลกดีเลยอยากแวะไปดูก่อนกลับบ้าน โซนนั้นเป็นโซนของคณะนานาชาติทั้งนั้นเลยค่ะ ด้วยความที่เราไม่เก่งอังกฤษมาก เราเลยอยากรู้ว่าคณะนานาชาติเป็นยังไง เรารับใบโบชัวแจกจากพี่ๆมาอ่าน และดูการทำงานการเรียนในวิทยาลัยโลกคดีศึกษานี้ เราก็สนใจนะคะ เพราะเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าช่วยเหลือสังคมได้ แต่ตอนนั้นเรายังติดใจสถาปัตย์ เลยไม่ได้อยู่ที่บูธวิทยาลัยโลกคดีศึกษานานนัก
เพื่อนๆที่อยู่ ม.6 ก็คงโดนคำถามเดียวกันแหละค่ะ ว่าอยากเข้าอะไร คิดไว้แล้วรึยังว่าจะทำอะไรตอนโต จนตอนนี้เรามอ6แล้ว เราก็ยังไม่แน่ใเท่าไหร่ว่าจะยังอยากเข้าอะไรอยู่ เราอยากทำงานไหนทั้งชีวิตและรักในงานนั้น จนเมื่อวานนี้(23พ.ค)คุณครูที่เราสนิทด้วยพูดขึ้นมาค่ะว่าเราสามารถทำงานที่เที่ยวกับการบริหารได้ดี งานการช่วยเหลือผู้คน แววตาเวลาเราทำเราดูมีความสุขมากๆ ในหัวเราปิ๊งถึงคณะวิทยาลัยโลกคดีศึกษาขึ้นมาเลยค่ะ เราเลยอ่านๆกระทู้เกี่ยวกับคณะนี้มา ศึกษาในทางเว็บของคณะ ด้วยความที่ไม่เก่งอังกฤษเลยยากในการเข้าใจ แต่พอมาเจอเว็บนี่ค่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3915190/ ขออนุญาตพี่เจ้าของกระทู้นี้ด้วยนะคะ
การเรียนในคณะนี้ตอนอ่านครั้งแรกกดดันนิดหน่อยค่ะ ว่าต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ แต่เราเชื่อว่าทุกคนก็ต้องกดดันกับอะไรที่เรายังไม่เคยเจออยู่แล้ว แต่ก็ต้องผ่านไปได้แน่นอนค่ะ ทำให้เรารู้มั่นในการอยากเข้าคณะนี้มากขึ้น
เราตัดสินใจที่จะเข้าคณะนี้ แล้วก็ได้มานั่งเขียนยืดยาวในวันถัดมาจากที่คุรครูพูดนี่แหละค่ะ555
สิ่งที่เรารู้คือ ต้องเตรียมอะไรในรอบ PORTบ้าง
1.PORTFOLIO
2.บัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต (ไม่แน่ใจว่าใบขับขี่ได้มั้ยนะคะ)
3.ผลการเรียน GPA 2.8 ขึ้นไป
4.ผลการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ TOELT IELT TU-GET (ไม่ทราบว่ารับTOEICรึป่าวนะคะ ใครรู้บอกด้วยนะคะ)
ดูได้ที่เว็บนี้ก็ได้นะคะ ละเอียดเหมือนกันค่ะ
https://www.dek-d.com/activity/48292/
อันนี้เว็บของทางมหาลัยเลยค่ะ น่าสนใจมากๆ
https://www.dek-d.com/board/view/3902767?fbclid=IwAR3gCY3bJzvK242AoKb-yxalD94-974Jkx_p9g3RIAFGW28Z8XUe8zGbNSA
คนที่ต้องการรู้อะไรเพิ่มศึกษาไปเรื่อยๆนะคะ
ที่เขียนมานี้จุดประสงค์คือ
- อยากทราบรายละเอียดว่า เราต้องส่งPORTยังไงอะไรประมาณนี้ค่ะ มีสัมภาษณ์มั้ยคะ
- อยากแชร์ปสก.ให้เพื่อนๆที่ยังไม่รู้ว่าอยากจะเข้าคณะอะไรให้มาลองเปิดใจไปพร้อมๆกันดูค่ะ
- อยากทราบความคิดเห็นว่าเพื่อนๆพี่ๆหรือใครที่สนใจคณะนี้อยู่มีข้อมูลอะไรกันมาบ้างค่ะ
- อยากพูดคุยกับพี่ๆในคณะนี้ค่ะว่าคนแบบเรานี้สามารถเข้ากับคณะได้จริงๆมั้ย เราเตรียมตัวตอนนี้ทันมั้ยคะ อยากแนะนำติเตือนอะไรสามารถตอบมาได้เลยค่ะ
- จะมีรอบundergraduateเพิ่มมั้ยคะ(อันนี้อยากทราบรายละเอียดเหมือนกันค่ะ)
มีใครที่อยากพูดคุยกับเรามีความคิดเห็นอะไรอยากคุยแบบส่วนตัวเรื่องนี้เม้นมาได้นะคะ เรายินดีค่ะ จะได้สู้ไปด้วยกันค่ะ
ทั้งนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ หวังว่ากระทู้ของเราจะสามารถทำให้คนที่ยังไม่รู้ว่าจะเข้าคณะอะไรดีได้มาเปิดใจคณะนี้ไปกับเรากันนะคะ
ขอให้ทุกคนสู้ๆค่ะ
GSSE 63 จะต้องทำยังไงบ้าง ผู้รู้เรามาแชร์ข้อมูลกันมั้ยคะ + แชร์ปสก.
เราได้ไปงาน OPENHOUSE TU มาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 61มาค่ะ เราเป็นเด็กตจว. นี่เลยเป็นOPEN HOUSEครั้งแรกของเรา เดิมทีเราแค่อยากไปดูว่ามีอะไรบ้างมีคณะอะไรมั้ยที่เราเหมาะ (หวังมาค้นหาตัวตนในงานนี้เลยค่ะ) ตอนมอต้นเราตั้งใจจะเป็นหมอ เพราะแม่เราอยากมีลูกเป็นหมอซักคนไว้ช่วยเหลือผู้ป่วย เมื่อตั้งตัวจะได้เปิดคลีนิคมารักษาคนไข้ที่ไม่มีตังฟรีทุกวันอาทิตย์อะไรแบบนี้ค่ะ เราอยากทำความฝันแม่ให้เป็นจริง เราเลยทำทุกอย่างทั้งอ่านหนังสือทบทวน จนเราได้3.8+มาหลายที เราดีใจที่แม่เราภูมิใจ แต่บางทีก็คิดว่าที่เราหักโหมเรียนแบบนี้ใช่สิ่งที่เราชอบมั้ย เราอยากเรียนสิ่งนี้จริงๆมั้ย เราอยากทำงานนี้ไปตลอดชีวิตรึป่าว แต่ก็ยังอยากทำต่อเพราะอยากทำให้ฝันแม่เป็นจริง เราหวังจะสอบเข้าขอนแก่นวิทย์จะได้ย้ายไปอยู่ที่นู่นเพราะที่ติวเยอะโรงเรียนก้ดี อนาคตดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ จนติดแล้วจนคุยว่าจะไปยืนยันสิทธิ์ แต่ตอนนั้นย่าเราเป็นมะเร็งพอดีเลยพลาดไป สอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศก็พลาดอีกเพราะปู่เราบอกว่าต้องเสียห้าแสนไปเรียนที่นอกแต่พอกลับมาก็ต้องซ้ำชั้นอีก เงินเป็นแสนสามารถส่งน้องๆและเราเรียนได้ที่ไทยหลายปีนะ ซึ่งตรงนี้เราเข้าใจค่ะ เราเลยหวังจะสอบชิงทุนฟรีต่างๆนาๆ
จนมอขึ้นมอสี่ค่ะ เราลงสมัครประธานนักเรียน เราเป็นสภานักเรียนค่ะ เราจึงได้มีโอกาสในการทำงานหลายๆอย่าง ได้มีโอกาสทำงานแบบที่ผู้ใหญ่ได้ทำ เราเลยบุคลิกโตเป็นผู้ใหญ่ หนักแน่นกล้า แสดงออก ความอดทนสูง ชอบเขียนชอบอ่าน ชอบรายละเอียดยิบย่อย เช่นการวางแผนในการจัดกิจกรรมงานโรงเรียนว่าควรทำอย่างไร ควรจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง จนมางานปฐมนิเทศของโรงเรียนเราค่ะ ซึ่งจัดนอกสถานที่ เราได้รับโอกาสในการเป็นหัวหน้างานในวันของน้องมอต้น ซึ่งเป็นงานที่เราสามรถตัดสินใจในการทำงานได้100เปอร์เซ็นต์ ในการทำงานนั้น
บอกได้เลยค่ะว่าเหนื่อยมากๆ หลายคนอาจจะคิดว่ารับน้องจะไปทำอะไรเยอะ แต่งานนี้เราได้แค่กำหนดการว่าเวลานี้เป็นพิธีอะไรเวลาไหนน้องๆต้องกินข้าวเวลาไหนน้องนอน เรามีแค่นั้นกับคำแนะนำคร่าวๆของคุณครูค่ะ ทั้งจะต้องดูกับข้าวน้องว่าจะมาส่งเมื่อไหร่ เตรียมจัดแถวน้องในการรับข้าว ล้างอ่างที่น้องๆต้องเอาจานข้าวไปแช่ เตรียมกวาดพื้นให้น้องปูที่นอน ต้อนรับผปค.ที่เข้ามาหาน้องๆ น้ำท่าน้องมีอาบมั้ยต้องล้างห้องน้ำรึป่าว คุณครูที่ปรึกษาของน้องๆจะเอากาแฟมั้ย และอีกเยอะค่ะ บอกได้เลยว่าดีเทลมันใหญ่จริงๆ555 เหนื่อยจนยืนไม่ไหวเลยค่ะ เพราะเวลาใครมีปัญหาหรือต้องการอะไรก็ต้องถามหาเราคนแรก โชคดีที่เพื่อนๆเราช่วยกัน งานเลยออกมาดีมากๆ
คืนแรกที่ทำงานนั้นคุณครูเข้ามาชมหลายคนว่าไม่ต้องบอกอะไรเรา เราก็สามารถทำงานนี้ได้ และทำได้ดีด้วย (ไม่ได้อวยตัวเองนะคะ คุณครูเราพูดมา) เราเลยย้อนมองตัวเอง เวลาเราเห็นน้องๆมาขอความช่วยเหลือจากเรา ทำไมเรารู้สึกดีที่น้องๆต้องการเรา เวลาคนถามอะไรเราสามารถบอกได้ว่าควรทำยังไง รอยยิ้มของน้องๆเวลาเราเดินผ่าน คำทักทายสวัสดีจากน้องๆที่เวลาเราทำอะไรให้น้องๆ เวลาเรายืนดูน้องๆมีความสุขกับกิจกรรมที่เราทำให้ น้ำแก้วเล็กๆที่น้องเอามาให้เรา การที่เพื่อนเราตั้งใจทำงานที่เรามอบหมายให้ กำลังใจจากน้องๆเพื่อนๆและครู เราหายเหนื่อยเลยค่ะที่เราได้รับกลับมา แม้จะต้องปวดมือในการล้างของสามสี่เวลาหลังอาหาร ยืนตากแดดคอยดูความเรียบร้อยเราก็ชอบจริงๆค่ะ มิตรภาพกับน้องๆสามารถทำให้เรายินดีที่จะเหนื่อย วันนั้นเองค่ะที่เรารู้ตัวเองแล้ว ว่างานแบบนี้แหละ ที่เราชอบจริงๆ
จนทำงานใกล้หมดวาระการทำงานสถา1ปี เราก็ยังชอบเหมือนทำครั้งนั้นทุกงาน เราได้มีโอกาสพูดคุยกับป้าที่เล่าเกี่ยวคุณลุงที่ทำงาน UN ค่ะ ว่าเป็นอย่างไร
เราเลยอยากจะทำงานช่วยเหลือผู้คนแบบนี้
ในวัน OPEN HOUSE เราไปได้แค่วันเดียวและแปปเดียวจริงๆค่ะ ไม่ถึงสามชม.ได้ (เกิดเหตุขัดข้องจึงต้องรีบกลับ) เดินไปจนถึงบูธของคณะสถาปัตย์ค่ะ เราก็ศึกษาซักพักก็ต้องกลับแล้ว บังเอิญเพื่อนเราเหลือไปมองเห็นป้ายนี้ค่ะ วิทยาลัยโลกคดีศึกษา เพื่อนเราเห็นว่าชื่อแปลกดีเลยอยากแวะไปดูก่อนกลับบ้าน โซนนั้นเป็นโซนของคณะนานาชาติทั้งนั้นเลยค่ะ ด้วยความที่เราไม่เก่งอังกฤษมาก เราเลยอยากรู้ว่าคณะนานาชาติเป็นยังไง เรารับใบโบชัวแจกจากพี่ๆมาอ่าน และดูการทำงานการเรียนในวิทยาลัยโลกคดีศึกษานี้ เราก็สนใจนะคะ เพราะเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าช่วยเหลือสังคมได้ แต่ตอนนั้นเรายังติดใจสถาปัตย์ เลยไม่ได้อยู่ที่บูธวิทยาลัยโลกคดีศึกษานานนัก
เพื่อนๆที่อยู่ ม.6 ก็คงโดนคำถามเดียวกันแหละค่ะ ว่าอยากเข้าอะไร คิดไว้แล้วรึยังว่าจะทำอะไรตอนโต จนตอนนี้เรามอ6แล้ว เราก็ยังไม่แน่ใเท่าไหร่ว่าจะยังอยากเข้าอะไรอยู่ เราอยากทำงานไหนทั้งชีวิตและรักในงานนั้น จนเมื่อวานนี้(23พ.ค)คุณครูที่เราสนิทด้วยพูดขึ้นมาค่ะว่าเราสามารถทำงานที่เที่ยวกับการบริหารได้ดี งานการช่วยเหลือผู้คน แววตาเวลาเราทำเราดูมีความสุขมากๆ ในหัวเราปิ๊งถึงคณะวิทยาลัยโลกคดีศึกษาขึ้นมาเลยค่ะ เราเลยอ่านๆกระทู้เกี่ยวกับคณะนี้มา ศึกษาในทางเว็บของคณะ ด้วยความที่ไม่เก่งอังกฤษเลยยากในการเข้าใจ แต่พอมาเจอเว็บนี่ค่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3915190/ ขออนุญาตพี่เจ้าของกระทู้นี้ด้วยนะคะ
การเรียนในคณะนี้ตอนอ่านครั้งแรกกดดันนิดหน่อยค่ะ ว่าต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ แต่เราเชื่อว่าทุกคนก็ต้องกดดันกับอะไรที่เรายังไม่เคยเจออยู่แล้ว แต่ก็ต้องผ่านไปได้แน่นอนค่ะ ทำให้เรารู้มั่นในการอยากเข้าคณะนี้มากขึ้น เราตัดสินใจที่จะเข้าคณะนี้ แล้วก็ได้มานั่งเขียนยืดยาวในวันถัดมาจากที่คุรครูพูดนี่แหละค่ะ555
1.PORTFOLIO
2.บัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต (ไม่แน่ใจว่าใบขับขี่ได้มั้ยนะคะ)
3.ผลการเรียน GPA 2.8 ขึ้นไป
4.ผลการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ TOELT IELT TU-GET (ไม่ทราบว่ารับTOEICรึป่าวนะคะ ใครรู้บอกด้วยนะคะ)
ดูได้ที่เว็บนี้ก็ได้นะคะ ละเอียดเหมือนกันค่ะ
https://www.dek-d.com/activity/48292/
อันนี้เว็บของทางมหาลัยเลยค่ะ น่าสนใจมากๆ
https://www.dek-d.com/board/view/3902767?fbclid=IwAR3gCY3bJzvK242AoKb-yxalD94-974Jkx_p9g3RIAFGW28Z8XUe8zGbNSA
คนที่ต้องการรู้อะไรเพิ่มศึกษาไปเรื่อยๆนะคะ
- อยากทราบรายละเอียดว่า เราต้องส่งPORTยังไงอะไรประมาณนี้ค่ะ มีสัมภาษณ์มั้ยคะ
- อยากแชร์ปสก.ให้เพื่อนๆที่ยังไม่รู้ว่าอยากจะเข้าคณะอะไรให้มาลองเปิดใจไปพร้อมๆกันดูค่ะ
- อยากทราบความคิดเห็นว่าเพื่อนๆพี่ๆหรือใครที่สนใจคณะนี้อยู่มีข้อมูลอะไรกันมาบ้างค่ะ
- อยากพูดคุยกับพี่ๆในคณะนี้ค่ะว่าคนแบบเรานี้สามารถเข้ากับคณะได้จริงๆมั้ย เราเตรียมตัวตอนนี้ทันมั้ยคะ อยากแนะนำติเตือนอะไรสามารถตอบมาได้เลยค่ะ
- จะมีรอบundergraduateเพิ่มมั้ยคะ(อันนี้อยากทราบรายละเอียดเหมือนกันค่ะ)
มีใครที่อยากพูดคุยกับเรามีความคิดเห็นอะไรอยากคุยแบบส่วนตัวเรื่องนี้เม้นมาได้นะคะ เรายินดีค่ะ จะได้สู้ไปด้วยกันค่ะ
ทั้งนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ หวังว่ากระทู้ของเราจะสามารถทำให้คนที่ยังไม่รู้ว่าจะเข้าคณะอะไรดีได้มาเปิดใจคณะนี้ไปกับเรากันนะคะ
ขอให้ทุกคนสู้ๆค่ะ