การบริหารจัดการเงินสไตล์ มาริเอะ คอนโดะ

กระทู้สนทนา

การออมเงิน การวางแผนการเงิน มนุษย์เงินเดือน การบริหารจัดการ การเงิน

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกวันนี้เราอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยความรีบเร่ง และมีการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา เราจึงอาจละเลยในการจัดการ หรือจัดระเบียบบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญไป เช่น การจัดการเงินในกระเป๋าของเรา ซึ่งการละเลยนี้อาจจะส่งผลเสียตามมาในภายหลังได้

K-Expert จึงอยากจะมาแนะนำบทความเรื่องการจัดระเบียบการเงิน โดยอ้างอิงจากสไตล์ มาริเอะ คอนโดะ มาฝากเพื่อนๆ เพื่อทำให้ชีวิตการเงินของเราเป็นระเบียบมากขึ้น และหากนำวิธีการมาปฏิบัติก็จะช่วยให้เรามีความสุขทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตที่จะมาถึงครับ

มาริเอะ คอนโดะ ผู้แต่งหนังสือ “The Magic Life Change of Tidying Up” ซึ่งขายได้กว่า 11 ล้านเล่มทั่วโลก และเป็น The New York Time best seller และ เป็นกูรูผู้เชี่ยวชาญการจัดระเบียบบ้านชาวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมไปถึงสหรัฐอเมริกา รวมถึงหลายประเทศทั่วโลกเลยนะครับ อีกทั้ง มาริเอะ ยังมีผลงานซีรีย์ในรายการของ Netflix อีกด้วย

โดยวิธีการจัดระเบียบบ้านของ มาริเอะ นั้นเรียกว่า วิธี KonMari ซึ่งแตกต่างจากวิธีจัดระเบียบแบบอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่า “เราควรดูแลรักษาสิ่งที่เรามีอยู่แล้วให้ดี และทำการขอบคุณกับสิ่งของที่ทำให้เราได้ใช้ประโยชน์เมื่อเราจะทิ้งสิ่งของชิ้นนั้นไป” ซึ่งหลักในการจัดระเบียบแบบ KonMari จะเน้นในเรื่องหลักๆคือ การมุ่งมั่นของตนเองที่จะจัดระเบียบสิ่งต่างๆ การสร้างจินตนาการภาพในอุดมคติหลังจากได้จัดระเบียบสิ่งต่างๆแล้ว การกำจัดสิ่งของที่ไม่ต้องการก่อนจัดระเบียบ การจัดระเบียบตามหมวดหมู่ และเรียงตามลำดับ โดยสิ่งที่สำคัญก็คือ ต้องถามตัวเองว่าของชิ้นไหนจุดประกายความสุข (Spark Joy) ให้กับเรา

แล้วเราจะนำวิธี KonMari มาปรับใช้กับเรื่องการเงินได้ยังไง ? นานางงในงง

วิธีการของ มาริเอะ ไม่ใช่เพียงแค่การจัดระเบียบบ้านเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้กับการเงินส่วนบุคคลของเพื่อนๆ ได้ด้วยนะครับ โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. มุ่งมั่นในเป้าหมายทางการเงิน
ในการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม ความมุ่งมั่นตั้งใจนั้นสำคัญที่สุด ซึ่งความมุ่งมั่นนี้จะช่วยให้เราสามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ บางครั้งอาจจะยากที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัย แต่เมื่อเราตั้งใจที่จะปรับเปลี่ยนนิสัยทางการเงินของเรา เราก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในด้านการเงินได้แน่นอนครับ

2. จินตนาการตัวเอง เมื่อเป้าหมายประสบความสำเร็จ
เมื่อเพื่อนๆ ตั้งเป้าหมายทางการเงินและจินตนาการถึงผลลัพธ์สุดท้ายปลายทางที่เราจะได้นั้น จะทำให้เราไม่ยอมแพ้แม้จะเจอปัญหา หรืออุปสรรคใดๆ
ตัวอย่างเช่น การมีเงินเพียงพอสำหรับการเกษียณ การมองเห็นเป้าหมายสุดท้ายจะช่วยให้เรา อดทนต่อสิ่งยั่วยวนต่างๆ ที่เข้ามาระหว่างทางเพื่อรอเวลาได้ผลลัพท์ตามที่ได้วางาแผนไว้ ลองนึกภาพว่าเราจะทำอะไรเมื่อเรามีเงินมากเพียงพอที่จะเกษียณได้อย่างที่ตั้งใจไว้

3. ซื้อของน้อยลง และบริจาคสิ่งของที่ไม่จำเป็น
เมื่อเราจินตนาการถึงเป้าหมายการเงินของเราแล้ว เราควรจัดการกับรายจ่ายที่ไม่จำเป็นต่างๆ โดยยับยั้งชั่งใจก่อนจะช็อปปิ้ง ส่วนสิ่งของที่เรามีอยู่แล้ว ให้เก็บไว้เฉพาะสิ่งของที่ทำให้เรามีความสุขจริงๆ วิธีนี้จะช่วยให้เรามีเงินออมเพิ่มมากขึ้นในแต่ละเดือนครับ

4. แบ่งเป้าหมายทางการเงินออกเป็นหมวดหมู่
การแบ่งเป้าหมายทางการเงินของเราออกเป็นหมวดหมู่จะทำให้จัดการได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น บัญชีที่เปิดไว้ลงทุนเพื่อการเกษียณ บัญชีที่เปิดไว้เพื่อการศึกษาบุตร เป็นต้น การแยกหมวดหมู่เงินลงทุนตามเป้าหมายออกมาแบบนี้จะทำให้เราจัดการเรื่องต่างๆ ในชีวิตได้ดีมากขึ้นนะครับ
อีกทั้งเมื่อจัดหมวดหมู่ตามเป้าหมายแล้ว เราก็สามารถจัดหมวดหมู่รายจ่าย เพื่อที่จะได้จัดการได้ดีขึ้น เริ่มต้นด้วยหมวดหมู่ที่ง่ายๆ เช่น รายจ่ายประจำ(รายจ่ายที่ต้องชำระเป็นประจำในแต่ละเดือน ค่าน้ำ ค่าไฟ) และรายจ่ายผันแปร(รายจ่ายตามความต้องการในแต่ละเดือน) ซึ่งรายจ่ายผันแปรนี่เองที่เราสามารถลดการใช้จ่ายได้ก่อนรายจ่ายประเภทอื่นๆ

5. การจัดสรรการเงินตามลำดับ
การทำตามขั้นตอนการจัดสรรเงิน จะทำให้สถานะทางการเงินเราแข็งแกร่ง มั่นคงนะครับ โดยควรทำตามลำดับดังนี้

1.) จัดสรรเงินออมเป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน สมมติว่าเพื่อนๆ มีค่าใช้จ่ายเดือนละ 10,000 บาท ต้องมีเงิน 60,000 บาท สำรองไว้พร้อมใช้ตลอดเวลา
2.) จัดสรรเงินไว้สำหรับการทำประกันป้องกันความเสี่ยง เช่น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุ
3.) จัดการชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และไม่ควรก่อหนี้สินเกินกว่า 30% ของรายได้ต่อเดือน
4.) จัดสรรเงินเริ่มต้นลงทุน ออมเงินอย่างสม่ำเสมอในกองทุนทุกเดือนๆ ถ้าต้องเสียภาษี แนะนำลงทุน LTF, RMF นะครับ เพราะนอกจากจะได้ผลตอบแทนจากกองทุนแล้ว ยังลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
5.) เมื่อมีเงินลงทุนแล้วก็ติดตามสถานการณ์การลงทุน จัดสัดส่วน และปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

6. เปลี่ยนความคิด เมื่อเราใช้วิธีคิดมองแบบระยะยาว และรอบคอบในการใช้จ่าย เราอาจค้นพบว่า “การซื้อสิ่งของอาจจะไม่ทำให้เรามีความสุข” แต่เราอาจจะเริ่มสร้างความสุขได้จากการออม การลงทุน เพื่อนๆ จะพบว่าตัวเองใช้ความคิด ตั้งใจใช้จ่ายน้อยลงและประหยัดมากขึ้นกว่าเดิมได้ครับ

นานาเยี่ยม