"ฝรั่งเศสไม่ใช่ของชาวฝรั่งเศส! ทุกคนมีสิทธิที่จะอยู่ที่นี่!" ม็อบผู้อพยพ ปิดสนามบิน กดดันให้รับเข้าประเทศ

ผู้ชุมนุม ‘เสื้อกั๊กสีดำ’ (Black Vest) กว่า 500 คน รวมตัวกันปิดสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกลล์ (Charles de Gaulle)
ในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อคัดค้านนโยบายผลักดันผู้อพยพออกนอกฝรั่งเศส
รวมถึงประกาศว่าดินแดนฝรั่งเศสเป็นของทุกคน ไม่ใช่แค่ของชาวฝรั่งเศส!

ผู้ชุมนุมเรียกร้องขอเจรจากับ นายกรัฐมนตรี เอดูอาร์ ฟีลิปป์ (Édouard Philippe)
เพื่อคัดค้านการผลักดันผู้อพยพออกนอกประเทศ รวมทั้งขอให้อนุมัติเอกสารการอพยพอย่างถูกกฎหมาย
สำหรับผู้อพยพทุกรายที่เข้ามาในฝรั่งเศส, ที่พักอาศัย, เสรีภาพในการเคลื่อนไหวทางการเมือง และการตั้งถิ่นฐานในฝรั่งเศส

อีกทั้งยังเรียกร้องให้สายการบินฝรั่งเศส (Air France) ยุติการเคลื่อนไหวทางการเงิน
การสนับสนุนด้านอุปกรณ์ เครื่องมือ การขนส่ง และการดำเนินการทางการเมืองทุกประการ
อันจะนำไปสู่การผลักดันผู้อพยพออกนอกประเทศ (deportation)

ในขณะที่ทำการประท้วง ผู้ชุมนุมได้ประกาศขึ้นมาว่า
“ฝรั่งเศสไม่ใช่ของชาวฝรั่งเศส ทุกคนมีสิทธิที่จะอยู่ที่นี่!”
(France does not belong to the French! Everyone has a right to b!)

การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของกลุ่ม La Chapelle Debout
หรือ Standing Chapel ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนการอพยพลี้ภัย

ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อกั๊กดำ หรือ ‘Gilets Noir’
เป็นการล้อไปกับม็อบเสื้อกั๊กเหลือง (Yellow Vest)
ที่ชุมนุมยืดเยื้อตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ต่อเนื่องมากว่า 6 เดือน

ภายใต้ความไม่พอใจของชาวฝรั่งเศสที่มีต่อปัญหาคุณภาพชีวิต
ทั้งในเรื่องของค่าแรง การขึ้นภาษีน้ำมัน รวมไปถึงปัญหาอาชญากรรม
และภาระการเงินของประเทศที่เกิดจากการแบกรับผู้อพยพจำนวนมหาศาล
ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายแต่ประการใด

source : https://www.facebook.com/RoundtableTH/photos/a.1092133997641530/1105949759593287/?type=3&theater