ขอแชร์ประสบการณ์ของผมเป็นอุทาหรของการคบใครสักคนครับ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังประสบปัญหา อยู่ครับ

ผมอยากจะมาเล่า ประสบการณ์และอุทาหร ด้านความรักที่ชีวิตนี้ลืมไม่ลงจริงๆ ครับ
ผมขอเกริ่นก่อนนะครับ สวัดดีทุกคนครับ ผมเป็น นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนึง ซึ่งก็มีการดำเนินชีวิตทั่วไปเหมือนกับคนอื่นๆ ภายใต้ชีวิต 4 ปีในรั้วมหสวิทยาลัยทั่วไป ผมเรียนและใช้ชีวิต กับการเรียน และใช้ชีวิตกับสังคมเพื่อนฝูงมาตลอด จนมาถึงวันหนึ่ง ครับที่ชีวิตผม ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
    ผมใช้ชีวิตการเรียนมาเป็นปกติตลอด ของผมมาตลอด 4 ปีของการเรียน แล้วในช่วง ปี 3 เทอมปลายผมมีโอกาส นึงครับ คือ การได้เป็น TA ของ อ.รายวิชานึง ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นวิชาทั่วไปที่มีนักศึกษา จาดคณะต่างๆ มาลงทะเบียนเนื่องจากเป็นวิชาเสรี และมีการดูงายนอกสถานที่ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนในจุดหนึ่งของตลอดการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาตลอด
     ตลอดช่วงของการที่ผมได้ เป็น TA ของรายวิชานี้ มันทำให้ผมรู้จัก น้องๆ และพี่ๆ หลายคณะเนื่องจากเป็นวิชา เป็นวิชาเสรี ทำให้ผมได้เจอคนมากมาย
     จนวันนึงผมได้สังเกต คนๆหนึ่งในรายวิชา ที่ผมเป็น TA อยู่ทำโลกของผมเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น ผมได้ทำความรู้จัก กับคนๆนึง ซึ่งผมสังเกต และรู้สึกมีความสงสารและความเอ็นดูเค้าเป็นพิเศษ เนื่องจากเค้ามาเรียนคนเดียว และเค้าก็นั่งคนเดียว มันทำให้ผม เริ่มรู้จัก ด้วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมเริ่มทำความรู้จักเค้าด้วยวันนึง ด้วยการให้ "ช็อคโกแลต" ไป 1 กล่อง เพื่ออยากที่จะรู้จักด้วย แล้วเย็นวันนั้นคนๆ นั้นก็ได้ ทัก ผมมาในเฟส เนื่องจาก รายวิชามี กลุ่มของเฟสบุ๊ค ทำให้ ผมมีเฟส ผมอยู่ในนั้นใน การจัดแจงเรื่องราวต่างๆ ในรายวิชา มันทำให้ผม เริ่มสานสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ ด้วยประโยคที่ เค้าถามผมว่า"ทำไมถึงให้ช็อคโกแลต"เค้า  และนั้นเป็นประโยคสนทนา ที่เริ่มต้นสานสัมพันธ์กัน มา เรื่อยๆ จากที่เจอในรายวิลาเรียน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และผม เริ่มทำความรู้จักเค้ามากขึ้น เรื่อย ผ่านการสนทนา ทางเฟสบุ๊ค และไลน์ และการเดิน เจอกันบ้างครั้ง บางคราว จนผม เริ่มคบกับเค้า เมื่อเวลาผ่านไป หลังที่เรารู้จักกันประมาณ 2 เดือนๆกว่า ด้วยความที่ผมไม่เคยมีแฟนมา ก่อน ทำให้ ผม วางตัวและทำตัวไม่ค่อยถูก และผมก็คบกับเค้ามาตลอดโดยที่ผม ไม่ได้รู้จักเค้า ดี เพราะเค้าไม่เคยให้ ผมเข้าไปในโลกชองเค้าทั้งหมด เค้าให้ ผมรู้และเห็นเท่าที่เค้าอยากจะให้ผมรู้ เค้ามักชอบพูดติดตลก ที่เล่นที่จริง ให้ผมฟังเกี่ยวกับอดีตของเค้า มาตลอดระยะเวลาที่คบกันมาตลอด จนช่วง ย่างเข้าเดือนที่ 5 ผมเริ่มมีความรู้สึกผูกผันกับเค้ามาก จนเรียกว่า ตกหลุมรักไปแล้ว ก็คงจะได้ โดยที่ผมไม่เคยอยากจะรู้อะไร ไปมากกว่า สิ่งที่เค้าเล่าให้ฟัง หรือในบางครั้งที่ผม ถามเพราะความอยากรู้ ในเรื่องราวอดีตของเค้า ที่ผ่าน ผมเชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ อาจจะไม่สามารถรับได้ หรือ หลายๆ ท่านอาจจะมองว่าไม่ได้เสียหายอะไร ก็ได้ มันเป็นเรื่องราวในอดีตของเค้าที่ ผ่านใครต่อใครมาะอสมควร แต่ผมก็คิดมาตลอดว่า มันเป็นอดีต ที่มันจบไปแล้ว ถ้าผมอยากจะคบกับเค้าต่อ และสานสัมพันธ์ กันก็ควรปล่อยให้ เป็นเรื่องของอดีต ที่ไม่ควรไปอยากรู้ เพราะมันทำให้ ความรู้สึกผมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และผมไม่เคยมีความรู้สึกประหลาดใจหรือ เอ๊ะใจอะไรเลยตลอดที่คบกันมา 5 เดือน เราเจอกัน กินข้าวด้วยกัน นัดกันมาเจอกันเวลาเดิมและแยกย้ายกันไปเรียนตามหน้าที่ของตัวเอง และมาเจอกันใหม่หลังเลิก ผมทำยังงี้มาตลอดระยะเวลาที่คบกัน โดยที่ไม่เคยสงสัยอะไรเลย
     จนวันนึงผมเริ่มรักเค้ามากขึ้น และอยากรู้เรื่องของเค้ามากขึ้นเลยพยายาม ที่จะทำความรู้จักหรือ เข้าไปในโลกของเค้ามากขึ้น เพราะผมคิดว่า การที่เราคบกัน มันควรจะเปิดใจและเราควรพูดกันทุกเรื่อง จนใันนึงผมเริ่มสังเกตทาทีของ เค้าในบางครั้ง เช่นการ เล่นโทรศัพท์ ที่ปกติผมก็ไม่เคยยุ่ง หรือ ว่าเคยสังเกต อะไรเลย ผมเลยเริ่มสังเกตตั้งแต่นั้นเป็น ต้นมา โดยทีตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ผมไม่เคยรู้อะไรเลย
....ว่า เค้ามีโลกอีกใบที่อยู่ในนั้น มันเป็นอีกด้านนึงของเค้า ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน (ผมเป็นคนที่ซื่อ) และผมได้เริ่มสังเกตเค้าหลายๆ อย่างตั้งแต่พฤติกรรมการใช้มือถือ ที่ผมเห็นเค้าหมกหมุ่นอยู่กับ สิ่งนั้นอยู่ตลอด และมักจะไม่ค่อยอยากให้ ผมยุ่งกับโทรศัพท์ เค้าสักเท่าไหร่ มันทำให้ผมยิ่งอยากรู้มากขึ้น  และผมเริ่มสังเกต มากกว่า เดิม มาจนถึงประมาณ เดือนที่ 6-7 โดยที่ผมก็ยังไม่แน่ใจ จนมาข่วงประมาณที 6 ปลายๆ เดือน ผมสังเกตเห็นบางอย่าง ที่ผิดปกติ จนวันนึงผม นั่งอยู่กับ เค้าและลองทดลองขอยืมโทรศัพท์ และตอนนั้น เค้าได้พูด แอฟ ที่อยู่ในเครื่องของเค้า ที่ ชื่อว่า แอฟ Blued ซึ่งผมก็ไม่เคยรู้จัดมาก่อน ทำให้ผม เริ่มสงสัยและเริ่ม อยากรู้ ทำให้ผม ครูพักลักจำ รหัสผ่านโทรศัพท์ ของเค้า โดยที่เค้าไม่รู้ตัว ตั้งแต่นั้นมามันเปิดโลกของผมมาก ว่า มีบางอย่างผิดปกติ และผมเริ่มอยากรู้มากขึ้น แต่ผมไม่กล้าถามเค้าตรงๆ (ถึงผมถามเค้าตรงๆ เค้าก็คงไม่บอกผม)
   จนวันนึง ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวบ้านเค้า วันนั้นแหละครับ เป็นใันที่ผม จำไม่รู้ลืม จนถึงวันนี้ ผมอาศัยจังหวะ มี่เค้าวางโทรศัพท์ และไปทำธุระส่วนตัว เนื่องจากเค้า ไม่รู้ ว่าผม รู้รหัส ทำให้เค้าไม่ได้ทันระวังตัว ผมจึงถือวิสาสะ ลองเสี่ยงเพื่อค้นหาความจริง และวันนั้นแหละครับ ทำให้ผมรู้ความจริงว่า จริงเค้ามีอะไรที้เค้าไม่เคยเล่าให้ ผมฟังมากกมาย และมันเป็น สิ่งที่เลวร้ายมาก สำหรับความสัมพันธ์ของเรา ทำให้ผมรู้ความจริงว่า เค้ามีโลกอีกด้านนึง ที่เรียกว่า "ด้านมืด" ในแอพ ที่ชื่อ ว่า Twitter เผื่อมีการคุยแบบบ ในทำนอง นัด...ประมาณนั้น และมีการพูดเชิงที่ไม่ดี และไปทีกไปคุยกับคนนั้นคนนี้ วินาทีนั้นผมทำตัวไม่ถูกจริงๆ ครับ มือไม้สั่นและในใจคือ โกรธมากๆ ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เค้าไม่เคยบอกผม และเค้ายังไม่เคยเลิกทำแบบนั้น แต่ จังหวะนั้น ผมคิดว่า ถ้าผมพูดตรงๆ จะทำให้ผมไม่รู้อะไร อีกเลย และก็ต้องเลิกกัน ผมยอมรับว่า ผมรักเค้ามาก และทำใจไม่ได้ จึงทำตัวปกติ และสะกดอารมณ์ เผื่อที่จะได่ รู้มากไปกว่านี้  ทำให้ผมใช้สติเผื่อ ทีจะจดจำราย เผื่อเป็นประโยชน์ในการสืบ เล่นชื่อแอคหรือ ข้อมูลอะไรต่างๆ เผื่อมาสืบหาและความอยากรู้ของผมว่าทำไม ตัองทำกับผมแบบนี่ วินาทีนั้น มันกลั้นน้ำในใจไม่อยู่จริงๆ ครับ มันเป็นความจริงที่ผมหม่อยากยอมรับ และเค้าก็ทำตัวปกติกับผมมากๆ โดยไม่ได้รู้สึกผิดหรืออะไร และผมรีบนำมือถือไปวางอย่างเดิม ทำให้เค้าไม่รู้ว่า ผม รู้ความจริงแล้ว ผมทำตัวปกติ หลังจาดวันนั้น และด้วยความโกรธ และอยากรู้ ทำให้ ผม ลองสมัคร Twiiter โดยที่ผมปรึกษาเพื่อนๆ และเพื่อนๆ ผมก็รับรู้ เนื่องจาก ผมพามาเจอเพื่อนบ่อยๆ และเพื่อนผมเองก็ช่วยสืบ เนื่องจาก ผมกลั้นน้ำตาไม่ไหว จริงๆ จนเพื่อนๆ ต้องเป็นคนดูทุกอย่างแทน ผม แต่ผม ไม่อยากเลิกกับเค้า จึงไม่กล้าที่จะพูดความจริง จนเวลาผ่านไปหลายเดือน โดยที่ตอนหลังๆ ผมรู้รหัส ทวิตเตอร์ ของเค้า โดยที่สุ่มความน่าจะเป็นไปเรื่อยๆ เนื่องจากผมมีข้อมูลบางส่วนของเค้าจากโทรสัพท์ขิงเค้า จากเหตุการณ์ทีผมเล่าไป ทำให้ผม สามารถ เข้าไปได้ และรู้ความจริงอันน่าเจ็บปวดมากขี้น เนื้องจากตลอดเวลาที่คบกับผมมา เค้าคุยกับอื่นอีกหลายคน ในนั้น ทั้งมีการนัดเจอ กัน หรือกำลังจะนัดเจอกัน และทั้งทีอยู่ ในช่วงของการเริ่มคุย ทักกันไปมา คุยเรือง...แบบนั้น ซึ่งทำให้ผมเสียใจมาก ที่เค้าไม่เคยมีผมคนเดียวมาตั้งแต่แรก แถมยังทำเรื่องแบบนีอีก ซึ่งมันเลวร้ายมาก ทำให้รับรู้เรื่องที่เค้าคุยทุกอย่าง เนื่องจาก ผม Sign in แอคเค้าท์ ของเค้าไว้ในเค้าตัวเอง ทำให้ มันแจ้งเตือนมาที่ผม ทุกข้อความที่เค้าคุยและทุกกิจกรรม ที่เค้าทำ ผมเสียใจมาก เพราะผมรักเค้ามาก แต่ทำไม ถึงทำกับผมแบบนี้ ผม เฝ้าดูอยู่ ได้ 2 เดือน ผมทำทุกวิถีทางทีจะทำให้ เค้าเลิกมันได้ ทั้ง ผมตามไปรีพอท แอค ที่มาคุยกับเค้า ทั้งผม ชิงลบ ข้อความก่อนที่เค้าจะเห็น ทำทุกวิถีทาง ที่จะทำได้ ทั้ง ให้เพื่อนๆ ข่วยรีพอท ทั้งนั่งรีพอทเอง โดยที่ผมก็ทำตัวปกติ กับเค้าตลอดเวลาเจอกัน ผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุดครัง้มีข้อความ ที่เค้าทักไปคุยกับใคร หรือใครทักมา ผม ทั้งเสียใจทั้ง จิตตก ทั้งฟูมฟาย ผมนั่งร้องไห้ กับเพื่อนๆ ทุกคนที่รู้และเพื่อนๆในกลุ่ม อ.สอนไปผมนั่งหลังห้อง ก็นั่งร้องไห้ในห้องเรียน ทั้งเดินออกไป ร้องไห้ที่ห้องน้ำบ้าง ทั้งเดินออกไปสงบ อารมณ์ ที่ข้างนอกห้องบ้าง ทั้งวันมีความแต่กังวล ทีกลัวเค้าจะรู้ว่า ผมรู้ทุกอย่างแล้ว แต่ผมรักเค้ามาก จนเรียกว่าผมทน เลิกกับเค้าไม่ได้ ขนาดเค้าทำกับผมขนาดนี้ จนเพื่อนๆ บอกให้ผมพอเถอะ และบอกความจริงกับเค้าไปตรงๆ เพราะเพื่อนอยู่ ในเหตุการณ์และรับรู้ทุกอย่าง พวกเค้าสงสารผมมาก ได้แต่ให้กำลังใจและช่วยเท่าที่สามารถข่วยได้ ผมใช้ชีวิตแบบนี้มา เกือบๆ 3 เดือน ที่ทั้งทรมาน ทั้งซึมเคร้า ส่วนเค้าก็มีความสุขอยู่ในโลกอีกใบของเค้า โดยที่เค้าไม่มีวี่แวว ที่รู้สึดผิดต่อผม ผมเจอ้เหตุการณ์ ต่างๆ มากมาย ผม ตามไปสืม แอบตามเค้า ผมทำถึงขนาดที่ว่า แอบตามเค้าไป ตามทีเค้าพิมนัดแนะ กันในทวิตเตอร์ และบังเอิญ มีเหตุการณ์ อยู่วันนึง ผมกับเค้า มีเรียน ตอนบ่ายโมง เหมือนกัน เราเลยแยกกันไปเรียน บังเอิญ ว่าตึกเรียน เราอยู่ไม่ห่างกันมาก ทำให้ผมคิด ว่าเลิกแล้วค่อยเดินมาเจอกัน ผมจึงแยกย้ายกันไปเรียน ปรากฏในช่วงโมงเรียน ผมเห็นมีข้อความแจ้งเตือน จากทวิตเตอร์ ของ เค้า ที่มีข้อความ "ว่า เลิกเรียนหรือยัง ว่างไหม มาเจอกันที่ หอสมุด ไหม" เค้าคุยกับคนนี้เมื่อคื่น  ทำให้เฝ้ารอโอกาส ที่จะตามไปจับ และก็มีข้อความมาพอดี ซึ่งคนนี่ ในทวิตเตอร์ อยู่มอเดียวกับเรา ทำให้ผม รีบทักไปหาเค้า ว่า แกเลิกกี่โมง (แฟนของผม) ในเฟสบุ๊ค เค้าอ่านแล้วตอบกลับผมมา ว่า กำลังจะเลิกแล้ว เนื่องจากวันนี้เค้าปล่อยเร็ว และนั้นวินาที ห้องเรียนที่ผม เรียนอยู่ มันขนานกับ ถนน ที่เค้าต้องเดินผ่านไปห้องสมุด ซึ่งผม มองลงไป เห็น เค้ากำลังจะเดินไปหอสมุดพอดี วินาทีน้นผม ทั้งตกใจและทำอะไรไม่ถูก เพราะเค้าโกหกผม เพื่อจะไปหา กับคนคนนึงในทวิตเตอร์ และผมเลยสลับไป ที่ทวิตเตอร์ ทำให้ผม เห็นประโยคที่เค้ากำลังคุยกันทั้งหมด โดยที่เค้าก็สลับไปมา คุยกับผมไปด้วย ผมรีบตั้งสติ รีบขว้า กระเป๋า และฝากบอกเพือน ว่าเดวผมมา ผมจะไปเปิดโป้งและ อยากจับให้ได้จังๆ แล้วรีบลงบันใดมา มา 6 ชั้น และเดินตามสะกดรอยตามเค้าไป  เค้าก็พิม ตอบกับคนนั้นไปมา ว่าเจอ กันที่ไหน เค้านัดเจอกันที่ห้องน้ำของหอสมุด ผมอ่านตามในทวิต .... ประโยคที่เค้าคุยกันไปเรื่อยๆ โดยทิ้งระยะห่างในการตามเนื้องจากกลัวเค้ารู้ว่าผมตาม แล้วเค้าจะไหวตัวทัน ทำแผนการล่ม ผมเดินตามเค้าไผเรือยๆ จนใกล้ถึงหอสมุด โดยที่ทั้งโกรธทั้งเสียใจ ทั้งเหนื่อย ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ผมเดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงชาวงนึงของทางเดิน ที่เป็นลานโล่ง ซึง ถ้าเค้าหันมาจะเห็นผม ผมจึงชะลอ ให้เค้าเดินไผก่อน เพราะกลัวเค้ารู้ว่าผม ตามเค้ามา และผมเป็นคนสายตาสั้น จึงทำให้ผม พลากกับเค้าช่วงนึง แต่ผมแน่ในว่า เค้าเข้าประตู อีกด้านนึง ผมจึงตามไป ปรากฏ คลาด กับไปช่วงนั้น ทำให้ ผม เดินขึ้นทางบันใด อย่างไม่ระมัดระวัง เพราะกลัวจะตามไม่ทัน ผมจึงอาศัยเดิน ตามรูปใน ทวิต ที่เค้าส่งกันไปมา ในแชท ปรากฏว่า ผม โพล่ออกมา จากชั้น 4 หน้าลิฟท์โดยที่ไม่ทัน สังเกตเห็นเค้า จึงประจันหน้ากับเค้า ทำให้ เห็นผมเพราะเค้านังอยู่ ที่โต๊ะ ที่หน้าลิฟท์ เพื่อรอคนที่นัดกันในทวิต ทำให้เค้า ตกใจ ว่า ผมมาได้ยังไง และเกิดอาการ ร้อนลน อย่างสังเกตได้ โดยผมมีสติและผมจึงบอกไปว่า ผมมาหานส เนื่องจาก อ.สั่งแล้ว ผมลืมเลยต้องรีบมายืม แต่จรืงๆ ผมตามเค้ามา ทำให้เค้าตกใจอย่างมาก และผมบอกว่า ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ เค้าบอกพึ่งจะเดินมาถึง ผมเลยไม่ได้เซ้าซีไรมาก เนื่องจากผมกลัวเค้าไหวตัวทัน ผมจึงรีบบอกเค้าไปว่า เดวผมไปหา นส เดวเจอกันหลังเลิกผมรีบ เพื่อจะได้เดิน ออกมาจากตรงนั้น เค้าเกิดอาการร้านลน และเดินตามผมมา บอกจะช่วยหา และเค้าเดินเยื้องๆ กับผม และรีบพิมพ์ในทวิตเตอร์ ว่า ตอนนี้ไม่มะดวกแล้ว เพราะเจอเพื่อนที่หอสมีด (ใช่ครับ เค้าแทนผมว่าเพื่อน) ผมเห็นทุกอย่างที่เค้าพิม ป่านมือถือผม เพระาผมดูอยู่ และทำเป็นดูอย่างอื่น และเค้าเดินตามหลังผมมา  เดี๋ยวมาต่อนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่