“สะบายดี หลวงพระบาง”

เมืองมรดกโลกยอดฮิต ที่ห้อมล้อมไปด้วยวิวภูเขาน้อยใหญ่มีแม่น้ำคานและแม่น้ำโขงไหลมาบรรจบกัน วัดวาอารามกับอาคารเก่าแก่สไตล์โคโลเนียลผสมเรือนไม้แบบลาว ที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้อย่างดี กับวิถีชีวิตที่ยังคงเดิม เรียบง่ายแบบที่ไม่ต้องปรุงแต่งใดใดเพิ่ม


เฮ้ยยยย!!
หลวงพระบางมันคูลลลกว่าที่คิด หลังจากไปใช้ชีวิตแบบ Slow life ตื่นเช้า กินแหลก ชิลหนัก นอนดึก อยู่ที่หลวงพระบางหลายวัน วันนี้!!! เราได้รวบรวบกิจกรรม 10 อย่าง ที่ 

ห้าม! พลาด! เด็ด! ขาด!! 
หากใครมาเยือนหลวงพระบาง ไม่ทำ… เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึงนะ


*Tips
- คำนวนค่าเงินง่ายๆ คร่าวๆ ตัด 0 ออก 3 ตัว แล้วคูนด้วย 4 จะเท่ากับเงินไทย
เช่น 10,000 กีบ จะได้ 10×4 = 40 บาท

- กำเงินไทยไปแลกที่สนามบินได้เลย ในเมืองหลวงพระบางก็มีให้แลก เรทใกล้เคียง เงินไทยก็ใช้ได้  อาจจะจ่ายถูกหรือแพงกว่า
เช่น เข้าห้องน้ำ 2,000 กีบ(8บาท) ถ้าจ่ายเงินไทย 10 บาท

- ซื้อซิมได้ที่สนามบินเลย มีหลายค่าย แบบ 3 วัน 5 วัน 7 วัน ก็แล้วแต่ ฮิตๆ คนมุงเยอะๆ ก็ของ laos telecom

- แท็กซี่เข้าเมืองก็คือรถตู้ มา 2 คนคิด 50,000 กีบ มา 3 คนก็คิด 50,000 กีบ ไม่ได้เหมาด้วย นั่งรวมกับผู้โดยสารคนอื่น
สรุปไปหลายคน ตัวหารเยอะ คุ้มกว่า!!!!


ชอบการเดินทางแบบนี้ ไปลุยๆ กับพวกเราได้ที่
https://www.facebook.com/ThoughtitFriday/

---

01 ใส่บาตรข้าวเหนียว
▼
▼
▼

กิจกรรมที่ใครมาก็เที่ยวหลวงพระบางก็ต้องมาใส่บาตรข้าวเหนียว โดยในทุกๆ เช้า พระสงฆ์หลายร้อยรูปจากทั่วทุกวันในหลวงพระบางจะออกมาบิณฑบาตตามท้องถนน ชาวลาวที่มารอใส่บาตรจะแต่งกายเรียบร้อย นุ่งซิ่น พาดสะไบกันแทบทุกคน จุดที่นัดท่องเที่ยวนิยมมาใส่บาตรและถ่ายรูปกันเยอะ จะอยู่ตรงหน้าวัดสีบุญเฮือง


ข้อควรระวัง
สำหรับใครไม่ได้นำข้าวเหนียวมา จะมีแม่ค้ามาขายข้าวเหนียว พร้อมเสื่อที่นั่ง มีสะไบเล็กๆ ให้พาดที่ไหล่ด้วย คุยตกลงราคากันก่อน ไม่งั้นจะมีแม่ค้ามาเนียนๆ ยัดเยียดข้าวเหนียวเพิ่ม เรากะเพื่อนยังไม่ทันนั่งบนเสื่อเลย แม่ค้าอีกคนก็เอาข้าวเหนียวมาวางเพิ่มอีก 2 กระติบ รวม 4 กระติบ แล้วบอกเราว่า 100,000 กีบ!!!  บอกไปเลย ไม่เอาค่ะ เอาแค่ 2 พอค่ะป้า!!!!!

02 เดินตลาดเช้า
▼
▼
▼


การเดินตลาดเช้าเป็นสิ่งหนึ่งที่เราชอบมากหลังจากใส่บาตรข้าวเหนียวเสร็จ หลวงพระบางไม่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่นี่จึงแหล่งชอปปิ้งยามเช้าของคนท้องถิ่น ที่ขาย อาหาร พืชผัก ผลไม้ ข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนเนื้อสัตว์ต่างๆ สัตว์หน้าตาแปลกๆ ก็มี บ้างก็ตั้งโต๊ะ บ้างก็ใช้ใบตองปูพื้นวางขายสินค้า ใครที่อยากเห็นวิถีชีวิตของคนที่นี่แนะนำว่าต้องมาค่ะ

ตลาดเช้าจะอยู่ใกล้กับไปรษณีย์ เป็นซอยเล็กๆ ไปจนถึงกำแพงหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง เปิดตั้งแต่ 05.30 จนถึงช่วงสายๆ ของทุกวันค่ะ ใครที่ปั่นจักรยานมาดูที่จอดดีดีนะคะ บางจุดจอดฟรี บางจุดก็คิดเงินค่ะ

03 ชมวิวจากยอดพูสี
▼
▼
▼


“มาถึงหลวงพระบางทั้งที หากไม่ได้ขึ้นยอดพูสี
ก็เหมือนยังมาไม่ถึงหลวงพระบางอย่างแท้จริง” 

โอ้ยยย …
ก็เกือบไม่ได้ขึ้นยอดพูสีแล้วมั้ยละ เพราะฝนตกทุกวันเลย วิวพระอาทิตย์ตกที่อยากมาดูก็ไม่มีทางได้เห็น ฮือออ!


เราเดินขึ้นบันไดจากตลาดมืดไปแค่ 328 ขั้น เสียค่าเข้า 20,000 กีบ ก็จะเจอวิวแบบ 360 องศาที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง นอกจากนั้นด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุพูสี พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบางอีกด้วย

04 เที่ยววัดในเขตเมืองมรดกโลก
▼
▼
▼

เนื่องจากเคยเป็นราชธานีเก่าแห่งอาณาจักรล้านช้าง (เป็นพี่น้องใกล้ชิดกับอาณาจักรล้านนา) วัดวาอาราม วัฒนธรรม อาหารการกินในหลวงพระบาง จึงคล้ายคลึงกับเชียงใหม่บ้านเรา


ตัวเมืองชั้นในของหลวงพระบางคือเขตเมืองมรดกโลก ที่มีวัดเยอะมาก เดินเที่ยวทั้งวันก็คงไม่หมด ไฮไลต์วัดดังๆ ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ก็มี วัดแสนสุขาราม วัดใหม่สุวันนะพูมาราม หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง วัดที่เป็นที่นิยมและรู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยมากที่สุดเลยก็คือ “วัดเซียงทองราซวรวิหาร” ถูกยกย่องว่าเป็นอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว

วัดไหนที่ดังๆ หน่อย ก็จะเสียค่าเข้าประมาณ 20,000 กีบ บางวัดก็ฟรี เข้าชมได้เลย อย่าลืมเที่ยววัดควรแต่งกายให้เรียบร้อย ใครนุ่งสั่นก็เช่าผ้าถุงก่อนเข้าไปราคา 5,000 กีบ

05 น้ำตกตาดกวางซี
▼
▼
▼

นั่งรถออกจากหลวงพระบางไป 30 กิโลเมตร เราจะเจอกับน้ำตกสีฟ้ามรกตที่สวยงามและโด่งดังที่สุดในหลวงพระบาง จะเหมารถสองแถว หรือจะซื้อทัวร์จากบริษัททัวร์ หรือโรงแรมที่พักไปก็ได้ แต่จะเป็นในลักษณะไปกับนักท่องเที่ยวคนอื่น โดยเราติดต่อซื้อทัวร์จากที่พักไปในราคาคนละ 50,000 กีบ จะมีรถตู้มารับเราถึงที่พัก จากนั้นคนขับรถตู้จะเก็บเงินค่าเข้าน้ำตกเพิ่มอีกคนละ 20,000 กีบ


เมื่อไปถึงน้ำตกเราจะเจอกับหมีก่อน หมีที่ว่าก็คือศูนย์ช่วยเหลือหมี เข้าชมฟรี เดินขึ้นไปเรื่อยๆ จะมีจุดให้เล่นน้ำประมาณ 3-4 จุด เราไม่ได้เล่นน้ำเนอะก็เดินไปดูฝรั่งใส่บิกีนี่ เซ็กซี่ๆ กล้ามท้องอะไรประมาณนี้ 


จุดที่สวยที่สุดของน้ำตกจะอยู่ชั้นบนสุด แต่จุดนี้จะไม่อนุญาตให้เล่นน้ำ

06 ตระเวนกินเมนูเด็ด
▼
▼
▼
นอกจากการงานเที่ยวแล้วงานกินก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราชอบมากเช่นกัน กินร้านนู้น เข้าร้านนี้ไม่มีโอกาสให้กระเพาะอาหารได้หิวเลย

อาหารลาวก็จะหน้าตาคล้ายๆ อาหารภาคอีสาน ภาคเหนือบ้านเรา แต่รสชาติก็ไม่เหมือนกันซะเลยทีเดียว อย่างร้านส้มตำในซอยแถวตลาดมืด อร่อยจนเราไปกินถึง 2 ครั้ง สั่งตำหลวงพระบาง ทานคู่กับปลาย่าง ซี่โครงที่ย่างจนกรอบ ขาดไม่ได้คือข้าวเหนียว เผ็ดมากเผ็ดน้อยสั่งได้ แซ่บอย่าบอกใคร

ตำหลวงพระบาง ตำลาว เฝอ ข้าวซอย ไคแผ่นทอด แจ่วบอง บาแกตต์ กาแฟลาว ลาบ สลัดหลวงพระบาง สุกี้แบบลาว ล้วนเป็นอาหารยอดฮิตที่ควรมาลองชิมอย่างยิ่ง เดี๋ยวเราจะมาเล่าต่อใน part ต่อไปนะคะ จะมีทั้งหมด 11 เมนูด้วยกัน 

07 เช็คอินคาเฟ่เกร๋ๆ
▼
▼
▼

ไม่ยักจะรู้ว่าหลวงพระบางมีคาเฟ่เยอะมากมายขนาดนี้ คาเฟ่ลาวสไตล์โคโลเนียลที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามมีเอกลักษณ์ บางร้านก็เปิดเป็นเบอร์เกอร์รี่สไตล์ฝรั่งเศษ บ้างก็เปิดเป็นเกสเฮาท์ด้วย

วันนี้คงต้องนั่งซัก 3-4 ร้านถึงจะครบทุกคาเฟ่ละมั้งนี่ก็พยายามนั่งให้ครบทุกร้าน กินกันจนเลือดจะกลายเป็นกาแฟก็ไม่ครบซักที แต่กว่าจะกินครบทุกร้าน เงินคงหมดซะก่อน เพราะราคากาแฟที่นี่ค่อนข้างสูงอยู่นะ กินไปกินมา เอ้า ..กระเป๋าฉีกซะแล้ว


ราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ 25,000 ต่อแก้ว ราวๆ 80 กว่าบาท
ร้านที่เราเห็นละว่ากาแฟถูกที่สุดคือ ร้านกาแฟดาวค่ะ ไกลออกจากตัวหลวงพระบางนิดนึง ราคาประมาณ 18,000 กีบต่อแก้ว

08 เดินตลาดมืด
▼
▼
▼


หลังจากตะวันลับของฟ้า ถนนข้างพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบางเส้นนี้ ก็สว่างไสวขึ้นจากแผงค้าหลังคาแดงๆ น้ำเงินๆ คลุมด้วยพลาสติกสีขาวสำหรับกันฝนอีกที ผู้คนหลั่งไหลทะยอยมาจับจ่ายสินค้าของฝากติดไม้ติดมือ ทั้งงาน handmade ต่างๆ ผ้าซิ่น กระเป๋า เสื้อยืดสกรีนภาษาลาว ภาพวาด งู ตะขาบ แมงป่องดองก็มี อารมณ์คล้ายๆ ถนนคนเดินเชียงใหม่ หรือ ถนนคนเดินเชียงคาน บ้านเรา


สินค้าแต่ละร้านก็จะหน้าตาคล้ายๆ กันเกือบทุกร้าน อยู่ที่ว่าจะต่อราคาได้มากหรือน้อย เคยมั้ยซื้อร้านนี้แล้วก็ไปถามราคาอีกร้านให้เจ็บใจเล่นๆ

09 นั่งบาร์ จิบเบียร์
▼
▼
▼

Night life หลวงพระบางยามค่ำคืน
เป็นอีก 1 กิจกกรรมที่อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัสกันค่ะ ร้าน Tangor ที่เรามาลองนั่ง เราเดินผ่านไปผ่านมาหลายรอบ หน้าร้านมีต้นไม้ออกดอกสีชมพูเต็มต้น ใครผ่านไปผ่านมาก็อดที่จะเหลียวมองหรือแวะถ่ายรูปไม่ได้


ร้าน Tangor อยู่บนถนนเส้นเดียวกับตลาดมืดเลย พนักงานในร้านส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งสาว ให้การต้อนรับอย่างดี ชอบมากที่สุดคือเก้าอี้ที่นั่งตรงหน้าร้าน จะหันที่นั่งออกไปทางถนน จิบเบียร์ ฟังเพลง มองวิวผู้คนไปด้วยในเวลาเดียวกัน ไม่มีอะไรจะชิลกว่านี้แล้ว


สั่งเบียร์ลาวขวดเล็ก ราคาจะอยู่ที่ 15,000 กีบ (ร้านค้าธรรมดา 8,000 กีบ) Hoegaarden ราคาอยู่ที่ 40,000 กีบ 

10 ลองชิมเบียร์ลาว
▼
▼
▼


มาถึงข้อสุดท้ายแล้ว ข้อนี้ไม่ทำไม่ได้จริงๆ ค่ะ เบียร์ลาวที่เค้าล่ำลือที่ใครๆ ต่างก็บอกว่าต้องมาชิมให้ได้นั้น มันรสชาติดีสมคำล่ำลือจริงๆ (แต่เพื่อนอีกคนบอกไม่อร่อย) ขวดนี้แวะซื้อจากร้านค้าแถวที่พัก ราคาถูกมาก 8,000 กีบเอง