
เราได้ยินความงามของความเป็นลาว ทั้งภูมิประเทศ ผู้คน บ้านเมือง สถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามมานานมากๆและนี่คือรีวิวการเดินทางฉบับย่อของทริปลาวของเราในครั้งนี้
เพราะความตื่นเต้นมันเริ่มต้นตั้งแต่เราวางแผน ออกเดินทาง เอ้ย ! แก เรา สาม คน ลาว สาม เอ้ย ! แก แปด วัน แปด พัน เราไปได้
เรารวมความมันส์ ความสนุก ของทริปลาวตลอดการเดินทางพร้อมกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้ที่นี่ เราเริ่มการเดินทางโดยไม่มีกำหนดการอยู่ที่นี่ ไม่มีการจองที่พัก มีแต่กำหนดว่าต้องกลับไปให้ทันทำงานน่ะ และเรามีสมาชิกทั้งหมด 5 คน แต่ เอ๊ะ ! ไปๆมาๆ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย เอ้ย ! แก เหลือ 3 คน โอ้ยยยยย มาลุ้นกัน ว่าเราจะไปที่นี่ยังไงกันต่อ ...
วันที่ 1 เราเริ่มเดินทางจาก จ.เพชรบุรี โดยมีเงินติดกระเป๋า 8,000 บาทถ้วน ราคาค่ารถจากเพชรบุรีไปที่กรุงเทพสถานีหมอชิต 140 บาท เรานั่งรถจากเพชรบุรีเวลา 16.00 น. และไปถึงที่สถานีหมอชิตตอนเย็นๆ ประมาณ 18.00 น. เราก็รีบทำการหารถทัวร์ไป จ.อุดรธานี โดยมาที่อาคารโดยสารขึ้นลิฟท์มา น้องๆไปไหนกัน อ่อไปอุดรค่ะ อ่อซื้อตั๋วเลยจ่ะ เอ้ยยยย คือไร งง แต่ก็จ่ายตังน่ะ 555 เราซื้อตั๋วรถทัวร์กันแบบงงๆ ในราคา 350 บาท ระหว่างรอเวลา เราก็ไปหาขนมทานกัน รถของเราจะออกจากที่นี่ประมาณ 19.30 น. ไปถึงที่ อุดรก็ 06.00 น. เราไปทำธุระส่วนตัว ทานอาหารเช้า และซื้อตั๋วรถบัสเพื่อไปเวียงจันทน์ ในราคาเพียง 80 บาท รถของเราจะออกจากที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอุดรธานีเวลา 08.00 น.
09.30 น. เราได้ทำการนั่งรถข้ามมาที่ด่าน เราเขียนใบ ตม. และทำเรื่องผ่านแดน ทำการจ่ายค่าผ่านแดน 5 บาท และนำเงินสดที่พกมาแลกเป็นเงินกีบ จำนวน 5,000 บาท ตอนนั้นเป็นเง้นลาวประมาณ หนึ่งล้านหกแสนบาท โอ้ย ! รวยค่ะ 555 รามาดูกันซิ ว่าเงินจำนวนนี้จะอยู่ได้กี่วัน

ว่าด้วยการลงจากรถแวปแรกที่สถานีขนส่ง มีผู้คนมากมายทั้งนักท่องเที่ยว และคนขายทัวร์ เช่ารถ เรามากันแบบไม่ค่อยมีข้อมูล จึงหลีกเลี่ยงการพบปะมากๆ จึงเดินข้ามถนนมาอีกฝั่งเพื่อทำการเปลี่ยนซิมเป็นซิมลาว เราใช้ซิมแบบ 7 วันน่ะ เราก็ไม่รู้ไงว่าจะอยู่กี่วัน เลยเอาเก็บๆไว้ก่อน ในราคา 35,000 กีบ แล้วเซิร์ชหาที่พักที่เที่ยวกัน

12.00 น. เราเดินกันมาค่อนข้างไกล สอบถามที่พักก็หลายที่ เราไม่ค่อยพอใจกับราคาเท่าไหร่และบางที่ก็เต็ม เราจึงถือโอกาสนี้เดินเล่นไปเรื่อยๆก่อน จนถึงที่พัก ซึ่งชื่ออะไรก็ไม่รู้เราลืม 555 แต่ว่าราคาโอเคนะ 180,000 กีบ หาร 3 คน ต่อคืน และที่นี่มีจักรยานให้เช่าด้วยเราเช่าจักรยาน 2 คัน ราคา 20,000 บาท หาร 3 คนน่ะ ตอนนี้ก็บ่ายแล้วเราจึงไปหาของกินกัน เราเจอร้านเฝอแซ่บ เลยจัดมา 2 ชาม ราคา 49,000 กีบ หาร 3 คน แล้วเราก็ปั่นจักรยานกันเล่นต่อไปที่ เจดีย์ดำ

มาปั่นวนๆเล่นที่นี่สักรอบสองรอบ แล้วไปกันต่อที่ประตูไช


ประตูไชที่นี่สวยมากๆ มีความยิ่งใหญ่อลังการ ถ้าหากใครมาเวียงจันทน์แล้วไม่ได้ขึ้นมาบนนี้ ถือว่าพลาดสุดๆ เมื่อเราชมความงามของเมืองลาวจากมุมสูงเสร็จเราก็ไปกันต่อที่วัดพระธาตุทอง ราคาค่าเข้าอยู่ที่คนละ 10,000 กีบ

เรามาถึงที่นี่ก็ค่อนข้างบ่ายแก่ๆจึงจะเดินทางไปทางแม่น้ำโขง แต่ระหว่างทางผ่านเราเจอที่นี่ค่ะ พิพิธภัณฑ์สงครามโลก ค่าเข้าที่นี่ 3 คน รถ 2 คันเขาคิด 4,000 กีบเอง

หลังจากที่นี่เราก็มาชิวริมโขงกัน การขี่รถจักรยานทาทงที่นี่คือ ปวดตูดมากๆ เพราะเป็นทาทงลูกรัง ดินแดงๆ แฉะๆหลังจากที่ฝนตกลงมา แต่บรรยากาศนี่ดีสุดๆไปเลย

เมื่อเรานั่งชิวแล้วก็เกิดความหิว จึงหาร้านอาหารนั่งที่ริมฝั่งโขง เราหมดไปกับค่าอาหารมื้อนี้ 169,000 กีบ หาร 3 คน เราเราก็มาต่อกันที่ตลาดมืดริมแม่น้ำโขงที่มีความยาว ความกว้าง ความใหญ่ มีร้านค้ามากมายให้เราได้เลือกสรรทุกๆอย่าง หลังจากนั้นแล้วเราก็เดินทางกลับที่พักกัน

เช้าวันต่อมาเราทำการเช็คเอ้าท์ที่พัก แล้วเดินมาต่อรถกันที่ขนส่ง แต่ระหว่างทางเราขอแวะวัดศรีสะเกดนิดหนึ่ง ราคาค่าเข้าที่นี่ 10,000 ต่อคน

หลังจากที่นี่เราก็มาหรถเพื่อไปกันต่อที่วีงเวียง เรามาดูรถ แล้วได้รถรอบ 10.30 น. ราคาคนละ 80,000 กีบ ตอนนี้เวลาเหลือและหิวมากๆเราึงเดินหาอะไรกินแถวๆนั้น จนได้ร้านนี้ ซึ่งเป็นเฝอ ข้าวเปียก ขนมปังที่อร่อยสุดๆ อร่อยมากๆจริงๆน่ะ ถ้าคราวหน้าได้มีโอกาสมาอีกก็จะมากินร้านนี้แน่นอน อ่อ มื้อนี้เราหมดไป 60,000 กีบ หาร 3 ด้วยนะ
เราขอบอกเลยว่า เวียงจันทน์ไม่ใช่แค่เมืองทางผ่าน แต่เวียงจันทน์มันส์จุง ต้องมา !

10.30 น. ถึงเวลาออกเดินทาง เราเดินทางโดยรสบัส พี่เขาบอกว่า 3-4 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว โอเคค่ะ หลับได้

13.00 น. ได้เวลารถจอกแวะพักทานอาหารกัน คือเรานอนมากเลยไม่ค่อยหิวอะไร อากาสก็ดี ฝนตกปรอยๆตลอดทางยิ่งหลับสบายเข้าไปอีก เราจึงซื้อขนม ข้าวจี่ หมูปิ้งกินเพียงเล็กน้อย
16.00 น. เราก็เดินทางมาถึงวังเวียง เอ๊ะ ! ไหนว่าไม่นานนนนน 555 จ่ะ ไม่นานเลย พอมาถึงทีนี่ก็จะมีรถสองแถวพาเรามาส่งต่อรถจากที่สถานีขนส่งมาในเมืองวังเวียงฟรีน่ะ ดี๊ดีย์ พอมาลงรถปุ๊บ โอเค หาที่พักได้ เราค้นหาที่พักกันพอสมควร เลยได้ที่นี่ จำปาลาว ที่พักราคา 540,000 กีบต่อคืน หาร 3 น่ะ เราพักที่นี่ 2 คืน โอเคกะว่าจะเที่ยวให้ทั่ว แล้วเก็บบรรยากาศให้ได้มากที่สุด

เมื่อเราเอาของเก็บที่พักก็เดินเล่น หาของกินและจะเช่ารถมอเตอร์ไซด์กันแต่ด้วยความเมื่อยล้าเราจึงเดินไปเดินมา จึงได้ไปซื้อทัวร์ ในราคาคนละ 120,000 กีบ แถมจักรยาน 1 คัน เย่ๆ ได้จักรยานฟรี หลังจากนั้นเราก็ปั่นจักรยานเล่นกันไปที่ถ้ำจัง ระหว่างทางก็ได้เจอกับสะพานส้ม

เรานั่งชิวที่นี่แปปเดียว เอ้ย เริ่มเย็นแล้ว รีบเดินไปที่ถ้ำ เดี๋ยวเขาปิดไม่ให้เข้า แล้วก็เป็นเช่นนั้น เราไปไม่ทันถ้ำเพิ่งจะปิดไปเมื่อกี้เอง TT
เราจึงเปลี่ยนแผนมานั่งชิว กันที่ริมแม่น้ำซอง สายฝนโรยริน งือออออ ก็นั่งกินกันตากฝนไปน่ะ

เราสั่งอาหารมาหลายอย่างอยู่ หมดไป 205,000 กีบ หาร 3 คน แล้วก่อนกลับเราก็ไปซื้อหมวก ซื้อกระเป๋า ซื้อนม ซื้อน้ำ ซื้อขนม เก็บไว้กินด้วย ท่ามกลางสายฝนที่ลงมาอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่ตอนเย็น สมควรที่เราจะเข้านอนเพื่อที่จะเก็บแรงไว้ไปทำกิจกรรมวันพรุ่งนี้กัน
08.00 น. เราเดินมากันที่ร้านขายทัวร์เพื่อมาขึ้นรถ ที่นี่มีตลาดเช้าด้วย แต่ฝนตกหนักมากตลาดจึงวายไป เรามากินอาหารเช้ากัน นั่นคือเฝอ ราคา 30,000 กีบ หาร 3 คน

09.00 น. เราได้ทำการขึ้นรถแล้วออกเดินทางไปกัน โอ้วววววว โห๋ นี่คือบรรยากาศข้างทาง ดีงามมมม
สถานที่แรกที่เรามาคือถ้ำช้าง มาไหว้พระขอพร

และเห็นอะไรนั่นไหม หินรูปช้าง
มาค่ะ แล้วเราก็เดินกันต่อเพื่อไปที่ถ้ำน้ำ

การเดินทางเพื่อไปที่ถ้ำน้ำต้องผ่านหมู่บ้าน แล้วเดินไปตามคันนาเรื่อยๆระยะทางไม่ไกลมาก หรือไกลก็ไม่รู้แต่วิวสวยจนลืมเวลาเลยละค่ะ เมื่อเรามาถึงถ้ำน้ำก็มากินอาหารกลางวันกัน แล้วไปทำกิจกรรมกันต่อ นั่นคือการนั่ห่วงยางเข้าถ้ำ โดยทุกคนจะมีอาวุธติดต่อคือไฟฉาย ห่วงยาง ชูชีพ แล้วก็นั่งกันแบบนี้เข้าไปในถ้ำเรียงๆต่อกัน

เมื่อเราลอยๆเข้าไปเรื่อยๆถ้ำก็มืดลงเรื่อยๆ แต่ไม่น่ากลัวนะคนเยอะ ครึกครื้นนนนน กันเกินไปแล้วววว

ก็มีนอนหงาย นอนคว่ำ สาวเชือก บางที่ก็มีลุกเดินเล่นกันเป็นช่วงๆ และพี่ๆไกค์ก็บอกให้เราปิดไฟ 555 เงียบกันกริ๊บเลย
ภายในถ้ำที่นี่ สวยงามและยาวมากๆ ถ้าใครอยากเข้าถ้ำแต่ขี้เกียจเดินก็ลองมาลอยๆเล่นๆที่ถ้ำน้ำกันได้นะคะ
เมื่อเราออกมาจากถ้ำน้ำภาระกิจต่อไปขิงเราก็คือการพายเรือคายักล่องแม่น้ำซอง

แก้งค์เรามันก็จะประมาณนี้นะคะ
เอ้า ป่ะ เริ่มพาย

เราพายกันไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พักน้ำพัดเราไป แต่ในบางช่วงน้ำแรงมากๆก็ต้องระวังเรือล่มกันหน่อยนะคะ ที่เราไปนี่ล่มต่อหน้าหลายลำเลย บางลำก็เข้าไปติดที่พุ่มไม้ข้างๆ
การพายคายักที่นี่สนุกมาก ในระยะทาง 5 กิโลเมตร คือชมวิวน้ำ วิวเขาสองข้างทางไปก็จบระยะทางแล้ว ต่อมาสุดท้ายในการทัวร์ครั้งนี้คือบลูลากูน ที่ลาวมีบลูลากูนตั้ง 5 แห่ง แต่ที่ทัวร์พาเราไป โอเค ใกล้ที่สุด คนเยอะที่สุด น้ำเย็นมากๆเพราะฝนตก จบการรีวิว 555

เราคาดว่าน่ะ บลูลากูนแห่งอื่นคงสวยกว่านี้ คนน้อยกว่านี้ และอาจใหญ่โตกว่านี้ แต่เราไปได้แค่นี้ กลับละนะ
17.00 น. เรากลับมาที่พักแล้วทำการอาน้ำแต่วตัวไปเดินตลาดมือกัน เอ้ยยยยย ฝนพรำ โอเค ไปต่อ == เราไปนั่งสั่นกินหมูกะทะกันให้ฟินสุดไปเลย ค่าหมูกะทะวันนี้ 110,000 กีบ หาร 3 คน

แล้วคืนนี้เราก็ได้พบกับสาวลาวที่ร้านหมูกะทะ ชื่อน้ำฝน น้องชวนไปกินเบียร์ที่ร้านอาหารต่อ เอ้ยยยย เราก็ไป 555 พอเที่ยงคืนเราก็กลับก่อน ปล่อยพี่ๆของเราไว้กับน้อง ไปๆมาๆ เอ้ย พี่เรากลับมาตี 3 ซึ่งพรุ่งนี้เรามีแพลนว่าจะไปผาเงินกันตอนหกโมงเช้า
มาต่อกันที่นี่ค่า
https://pantip.com/topic/38884047
[CR] เรา 3 คน ลาว 3 เมือง เอ้ย ! แก 8 วัน 8 พัน เราไปได้
เพราะความตื่นเต้นมันเริ่มต้นตั้งแต่เราวางแผน ออกเดินทาง เอ้ย ! แก เรา สาม คน ลาว สาม เอ้ย ! แก แปด วัน แปด พัน เราไปได้
เรารวมความมันส์ ความสนุก ของทริปลาวตลอดการเดินทางพร้อมกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้ที่นี่ เราเริ่มการเดินทางโดยไม่มีกำหนดการอยู่ที่นี่ ไม่มีการจองที่พัก มีแต่กำหนดว่าต้องกลับไปให้ทันทำงานน่ะ และเรามีสมาชิกทั้งหมด 5 คน แต่ เอ๊ะ ! ไปๆมาๆ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย เอ้ย ! แก เหลือ 3 คน โอ้ยยยยย มาลุ้นกัน ว่าเราจะไปที่นี่ยังไงกันต่อ ...
วันที่ 1 เราเริ่มเดินทางจาก จ.เพชรบุรี โดยมีเงินติดกระเป๋า 8,000 บาทถ้วน ราคาค่ารถจากเพชรบุรีไปที่กรุงเทพสถานีหมอชิต 140 บาท เรานั่งรถจากเพชรบุรีเวลา 16.00 น. และไปถึงที่สถานีหมอชิตตอนเย็นๆ ประมาณ 18.00 น. เราก็รีบทำการหารถทัวร์ไป จ.อุดรธานี โดยมาที่อาคารโดยสารขึ้นลิฟท์มา น้องๆไปไหนกัน อ่อไปอุดรค่ะ อ่อซื้อตั๋วเลยจ่ะ เอ้ยยยย คือไร งง แต่ก็จ่ายตังน่ะ 555 เราซื้อตั๋วรถทัวร์กันแบบงงๆ ในราคา 350 บาท ระหว่างรอเวลา เราก็ไปหาขนมทานกัน รถของเราจะออกจากที่นี่ประมาณ 19.30 น. ไปถึงที่ อุดรก็ 06.00 น. เราไปทำธุระส่วนตัว ทานอาหารเช้า และซื้อตั๋วรถบัสเพื่อไปเวียงจันทน์ ในราคาเพียง 80 บาท รถของเราจะออกจากที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอุดรธานีเวลา 08.00 น.
09.30 น. เราได้ทำการนั่งรถข้ามมาที่ด่าน เราเขียนใบ ตม. และทำเรื่องผ่านแดน ทำการจ่ายค่าผ่านแดน 5 บาท และนำเงินสดที่พกมาแลกเป็นเงินกีบ จำนวน 5,000 บาท ตอนนั้นเป็นเง้นลาวประมาณ หนึ่งล้านหกแสนบาท โอ้ย ! รวยค่ะ 555 รามาดูกันซิ ว่าเงินจำนวนนี้จะอยู่ได้กี่วัน
เรามาถึงที่นี่ก็ค่อนข้างบ่ายแก่ๆจึงจะเดินทางไปทางแม่น้ำโขง แต่ระหว่างทางผ่านเราเจอที่นี่ค่ะ พิพิธภัณฑ์สงครามโลก ค่าเข้าที่นี่ 3 คน รถ 2 คันเขาคิด 4,000 กีบเอง
เราขอบอกเลยว่า เวียงจันทน์ไม่ใช่แค่เมืองทางผ่าน แต่เวียงจันทน์มันส์จุง ต้องมา !
16.00 น. เราก็เดินทางมาถึงวังเวียง เอ๊ะ ! ไหนว่าไม่นานนนนน 555 จ่ะ ไม่นานเลย พอมาถึงทีนี่ก็จะมีรถสองแถวพาเรามาส่งต่อรถจากที่สถานีขนส่งมาในเมืองวังเวียงฟรีน่ะ ดี๊ดีย์ พอมาลงรถปุ๊บ โอเค หาที่พักได้ เราค้นหาที่พักกันพอสมควร เลยได้ที่นี่ จำปาลาว ที่พักราคา 540,000 กีบต่อคืน หาร 3 น่ะ เราพักที่นี่ 2 คืน โอเคกะว่าจะเที่ยวให้ทั่ว แล้วเก็บบรรยากาศให้ได้มากที่สุด
เราจึงเปลี่ยนแผนมานั่งชิว กันที่ริมแม่น้ำซอง สายฝนโรยริน งือออออ ก็นั่งกินกันตากฝนไปน่ะ
08.00 น. เราเดินมากันที่ร้านขายทัวร์เพื่อมาขึ้นรถ ที่นี่มีตลาดเช้าด้วย แต่ฝนตกหนักมากตลาดจึงวายไป เรามากินอาหารเช้ากัน นั่นคือเฝอ ราคา 30,000 กีบ หาร 3 คน
สถานที่แรกที่เรามาคือถ้ำช้าง มาไหว้พระขอพร
มาค่ะ แล้วเราก็เดินกันต่อเพื่อไปที่ถ้ำน้ำ
ภายในถ้ำที่นี่ สวยงามและยาวมากๆ ถ้าใครอยากเข้าถ้ำแต่ขี้เกียจเดินก็ลองมาลอยๆเล่นๆที่ถ้ำน้ำกันได้นะคะ
เมื่อเราออกมาจากถ้ำน้ำภาระกิจต่อไปขิงเราก็คือการพายเรือคายักล่องแม่น้ำซอง
เอ้า ป่ะ เริ่มพาย
การพายคายักที่นี่สนุกมาก ในระยะทาง 5 กิโลเมตร คือชมวิวน้ำ วิวเขาสองข้างทางไปก็จบระยะทางแล้ว ต่อมาสุดท้ายในการทัวร์ครั้งนี้คือบลูลากูน ที่ลาวมีบลูลากูนตั้ง 5 แห่ง แต่ที่ทัวร์พาเราไป โอเค ใกล้ที่สุด คนเยอะที่สุด น้ำเย็นมากๆเพราะฝนตก จบการรีวิว 555
17.00 น. เรากลับมาที่พักแล้วทำการอาน้ำแต่วตัวไปเดินตลาดมือกัน เอ้ยยยยย ฝนพรำ โอเค ไปต่อ == เราไปนั่งสั่นกินหมูกะทะกันให้ฟินสุดไปเลย ค่าหมูกะทะวันนี้ 110,000 กีบ หาร 3 คน
มาต่อกันที่นี่ค่า https://pantip.com/topic/38884047
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้