เราคบกับเเฟนมาได้ปีกว่า
เริ่มเเรกเค้าเป็น พนง บริษัท
เเต่เมื่อต้นปีนี้ เค้าไปรับงาน ฟรีเเลนซ์ คือรับออกเเบบโลโก้ต่างๆ
จนกระทั่งถึงจุดเปลี่ยนเพื่อนมาให้ออกเเบบโลโก้สถาบันเสริมความงาม
ซึ่งพอมาถึงจุดนี้ เขาเริ่มเงียบหายไป คือจะหักหา หรือโทรหาตอนดึกๆ (เที่ยงคืน ถึง ตี2 ตี 3) เพราะบอกว่า งานออกเเบบมันเหนื่อยมาก เเละ เวลาพักไม่ค่อยมี ซึ่งอันนี้เราก็ทราบดี
ต่อมาประมานเข้าเดือนที่3มีการใหญ่กว่านั้นเกิดขึ้น คือ เข้าจะร่วมหุ้นกับเพื่อน เปิดสถาบันความงานที่ ตจว. ซึ่งมีเค้าเป็นเฮด (คนลงเงิน) เเละ มีเพื่อนเป็นหุ้นส่วน
เรา:เเล้วยังไงต่อ?ทำไมไปเปิดตจว.
เราทำงานอยู่กทม.นะคะ
เขา:ก็มันได้ทำเลที่นั่นเเต่ก็ไม่เป็นไรนะจะอยู่กทม.15วันเเละไปอยู่ตจว.15วัน
ซึ่งเเน่นอนเราไม่โอเคไม่โอเคเลย
เเต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเค้าดูมีความสุข
เเต่ความสุขของเค้าก็เเลกกับความสุขของเรา
เพราะเค้าเริ่มจะ2-3วันติดต่อมาที
บางทีทักเรามาเราก็ตอบเลย
เเต่เขาเหมือนทักเสร็จเเล้วโยนโทรศัพท์โยนทิ้งทะเลไป
มีอยู่ช่วงนึงงานเราเยอะมากเราเครียดมาก
เราก็ทักหาเค้าหวังให้เค้าช่วยปลอบขอกำลังใจ
สำเร็จเค้าเป็นห่วงอยู่2บรรทัดเเล้วก็หายยาว
นี่ก็เข้าวันที่3เเล้วที่ไม่ทักมา
ด้วยความที่ตอนอยู่กทม.เราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่เเล้ว
พอตจว.เรารู้สึกว่ามันยิ่งไกลขึ้นไปอีก
เเล้วเรารู้สึกว่าเราไกลเค้าไปเรื่อยๆเพราะเราไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามเลย
เค้ามักจะบอกว่ากำลังพยายามเพื่ออนาคตนะ
บางทีเราก็คิดว่า...อนาคตใคร
เเม่กับน้องเค้าเราพอเข้าใจ
เค้ามักจะบอกว่ามีอีกคนนึง
เราไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็๋นเราเลย
เพราะเราไม่เคยเรียกรร้องว่าเค้าต้องโหมงานให้มีเงินเเสนเงินล้าน
เค้ามักจะพูดอยู่เสมอว่าบั้นปลายชีวิตของเค้าอยากไปอาศัยอยู่ที่ตจว.
ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ
เเต่ตอนนี้มันต่างกันสิ้นเชิญสิ่งที่เค้าทำมันรายล้อมไปด้วยความศิวิไลซ์
เเล้วใครเหรอที่ต้องการเเบบนั้น
เเต่เพราะเห็นเค้ามีความสุขอยู่กับมัน
เรากลับตัวเล็กลงเรื่อยๆจนกลายเหมือนจุดเล็กๆ
เค้าบอกว่าขออีกปีได้มั้ย?(ก่อนหน้านี้ขอถึง พฤษภา เค้าจะกลับมาใส่ใจเราเหมือนเดิม)
เราไม่ร็ว่าเราจะอดทนได้ถึงปีมั้ย
ใครมีปัญหาเเนวๆเดียวกันบ้างคะเเล้วคุณอดทนมาได้ยังไง
เราเข้าใจความรักไม่ใช่การอดทน
เเต่เราควรจะรู้สึกยังไงดี
ถามสาวๆที่มีเเฟนบ้างาน พวกคุณประคองความรู้สึกกันยังไง
เริ่มเเรกเค้าเป็น พนง บริษัท
เเต่เมื่อต้นปีนี้ เค้าไปรับงาน ฟรีเเลนซ์ คือรับออกเเบบโลโก้ต่างๆ
จนกระทั่งถึงจุดเปลี่ยนเพื่อนมาให้ออกเเบบโลโก้สถาบันเสริมความงาม
ซึ่งพอมาถึงจุดนี้ เขาเริ่มเงียบหายไป คือจะหักหา หรือโทรหาตอนดึกๆ (เที่ยงคืน ถึง ตี2 ตี 3) เพราะบอกว่า งานออกเเบบมันเหนื่อยมาก เเละ เวลาพักไม่ค่อยมี ซึ่งอันนี้เราก็ทราบดี
ต่อมาประมานเข้าเดือนที่3มีการใหญ่กว่านั้นเกิดขึ้น คือ เข้าจะร่วมหุ้นกับเพื่อน เปิดสถาบันความงานที่ ตจว. ซึ่งมีเค้าเป็นเฮด (คนลงเงิน) เเละ มีเพื่อนเป็นหุ้นส่วน
เรา:เเล้วยังไงต่อ?ทำไมไปเปิดตจว.
เราทำงานอยู่กทม.นะคะ
เขา:ก็มันได้ทำเลที่นั่นเเต่ก็ไม่เป็นไรนะจะอยู่กทม.15วันเเละไปอยู่ตจว.15วัน
ซึ่งเเน่นอนเราไม่โอเคไม่โอเคเลย
เเต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเค้าดูมีความสุข
เเต่ความสุขของเค้าก็เเลกกับความสุขของเรา
เพราะเค้าเริ่มจะ2-3วันติดต่อมาที
บางทีทักเรามาเราก็ตอบเลย
เเต่เขาเหมือนทักเสร็จเเล้วโยนโทรศัพท์โยนทิ้งทะเลไป
มีอยู่ช่วงนึงงานเราเยอะมากเราเครียดมาก
เราก็ทักหาเค้าหวังให้เค้าช่วยปลอบขอกำลังใจ
สำเร็จเค้าเป็นห่วงอยู่2บรรทัดเเล้วก็หายยาว
นี่ก็เข้าวันที่3เเล้วที่ไม่ทักมา
ด้วยความที่ตอนอยู่กทม.เราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่เเล้ว
พอตจว.เรารู้สึกว่ามันยิ่งไกลขึ้นไปอีก
เเล้วเรารู้สึกว่าเราไกลเค้าไปเรื่อยๆเพราะเราไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามเลย
เค้ามักจะบอกว่ากำลังพยายามเพื่ออนาคตนะ
บางทีเราก็คิดว่า...อนาคตใคร
เเม่กับน้องเค้าเราพอเข้าใจ
เค้ามักจะบอกว่ามีอีกคนนึง
เราไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็๋นเราเลย
เพราะเราไม่เคยเรียกรร้องว่าเค้าต้องโหมงานให้มีเงินเเสนเงินล้าน
เค้ามักจะพูดอยู่เสมอว่าบั้นปลายชีวิตของเค้าอยากไปอาศัยอยู่ที่ตจว.
ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ
เเต่ตอนนี้มันต่างกันสิ้นเชิญสิ่งที่เค้าทำมันรายล้อมไปด้วยความศิวิไลซ์
เเล้วใครเหรอที่ต้องการเเบบนั้น
เเต่เพราะเห็นเค้ามีความสุขอยู่กับมัน
เรากลับตัวเล็กลงเรื่อยๆจนกลายเหมือนจุดเล็กๆ
เค้าบอกว่าขออีกปีได้มั้ย?(ก่อนหน้านี้ขอถึง พฤษภา เค้าจะกลับมาใส่ใจเราเหมือนเดิม)
เราไม่ร็ว่าเราจะอดทนได้ถึงปีมั้ย
ใครมีปัญหาเเนวๆเดียวกันบ้างคะเเล้วคุณอดทนมาได้ยังไง
เราเข้าใจความรักไม่ใช่การอดทน
เเต่เราควรจะรู้สึกยังไงดี