ความประมาท และความสะเพร่า ของแพทย์โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

สวัสดีค่ะ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ว่าเราจะทำอะไรได้บ้างกับการเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น (อาจจะงง ตอนแรกเป็นผช ทำไมตอนนี้เป็นผญ คืออยากจะมาเล่าเหตุการณ์​โดยละเอียดเอง)​

เรื่องเกิดขึ้น
วันที่ 16 พ.ค. 2562 ช่วงบ่ายๆ แม่เราหกล้มที่บ้าน พบเห็นนอนหงายหลังแล้วนิ่ง อยู่ประมาณ5 นาทีเห็นหลังจากได้ยินเสียงดังตึ้ง ก็รีบวิ่งมาดูทันที 

   จึงเรียก 1669 เพื่อไปส่ง รพ.เอกชน แถวบ้าน อยู่นนทบุรี แม่ฟื้นมาก่อนรถ 1669 มาสักัก แล้วแกก็บอกว่าไม่ไปรพ  ไม่เป็นไร แต่ลุกไม่ได้

     โดยไปถึงพี่ชายเราได้แจ้งรายเอียดว่าแม่ล้ม แต่สภาพที้จอคือนอนหงายอยู่ ไ่แน่ใจว่าหัวฟาดหรือเปล่า แต่ถ้าตามที่แม่บอกคือหัวไม่ฟาด  แต่แม่มีอาการเวียนหัวมึนตลอด หมอตรวจดูอาการ โดยมีการเอ็กซเรย์ส่วนล่างไม่มีกระดูกร้าวหรือแตกเลยฉีดยาน่าจะแก้ปวดให้ แล้วจะให้กลับบ้าน ระยะเวลาที่อยู่ดูอาการทั้งหมด ไม่น่าจะเกิน 45 นาทีถึง 1 ชม

    หมอเรียกเราดูฟิลม์เอ๊กซ์​เซอร์แม่ ตั้งแต่สะโพกถึงต้นขา บอกไม่มีไรแตกร้าว เราถามหมอต้องดูแลอะไรพิเศษไหม หมอตอบ ปกติแค่ฟกช้ำำ  ที่ไปถามหมอเพราะกลัวดูแลไม่ถูกและกลัวว่าจะมีผลอะไรหลังจากนี้ไหม ที่พึงต้องสังเกต​ เอาตรงๆที่บ้านไม่เคยไปห้องฉุกเฉิน หรือป่วยไข้ใหญ่กันเลย ก็เลยยิ่งวิตก

     ในระหว่างที่รอฉีดยา รอจ่ายเงิน แม่พยายามบอกว่าลุกขึ้น หรือทำยังไงก็ได้ให้เป็นเสมือนนั่ง โดยให้พยาบาลมาปรับเตียงไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้ง เพราะแม่ไม่อยากนอน บ่นว่าปวดหัว มึนหัว
          นี่ล่ะเป็นสาเหตุว่าทำไมพี่ชายแฟนเดินไปถามหมอต้อง MRI หรือ เอ็กซเรย์พวกหัวเพิ่มดีไหมแต่หมอตอบ ไม่จำเป็น เพราะผลเอ็กซเรย์ทุกอย่างปกติ (คือเราไม่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเลย แค่อยากให้แม่ซึ่งอายุมากแล้วได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ตรวจละเอียดที่สุด ถึงได้ร้องขอว่าตรวจเพิ่มได้ไหม) ไม่งั้นเราก็ไม่ต้องไปรพ เอกชนนี้ตั้งแต่แรก เพราะหน้าหมู่บ้านเราก็มีรพ เอกชน เล็กๆอยู่หน้าหมู่บ้านเลย

ช่วงประมาณ 16.40-17. 00น. กลับถึงบ้าน แม่เดินได้ แต่บ่นเวียนหัว และเริ่มมีอาการซึม พอนั่งสักพักขอเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะ พอลุกขึ้นมาก็อาเจียน ในตอนนั้นเราไม่รู้ว่านี่คือข้อบ่งชี้อาการทางด้านสมอง แต่ช่วงนั้นแม่จะนั้นเหม่อคุยด้วยก็แค่พยักหน้าซึ่งจริงๆแม่จะคุยเยอะมากเพราะเราเพิ่งกลับมาจากทำงาน (กลับบ้านเดือนละครั้ง) 

จนแม่เข้าห้องน้ำครั้งที่สองซึ่งห่างจากครั้งแรก ประมาณ 15-20 นาที คราวนี้การก้าวเท้าของแม่เริ่มไม่ดีแล้ว แต่พอพยุงไปได้ และเเม่เริ่มมีอาการหลับ เราคิดว่าเออ.. ปกติเเม่ชอบนั่งหลับเลยไม่เอ๊ะใจอะไร

       คราวนี้ห่างไปอีก20-30 นาที แม่ขอเข้าห้องน้ำอีก คราวนี้แม่ไม่สามารถยกเท้าได้ แ้กระทั้งเราจะเอากางเกงในแม่ออกจากเท้า เพื่อถ้าแม่จะเข้าห้องครั้งต่อไปจะได้สะดวก (ลืมเเจ้งว่าตั้งแต่เข้าห้องน้ำครั้งแรก เราเปลี่ยนเสื้อผ้าแม่เป็นนอนกระโปรง กะชุดชั้นใน)​ จากนั้นแม่ขอนั่งใกล้ห้องน้ำำ เพราะเดินไปไม่ไ้ด้และนั้งหลับต่อ
         จนพี่ชายคนโตเรากลับมาหลังจากไปซื้อเก้าอี้ปรับเอนนอนได้มาให้แม่ เผื่อแม่จะได้เอนหลับได้ เลยให้แม่ลอง แม่ลืมตามาแปปนึง ก็เลยพยายามพยุงแม่มานั่งแล้วทำเป็นปรับเอนนอน อาการแม่ก็เริ่มไม่ดี กลับตาแล้วอาเจียนพุ่ง เป็นหลายครั้งมาก

      เวลาประมาณ 19.23น. เราจึงโทรไปถามที่โรงพยาบาลเอกชนนั้นว่ายาที่ฉีดมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง เจ้าหน้าตอบ อาจง่วง ซึม แต่ออกฤทธิ์ 30นาทีถึง1ชั่วโมง ถามต่อว่า คนสูงอายุยาจะหมดฤทธิ์ช้าไหม เจ้าหน้าที่ว่า ถ้ามีอาการอาเจียนมันคือระบบประสาทเพราะฉะนั้นให้กลับมาที่โรงพยาบาลด่วน 
      ระหว่างนั้นก็ปรึกษากันระหว่างพี่น้องว่าเอาไง พี่ชายก็บอกว่าเอากลับรพ เถอะ ไปตรวจอีก จึงตัดสินใจโทรกลับไปที่รพ เอกชนเดิม แต่เนื่องจากตอนนี้แม่ไม่รู้สึกตัวแล้ว อีกทั้งตัวยังเอนมาทางด้านซ้ายตลอดจนเราดันให้กลับที่เดิมยังไม่ได้ 
       เวลาประมาณ 19.35น. โทรกลับโรงพยาบาลเพื่อถามถึงค่ารถ เพราะไม่สามารถเอาขึ้นรถส่วนตัวได้แล้ว แม่ไม่รู้สึกตัวแล้ว จนทคนเดิมแจ้งว่า 3000-4000บาท ควรเรียก 1669 ดีกว่า จึงตัดสินใจเรียก 1669 เป็นครั้งที่ 2 ของวันเ ต่เหมือนรอบนี้รถมามาช้าเลยโทรกลับไปโรงพยาบาลเอกชนเดิมเพื่อจะเรียกให้เอารถรพ มารับ แต่ระหว่างนั้น 1669 มาพอดีเลยวางสายไป

1669 มาถึง ทดสอบว่ารู้สึกตัวไหม โดยเอากำปั้นขยี้ที่หน้าอกแม่แต่ก็ไม่รู้สึก อีกทั้งเสียบสายที่นิ้วเพื่อวัดออกซิเจน โดยค่าออกซิเจนก็ 91 เห็น จนท1669 บอกว่าต่ำกว่า 90 คือไม่ดีเลย จนท1669 ถามย้ำำ 3 รอบว่าจะให้ไปส่งรพ. อะไร เราบอกว่า รพ เอกชนเดิม (ไม่สามารถเอ่ยชื่ออาจจะงงนิดนึง)​ จนทจึงจะรีบนำขึ้นรถเพื่อให้ออกซิเจน เตรียมเอาแม่ส่งรพ เอกชนตามที่เราระบุ

     ระหว่างที่แม่กำลังให้ออกซิเจน รถก็ยังจอดอยู่หน้าบ้านนั้นมีเบอร์โทรแปลกโทรเข้ามาที่มือถือเรา ถามรายละเอียดสุขภาพต่างๆ รวมถึงที่อยู่บ้านเรา ตัวเราก็งง เพราะว่า รถพยาบาล 1669 ก็กำลังปฐมพยาบาลแม่เรา แล้วคนในสายคือใคร รถที่ไหน ทำไมต้องมารับ ทั้งๆที่แม่เราอยู่ในรถ (ความรู้สึกตอนนั้นคือคำถามแบบนี้) ก็เลยส่งโทรศัพท์ให้คุยกับคนขับ 1669 คนขับรถ 1669 ก็บอกว่าเป็นรพ. ประจำอำเภอ จะมารับตัวแม่ไปส่งให้แทน แต่เดี๋ยว​นัดเจอกันหน้าหมู่บ้านเรา ก็ย้ายแม่เราริมถนน และพูดคุยอะไรอยู่ไม่รู้ เพราะเราก็ขับรถตามไปติดๆ ในช่วงที้ย้ายรถ
        เนื่องจากอยู่รถคนละคัน พี่ชายเราโทรมาถามว่า ตอนนี้เค้าย้ายแม่มารถประจำอำเภอแล้วนะ แล้วรถ รพประจำอำเภอก็ถามพี่เราว่ามีเงิน 2 ล้านที่เบิกได้เลยไหม ถ้าให้ไปส่งรพ เอกชนนี้ เพราะไม่งั้นรพ เอกชนนี้เค้าจะไม่รักษา เราบอกพี่ชายในสายว่าเห้ย.... ไม่มีปัญหาเรื่องนั้น แต่ได้โปรดเอาแม่ไปส่งเร็วๆได้ไหม โดยหลังจากวางสายเราก็เดินมาที่รถพยาบาลทั้ง2 คัน ทั้งของรพ ประจำอำเภอ และรถ 1669 ที่จอดอยู่หน้าหมู่บ้าน โดยพูดต่อหน้าทุกคนตรงนั้นว่าขอให้ีบพาแม่เราไปรพ เอกชนที่เราระบุเถอะ

  เหมือนทุกคนเคลียร์เราก็ขึ้นรถ กลับรถไปทางที่จะรพ เอกชนที่ว่า แต่ผ่านไปสัก5นาที พี่ชายที่ไปกับรถโรงพยาบาลประจำอำเภอโทรมาบอกว่า รถโรงพยาบาลจะแวะสอดท่อช่วยหายใจที่โรงพยาบาลประจำอำเภอก่อน แล้วจึงจะไปที่โรงพยาบาลเอกชน เราก็โอเคคือตอบไปว่ายังก็ต้องไปที่ รพเอกชนนี้นะ เพราะเราไม่แน่ใจรพ ประจำอำเภอ

         ในขณะนั้นที่รถโรงพยาบาลประจำอำเภอก็แวะเพื่อสอดท่อที่รพ  เราก็ขับได้ล่วงหน้าไปรอที่รพ เอกชนแล้ว แต่เราไปถึงไม่เกิน 7 นาที รถโรงพยาบาลที่แม่เราขึ้นก็พาแม่มาส่ง

    คราวนี้ล่ะ แม่หมดสติไม่รู้สึกตัว พอตรวจ ct ผลคือ
มีเลือดคั่งในสมองต้องผ่าตัด เปิดกระโหลกด่วนในคืนนั้น โดยคุณหมอที่ทำการผ่าตัดเห็นผล ct ก่อนและแจ้งว่าเลือดคั่งเยอะประมาณครั้งแก้วน้ำำ แต่พอผ่าจริงคือครึ่งขวดน้ำำ เพราะว่ามาช้าไป
    สรุปหมอฉุกเฉินรอบแรกไม่วินิจฉัย​อะไรผิดเลยใช่ไหมคะ  

     อัพเดตปัจจุบันคือแม่โคม่า ขั้นสุดท้าย ภาพใน 3 วัน

*ข้อมูลคนป่วย ไม่มีโรคประจำตัวอะไรเลย ไปตรวจสุขภาพทุกๆหกเดือน เดินเหินไปไหนมาไหนได้ปกติ คล่องแคลว แล้วล้มในบ้านซึ่งคนที่อยู่ห้องข้างๆในบ้าน เห็นหายไปไม่เกิน1นาที เพราะได้ยินเสียงล้ม จึงไปพบว่านอนสลบหงายหลังอยู่ับนพื้น สลบแบบนั้นไป 5 นาทีได้ และได้แจ้งหมอแล้วว่าเจอคนป่วยท่าไหน

ปล.เวลาและรายละเอียดนิดๆ อาจคลาดเคลื่อนบ้างเพราะเหตุการมันกระชั้นชิดมาก บ้างเหตุการณ์ก็ไม่ได้กล่าวถึง เพราะจะมีเหตุการณ์อีกหลายอย่าง เพื่อความกระชับในการเล่าเรื่อง(แค่นี้ก็ยาวมากแระ)

คำถาม
ฟ้องแพทย์ได้ไหมที่ไม่ยอมตรวจตามที่ญาติขอ จึงทำให้เกิดเรื่องที่ทุกคนในครอบครัวไม่อยากให้เกิด เหมือนเป็นความประมาทเลินเล่อของแพทย์ผู้ตรวจ

      จากที่เราถามเรื่องฟ้องหมอ ก็เพราะเรารู้สึกสูญเสีย และทุกข์ใจอย่างมาก เมื่อคิดถึงความช้าไปในการตรวจพบเลือดคั่งในสมอง ซึ่งอาจจะรักษาได้ทันท่วงที นำมาซึ่งผลร้ายแรงอาจถึงแก่ชีวิตแบบนี้ (ยังคงโคม่าอยู่icuตั้งแต่หลังผ่าตัดจนถึงวันนี้ ) เพราะเราอยากทำอะไรสักอย่าง เพื่อช่วยให้เคสต่อๆไปไม่เกิดเหตุร้ายกับคนในครอบครัวผู้เป็นที่รักยิ่งแบบนี้ เพื่อให้การรักษามีการรอบคอบมากขึ้น เพื่อให้แพทย์ผู้รักษาซึ่งมีความรู้ทางการแพทย์ หรือ แนวทางการรักษาผู้ป่วยอุบัติเหตุล้มหงายหลังมาแบบนี้ มากกว่าคนทั่วไปอย่างพวกเราได้ระวัง และให้การรักษาที่จำเป็น หรือ สั่งให้นอนรพ.เพื่อดูอาการจนแน่ใจว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงมากกว่าการให้กลับบ้านแบบนี้ ...แม่เราถ้าโชคดีที่สุด คงฟื้นแต่คงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่เราขอให้ท่านฟื้นมาเถอะจะแบบไหนเราก็ยินดี แย่ที่สุดคงจากเราไปอย่างกระทันหันแบบนี้ แต่คนในครอบครัวคนอื่นยังอยู่ หากเกิดเหตุแบบนี้ ถ้าแพทย์ให้การรักษาที่ทันการณ์ ก็จะไม่เกิดความโศกเศร้าขึ้นอีก เราจึงอยากหาแนวทางที่เราจะทำได้ เพื่อช่วยเคสอื่นๆค่ะ

     มีใครรบกวนช่วยแนะนำว่าเราควรทำไงต่อไปดี3 วันที่ผ่านมาสำหรับเรามันยาวนานมาก ในหัวมีแต่ภาพแม่หมุนอยู่ตลอด ว่าทำไมเราไม่สังเกตอาการดีๆหลังกลับมาจาก รพ. ทำไมไม่โทรหาคนพอมีความรู้ เพื่อสอบถามว่าอะไรคือความผิดปกติที่ควรจะรีบพาเเม่กลับไป รพ. ยอมรับว่าเราและครอบครัวพลาดเองด้วย ทำให้เราอาจต้องสูญเสียแม่ไปตลอดกาล...... 
      

ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่