จ่ายเงินปิดบัญชีสินเชื่อ ตอนรับโฉนดใครต้องมาเซ็นต์รับทราบบ้างครับ

การจำนองค้ำประกันหนี้ไม่ว่าของตนเองหรือคนอื่นก็ตามเจ้าของที่ดิน(ก็คือคนจำนองนั่นเอง)
จะมีสิทธิในที่ดินทุกอย่างและมีสิทธิในตัวโฉนดด้วยนั่นเอง  การจำนองเจ้าของเขารับรอง
เอาที่ดินตัวเองไปคำประกันไว้กับธนาคารเขายอมให้ธนาคารเก็บโฉนดไว้   คนที่เป็นหนี้
เพราะไปกู้กับธนาคารไม่มีอำนาจใด ๆ ในที่ดินและรวมถึงโฉนดด้วยนั่นเอง  เมื่อคนกู้ชำระหนี้หมด
แล้วก็ต้องคืนโฉนดให้เจ้าของที่เอาที่ดินไปจำนอง  ไม่ใช่คืนให้คนกู้ที่เจ้าของเอาที่ดินไปจำนองไว้
แต่ในทางปฏิบัติคนจำนองเองอาจไม่รู้ว่าคนกู้ที่เราค้ำประกันไว้ได้ใช้หนี้ไปหมดแล้ว  เพราะฉะนั้น
เมื่อชำระหนี้หมดก็ต้องบอกให้คนจำนองรู้เพื่อไปรับเอกสารคืนมาทั้งหมด  และเจ้าของก็เอาไป
ยืนต่อสำนักงานที่ดินเพื่อจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองต่อไป   คนกู้ไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ในการ
ไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองแต่อย่างใด  มันเป็นคนละคนกัน  แต่ที่เห็นส่วนใหญ่ก็คือคนกู้
กับเจ้าของที่ดินเป็นคนเดียวกัน  แต่หากเจ้าของที่ดินแค่เอาที่ดินไปจำนองประกันหนี้คนอื่น
คนกู้ไม่มีสิทธิใด ๆ ในโฉนดเลย  และไม่มีสิทธิยึคถือไว้ด้วย ที่ธนาคารจะคืนให้คนกู้นั้นหากมีจริง
ถือเป็นการปฏิบัติไมถูกต้องตามกฎหมาย  เพราะว่าหากคนกู้เอาไปเลยไม่คืนจะทำให้เจ้าของที่ดิน
ลำบาก และเรืองเกิดจากธนาคารส่งมอบให้คนผิดตัวไปนั่นเอง   ให้จำไว้ว่าการจำนอง
ค้ำประกันหนี้คนอื่นนั้น  เจ้าของไปทำสัญญาจำนองกับธนาคารไม่ใช่คนกู้ทำจำนองกับธนาคาร
เขาทำสัญญากู้ก็จริงแต่ไม่มีสิทธิใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินหรือสัญญาจำนองเลย  เมื่อหมดนี้จำนองก็หมดสิ้นไป
ไม่มีอะไรมาบังคับเอากับที่ดินได้อีก   เพราะฉะนั้นธนาคารจะต้องบอกคนจำนองเพื่อให้ไปเอาเอกสาร
เพื่อใช้ในการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองพร้อมกับคืนโฉนดให้เจ้าของที่ดินด้วย  คือจะคืนให้คนกู้ไม่ได้
หากเขาไม่ใช่คนจำนองเอง  เพราะหากรับไปก็เอาไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองไม่ได้เพราะไม่ใช่
เจ้าของที่ดิน  การปฏิบัติที่ถูกต้องของธนาคารต้องแจ้งให้เจ้าของที่ดินที่มาทำจำนองกับธนาคารรับรู้
และไปเอาเอกสารคืนไป   จะให้ผู้กู้ไม่ได้เพราะไม่ใช่คนจำนองไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินเลย