แกะกล่อง รีวิว : บลูเรย์ Star Wars (ต้อนรับภาคใหม่ที่จะมาสิ้นปีนี้)

#ที่แท็ค อเวนเจอร์ เพราะมีเนื้อหาเกี่ยวข้องด้วย 

แพ็คเกจมีความไม่เข้ากันอย่างมาก
เพราะหลังจากที่ซื้อแบบรวมมา(ตอนที่ขายแรกๆ) ตัวกล่องเหล็กก็เข้ามาจำหน่ายหลังจากนั้นไม่นาน
เรื่องราคาจำได้คร่าวๆ นะครับ เพราะซื้อไว้นานมากตอนที่จำหน่ายแรกๆ เลย
- แบบรวมภาค 456-123 (ราคา 4700 กว่าๆ) **ปัจจุบันราคาตกแล้วแต่ที่พิเศษคือ มีแผ่น Special มาให้จำนวน 3 แผ่น
- ภาค 7 (ตัว 3D Edition) (ราคา 1200 นิดๆ) **ปัจจุบันราคาตกแล้ว
- ภาค 8 (ราคาประมาณ 1700-1800 กว่า)
- ภาค Spin-off (โร้ควัน) (ราคา 1700-1800)
- ภาค Spin-off (โซโล) (ราคา 1700-1800) 
ตั้งแต่ภาค 7 เป็นต้นมา เมนูที่อยู่ในแผ่นทุกซอก ทุกมุมสามารถปรับโหมดเป็นภาษาไทยได้
รวมถึง Commentary ที่มีบรรยายไทยให้ ด้านในแผ่นถือว่าคุ้มค่ามากในหนังที่อยู่ภายใต้ดิสนีย์ 
ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะว่า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอย้อนกลับไปตอนช่วงที่ หมอแปลก จากทางมาร์เวล กำลังจะจำหน่าย ก็เริ่มมีลางไม่ดีเกี่ยวกับแผ่นบลูเรย์ตัวสามมิติ ที่ไม่มีบรรยายไทยมาให้เหมือนอย่างเคย (ในขณะที่หนังจากตระกูลสตาร์วอร์ ดันมีไทยให้ครบทุกสิ่งอย่าง แถมงานปราณีตแบบสุดๆ)     

และหลังจากนั้นมา ภาพยนตร์จากทางดิสนีย์รวมถึงมาร์เวลที่เป็นแผ่นสามมิติก็ไม่มีบรรยายไทยมาให้อีกเลย(ยกเว้นตระกูลสตาร์วอร์)

เหตุการณ์เหมือนจะแน่นิ่งแต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ก็เกิดเหตุที่ทำให้คนเก็บบลูเรย์ต้องต้องตะลึงอีกครั้ง เพราะหลังจากที่ไอออนแมนดีดนิ้ว เหตุการณ์บางอย่างก็ได้เปลี่ยนไป

แผ่นบลูเรย์หนังจากค่ายดิสนีย์รวมถึงมารเวล์ไม่มีบรรยายไทย-เสียงไทยอีกเลย แต่แผ่นดีวีดียังคงมีปกติ T^T

รีวิวทุกซอกทุกมุมของกล่อง รวมถึงเมนูด้านในแผ่น