[SR] ตะลุยญี่ปุ่น 12 วัน 7 เมือง แบบเที่ยวเอง ไม่ง้อทัวร์

...................................................
:: ฝากติดตามเพจไผ่ด้วยนะคะ ::
https://www.facebook.com/wherewegopage/
...................................................


Japan Spring 2019 มาแล้วค่า!!!

รอบนี้ไผ่แวะเที่ยวเรื่อยๆจาก Tokyo ไป Osakaค่ะ เก็บไปได้ทั้งหมด 7 เมือง ภายใน 12 วัน เอาจริงๆเส้นนี้ไผ่เที่ยวเป็นรอบที่ 2 แล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าเก็บที่เที่ยวระหว่างได้ไม่หมดซักที คือมันจะมีที่เที่ยวยิบย่อยในแต่ละเมืองเยอะมว๊ากกกค่ะ

เรามาเริ่มจากการเตรียมตัวกันก่อนเลยเนอะ

การเที่ยวแบบนี้ แน่นอนค่ะ เราต้องตั๋วเครื่องบินลงที่โตเกียว และบินกลับไทยที่โอซาก้า รอบนี้ไผ่บินกับ Scoot ค่ะ สะดวกดีจองรอบเดียว เพราะเค้ามีรูทลงทั้งที่โตเกียวและโอซาก้า ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มทยอยจองโรงแรมกันค่ะ ปกติไผ่มักจะนอน Airbnb เพราะราคาจะถูกกว่าโรงแรม แต่! หลังจากที่มีช่วงนึงที่ญี่ปุ่นเข้มงวดกับ Airbnb ขึ้นมา ทำให้ที่พักใน Airbnb หายไปเยอะมาก แถมราคารวมๆแล้วแพงกว่าโรงแรมอีกแน่ะ รอบนี้ราคาที่พักเราเลยได้ไม่ถูกเท่าทริปก่อนๆ เศร้าเลย T^T 

เที่ยวแบบนี้ แน่นอนว่าต้องมี JR Pass แบบ Ordinary 7 วัน ไม่งั้นค่าเดินทางบานแน่นอนค่ะ แพลนวันที่เริ่มใช้ดีๆนะคะ จะได้ใช้ได้คุ้มสุด ของไผ่เริ่มใช้วันที่เดินทางจาก Kawaguchiko ไป Nagano ค่ะ ส่วนช่วงที่อยู่ Tokyo ไผ่ใช้บัตร Metro 72 ชั่วโมงแทน คุ้มกว่าค่ะ อ้อ อย่าลืมซื้อ Keisei Skyline สำหรับนั่งจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองไว้ด้วยนะคะ

เครื่องบินมารอแล้วไผ่บินไปญี่ปุ่นกับ Scoot มา 2 รอบแล้วค่ะ เรียบร้อย ตรงเวลาดี ได้เครื่องใหญ่ นั่งสบายดีด้วยเค้ามีไฟลท์บินจาก Bkk – Tokyo วันละ 2 ไฟลท์ และ BKK – Osaka 7 ไฟลท์ต่ออาทิตย์ เที่ยวบินถือว่ามีให้เลือกเยอะเลย ลองไปเล็งๆ มองๆดูกันนะคะ

ส่วนอาหารบนเครื่อง ไผ่ถือว่าดีเลยค่ะ
-    ขาไป ไผ่สั่งข้าวมันไก่สิงคโปร์ (อันนี้แอบแนะนำ) คือไก่มันชิ้นใหญ่มากกก ใหญ่กว่าเวลาไปนั่งทานที่ร้านอีกเอ้า และอร่อยเลย
-    ขากลับ ไผ่ลองนักซีลามัก เป็นอาหารสิงคโปร์มาลองค่ะ รสชาติอาจจะแปลกลิ้นสำหรับบางคน ถ้า pay safe ให้เลือกข้าวมันไก่สิงโปร์ดีกว่าค่ะ

ตั๋วเครื่องบินพร้อม ตั๋วการเดินทางในประเทศพร้อม ที่พักพร้อม มาค่ะ เริ่มออกเดินทาง!

Day 1: Tokyo
‘Shibuya’
วันแรก เราเริ่มจากที่ที่คุ้นเคยอย่าง Shibuya ก่อนค่ะ Shibuya วันนี้ต่างกับรอบก่อนๆที่ไผ่เคยมา เพราะวันนี้มีซากุระ! แถมพอโผล่พ้นสถานีมาตรงรูปปั้นฮาจิโกะ คนเยอะมากกก จนไผ่ต้องโทรหาพี่ปุ่น เพราะเดินพลัดกันหาไม่เจอแล้ว ปรากฎว่าพี่ปุ่นฝังตัวอยู่ในฝูงชนที่เค้ามุงตรงรูปปั้นฮาจิโกะจ้า

“ไผ่อยู่ไหนอ่ะ เราจะเรียกไผ่มาดูแมว”

ใช่ค่ะ วันนี้ทุกคนไม่ได้มุงรูปปั้นฮาจิโกะ แต่ทุกคนมามุงน้องแมว Celeb ตัวนี้ค่ะ น่ารักมากกก เห็นแล้วอยากจะขโมยกลับบ้านกันเลยทีเดียว แล้วน้องเค้าจะย้ายที่ไปเรื่อยๆตามสถานที่ชมซากุระต่างๆ บางวันก็ไปโผล่ที่แม่น้ำ Meguro บางวันก็ไปโผล่ที่ Ueno Park ล่ะค่ะ


‘Magnet by Shibuya 109’   
อีกหนึ่งซีน popular ของ Shibuya คงหนีไม่พ้นซีนแยกใหญ่เวลาที่คนเดินข้ามถนนกัน ตอนแรกไผ่คิดว่าเค้าถ่ายมุมนี้จากตึก JR แต่พอไปถ่ายมุมมันสูงไม่พอแฮะ เราเลยคุยกับอากู๋อยู่พักใหญ่ ละก็ได้ค้นพบว่ามันถ่ายจากชั้น 8 หรือชั้นดาดฟ้าของตึก ‘Magnet by Shibuya 109’ นั่นเอง ที่นี่ขึ้นฟรีไม่เสียค่าเข้านะคะ แถมด้านบนเค้ายังมี application ที่สามารถสั่งถ่ายรูปจากกล้องของตึกผ่านมือถือเราได้ด้วยล่ะ


Day 2: Tokyo
‘Shiba Park’
ไหนๆก็มาช่วงซากุระ แพลนของวันนี้หลักๆเลย เราอยากไปถ่าย Tokyo Tower กัน แต่เนื่องจากตรง Tokyo Tower เลย พวกเราเคยไปกันแล้ว แถมรอบนี้ออกจะไกลจากที่พักเราด้วย เราก็เลยหาที่ที่สามารถถ่าย Tokyo Tower ได้จากที่อื่น พี่ปุ่นเลยลอง search แล้วก็เจอ ‘Shiba Park’ สวนสาธารณะที่เห็น Tokyo Tower ได้ชัดแจ๋ว แถมเป็นอีกหนึ่งจุดนั่งชมซากุระอีกต่างหาก วันที่เรามาที่นี่ตรงกับวันอาทิตย์พอดี ก็เลยจะเจอคนมาปูเสื่อปิกนิกนั่งชมซากุระกันเยอะแยะเลย


‘Zozoji Temple’
ด้านข้างของ Shiba Park ติดกับวัด Zozoji ซึ่งตื่นตากว่า Shiba Park ที่พวกเราปักหมุดกันมาอีกค่ะ เพราะที่วัดมีจุดชมซากุระเพียบ แถมบางจุดก็ Full Bloom แล้วด้วย และเรายังสามารถเห็น Tokyo Tower อันเบ้อเริ่มตั้งเป็น Background ด้านหลังของวัดอีกต่างหาก


‘Koenji’
ช่วงเย็นวันนี้เป็นเวลาของไผ่แล้ว 555 รอบนี้ไผ่หมายมั่นปั้นมือจะมาสอยเสื้อผ้ามือสองที่ย่าง ‘Koenji’ ที่มีทั้งของกินของขายเยอะมากกก ที่นี่เป็นถนนที่มีร้านขายของขนาบ 2 ข้างทางที่พาดตัวยาวกินพื้นที่ 2 สถานีเลยทีเดียว ขาช๊อปนี่เพลินแน่นอน แต่ไผ่ผู้หมายมั่นปั้นมือว่าจะไปซื้อเสื้อผ้า กลับได้สตอร์เบอรี่กลับมา 1 แพค เดี๋ยว! นี่มันอาร๊ายยย 5555 ดูแล้ว Shopping อาจจะไม่ใช่ทางของไผ่


Day 3: Tokyo – Kawaguchiko
วันนี้เป็นวันที่เราจะย้ายเมืองจาก Tokyo ไป Kawaguchiko

พี่ปุ่น: “เดี๋ยวนี้มีรถไฟนั่งไปลงคาวาได้แล้วนะไผ่ เปิดใช้ช่วงที่เราไปพอดี”

นี่คือคำบอกเล่าของพี่ปุ่นก่อนวันเดินทางของเรา ไผ่ก็ไป search ข้อมูลดูแล้วพบว่ารถไฟขบวน Fuji Excursion มีวันละ 2 รอบจากสถานี Shinjuku คือ 8:30 และ 9:30 เท่านั้น ตอนนั้นไผ่ก็คิดละ โอกาสตั๋วเต็มสูงมาก เราเลยแวะไปจองตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง แต่ปรากฏว่าตั๋วก็เต็มอยู่ดี! อ๊ากกกก กลับไปซบอกรถบัสเหมือนเดิมจ้า

พอรถบัสจอดเทียบสถานี Kawaguchiko ไผ่กับพี่ปุ่นก็เข้าไปซื้อ 2 Days Pass แค่แว๊บเดียวเท่านั้นพอเดินออกมาเพื่อต่อคิวขึ้นนรถบัสไปโรงแรม หิมะตกจ้า!!! เดี๋ยว! นี่มันเข้าเมษาแล้ว ทำไมยังมีหิม๊า!!!! เราก็เลยได้วิวหิมะจากที่พักแบบนี้ล่ะค่า


Day 4 - Kawaguchiko
‘Chureito Pagoda’
นอกจาก Fuji san แล้ว Chureito Pagoda หรือเจดีย์แดง เป็นอีก 1 สถานที่ที่เราอยากมาเก็บในทริปนี้ วันนี้เราเลยตื่นเช้ากันซะหน่อย (จริงๆแล้ว ถูกบังคับตื่นด้วยเวลาทานอาหารเช้าของโรงแรม 555) แล้วนั่งรถบัสไปที่สถานี Kawaguchiko แล้วต่อรถไฟ Fujikyu แค่ประมาณ 10 นาทีก็มาถึงสถานี Shimoshida เดินต่อจากสถานีอีกนิดหน่อยก็มาถึงเจดีย์แดงค่ะ ช่วงนี้เค้ามีร้านของกินมาเปิดตรงลานก่อนเดินขึ้นไปด้านบนด้วยล่ะ ตอนเดินมาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่อิตอนเดินขึ้นนี่สิ โอ้ยยย ป้าแก่แล้ว ทำไมเอาป้ามาเดินขึ้นบันไดงี้!!! แต่ด้านบนคุ้มค่าแก่การเดินขึ้นมามากค่ะ (จริงๆมันไม่ได้โหดร้ายขนาดน๊านน แต่ไผ่ไม่ออกกำลังกายไง 555) นอกจากจะเห็นฟูจิ ที่วันนี้ไม่ขี้อาย ออกมาทักทายเราแบบเต็มๆแล้ว ยังเห็นวิวเมือง Kawaguchiko ที่มองไปไกลๆเห็นรถไฟวิ่งผ่านด้วยล่ะค่ะ


‘Café Zakka’
ขากลับ ตรงแยกทางเข้าไป Chureito Pagoda

พี่ปุ่น: “มีร้านคาเฟ่ด้วยนะไผ่”

แล้วก็ชี้ไปที่ป้ายบอกทางที่ติดอยู่ตรงเสาไฟฟ้าข้างทาง เดินตามป้ายไปนิดเดียวก็เจอร้านกาแฟเล็กๆ ที่ดูด้านนอกเหมือนบ้านคน และดูธรรมดามาก

ลูกไผ่: “เข้าดีมั้ยอ่ะคะ ข้างในมันจะน่ารักมั้ยอ่ะคะ”
พี่ปุ่น: “เข้าไปสิ ไหนๆก็มาแล้ว”

และโชคดีที่เข้ามา ด้านในน่ารักมากๆ ตกแต่งเป็นแนว Zakka ตามชื่อร้านจริงๆ คุณป้าเจ้าของร้าน (เสียดายที่ถ่ายไม่ทัน) เหมือนตัวการ์ตูน Little My ในเรื่อง Mumin เลย ไผ่สั่งช็อกโกแลตเย็น แต่ตอนสั่งเหลือบไปเห็นเค้กหน้าตาน่าทานเลยชี้ๆบอกคุณป้าว่าเอาอันนี้ด้วยค่ะ แล้วเค้กนั่นก็อร่อยจริงๆด้วยแฮะ แถมราคาถือว่าไม่แพงด้วยล่ะ


‘Lake Kawaguchiko’
บังเอิญว่าวันนี้เราทำเวลาดีเลยเหลือเวลานิดหน่อยก่อนเดินทางไป Nagano เราเลยได้ไปเดินเล่นริม Lake ที่ถึงช่วงบ่าย Fuji san จะแอบใส่หมวกนิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าออกมาให้ได้ชมกันเยอะกว่าครั้งแรกที่เรามาเยอะเลย ดีใจจังที่ได้เจอคุณฟูจิ


Day 5: Nagano
‘Togakushi Shrine – Okusha’
การมา Nagano ครั้งนี้ต้องเรียกว่าเป็นทริปแก้มือที่ไผ่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้กลับมาแก้มือจริงๆ ถ้าเคยอ่านรีวิวเมื่อ 2 ปีก่อนของไผ่จะรู้ว่าไผ่พลาดต้นไม้ใหญ่ที่ Togakushi Shire ไปแบบโง่ๆ ทั้งๆที่อุตส่าดั้นด้นเดินไป - กลับรวม 4 กิโลจนถึงปากทางเข้าแล้วแท้ๆ วันนี้เราเลยตั้งใจว่า ยังไงเราก็ต้องเจอต้นไม้ใหญ่ให้ได้! และโชคดีที่รอบนี้รถบัสสามารถจอดไปส่งเราได้ถึงศาลชั้นบนหรือ Okusha แต่! หิมะตกค่ะ! ตกเยอะด้วย ศาลบนวันนี้เลยแทบจะไม่มีคนเลยจร้า เฮ้ยยยย แต่มาถึงนี่แล้ว สู้เว้ย! ไผ่กับพี่ปุ่นเดินฝ่าหิมะแบบที่ชุดไม่เอื้ออำนวย (บอกตามตรงว่าทริปนี้ไผ่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอหิมะเลยค่ะ) เข้าไป 2 กิโล และแล้วเราก็เจอทิวต้นไม้ใหญ่ในตำนาน! เฮ้ย มันดีย์ ความหนาว ความทรมาน ความพยายามที่เดินเข้ามามันคุ้มค่ามากค่ะ ตอนเดินๆนี่มีแอบท้ออยู่บ่อยมาก เพราะมันเวิ้งว้างและหนาวมาก ไผ่กับพี่ปุ่นใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 3 ชั่วโมง จริงๆแล้วทางเข้ามัน 2 กิโลค่ะ ใช้เวลาเดินเข้าไป 20 นาที เดินออกมาอีก 20 นาที แต่ไผ่กับพี่ปุ่นหยุดถ่ายรูปตลอดทาง แถมวันนี้หิมะสูงมาก เดินยากและอากาศหนาว หูแทบหลุด ตอนทางไปและกลับไผ่เจอคนเดินสวนทางเราแค่ประมาณ 7 คน แต่เชื่อเถอค่ะ มันคุ้มค่าจริงๆ Mission ที่ติดค้างอยู่ในใจวันนี้ Complete แล้ว!


Day 6: Nagano
‘Zenkoji Temple’
ปกติเวลานั่งรถไป Tagakushi Shire เราจะผ่านวัด Zenkoji ตลอด แต่ก็เคยได้มาซักที วันนี้มีโอกาสเลยมาซะหน่อย และเพิ่งได้รู้ว่าจริงๆแล้ว Zenkoji เป็นวัดใหญ่ของ Nagano เลยทีเดียว ทางเดินไปวัดมีร้านค้าขายของข้างทางเยอะแยะเต็มไปหมด แต่อาจจะต้องแอบระวังเรื่องการถ่ายรูปหน่อยนะคะ เพราะว่าบางร้านเค้าไม่อนุญาตให้เราถ่าย ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่หน้าร้านไม่ใช่ในร้าน บางร้านก็ไม่โอเคค่ะ ในตัววัดใหญ่มากค่ะ ด้านในจะมีเครื่องรางน่ารักๆขาย คิดว่าวัดนี้น่าจะเป็นวัดประจำปีฉลู เพราะมีเครื่องรางเกี่ยวกับวัวค่อนข้างเยอะกว่าแบบอื่น ด้านหลังที่ขายเครื่องรางจะเหมือนเป็น museum เล็กๆ ที่ต้องซื้อบัตรถึงจะเดินเข้าไปได้ แต่ถ้าไม่ซีเรียสยืนมองจากจุดที่ขายเครื่องรางก็มองเห็นข้างในหมดนะคะ

ชื่อสินค้า:   ญี่ปุ่น
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่