4 สาว แบกเป้ เที่ยวซีบู (Backpacker in Cebu May,2019)

3 พ.ค. 62 เริ่มต้นการเดินทางด้วยสายการบินฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ ไฟท์บินตรง สู่  Mactan international airport (terminal2) ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง ถึงเวลา 06.25น. การเดินทางเที่ยวในซีบูมีหลากหลายวิธี แต่ทริปเราในครั้งนี้ใช้ taxi และรถสาธารณะเป็นหลัก

เริ่มจากสนามบินไป south bus terminal เราเดินออกมาขึ้น white taxi ซึ่งเป็น taxi แบบกดมิเตอร์ จ่ายไป 320เปโซ  พอถึงสถานีรถบัส เราก็เดินหารถบัสแอร์ ที่ผ่าน oslob จุดหมายแรกที่เราจะไป แนะนำให้ขึ้นรถบัสแอร์ เพราะอากาศที่ซีบูร้อน แถมระหว่างทางมีฝุ่นค่อนข้างเยอะ เลือกรถแอร์จะดีกว่า
ค่าโดยสารคนละ200เปโซ เราลงที่ 7-11 ในตัวเมือง เพราะย่านนี้จะหาของกินได้ง่ายกว่า


แนะนำร้านไก่ทอดหน้า 7-11 ให้ซื้อตอนทอดร้อนๆ อร่อยเหมือน KFC ส่วนช่วงเย็นมีร้านปิ้งย่างฝั่งตรงข้าม 7-11 อร่อยเช่นกัน เพราะมื้อเย็นเราก็ฝากท้องไว้ที่นี่


4 พ.ค.62 เช่ามอเตอร์ไซค์ 2 คัน จากที่พัก ค่าเช่าคันละ 500 เปโซ แว๊นซ์ไปยังจุดชมฉลามวาฬ ต่อคิวจ่ายค่าชมคนละ 1000 เปโซ ได้บัตรคิวที่ 201    แต่ตอนนี้พึ่งจะคิวที่ 60 กว่าๆ เลยตัดสินใจไป sumilon island ก่อน ค่าเรือสำหรับ4คน 1500 เปโซ บวกค่าเหยียบเกาะอีกคนละ 50 เปโซ นั่งเรือไปไม่เกิน 20 นาทีก็ถึงเกาะ ไปแค่ถ่ายรูป สักพักก็กลับ ไม่มีอะไร โดยส่วนตัวคิดว่าเกาะ ชายหาด ไม่ได้สวยเท่าไร ถ้าใครตั้งใจมาดูฉลามวาฬอย่างเดียว ไม่ต้องข้ามฟากมาก็ได้


จากนั้นก็กลับไปยังจุดรอชมฉลามวาฬ เอาสัมภาระไปฝากบริเวณร้านค้าใกล้จุดรอ เสียค่าฝาก 30 เปโซ และนั่งรอคิวอีกสักพักใหญ่ก็ถึงเวลาออกเรือไปชมฉลามวาฬ บอกได้เลยว่าเป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดถ้ามาoslob
ส่วนข้อห้ามต่างๆที่ต้องปฏิบัติเมื่อดำน้ำชมฉลามวาฬ เจ้าหน้าที่ก็จะชี้แจงก่อนลงเรือ  ทุกครั้ง 

ใครมี gopro หรือกล้องถ่ายภาพใต้น้ำ เตรียมไปเลยค่ะ ถ่ายภาพน้องฉลามวาฬ ฟินเลย
เสร็จจากชมฉลามวาฬ ก็แว๊นซ์มอไซค์ต่อไปยังน้ำตก Tumalog พอถึงปากทางเข้าน้ำตกก็ใช้บริการวินมอไซค์คนละ 50 เปโซ(ไป-กลับ) ขับเข้าไปยังน้ำตกอีกประมาณ 500 ม. ถ้าใครไม่ใช้บริการก็สามารถเดินไปได้เอง แต่เส้นทางค่อนข้างชันมาก เราเลยเลือกนั่งวินดีกว่าประหยัดแรงและเวลา
บริเวณน้ำตกสามารถลงไปเล่นน้ำและถ่ายรูปได้ น้ำตกสูงและสวย หลังจากที่เราใช้เวลาถ่ายรูป เล่นน้ำตก ไปสักพักก็แว๊นซ์กลับที่พัก อาบน้ำและเช็คเอาท์ เดินไปรอขึ้นรถบัสไป Bato โดยรอขึ้นรถบริเวณหน้า 7-11 จุดที่เราลงรถเมื่อวาน ค่ารถคนละ 45 เปโซ
เมื่อถึงBatoก็ลง แล้วต่อรถบัสที่จะไป Moalboal นั่งไปอีกประมาณ 3 ชั่วโมง


จุดลงรถบริเวณตลาด พอลงรถปุ๊บ ก็จะมีคนมารายล้อมถามว่าจะไปไหน พอต่อรองราคาได้ 200 เปโซ เราก็นั่งรถสามล้อเครื่อง tricycle ไปยังที่พัก เราเลือกที่พักที่อยู่ไม่ไกลจากหาด Panagsama เพราะหาของกินง่าย และสามารถเดินลงหาด ดำดูฝูงปลาซาดีนหรือเต่าทะเลได้เลย เราพักที่นี่ 2 คืน
โดยให้ทางที่พักจองทริป canyoneering 1500 เปโซต่อคน และisland hoping 625เปโซต่อคน ให้เลย

แนะนำพักที่นี่เลยค่ะ Roos Guesthouse เจ้าของใส่ใจ ดูแล ให้ข้อมูลกับเราดีมาก ที่พักสะอาด บริการดีเยี่ยม ไม่แปลกใจที่ได้คะแนน ดีเยี่ยม ใน booking.com
ขนาดร้านอาหาร อร่อยๆ ยังแนะนำ แล้วแต่จะเลือกจะลองเลย ส่วนเราก็จัด ตามคำแนะนำเลยจ้า

ขอบอกว่ามาที่ moalboal แล้วต้องจัด canyoneering ที่น้ำตก Kawasan ให้ได้ บอกได้ว่าตื่นเต้น สนุก และมันส์มาก ไกด์จะให้เราใส่ทั้งหมวกและชูชีพ อธิบายขั้นตอน จุดกระโดด และวิธีกระโดดให้เรา มีทั้งจุดที่ต้องเดิน ต้องกระโดด ต้องว่ายน้ำ ตลอดเส้นทาง หากจุดกระโดดที่สูง ใครไม่มั่นใจก็ไม่ต้องกระโดดคุณเลือกได้

แต่พวกเราไหนๆก็มาถึง กระโดดทุกจุดคร้า ไม่ว่าจะสูง 10 ม. 15ม. ยกมือโดดหมด จนแก๊งค์ฝรั่งในกลุ่มยกนิ้วให้
โดด ลุย น้ำตก กันครบทุกจุด ก็มาพักและทานอาหารบริเวณด้านล่างของน้ำตก

กิจกรรมนี้เริ่มตั้งแต่ 9โมง กลับมาถึงที่พักอีกที 4โมงเย็น เหนื่อยมาก ร่างพัง แต่ก็สนุกสุดๆๆ
ส่วนทริป island hoping ใช้เวลาแค่ครึ่งวัน พาชม 3 จุด จุดแรกเป็นแนวปะการัง จุดที่2 เต่าทะเล จุดที่3 ฝูงปลาซาดีน


กรณีไม่ได้ซื้อทริป สามารถเช่าหน้ากากดำน้ำ เดินลงไปดำดูเต่าทะเล และฝูงปลาซาดีน ได้ที่หน้าหาดเลย พอบ่ายก็ออกไปรอรถบัสแอร์ บริเวณตลาด ตรงจุดที่ลงรถ เพื่อต่อรถไปยังเมืองซีบู รถสายนี้คนขึ้นค่อยข้างเยอะ ให้ขึ้นไปก่อน อาจจะได้ยืนบ้าง แต่ระหว่างทางจะมีคนทยอยลงตามจุดต่างๆ ค่ารถคนละ 156 เปโซ พอถึง south bus terminal ก็เดินอีก 200 ม. ถึงโรงแรมที่พัก

มื้อเย็นเดินออกมาหน้าโรงแรม ขึ้น Jeebney ค่ารถคนละ 7 เปโซ ไป Larsian แนวอาหารปิ้งย่างอีกแล้ว ภายในมีร้านให้เลือกมากมาย หลายร้าน



เช้าวันรุ่งขึ้น เช็คเอาท์ ออกจากโรงแรมนั่ง taxi ไปห้าง SM city บอกคนขับจอดส่งที่ Traveller’s lounge เพื่อฝากกระเป๋า

หยิบแบบฟอร์ม มากรอกรายละเอียด แล้วต่อแถวนำกระเป๋าไปฝาก จะได้บัตรหมายเลขฝาก มา 1 ใบ เก็บบัตรฝากไว้เพื่อใช้ตอนไปรับกระเป๋าคืน ให้นำบัตรหมายเลขฝาก พร้อมพาสปอร์ต ยื่นที่เคาท์เตอร์หมายเลข 1 ชำระเงิน 30 เปโซ แล้วนำใบเสร็จไปรับกระเป๋าคืน

พอถึงเวลาเดินทางไปสนามบิน ขึ้นรถบัส mybus สถานีต้นทางอยู่ไม่ไกลจาก Traveller’s lounge เดินข้ามถนนมาประมาณ 200 ม. จ่ายเงินสด ซื้อตั๋วคนละ40เปโซ ขึ้นไปจับจองที่นั่งพร้อมหาที่วางกระเป๋า แล้วนั่งยาวๆ ไปสนามบิน ลงที่อาคารผู้โดยสาร 2 เช็คอิน โหลดกระเป๋าเสร็จ แล้วต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินอีกคนละ 850 เปโซ รอเครื่องบินกลับสุวรรณภูมิ ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยทุกคน