คือหนูอยากทราบความรู้สึกของทั้งพี่ๆผู้ชาย พี่ผู้หญิง และพี่เพศอื่นๆ ค่ะว่า
พวกพี่จะรู้สึกอย่างไรคะถ้าอยู่ๆวันนึงแฟนของพี่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ....
เรื่องของเรื่องคือ ตอนนี้หนูอายุ26ค่ะแฟนอายุ30 หนูเปิดร้านกาแฟเล็กๆในโรงอาหารของบริษัทของแฟน หนูคบกับแฟนมา3ปีแล้วค่ะ แต่เมื่อปีก่อนหนูมีอาการและอารมณ์ผิกปกติ จนแม่และแฟนพาไปพบคุณหมอจิตแพทย์ค่ะ สรุปคือหนูเป็นโรคซึมเศร้าในขั้นที่คุณหมอบอกว่าน่าเป็นห่วงและอันตรายต่อตัวเอง เพราะเหมือนอารมณ์หนูจะอ่อนไหวมาก แต่หนูก็พยายามดูแลตัวเองทานยาตามที่หมอบอกและไปพบตามนัดนะคะ ตอนคบกัน1-2ปีแรก หนูจะไม่ค่อยป่วยค่ะ แต่ซุ่มซ่ามเป็นนิสัย (แต่เมื่อก่อนหนูจะค่อนข้างป่วยบ่อยค่ะ คุณหมอบอกว่าภูมิคุ้มกันเราไม่ค่อยดี) ตั้งแต่คบกับแฟนมา มีปีนี้แหละค่ะที่แอดมิทเข้าไปประมาน3ครั้งได้ และทุกๆครั้งหนูจะบอกทุกคนว่า ไม่เป็นไรนะ หนูอยู่ได้มีพยาบาลดูแล แต่แฟนก็จะคอยวิ่งมาเฝ้าหลังเลิกงานค่ะ
และก่อนหน้านี้เราคุยกันเรื่องแต่งงานและมีครอบครัวค่อนข้างบ่อย จนมีแผนกำหนดการในที่สุด แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน หนูกับแฟนก็คุยกันปกติค่ะ แต่เหมือนเขามีเรื่องให้คิด คุยไปคุยมา เขาก็พูดมาว่า ม๊าเขาบอกว่าหนูอ่อนแอแบบนี้จะมีครอบครัวได้เหรอ จะดูแลลูก ดูแลครอบครัวได้เหรอ ใจนึงหนูเข้าใจนะคะว่าเขาเป็นห่วงลูกชายเขา และอีกใจนึงคือ เขาคงไม่ค่อยปลื้มเรา ซึ่งอาจจะเพราะหนูเป็นคนเข้าสังคมยากค่ะ(คุณหมอบอกว่าเป็นจากเรื่องเลวร้ายในอดีต 23 นี้กำลังจะเริ่มพบนักบำบัดค่ะ)
และตอนนี้มันเหมือนมีปัญหาเริ่มเข้ามาทั้งเรื่องร้าน เรื่องทางบ้านแฟน แต่สำหรับหนูปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ หนูอยากพิสูจน์ตัวเองให้แม่แฟนเห็นค่ะว่าหนูดูแลตัวเองได้ แต่ตอนนี้คือหนูป่วย ที่บ้านหนูอยากให้ปิดร้านไปก่อนแล้วรักษาใจตัวเองให้แข็งแรง ค่อยเริ่มใหม่(ทางบ้านหนูกับแฟนค่อนข้างต่างกันในการเลี้ยงดูค่ะ บ้านเขาจะโตมาด้วยตัวเอง แต่บ้านหนูคือ ทางบ้านพอจะมีฐานะอยู่บ้าง และทุกคนพร้อมจะซัพพอร์ตหนูถ้าหนูจะหยุดรักษาตัวค่ะแต่ไม่ใช่เลี้ยงแบบคุณหนูนะคะ คือหนูต้องมีงานที่ต้องรับผิดชอบ และก่อนป่วยหนูก็ทำงานดูแลตัวเองค่ะ)
แต่หนูคิดว่า ถ้าหนูหยุดร้านตอนนี้ แม่ของแฟนจะมองหนูไม่ต่างจากที่เขาคิดใช่ไหมคะว่า หนูไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ซึ่งหนูไม่รู้ว่ามันต้องดูแลขนาดไหน เพราะทุกวันนี้ถึงหนูป่วยหนูก็เปิดร้านและดูแลคนเดียว วิ่งซื้อของเข้าร้าน ทำเบเกอร์รี่ พยายามทำทุกแย่างในร้านเพื่อจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมา ถึงในใจมันจะเหนื่อยหนูก็ฝืนยิ้มให้ลูกค้าหนูจะต้องพยายามยิ้มและหัวเราะ เพื่อให้ลูกค้าและคนรอบตัวหนูมีความสุข กลับห้องไปหนูก็ดูแลงานบ้าน เพราะหนูรุ้ว่าแฟนหนูก็ทำงานหนัก(แฟนหนูเป็นวิศวะโยธาค่ะ) หนูคิดว่าตอนนี้หนูทำดีที่สุดแล้ว แต่มันไม่ใช่เลย มันคงจะไม่ดีพอสำหรับคุณแม่แฟน หนูพยายามนะคะ ทุกครั้งที่ไปไหนหนูจะพยายามหาของที่ดีฝากแฟนไปให้คุณแม่ และป๊าของเขา เวลาเจอกันหนูก้พยายามพูดคุยค่ะถึงแม้จะน้อย แต่หนูก็พยายามปรับตัว คอยดูแลพวกท่นเหมือนที่หนูดูแลครอบครัวของหนู หนูพยายามแล้วจริงๆค่ะ
สรุปเรื่องราว และคำถามคือ
1.ถ้าพวกพี่ๆมีแฟนเป็นแบบหนู มีแฟนเป็นคนผิดปกติ มีแฟนเป็นโรคซึมเศร้าพวกพี่ๆจะทำอย่างไรคะ และจะรู้สึกอย่างไร
2.ถ้าพวกพี่ๆอยู่ในฐานะแม่คนนึงที่มีลูกแล้วลูกมีแฟนแบบหนู พวกพี่จะรู้สึกยังไงคะ
3.ข้อสุดท้ายค่ะ คนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไม่สามารถมีครอบครัวเหมือนคนปกติได้เหรอคะ ต้องรักษาตัวจนหายเป็นปกติก่อนใช่ไหมคะถึงจะมีครอบครัวได้
ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำต่างๆนะคะ
อยากทราบความรู้สึกของคนที่มีแฟนเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ
พวกพี่จะรู้สึกอย่างไรคะถ้าอยู่ๆวันนึงแฟนของพี่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ....
เรื่องของเรื่องคือ ตอนนี้หนูอายุ26ค่ะแฟนอายุ30 หนูเปิดร้านกาแฟเล็กๆในโรงอาหารของบริษัทของแฟน หนูคบกับแฟนมา3ปีแล้วค่ะ แต่เมื่อปีก่อนหนูมีอาการและอารมณ์ผิกปกติ จนแม่และแฟนพาไปพบคุณหมอจิตแพทย์ค่ะ สรุปคือหนูเป็นโรคซึมเศร้าในขั้นที่คุณหมอบอกว่าน่าเป็นห่วงและอันตรายต่อตัวเอง เพราะเหมือนอารมณ์หนูจะอ่อนไหวมาก แต่หนูก็พยายามดูแลตัวเองทานยาตามที่หมอบอกและไปพบตามนัดนะคะ ตอนคบกัน1-2ปีแรก หนูจะไม่ค่อยป่วยค่ะ แต่ซุ่มซ่ามเป็นนิสัย (แต่เมื่อก่อนหนูจะค่อนข้างป่วยบ่อยค่ะ คุณหมอบอกว่าภูมิคุ้มกันเราไม่ค่อยดี) ตั้งแต่คบกับแฟนมา มีปีนี้แหละค่ะที่แอดมิทเข้าไปประมาน3ครั้งได้ และทุกๆครั้งหนูจะบอกทุกคนว่า ไม่เป็นไรนะ หนูอยู่ได้มีพยาบาลดูแล แต่แฟนก็จะคอยวิ่งมาเฝ้าหลังเลิกงานค่ะ
และก่อนหน้านี้เราคุยกันเรื่องแต่งงานและมีครอบครัวค่อนข้างบ่อย จนมีแผนกำหนดการในที่สุด แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน หนูกับแฟนก็คุยกันปกติค่ะ แต่เหมือนเขามีเรื่องให้คิด คุยไปคุยมา เขาก็พูดมาว่า ม๊าเขาบอกว่าหนูอ่อนแอแบบนี้จะมีครอบครัวได้เหรอ จะดูแลลูก ดูแลครอบครัวได้เหรอ ใจนึงหนูเข้าใจนะคะว่าเขาเป็นห่วงลูกชายเขา และอีกใจนึงคือ เขาคงไม่ค่อยปลื้มเรา ซึ่งอาจจะเพราะหนูเป็นคนเข้าสังคมยากค่ะ(คุณหมอบอกว่าเป็นจากเรื่องเลวร้ายในอดีต 23 นี้กำลังจะเริ่มพบนักบำบัดค่ะ)
และตอนนี้มันเหมือนมีปัญหาเริ่มเข้ามาทั้งเรื่องร้าน เรื่องทางบ้านแฟน แต่สำหรับหนูปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ หนูอยากพิสูจน์ตัวเองให้แม่แฟนเห็นค่ะว่าหนูดูแลตัวเองได้ แต่ตอนนี้คือหนูป่วย ที่บ้านหนูอยากให้ปิดร้านไปก่อนแล้วรักษาใจตัวเองให้แข็งแรง ค่อยเริ่มใหม่(ทางบ้านหนูกับแฟนค่อนข้างต่างกันในการเลี้ยงดูค่ะ บ้านเขาจะโตมาด้วยตัวเอง แต่บ้านหนูคือ ทางบ้านพอจะมีฐานะอยู่บ้าง และทุกคนพร้อมจะซัพพอร์ตหนูถ้าหนูจะหยุดรักษาตัวค่ะแต่ไม่ใช่เลี้ยงแบบคุณหนูนะคะ คือหนูต้องมีงานที่ต้องรับผิดชอบ และก่อนป่วยหนูก็ทำงานดูแลตัวเองค่ะ)
แต่หนูคิดว่า ถ้าหนูหยุดร้านตอนนี้ แม่ของแฟนจะมองหนูไม่ต่างจากที่เขาคิดใช่ไหมคะว่า หนูไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ซึ่งหนูไม่รู้ว่ามันต้องดูแลขนาดไหน เพราะทุกวันนี้ถึงหนูป่วยหนูก็เปิดร้านและดูแลคนเดียว วิ่งซื้อของเข้าร้าน ทำเบเกอร์รี่ พยายามทำทุกแย่างในร้านเพื่อจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมา ถึงในใจมันจะเหนื่อยหนูก็ฝืนยิ้มให้ลูกค้าหนูจะต้องพยายามยิ้มและหัวเราะ เพื่อให้ลูกค้าและคนรอบตัวหนูมีความสุข กลับห้องไปหนูก็ดูแลงานบ้าน เพราะหนูรุ้ว่าแฟนหนูก็ทำงานหนัก(แฟนหนูเป็นวิศวะโยธาค่ะ) หนูคิดว่าตอนนี้หนูทำดีที่สุดแล้ว แต่มันไม่ใช่เลย มันคงจะไม่ดีพอสำหรับคุณแม่แฟน หนูพยายามนะคะ ทุกครั้งที่ไปไหนหนูจะพยายามหาของที่ดีฝากแฟนไปให้คุณแม่ และป๊าของเขา เวลาเจอกันหนูก้พยายามพูดคุยค่ะถึงแม้จะน้อย แต่หนูก็พยายามปรับตัว คอยดูแลพวกท่นเหมือนที่หนูดูแลครอบครัวของหนู หนูพยายามแล้วจริงๆค่ะ
สรุปเรื่องราว และคำถามคือ
1.ถ้าพวกพี่ๆมีแฟนเป็นแบบหนู มีแฟนเป็นคนผิดปกติ มีแฟนเป็นโรคซึมเศร้าพวกพี่ๆจะทำอย่างไรคะ และจะรู้สึกอย่างไร
2.ถ้าพวกพี่ๆอยู่ในฐานะแม่คนนึงที่มีลูกแล้วลูกมีแฟนแบบหนู พวกพี่จะรู้สึกยังไงคะ
3.ข้อสุดท้ายค่ะ คนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไม่สามารถมีครอบครัวเหมือนคนปกติได้เหรอคะ ต้องรักษาตัวจนหายเป็นปกติก่อนใช่ไหมคะถึงจะมีครอบครัวได้
ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำต่างๆนะคะ