The Nap สวัสดีครับ 

ผมเป็นเพจน้องใหม่ อาจจะไม่ได้ไฉไล อะไรมากมาย แต่ทำด้วยแรงใจและแรงกายนะครับ ^^

สำหรับวันนี้ได้มีโอกาสมาที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา
หลาย ๆ ท่านคงจะนึกถึง จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวคือ วัดหลวงพ่อโสธร  วัดสมานฯ และวัดต่าง ๆ นานา

ผมได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดถึง "เขื่อนสียัด" ผมนี่งงเลย มันอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย !!
พออธิบายว่า อยู่ ใกล้ ๆ เขาอ่างฤาไน ยังพอเคยได้ยินบ้าง แต่พอได้ยินอย่างงั้นแล้วว่ามันมีชื่อนี้อยู่ ก็ต้องขอลองสักครั้งที่ไปเยี่ยมเยียน

เปิด GPS จากกรุงเทพมา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่ไกลเลย  (บางที 2 ชั่วโมง คุณยังไม่ผ่านแยกไฟแดงอโศกเลยด้วยซ้ำ)
จึงได้ชวนเพื่อนร่วมงานอีก 3 คน ไปลองเที่ยวกันว่า "เขื่อนสียัด" มันเป็นยังไง

แพลนของเราก็ชิว ๆ นั่ง ๆ กิน ๆ นอน ๆ ไม่มีกิจกรรมใดใด ทั้งสิ้น  ทุกคน เซ YES !! 

เมื่อเริ่มเดินทาง ก็แวะโน่น แวะนี่ ขับกันแบบ กินลมชมวิวข้างทาง  พอเข้าเขตฉะเชิงเทรา เลยวัดหลวงพ่อโสธรมา  รู้สึกถึงบรรยากาศป่า ป่า และก็ป่า
ทางเข้าไปที่เขื่อนนั้น มันคือ ตัดผ่าป่าชัด ๆ วิ่งไปก็คือ ป่า ไฟทางไม่มี !!

ขับมาด้วยความเพลิดเพลินกับป่า จนไม่มีอะไรตื่นตาตื่นใจ  สักพักพวกเราเจอป้ายที่สะดุดตา เขียนว่า "ตลาดร้อยร้าน" ทุ่งยายชี
ขอบคุณภาพจาก เที่ยวไทย ตามไลฟ์สไตล์ Lifestyle ‘By Nattanan

ตอนนั้นลืมถ่ายรูปเอาไว้ จะเป็นเหมือนลำน้ำ มีที่ให้พายเรือ เล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ หนีร้อนได้ดีเลยทีเดียวครับ
แต่ปัจจุบันคือคนเยอะมาก  ร้านของกิน เครื่องดื่มค่อนข้างเยอะครับ
แต่ผมประทับใจกับแม่ค้าส้มตำ น่ารัก กันเอง และตำอร่อยมาก (อยากจะซื้อตัวมาเปิดร้านที่กรุงเทพ)

พอออกจากคลาดแล้วก็ตรงมาอีกไม่ไกล ก็มาถึงเขื่อนสียัด


มาถึงคือ เห้ยยยยย ดีอะ ลมแรง วิวดี  นั่งชิว คนไม่พลุกพล่าน  เล่นน้ำก็ได้ด้วย  สามารถเอารถลงมาภายในเขี่อนจอดเทียบเล่นน้ำได้เลย
รู้สึกไม่เสียเที่ยวจริง ๆ กับการมา ไม่ห่างจากกรุงเทพ ถึงจะไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรให้ทำระหว่างทาง แต่ก็ประทับใจที่ได้มาถึงที่นี่เลยละ

จุดนี้คืออยู่ภายในเขื่อน ได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่แล้วว่า ถ้าหน้าฝน น้ำก็ท่วมบริเวณนี้  

ถ่ายจากบริเวณสันเขื่อน  ในป่านี้มีช้าง!! ด้วยนะ  
พอถึงเวลาอาหารเย็น ก็มีร้านอาหารบริเวณทางเข้าเขื่อน ให้ได้รับประทานกัน มีประมาณ 3 ร้าน ผมได้เข้าไปทานร้านด้านในสุด อร่อยมาก  ปลาสด อาหารอร่อยถูกปากทุกอย่างเลย (มีห้องคาราโอเกะด้วยนะ) ลองเลือกรับประทานกันได้ครับ

และที่จะพลาดไม่ได้เลยคือ ศาลเจ้าพ่อเขากา ตอนแรกยังไม่ค่อยรู้ประวัติความเป็นมาเท่าไหร่  แต่ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่า มีคนถูกหวยรางวัลใหญ่มาแล้ว เท่านั้นละ เช้าอีกวันขึ้นมาไหว้กันเลยทีเดียว (ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณกันด้วยนะจ๊ะ) 
เล่าประวัติกันหน่อย (ฟังจากชาวบ้านแถวนั้นเล่าให้ฟังนะครับ) เจ้าพ่อเขากา เป็นนายทหารสมัยพระเจ้าตากสิน  ซึ่งพระองค์ท่านได้มาตั้งค่ายบริเวณนี้ เมื่อสมัยที่พระองค์จะยกทัพไปตีเมืองจันทบูรณ์ เพื่อรวบรวมกำลังไพร่พล กอบกู้เอกราชต่อมา แต่ไม่ได้มีปรากฏว่าเจ้าพ่อเขากาเป็นคนที่ใด แต่ท่านได้เสียชีวิตบริเวณนี้ จึงได้ฝังท่านไว้และสร้างศาลเล็ก ๆ ไว้ ต่อมาท่านได้แสดงอิทธิฤทธิ์ให้ชาวบ้านที่เดินทางผ่านไปมาพบเห็นเป็นประจำ  ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานเซ่นไหว้ กันจนเป็นประเพณี ในวันขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 

งานนี้ก็หากลูกช้างมีบุญวาสนา ขอให้นำพาโชคดลาภมาให้ลูกช้างด้วยเถิดท่านเจ้าพ่อ สาธุ !!

จากนั้น เราก็เดินทางมาไหว้พระ ทำบุญกันบ้าง ณ วัดป่าเขาล้อม
วันป่าเขาล้อม มีพระพุทธรูปไม้แกะสลัก สวยงามตามท้องเรื่องมาก ๆ เมื่อกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้ว ก็เดินสำรวจ ชมนกชมไม้ กันนิดหน่อย ก็มาเจอกับ !!
ไม้ตะเคียน ต้นใหญ่มาก และดูจากรูปแล้วคงไม่ต้องบอกว่าคืออะไร รอช้าอะไร สำรวจรอบ ๆ ต้นเลยละครับ !!  แต่เอาจริง ๆ ผมไม่กล้าถูนะครับ ได้แค่ยืนสำรวจมองหาเอาเท่านั้น และก็ได้มานิดหน่อย ดูซิ งวดนี้ จะได้กลับไปหรือไม่ !!

แล้วคณะก็ได้เดินทางต่อไปยัง เขาอ่างฤาไน  ซึ่งอาจจะเคยได้ยินจากข่าวที่รถตู้ประสบอุบัติเหตุชนช้างนั้น ขอบอกว่า ช้างเยอะจริงอะไรจริง  ผมได้เจอด้วยตอนขับรถขากลับ แต่รถผมก็ไม่ได้อยู่ลำพัง มีเพื่อนร่วมทางอีกหลายคันอยู่ (ถ้ามาคนเดียวตูจะทำยังไงดี !!)

เราก็เดินทางมาถึงเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เขาอ่างฤานัย ก็มาเจอ น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง กระทิง
น้องป่วยเป็นโรคลมชัก ทางศูนย์จึงได้ดูแลเลี้ยงดูไว้ 

ผมก็ได้ขับรถเข้าไปด้านในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าแห่งนี้อีกนิดหน่อย ก็เจอกวาง เห็นได้ในระยะใกล้ๆ เลยทีเดียว  ไว้มีโอกาส จะมาเยี่ยมชม ให้จุใจกว่านี้
ตอนนี้เริ่มจะบ่ายแล้ว ต้องเดินทางกลับบ้านแล้ว

ฝากติดตามเพจ The Nap Trip and Tips By Napat ไว้ด้วยนะครับ
www.facebook.com/thenapworld 
แล้วจะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้ประสบพบเจอมาใหม่
ขอบคุณนะครับ