จริงๆ ผมเคยรีวิวแล้วรอบนึงครับ จำได้ว่ารอบที่แล้วผมไม่ได้ชอบเรื่องนี้อะไรมากมาย "รอบแรก" ผมนั่งดูกับเพื่อนผู้ชายอีก 4 คนในบ้าน ผมลองไปเช่ามาดูเพื่อหาอะไรประโลมโลกดูบ้าง อิอิ ผมรู้อยู่แล้วครับว่าทำไมพวกเพื่อนๆ ถึงอยากดู555 แต่ผมกับแฟน(หนึ่งในสี่คนนั้นคือแฟนผมครับ) นั้นอยากดูเพราะเนื้อเรื่องมันน่าสนใจครับ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ นี่ผมกับแฟนชอบกันอยู่แล้ว(ห้ามคิด555) ระหว่างผมดู ครึ่งแรกผมกับแฟนนั้นสนใจหนังมากครับ พอเริ่มกลางเรื่องไปผมนี่เริ่มหาวละ พอถึงฉากโจ๊ะพรึมพรึม ผมก็หันไปดูอาการเพื่อนๆ ปรากฎหลับหมดเลยจ้า555 ผมกับแฟนคือผู้เหลือรอด พอรอบสองผมลองเช่ามาดูอีกทีใน ITunes ปรากฎว่าดูไปเรื่อยๆ ตายคาคอมจ้า(หลับ555) ก็เลยไม่ได้ดูต่อ พอไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเหลือบไปเห็นเรื่องนี้ตอนเพื่อนผมมันดูในทีวีครับ ผมก็ไปนั่งดูกับมันเพื่อจะได้ดูให้จบเสียที และลองพิจารณาตัวเรื่องไปเรื่อยๆ แล้วก็ทัศนคติกับเรื่องนี้ใหม่ครับ และค่อนข้างสวนทางกับความรู้สึกที่ผมดูเรื่องนี้รอบแรกอีกด้วย

หนังเล่าเรื่องผ่านตัวละครแอนัสเตเซีย สตีล นักศึกษาเอกวรรณกรรม ที่ได้รับโอกาสไห้เข้าสัมภาษณ์นักธุรกิจหนุ่มคริสเตียน เกรย์ แอนัสตาเซียพบว่า คริสเตียนเป็นชายหนุ่มรูปงามที่ปราดเปรื่องและน่าหวั่นเกรง สาวน้อยวัยไสไร้เดียงสาอย่างแอนาต้องตกตะลึง เมื่อรู้ตัวว่าเธอปรารถนาชายผู้นี้ และแม้ว่าเขาจะเป็นคนเก็บตัวจนน่าสงสัย เธอกลับพบว่าตนเองอยากใกล้ชิดเขาจนห้ามใจไม่ไหว คริสเตียนเองก็เช่นกัน เขาไม่อาจห้ามใจจากความงามอันเรียบง่าย เชาว์ปัญญาแหลมคมและจิตใจที่โหยหาอิสระของแอนา เพียงแต่เขาต้องการเธอในแบบของเขาเอง แม้จะห้อมล้อมไปด้วยความสำเร็จมากมาย ทั้งในแง่ธุรกิจระดับนานาชาติ ความร่ำรวยมหาศาล และครอบครัวที่รักใคร่เขา แต่เกรย์ก็ยังเป็นผู้ชายที่ถูกอดีตตามหลอกหลอน และต้องการเป็นผู้ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง แอนาช็อกและตื่นเต้นในขณะเดียวกันกับรสนิยมทางเพศแบบเฉพาะของเกรย์ แม้จะเกิดลังเลใจขึ้นมา แต่เธอก็ตัดสินใจให้โอกาสเขา เมื่อทั้งคู่ออกเดินทางด้วยกันในเส้นทางที่อันตรายและเต็มไปด้วยความเร่าร้อน แอนาก็คนพบความลับของคริสเตียน เกรย์

รอบนี้ผมว่าผมชอบภาคนี้มากขึ้นนะ ผมลองมองหาข้อดีของหนังดูแล้วกลับพบว่าภายใต้ข้อเสียนั้นถ้าเจาะลงไปดีๆ จะพบว่ามันจะมีข้อดีซ่อนอยู่ อย่างในเรื่องของบท หลายคนบ่นว่ามันไม่มีอะไร แต่ถ้าลองพิจารณาดีๆ ผมว่าบทมีอะไรน่าสนใจอยู่เยอะเลยนะ อย่างเรื่องชีวิตรัก การลองเปิดใจ และการคบใครสักคน แอนา เป็นสาวอินโนเซ็นต์ที่ค่อนข้างอ่อนต่อโลก เธอได้มาพบกับคริสเตียน หนุ่มรูปหล่อที่มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่างในการเป็นชายในฝันของผู้หญิงหลายคน มันน่าสนใจตรงที่แอนามีอะไรที่คริสเตียนคิดว่าน่าค้นหาครับ ถึงเธอจะเป็นสาวที่อ่อนต่อโลก แต่เธอฉลาดและมีไหวพริบ ไม่ยอมอ่อนข้อให้ครับคริสเตียนทั้งๆ ที่คริสเตียนเรื่องนี้ดูเหมือนเขาจะมีอำนาจมากเลยนะ แต่แอนาไม่สนครับ เธอคิดว่าถ้าคุณดีจริง คุณต้องแสดงความเป็นลูกผู้ชายออกมา และคริสเตียนก็เริ่มปรับตัวให้ Local ขึ้นเพื่อพิชิตใจแอนา และพอแอนาเริ่มยอมรับคริสเตียน คริสเตียนก็ลองที่จะให้แอนามาสัมผัสโลกของเขาบ้าง นั่นคือที่มาของฉาก "เฮลิคอปเตอร์"

และพอคริสเตียนพาแอนามารู้จักกับโลกของเขา(ห้องแดง) เธอเริ่มคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เศรษฐีพันล้านธรรมดาแล้วล่ะ เธออยากลองเข้าไปสู่โลกของคริสเตียนเพื่อที่จะทำให้เขาเข้าใจกันและกันมากขึ้น นั่นคือที่มาของฉากโจ๊ะพรึมพรึมที่มีความยาวร่วมเกือบจะครึ่งชั่วโมงจากหนังความยาว 2 ชั่วโมง! หลายฉากทีแรกผมก็มองว่ามันก็ค่อนข้างธรรมดานะ แต่พอมาดูรอบนี้ ผมว่าในความธรรมดานี่ก็มีอะไรที่น่าสนใจแฝงอยู่นะ
ฉากโจ๊ะพรึมพรึมที่ใส่มามันเหมือนกันแลกเปลี่ยน Taste ของสองคนนี้อ่ะครับ มันก็เหมือนการทดลองรสนิยมของทั้งคู่ว่าเราเข้ากันได้รึเปล่า และในฉากสุดท้าย ที่คริสเตียนเริ่มเผยด้านมืดเขาออกมา ด้วยความรักที่มีต่อเขาของแอนา เธอจึงลองมอบกายและใจของเธอให้ผู้ชายคนนี้ลองทดสอบแบบจริงๆ ว่าเราจะไปกันรอดรึเปล่า ถ้า Taste คุณและ Taste ฉันไปกันได้ คุณก็ต้องพยายามควบคุมมันให้ได้ ไม่ให้ความต้องการของคุณมันมาครอบงำจนกลายเป็นลุ่มหลง แต่ว่าคริสเตียนทำไม่ได้ เขาไม่สามารถควบคุมมันได้ ทำให้แอนาต้องตัดใจเสียตอนนี้ดีกว่าจะเสียทั้งกายและใจให้กับความลุ่มหลงของเขา ทำให้ "แอนา" และ "คริสเตียน" ต้องจบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลงที่จุดนั้น และในตอนจบนั้น หลายคนบอกว่ามันจบห้วน แต่ผมเริ่มพิจารณาดู ผมว่ามันก็สะท้อนความจริงนะ เพราะเวลาเราตัดขาดจากคนที่เราเคยมอบทั้งกายและใจนั้น ทุกอย่างมันจะผ่านไปเร็วมากครับ เหมือนกับว่าเวลาที่เรากับเขาใช้ด้วยกันเนี่ย มันไร้ค่าและเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นจริง ใครที่เคยถูกเทจะเข้าใจฟิลลิ่งนี้ครับ

จริงๆ มันยังมีอะไรที่ผมอยากจะร่ายอีกเยอะครับ แต่ผมว่ามันจะเป็นการแก้ตัวมากกว่า จึงได้มาสรุปให้อ่านกันคร่าวๆ ว่าองค์ประกอบหนังนั้นมีอะไรที่น่าสนใจเยอะ เพียงแต่ผมนั้นเข้าไม่ถึงเองในการดูรอบแรกๆ ฉะนั้นในการรีวิวรอบนี้ ผมจึงต้องขอแก้ปากครับว่า "หนังเรื่องนี้ ดีกว่าที่ผมคิดไว้จริงๆ เพียงแต่ผมมองไม่เห็นความดีของมันเอง และก็ขอพูดแบบสั้นๆ อีกทีครับว่า "การดู Fifty Shades of Grey ครั้งนี้ ประสบความสำเร็จกว่ารอบที่แล้วว่ะ!"
รอบที่แล้ว
คะแนนเฉลี่ยรวม : 5/10
เรตหนัง : หนังโอเค พอดูได้
รอบนี้
คะแนนเฉลี่ยรวม : 7/10
เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู
[CR] [##REVIEW##] Fifty Shades of Grey (2015) ฟิฟตี้เชดส์ออฟเกรย์ | ตีความใหม่ "รอบที่ 3" [มีส้มป่อย]
คะแนนเฉลี่ยรวม : 5/10เรตหนัง : หนังโอเค พอดูได้CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม