สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
มันก็ไม่เหนือความคาดหมายเท่าไหร่นะ ..ใช้ลักษณะบทดราม่าสติหลุดก็จะได้ประมาณนี้ ...ยิ่งผู้สร้างมา Confirm หลังฉายจบด้วยก็เข้าใจได้ไม่ยากเลย ...
คือ ทั้งชีวิต Dany ถูกหล่อหลอมมาด้วยข้อมูลฝังหัวว่าตระกูลตัวเองมาเพื่อปกครองดินแดนแห่งนี้ อยู่เป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่เพราะมีความเป็นมังกรอยู่ในสายเลือด แตกต่าง และสูงส่ง (ถ้าดูตั้งแต่ SS.1 มาก็จะเห็น Quote ต่างๆ ที่ออกมจากปากนางถึงความภูมิใจในความสูงส่งของตระกูลนางที่ฝังหัวมาตลอด ..ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เคยเห็นหรือได้สัมผัสในยามปกติเลย) .. ..
ปัญหาคือ .. Dany ไม่ได้เคยได้รับรู้ รู้สึก หรือเรียนรู้ช่วงความเป็น "ยอดปิรามิด" ตรงนั้นเลย เพราะงั้น ตรรกะเธออาจจะเกือบๆ คล้ายอาการทางจิตอ่อนๆ ที่แฝงและฝังลึกรอวันควบคุมไม่อยู่ในแง่ของการที่ต้องยอมรับความจริงที่ขัดแย้งกับข้อมูล ...
- ตระกูลตัวเองสูงส่ง
- ตัวเองเป็นเจ้าหญิง
- ตัวเองคือคนสุดท้ายที่ต้องสืบทอดบัลลังค์
ข้อมูลเบื้องต้นที่ไร้ซึ่งองค์ประกอบแห่งความเป็นจริงให้เจอ ... ไม่มีครอบครัวที่อบอุ่นแบบราชวงศ์ (รับรู้ก็แค่พี่ชายที่ขายตัวเองให้คนเถื่อนเอาไปแลกม้า มีพี่ก็คล้ายโดนหักหลัง) ไม่มีปราสาทหรือที่อยู่เป็นหลักแหล่ง (ต้องร่อนเร่ไปเรื่อย อาศัยแค่ความ "ฝืน" กล้าพูด กล้าเผชิญหน้ากับสถานการณ์เพื่อให้แค่ตัวเองยังพอรอดสะสมกำลังไปเรื่อย) ไม่มีใครเชื่อถือในเครดิตที่ตัวเองพูด (พูดไปก็โดนดูแคลน เพราะคนรับรู้แค่ว่าตระกูลนี้ล่มสลายไปแล้ว เหลือแค่ผู้หญิงบ้าคนเดียวที่เที่ยวมาอ้างสิทธิ์ไปเรื่อย) .... สิ่งเหล่านี้ มันทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวมาตลอด ยามเริ่มมีที่พึ่งพา เลยอาจจะทำให้เธอเรียนรู้อะไรๆ ได้มากขึ้น ...
แต่ 2 ซีซันหลังสุดก็ค่อยๆ กระชากที่พึ่งพาที่สะสมมาตั้งแต่ SS.1 ให้จากเธอไปอีกครั้ง นำมาซึ่งความโดดเดี่ยว และแทบจะเหลือแค่มังกรตัวเดียวที่เหมือนโตมากับเธอ (การที่มังกรทะยอยตายไปทีละตัว มันก็เหมือนตัวตนความเป็นคน ผ่านความเป็นแม่ ค่อยๆ สูญสลายไปทีละนิด) ...
เพราะงั้น .. การยอมแพ้แค่สั่นระฆัง มันไม่ใช่น้ำเอาไว้ดับไฟ ยามเมื่อเธอมองกลับไปที่ปราสาท Red Keep เรื่องราวทั้งหลายมันก็ประดังประเดเข้ามา (อาจจะรวมถึงความรู้สึกค้างคา เหมือนโดนเล่นตลก เพราะทั้งชีวิตที่เหมือนไต่ปีนเขา พวกการเมืองและผู้คนทั้งหลายเป็นอุปสรรคมาตลอด อยู่ดีๆ พอเห็นยอดเขาอยู่แค่เอื้อม มันส่งลิฟท์ชักรอกลงมาให้เฉยๆ เลย ซึ่ง ...ไม่จำเป็นแล้ว ...เหมือนโดนกวนตีนยังไงยังงั้น) ... การเห็นปราสาทที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเลวร้ายที่เข้ามาในชีวิตเธอ (ทั้งเรื่องฝังหัวในสิทธิ์บัลลังค์ ทั้งเรื่องการสูญเสียคนรอบกายที่เธออุตส่าห์รวบรวมมา การค่อยๆ โดนคนที่บอกว่ารักค่อยๆ หันหลังให้) มันทำให้รู้สึกเหมือนกับ เพราะไอ้เก้าอี้ในนั้นกับผู้คนที่รายล้อม Kings Landing แท้ๆ ที่ปั่นหัว Dany มาตลอด ... มันกลายเป็นไร้ความหมายให้เก็บเอาไว้เมื่อเทียบกับสิ่งที่สูญเสียในชีวิตไปแล้วเรียกกลับคืนมาไม่ได้ ...
ในเมื่อตัวเองสูญเสียอะไรไปหลายอย่างแล้ว (ไอ้ฟางเส้นสุดท้าย อาจจะเป็นไอ้บัก Jon ที่ไม่เหมือนเดิมตั้งแต่รู้ว่าเธอเป็นอานั่นแหละ) ปราสาทกับเมืองบ้าๆ นี่จะเก็บไว้ทำไม เห็นแล้วมันปวดตาเจ็บใจ (ยิ่งพังชีวิตเธอมาทั้งชีวิต จู่ๆ ก็มาแบะท่ายอมแพ้อย่างกับประชด) ...Burn them all ...
คือ ทั้งชีวิต Dany ถูกหล่อหลอมมาด้วยข้อมูลฝังหัวว่าตระกูลตัวเองมาเพื่อปกครองดินแดนแห่งนี้ อยู่เป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่เพราะมีความเป็นมังกรอยู่ในสายเลือด แตกต่าง และสูงส่ง (ถ้าดูตั้งแต่ SS.1 มาก็จะเห็น Quote ต่างๆ ที่ออกมจากปากนางถึงความภูมิใจในความสูงส่งของตระกูลนางที่ฝังหัวมาตลอด ..ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เคยเห็นหรือได้สัมผัสในยามปกติเลย) .. ..
ปัญหาคือ .. Dany ไม่ได้เคยได้รับรู้ รู้สึก หรือเรียนรู้ช่วงความเป็น "ยอดปิรามิด" ตรงนั้นเลย เพราะงั้น ตรรกะเธออาจจะเกือบๆ คล้ายอาการทางจิตอ่อนๆ ที่แฝงและฝังลึกรอวันควบคุมไม่อยู่ในแง่ของการที่ต้องยอมรับความจริงที่ขัดแย้งกับข้อมูล ...
- ตระกูลตัวเองสูงส่ง
- ตัวเองเป็นเจ้าหญิง
- ตัวเองคือคนสุดท้ายที่ต้องสืบทอดบัลลังค์
ข้อมูลเบื้องต้นที่ไร้ซึ่งองค์ประกอบแห่งความเป็นจริงให้เจอ ... ไม่มีครอบครัวที่อบอุ่นแบบราชวงศ์ (รับรู้ก็แค่พี่ชายที่ขายตัวเองให้คนเถื่อนเอาไปแลกม้า มีพี่ก็คล้ายโดนหักหลัง) ไม่มีปราสาทหรือที่อยู่เป็นหลักแหล่ง (ต้องร่อนเร่ไปเรื่อย อาศัยแค่ความ "ฝืน" กล้าพูด กล้าเผชิญหน้ากับสถานการณ์เพื่อให้แค่ตัวเองยังพอรอดสะสมกำลังไปเรื่อย) ไม่มีใครเชื่อถือในเครดิตที่ตัวเองพูด (พูดไปก็โดนดูแคลน เพราะคนรับรู้แค่ว่าตระกูลนี้ล่มสลายไปแล้ว เหลือแค่ผู้หญิงบ้าคนเดียวที่เที่ยวมาอ้างสิทธิ์ไปเรื่อย) .... สิ่งเหล่านี้ มันทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวมาตลอด ยามเริ่มมีที่พึ่งพา เลยอาจจะทำให้เธอเรียนรู้อะไรๆ ได้มากขึ้น ...
แต่ 2 ซีซันหลังสุดก็ค่อยๆ กระชากที่พึ่งพาที่สะสมมาตั้งแต่ SS.1 ให้จากเธอไปอีกครั้ง นำมาซึ่งความโดดเดี่ยว และแทบจะเหลือแค่มังกรตัวเดียวที่เหมือนโตมากับเธอ (การที่มังกรทะยอยตายไปทีละตัว มันก็เหมือนตัวตนความเป็นคน ผ่านความเป็นแม่ ค่อยๆ สูญสลายไปทีละนิด) ...
เพราะงั้น .. การยอมแพ้แค่สั่นระฆัง มันไม่ใช่น้ำเอาไว้ดับไฟ ยามเมื่อเธอมองกลับไปที่ปราสาท Red Keep เรื่องราวทั้งหลายมันก็ประดังประเดเข้ามา (อาจจะรวมถึงความรู้สึกค้างคา เหมือนโดนเล่นตลก เพราะทั้งชีวิตที่เหมือนไต่ปีนเขา พวกการเมืองและผู้คนทั้งหลายเป็นอุปสรรคมาตลอด อยู่ดีๆ พอเห็นยอดเขาอยู่แค่เอื้อม มันส่งลิฟท์ชักรอกลงมาให้เฉยๆ เลย ซึ่ง ...ไม่จำเป็นแล้ว ...เหมือนโดนกวนตีนยังไงยังงั้น) ... การเห็นปราสาทที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเลวร้ายที่เข้ามาในชีวิตเธอ (ทั้งเรื่องฝังหัวในสิทธิ์บัลลังค์ ทั้งเรื่องการสูญเสียคนรอบกายที่เธออุตส่าห์รวบรวมมา การค่อยๆ โดนคนที่บอกว่ารักค่อยๆ หันหลังให้) มันทำให้รู้สึกเหมือนกับ เพราะไอ้เก้าอี้ในนั้นกับผู้คนที่รายล้อม Kings Landing แท้ๆ ที่ปั่นหัว Dany มาตลอด ... มันกลายเป็นไร้ความหมายให้เก็บเอาไว้เมื่อเทียบกับสิ่งที่สูญเสียในชีวิตไปแล้วเรียกกลับคืนมาไม่ได้ ...
ในเมื่อตัวเองสูญเสียอะไรไปหลายอย่างแล้ว (ไอ้ฟางเส้นสุดท้าย อาจจะเป็นไอ้บัก Jon ที่ไม่เหมือนเดิมตั้งแต่รู้ว่าเธอเป็นอานั่นแหละ) ปราสาทกับเมืองบ้าๆ นี่จะเก็บไว้ทำไม เห็นแล้วมันปวดตาเจ็บใจ (ยิ่งพังชีวิตเธอมาทั้งชีวิต จู่ๆ ก็มาแบะท่ายอมแพ้อย่างกับประชด) ...Burn them all ...

แสดงความคิดเห็น
ทำไมแดนี่ถึง… ตอนได้ยินเสียงระฆัง?
Edit เพิ่ม
เราเห็นด้วยกับหลายๆคน และเข้าใจกับสิ่งที่แดนี่ต้องเผชิญมานะ แต่เรามองว่าทางที่คนเขียนบทเขาเลือกใช้ในการเปลี่ยนแดนี่ให้เป็นแมดควีนอะมันค่อนข้างแย่ ถ้าจะให้มีอะไรที่มีผลมากพอที่จะให้แดนี่ตัดสินใจทำแบบนี้มันควรจะเป็นตัวละครที่มีผลต่อจิตใจแดนี่มากๆ อย่างมิสซานเดย์(ซึ่งก็ควรจะรบกันไปตั้งแต่ตอนที่แล้ว) ให้เกรย์เวิร์ม/กองทัพเธอตาย หรือไม่ก็ให้ทีเรียน วาริส หักหลังร่วมกับจอนไปเลย แทนที่จะใช้แค่ระฆังซึ่งจะสื่อถึงความหยามเกียรติอะไรก็ตามแต่ เรายังมองว่ามันเบาเกินไป(มาก) และมาในจังหวะที่ไม่ดีซะเลย ทำให้แดนี่กลายเป็นตัวร้ายทื่อๆไปซะอย่างงั้น ทั้งที่ถ้าใช้เรื่องราวของเธอจากซีซั่นก่อน เสริมแรงจูงใจที่น่าเชื่อถือกว่านี้ เราว่าคนก็คงยอมรับการกระทำเธอได้ไม่ยาก
ยกตัวอย่างตอนเซอร์ซีระเบิดวิหารเบเลอร์อะ อันนั้นจะมองเป็นแมดควีนก็ยังได้ แต่มันดูสมเหตุสมผลกับสิ่งที่เธอทำ ด้วยความเซอร์ซี ทั้งโดนเดิน shame ลูกถูกล้างสมอง ไทเรลร่วมกับศาสนจักรอีก คืออีกนิดก็โดนยึดอำนาจโดยสมบูรณ์แล้วอะ พอถึงจุดแตกหักจริงๆ มันเลยพีคมาก เราก็เลยยอมรับการกระทำนั้นได้