คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ขอข้ามเรื่องที่ปัจจุบันไปนะ ไหนๆ ใจก็จะไป แล้ว
ที่ทำงานครั้งต่อไป เตรียมตัวดังนี้
1. เริ่มสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงาน แสดงมิตรจิตมิตรใจ
เป็นโอกาสเปลี่ยนภาพพจน์ใหม่ของตัวเอง
2. เมื่อมีภาพพจน์ดี จะขอให้ใครช่วยใครสอน ย่อมไม่ยาก
ระยะทดลองงาน คือ เริ่มต้นทำงาน แสดงฝีมือ ว่าคุ้มค่าจ้างไหม
ไม่ใช่ รอคนสอนงาน ลองผิดลองถูก ตามสบาย ก็ไม่รู้นี ไม่เคยทำ ไม่มีคนสอน
เพราะ เขาจ่ายเงินเต็ม ทุกวัน ไม่ได้ลองจ่ายมั่งไม่จ่ายมั่ง
(อ้าว บริษัทก็ลองจ่ายผิดมั่งไม่ได้หรือ ?)
3. เมื่อทำผิด ทุกครั้ง ขอโทษ แล้วแก้ไข จดเอาไว้ว่า ทำอะไร ผิดอย่างไร แก้ไขยังไง
ไม่ใช่ไปนั่งดูว่า มีคนอื่นผิดมั่งไหม ทำไมเขาไม่โดนอะไร ทำไมเราโดนคนเดียว...
การนั่งเปรียบเทียบนั้น มันไม่ได้แก้ปัญหาที่คุณทำผิดตรงไหน มีแต่จิตตกเพิ่ม
ปัญหาต่างๆ ที่คุณเจอมา ลองมองดูให้ดี
ถ้าคนไม่กี่คน มีปัญหากับเรา ไอ้ ไม่กี่คน นั้น มันอาจงี่เง่า ไม่น่าคบค้าสมาคมด้วย
ก็ช่างมัน
แต่ถ้ามีแค่คนเดียว ที่ไม่มีปัญหากับเรา คือ เรามีปัญหากับเกือบทุกคน
ควรจะแก้ที่ใคร ตัวเรา หรือ คนอื่นๆ ทั้งหลาบนั้น
ที่ทำงานครั้งต่อไป เตรียมตัวดังนี้
1. เริ่มสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงาน แสดงมิตรจิตมิตรใจ
เป็นโอกาสเปลี่ยนภาพพจน์ใหม่ของตัวเอง
2. เมื่อมีภาพพจน์ดี จะขอให้ใครช่วยใครสอน ย่อมไม่ยาก
ระยะทดลองงาน คือ เริ่มต้นทำงาน แสดงฝีมือ ว่าคุ้มค่าจ้างไหม
ไม่ใช่ รอคนสอนงาน ลองผิดลองถูก ตามสบาย ก็ไม่รู้นี ไม่เคยทำ ไม่มีคนสอน
เพราะ เขาจ่ายเงินเต็ม ทุกวัน ไม่ได้ลองจ่ายมั่งไม่จ่ายมั่ง
(อ้าว บริษัทก็ลองจ่ายผิดมั่งไม่ได้หรือ ?)
3. เมื่อทำผิด ทุกครั้ง ขอโทษ แล้วแก้ไข จดเอาไว้ว่า ทำอะไร ผิดอย่างไร แก้ไขยังไง
ไม่ใช่ไปนั่งดูว่า มีคนอื่นผิดมั่งไหม ทำไมเขาไม่โดนอะไร ทำไมเราโดนคนเดียว...
การนั่งเปรียบเทียบนั้น มันไม่ได้แก้ปัญหาที่คุณทำผิดตรงไหน มีแต่จิตตกเพิ่ม
ปัญหาต่างๆ ที่คุณเจอมา ลองมองดูให้ดี
ถ้าคนไม่กี่คน มีปัญหากับเรา ไอ้ ไม่กี่คน นั้น มันอาจงี่เง่า ไม่น่าคบค้าสมาคมด้วย
ก็ช่างมัน
แต่ถ้ามีแค่คนเดียว ที่ไม่มีปัญหากับเรา คือ เรามีปัญหากับเกือบทุกคน
ควรจะแก้ที่ใคร ตัวเรา หรือ คนอื่นๆ ทั้งหลาบนั้น
แสดงความคิดเห็น
ทนทำงานต่อหรือลาออกดี
อยู่มา 3 เดือนละครับ
เดือนแรกได้ทำงานขาออก โต๊ะแผนกขาออกมันเต็ม เขาไม่ได้จัดที่ไว้ให้ เลยมานั่งรวมกับ แผนกขาเข้า พอเวลาผ่านไปสักอาทิตย์มันไม่มีอะไรดีขึ้น ทำงานผิดนิดหน่อย ก็โดนบ่น โดนด่า ในขณะที่รุ่นพี่ที่เพิ่งเริ่มงานก่อนเรา 1 วัน ผิดเยอะกว่าเรา ไม่โดนด่าอะไรเลย แล้วนับวันมันยิ่งหนักอะครับ บางวันเครื่องปริ้น เสียแต่เผอิญผมไปอยู๋ตรงนั้น พี่เขาก็เอาผมไปด่าที่แผนกหาว่าทำเครื่องปริ้นเสีย ด่าดังมากครับ ได้ยินกันทั่ว จนครั้งสุดท้ายมีเรื่องจน เมเนจเรอืย้ายผมไปอยู๋ขาเข้า
เกือบๆเดือน 2 ได้อยู่ขาเข้าครับ เมเนเจอร์บอกให้ลองสู้อีกสักครั้ง ผมก็อดทนครับมาทำงานเดือน 2 ในแผนกขาเข้า ตอนแรกเหมือนจะดีครับ มาวันแรกผมก็โดนเลย พี่ที่แผนกขาเข้า ไม่สอนงาน เอางานมาวางให้แล้วบอกให้ลองทำ ผมก็ลองทำมั่วๆ เท่าที่พอมีประสบการณ์ ซึ่ง มันผิดครับ แต่ไม่เยอะมาก ผมดดนบ่นเละเลยครับ แล้วเขาก็พูดประมาณว่า เดี๋ยวพี่จะสอนแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ "ผมรู้สึกงง ว่าจะมีทดลองงานทำไม ถ้าเรียนรู้ได้แค่ครั้งเดียว" แล้วมันก็เป็นจริงๆครับ ยิ่งอยู่ เวลาจะถามอะไรเขาจะไม่ค่อยบอก บางทีบอกรอแปปเดียว เดี๋ยวพี่ไปสอน แต่ก็ไม่มาสอนครับ ทุกวันนี้ผมเรียนรู้โปรแกรมด้วยตัวเอง งานก็จะผิดแค่รายละเอียดที่ต้องใส่เข้าไป แล้วก็โดนบ่นอย่างเคย (ก็พี่ไม่สอนปะวะ พอเข้าไปถามก็ไม่บอก) ทุกวันนี้ผมอยู๋ขาเข้ามา 2 เดือนละครับ พี่ๆเขาเห็นผมว่างไม่ได้ จะคอยเดินถามคนอื่นว่ามีงานอะไรมาให้เราทำไหม ซึ่งผมรู้สึกเฟล เพราะว่า พี่ๆที่แผนกคนอื่น เขาจะนั่งเล่นนั่งคุยกันไม่ค่อยทำงาน แล้วเขาจะเอางานโยนมาที่ผมหมด มันทำให้ผมรู้สึกแย่กับที่นี่มากครับ แม้แต่วันที่ผมไป รพ. ยื่นใบรับรองแพทย์ ผมยังโดนเมเนเจอร์ด่าเลยครับ ตลอด 3 เดือนเหมือนผม อยู๋คนเดียวตลอดแทบไม่ได้คุยกับใครเลย กินข้าว ก็จะกินอยู่กับพี่ที่เริ่มงานก่อนเรา 1 วัน เพราะเหมือนเป็นคนใหม่เหมือนกันเลยคุยง่าย แต่พอพี่เขาไม่มา ผมก็ฉายเดี่ยวตลอดเลยครับ แอบอิจฉาพี่ที่เข้ามาใหม่ก่อนผม 1 วัน เขาแทบไม่โดนอะไรเลย ผิดกับผม
ผมเลยรู้สึกว่า ผมควรทนต่อไหมครับ หรือผมจะหาที่ทำงานใหม่ดี มันจะมีผลตอนไปสัมภาษที่ใหม่ไหมครับ
ปล. ที่ทำงานแรกผมทำได้ 3 เดือนครับ ที่ออกเพราะผมถูกหลอกให้ไปปลอมเอกสาร