เรื่องมีอยู่ว่าสามีเป็นลูกพี่ลูกน้องตั้งเเต่เด็กค่ะคุยเล่นกันมาตั้งเเต่เด็กจนจบปริญญาตรี (ตอนอายุ 25 ค่ะ) ทางบ้านก็กรุงถุงชนค่ะ ให้เเต่งงานกับสามีค่ะ ก็เรื่อยๆค่ะ ปี 2 ปี ก็จับได้ว่าเขามีชู้ เขาก็สัญญาว่าจะไม่ทำอีกค่ะ เราก็เเบบมันพึ่งครั้งแรกเนอะเลยไม่อารัยมาก
(ตั้งเเต่ที่สามีเรียนจบหรือเเต่งงานกับเรามาเขาไม่เคยจ่ายเลยค่ะให้เราจ่ายตลอดเขาบอกหางานไม่ได้ค่ะตอนนั้นเราก็อยู่บ้านเฉยๆด้วยค่ะเพราะมีเงินกินพอสมควรค่ะ)
ตอนจนเขามาขอยืมเงินเราไปเปิดบริษัทเราก็โง่ให้ไปค่ะ จากเงินในบัญชีที่มีมากกว่า 21 ล้าน เหลือ เเค่ 7,000 กว่าๆ แล้วบริษัทเขาก็เจ๋งค่ะ เราเลยเริ่มที่จะทำงาน ทำได้ 3 ปี ก็ อายุ 30 เป็นตอนมีน้องคนเเรกเลยค่ะ สามีเราไม่เคยถามไถ่ตอนเราท้องเลยค่ะ กลับบ้าานทีก็ ตี 1 หรือ ไม่กลับก็มีค่ะ
เเถมยังเอารถเราไปให้คนอื่นยืมขับและเก็บเงินอีกส่วนตัวเราจะมีพระที่หน้ารถนะคะเเต่มันหายไปหมดเลย
มีทั้งไปยืมเงินคนอื่นเป็นแสนเเล้วให้เราใช้คืนอีก พอเรา 35 ก็มีน้องอีกคนนึง เเต่น้องคนนี้พิการทางเเขนค่ะเพราะเราไม่รู้ตัวว่าท้องน้องเลยทำให้น้องพิการ ช่วงนั้นเราเครียดๆด้วยค่ะ จนลูกคนโต อยู่ ป.6 คนเล็ก อนุบาล 3
เราเลยตัดสินใตออกมาจากบ้านนะคะ ช่วงนั้นเราต้องเก็บของก็อาศัยที่สามีไม่ค่อยกลับบ้านเอาของไว้ในรถพอตอนเช้าก็รีบออกไปจะได้ไม่มีใครเห็นแล้วเกิดสงสัยค่ะ (เราอยู่เเบบครอบครัวใหญ่มีพ่อแม่สามีอยู่ข้างๆบ้าน) เราแอบซื้อบ้านไว้ด้วยค่ะ
ตอนนั้นจะในหนังก็ว่าได้ค่ะเราเอาลูกออกมาตอน 3-4 ทุ่มเเต่ สามีกับกลับมาเราเลยรีบขับรถหนีคิดเเค่จะไปหา ตำรวจ เราขับเร็วมากจนลูกคนแรกร้องไห้หนักมากเลยค่ะ ดีที่ลูกคนที่ 2 เป็นเด็กเก่งไม่ร้อนสักนิด
เราขับเข้าสถานนีตำรวจเเล้วจอดในนั้นเลย เเต่สามีก็มาปุกกระจกให้เราออกมาจนตำรวจเห็นเลยมาถาม เราทำบันทึกประจำวันไว้ค่ะ เรื่อง คือเราได้ลูกมาอยู่ที่บ้านใหม่นะค่ะ ตอนปี 2010 หรือ 2011
แต่เรายังไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้าน เราน่าจะย้าย มาตอนปี 2013 หรือ 2014 นี่เเหละค่ะ
เเต่ก็ดันมาเกิดเรื่องกับลูกคนเล็กค่ะ นางก็โตขึ้นมีคนมองนางแปลกๆนางเริ่มไม่อยากไป ร.ร จนนางเป็น คิคิโคโมริ นางไม่ไปเรียนเลยค่ะ ตอนนั้นปวดใจมาก นางเอาเเต่อยู่ใรห้อง ของที่อยากได้ก็จะส่งทางไลน์หรือจะโทรคุยว่าอยากได้อะไร คุยต่อหน้ากับนางเเค่ 1 อาทิตย์ หรือ 2 อาทิตย์ ครั้งเองค่ะ แต่ดีที่นางชอบอ่านนิยายค่ะ ดีนางอ่านนิยายเองตั้งเเต่ 10 ขวบ ตอนนั้นใช้ทั้งไม้อ่อนไม้เเข็งให้นางไป แต่นางบอกว่ามันไม่ใช่ตัวนางเลย และนางก็เล่าถึงการศึกษาไทยที่มันห่วยเเตกตรงไหนให้เราฟัง (ตอนนั้นนางอายุเเค่11 ปีค่ะและเป็นปีที่นางไม่ไปเรียน) แต่เราคิดว่าเป็นเเค่ข้ออ้างนาง จนนางไม่ไปเรียน1ปี มาปี2018 นางก็ไม่ไปค่ะ จนนางขอให้ไปตรวจโรคทางจิต เราทำตามนางค่ะเเต่ในใจคือนางต้องแกล้งเป็นเเน่ๆ
ผลตรวจออกมาคือ นางเป็น โรคซึมเศร้าค่ะ ไบโพลาร์ อีก หมอบอกดีที่นางพิการไม่งั้นนางกีดข้อมือตัวเองนานแล้ว (นางก็ยังไม่ค่อยออกจากบ้านนะคะ)
วันๆคือนางจะคุยคนเดียวผู้คนเดียวบางทีก็พูดกับนิยายค่ะนางบอกว่านางไม่มีเพื่อน เผลอๆคือคุยกับกำเเพงก็มีค่ะ เเต่นิยายที่เป็นเพื่อน มันคือเรื่องจริงค่ะ
เวลาผ่านไป จนถึงปลายปี นางก็เริ่มมีเพื่อนทางเเชท ค่ะ เป็นเพื่อนที่นางสนิทที่สุดค่ะเป็นคนที่ให้นางได้ออกจากบ้าน บอกเลยดีใจมากค่ะ ณ ปัจจุบัน นางก็ออกจากบ้านปกติเเถมยังไปห้างคนเดียวไปเที่ยวคนเดียวอีก แต่นางก็ยังไม่ยอมไปเรียนค่ะ นางให้เหตุผลเดิมเพิ่มเติมคือ นางเจอสายที่นางชอบค่ะ เจอลายเส้นตัวเอง นางชอบวาดรูปนางชอบเเต่งนิยาย นางบอกว่าถึงได้เงินน้อยหรือไม่มีสักบาท เเต่ก็รักไปแล้ว นางเริ่มเราตั้งเเต่ โดนครูด่าว่าโง่ทั้งที่นางก็อ่านหนังสืออยู่ดีๆจนถึงที่นาง โดนครูทำร้ายร่างกาย เเน่นอนว่านางเเค่อยู่เฉยๆค่ะ ตอนนั้นคือพูดไม่ออกค่ะ เพราะ ร.ร เอกชน ด้วน มันน่าจะดูเเลเด็กสิไม่ใช่ทำร้ายเด็ก ตอนนั้นปลอบใจนางว่า ครูเขาคงอิจฉาความสวยหนูมั้งคะ
(ปัจจุบันนาง 13-14) แล้วค่ะสวยมากๆ
คิดว่าอยากจะหย่ากับสามีค่ะ มีเรื่องสามีเเย่ๆอีกเยอะค่ะ เอาเงินเราไปซื้อรถอีก
แต่คือเราอยากหย่ากับสามีค่ะเเต่ลูกคนเล็ก.. มันมีปัญหาค่ะส่วนตัวเราไม่อารัยกับการที่ลูกไม่ไป รร เป็นไม่ใช่ตัวตนนางพอสมควรค่ะ เราก็บอกลูกไปนะว่าหนูคงต้องขายของอย่างเดียวเเต่ลูกไม่เเคร์ค่ะนางบอกว่าก็ยังดีค่ะ ดีกว่าทำผิดกฏหมาย
จะมีทางชนะมั๊ยคะถ้าขึ้นศาล คิดว่าจะ หย่า ปีหน้าค่ะ ขอบคุณค่ะ




ถ้ามีเรื่องจะหย่ากับสามียังไงให้ได้ลูกคะ
(ตั้งเเต่ที่สามีเรียนจบหรือเเต่งงานกับเรามาเขาไม่เคยจ่ายเลยค่ะให้เราจ่ายตลอดเขาบอกหางานไม่ได้ค่ะตอนนั้นเราก็อยู่บ้านเฉยๆด้วยค่ะเพราะมีเงินกินพอสมควรค่ะ)
ตอนจนเขามาขอยืมเงินเราไปเปิดบริษัทเราก็โง่ให้ไปค่ะ จากเงินในบัญชีที่มีมากกว่า 21 ล้าน เหลือ เเค่ 7,000 กว่าๆ แล้วบริษัทเขาก็เจ๋งค่ะ เราเลยเริ่มที่จะทำงาน ทำได้ 3 ปี ก็ อายุ 30 เป็นตอนมีน้องคนเเรกเลยค่ะ สามีเราไม่เคยถามไถ่ตอนเราท้องเลยค่ะ กลับบ้าานทีก็ ตี 1 หรือ ไม่กลับก็มีค่ะ
เเถมยังเอารถเราไปให้คนอื่นยืมขับและเก็บเงินอีกส่วนตัวเราจะมีพระที่หน้ารถนะคะเเต่มันหายไปหมดเลย
มีทั้งไปยืมเงินคนอื่นเป็นแสนเเล้วให้เราใช้คืนอีก พอเรา 35 ก็มีน้องอีกคนนึง เเต่น้องคนนี้พิการทางเเขนค่ะเพราะเราไม่รู้ตัวว่าท้องน้องเลยทำให้น้องพิการ ช่วงนั้นเราเครียดๆด้วยค่ะ จนลูกคนโต อยู่ ป.6 คนเล็ก อนุบาล 3
เราเลยตัดสินใตออกมาจากบ้านนะคะ ช่วงนั้นเราต้องเก็บของก็อาศัยที่สามีไม่ค่อยกลับบ้านเอาของไว้ในรถพอตอนเช้าก็รีบออกไปจะได้ไม่มีใครเห็นแล้วเกิดสงสัยค่ะ (เราอยู่เเบบครอบครัวใหญ่มีพ่อแม่สามีอยู่ข้างๆบ้าน) เราแอบซื้อบ้านไว้ด้วยค่ะ
ตอนนั้นจะในหนังก็ว่าได้ค่ะเราเอาลูกออกมาตอน 3-4 ทุ่มเเต่ สามีกับกลับมาเราเลยรีบขับรถหนีคิดเเค่จะไปหา ตำรวจ เราขับเร็วมากจนลูกคนแรกร้องไห้หนักมากเลยค่ะ ดีที่ลูกคนที่ 2 เป็นเด็กเก่งไม่ร้อนสักนิด
เราขับเข้าสถานนีตำรวจเเล้วจอดในนั้นเลย เเต่สามีก็มาปุกกระจกให้เราออกมาจนตำรวจเห็นเลยมาถาม เราทำบันทึกประจำวันไว้ค่ะ เรื่อง คือเราได้ลูกมาอยู่ที่บ้านใหม่นะค่ะ ตอนปี 2010 หรือ 2011
แต่เรายังไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้าน เราน่าจะย้าย มาตอนปี 2013 หรือ 2014 นี่เเหละค่ะ
เเต่ก็ดันมาเกิดเรื่องกับลูกคนเล็กค่ะ นางก็โตขึ้นมีคนมองนางแปลกๆนางเริ่มไม่อยากไป ร.ร จนนางเป็น คิคิโคโมริ นางไม่ไปเรียนเลยค่ะ ตอนนั้นปวดใจมาก นางเอาเเต่อยู่ใรห้อง ของที่อยากได้ก็จะส่งทางไลน์หรือจะโทรคุยว่าอยากได้อะไร คุยต่อหน้ากับนางเเค่ 1 อาทิตย์ หรือ 2 อาทิตย์ ครั้งเองค่ะ แต่ดีที่นางชอบอ่านนิยายค่ะ ดีนางอ่านนิยายเองตั้งเเต่ 10 ขวบ ตอนนั้นใช้ทั้งไม้อ่อนไม้เเข็งให้นางไป แต่นางบอกว่ามันไม่ใช่ตัวนางเลย และนางก็เล่าถึงการศึกษาไทยที่มันห่วยเเตกตรงไหนให้เราฟัง (ตอนนั้นนางอายุเเค่11 ปีค่ะและเป็นปีที่นางไม่ไปเรียน) แต่เราคิดว่าเป็นเเค่ข้ออ้างนาง จนนางไม่ไปเรียน1ปี มาปี2018 นางก็ไม่ไปค่ะ จนนางขอให้ไปตรวจโรคทางจิต เราทำตามนางค่ะเเต่ในใจคือนางต้องแกล้งเป็นเเน่ๆ
ผลตรวจออกมาคือ นางเป็น โรคซึมเศร้าค่ะ ไบโพลาร์ อีก หมอบอกดีที่นางพิการไม่งั้นนางกีดข้อมือตัวเองนานแล้ว (นางก็ยังไม่ค่อยออกจากบ้านนะคะ)
วันๆคือนางจะคุยคนเดียวผู้คนเดียวบางทีก็พูดกับนิยายค่ะนางบอกว่านางไม่มีเพื่อน เผลอๆคือคุยกับกำเเพงก็มีค่ะ เเต่นิยายที่เป็นเพื่อน มันคือเรื่องจริงค่ะ
เวลาผ่านไป จนถึงปลายปี นางก็เริ่มมีเพื่อนทางเเชท ค่ะ เป็นเพื่อนที่นางสนิทที่สุดค่ะเป็นคนที่ให้นางได้ออกจากบ้าน บอกเลยดีใจมากค่ะ ณ ปัจจุบัน นางก็ออกจากบ้านปกติเเถมยังไปห้างคนเดียวไปเที่ยวคนเดียวอีก แต่นางก็ยังไม่ยอมไปเรียนค่ะ นางให้เหตุผลเดิมเพิ่มเติมคือ นางเจอสายที่นางชอบค่ะ เจอลายเส้นตัวเอง นางชอบวาดรูปนางชอบเเต่งนิยาย นางบอกว่าถึงได้เงินน้อยหรือไม่มีสักบาท เเต่ก็รักไปแล้ว นางเริ่มเราตั้งเเต่ โดนครูด่าว่าโง่ทั้งที่นางก็อ่านหนังสืออยู่ดีๆจนถึงที่นาง โดนครูทำร้ายร่างกาย เเน่นอนว่านางเเค่อยู่เฉยๆค่ะ ตอนนั้นคือพูดไม่ออกค่ะ เพราะ ร.ร เอกชน ด้วน มันน่าจะดูเเลเด็กสิไม่ใช่ทำร้ายเด็ก ตอนนั้นปลอบใจนางว่า ครูเขาคงอิจฉาความสวยหนูมั้งคะ
(ปัจจุบันนาง 13-14) แล้วค่ะสวยมากๆ
คิดว่าอยากจะหย่ากับสามีค่ะ มีเรื่องสามีเเย่ๆอีกเยอะค่ะ เอาเงินเราไปซื้อรถอีก
แต่คือเราอยากหย่ากับสามีค่ะเเต่ลูกคนเล็ก.. มันมีปัญหาค่ะส่วนตัวเราไม่อารัยกับการที่ลูกไม่ไป รร เป็นไม่ใช่ตัวตนนางพอสมควรค่ะ เราก็บอกลูกไปนะว่าหนูคงต้องขายของอย่างเดียวเเต่ลูกไม่เเคร์ค่ะนางบอกว่าก็ยังดีค่ะ ดีกว่าทำผิดกฏหมาย
จะมีทางชนะมั๊ยคะถ้าขึ้นศาล คิดว่าจะ หย่า ปีหน้าค่ะ ขอบคุณค่ะ