ชีวิตคนเราพอโตคนความคิด,ทัศนคติก็ปรับเปลี่ยนไปตามวัยและสภาพแวดล้อม ผมและคนอื่นๆก็คงเป็นเช่นกันรวมถึงความอิจฉา ความหลง การเมามัว
ขอเริ่มจากคนล่าสุดในปี62
เกริ่นก่อนว่าเพื่อนคนนี้รู้จักกับผมในมหาวิทยาลัย รู้จักตั้งแต่ปี1ด้วยความที่เรียนสาขาเดียวกันพอขึ้นปี2จึงสนิทกันมากกว่าเดิม ชีวิตดำเนินไปเรื่อยๆ
ผ่านปี2ไปอย่างปกติ ความสัมพันธ์เริ่มแปลกไปตั้งแต่ปี2เทอมซัมเมอร์ ขอบอกก่อนว่านิสัยผมไม่ค่อยลอกการบ้านหรือจดโพยเข้าห้องสอบ การบ้านมีบ้างที่ทำไม่ได้จะขอลอกแต่เพื่อนคนนี้มักจะขอการบ้านเสมอเมื่อไรให้ช้ามีการทักมาทวงทั้งเฟสส่วนตัวและกลุ่มรวมถึงการจดโพยเข้าห้องสอบด้วย
มาต่อที่ปี2เทอมซัมเมอร์ เขาเริ่มลงวิชาเรียนที่ไม่เหมือนผม(อันนี้แล้วแต่ใครจะลงผมเลยไม่ได้สนใจอะไร)แต่เขากลับให้ดพื่อนในกลุ่มลงเรียนตามเขาแต่เขาไม่ได้บอกเราว่าลงอะไรบ้าง(บอกคนอื่นหมดยกเว้นเรา ตอนนั้นยังไม่คิดว่ามันแปลกๆ) จบปี2ขึ้นปี3 ในช่วงที่อยู่ปี3เขาลงวิชาเรียนอะไรไม่บอกเราเลยแต่บอกคนอื่นหมดเหมือนเดิมแต่พอวิชาไหนที่เขาลงแล้วไปเจออาจารย์ที่ดุ\เข้มแต่วิชานั้นเราลงไปเจออาจารย์ใจดี เขามักจะมาแซะเราว่าทำไมเราถึงไม่บอกเชาว่าลงกับคนไหน. คณะที่ผมเรียนมีแลปทุกสัปดาห์ เขาทักมาขอแลปผมเสมอทุกๆสัปดาห์ซึ่งผมเองก็ให้แต่ให้บ้าเนื่องจากผมต้องทำงานพาสทาม ทำให้เขาไม่พอใจมักจะทักมาทวงทั้งในกลุ่มและเฟสส่วนตัวบ่อยประมาณชั่วโมงล่ะครั้ง มีครั้งนึงอาจารย์สั่งทำคลิปวีดีโอล่วงหน้า1เดือนผมจึงนัดเรื่อยๆพอถึงวันจะต้องส่งวันอังคาร(ยังจำได้แม่น)เขาจึงนัดถ่ายวันจันทร์ประจวบเหมาะกับคุณยายผมเสียที่ต่างจังหวัดจึงทำให้ไม่สามารถไปถ่ายวีดีโอได้ พอรุ่งขึ้นเขามาว่าผมว่าไม่ช่วยงานเมื่อผมถามกลับว่านัดมาล่วงหน้าเป็นเดือนแล้วทำไมไม่มาทำกันแต่จะมาทำวันที่ก่อนส่ง1วันแล้วยายเราเสียด้วยต้องไปงาน เขาจึงไม่ตอบกลับอะไรแต่ระหว่างเรียนเราแซะนะครับว่าไปเที่ยวต่างจังหวัดมาสนุกไหม(รอบแรก)ผมก็ตอบว่าผมไปงานศพมารูปในงานก็ลงนะ ผ่านไปซัก10นาทีเขาถามกลับมาใหม่ว่าแล้วที่ไปเที่ยวมาไปไหนบ้าง(รอบ2)ผมก็เลยบอกว่าเห้ยกูไปงานศพมารูปก็ลงให้แล้วยังถามอีกเหรอ เขาจึงเงียบไป
คราวนี้มาถึงช่วงสอบแสดงถึงความ

มากๆคือเขามีโพยสรุปบท มีชีทสรุปแต่เขาไม่ให้ผมแต่เขาถ่ายเอกสารให้คนอื่นได้หมดยกเว้นผมกับเพื่อนอีกคนนึง
นั้นคือความ

ชั้นที่1 ชั้นที่2มีวิชานึงเขาทำไม่ได้เขามาให้ผมสอนให้(ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเขามีชีทต่างๆแต่ไม่แบ่งให้)ในขณะที่กำลังสอน แทนที่เขาจะฟังแล้วเข้าใจ เขาเลือกจดโพย ผมก็เรือนว่าทำไมไม่เข้าใจก่อนจะจดก็ค่อยจดเขาก็ไม่พอใจหาว่าเราอวดเก่ง ชั้นที่3อีกวิชานึงเขาให้เพื่อนอีกคน(คนที่ไม่ได้ชีทอีกคน)สอนให้ ซึ่งเขาเห็นหัวผมกับเพื่อนคนนั้นตอนที่ไม่มีการบ้าน ไม่มีแลป หรืออ่านข้อสอบไม่เข้าใจ แต่ปกติเขาไม่สนใจเลบขนาดชีทที่เป็นวิชาเดียวกันกับที่เราสอบเขายังไม่บอกเราเลยว่าเขามี มาชั้นที่4เวลามีการบ้าน ถ้าเขามีโพยเขาไม่เคยให้ใครเลยส่งเองคนเดียวจบ ชั้นที่5อันนี้ทำให้ผมมองเขาออกเพราะทุกคนก็บอกแบบที่ผมคิดคือ ผมกับเพื่อนอีกคนไม่ได้เข้าเรียนคาบนึง(เรียนชดตอน2ทุ่ม)ผมทำงานพาสทามและเพื่อนกลับบ้านต่างจังหวัด วันนั้นอาจารย์นัดสอบครับในวันพฤหัสบดี ผมกับเพื่อนก็ไม่ทราบ พอถึงวันพฤหัสบดีวันสอบเขาคนนั้นไม่ได้โทรบอกเราด้วยว่ามีสอบเขาเลือกจะเงียบขนาดเขาอยู่หน้าห้องสอบแล้ว เขายังไม่โทรบอกเลย จนสึดท้ายมีเพื่อนคนอื่นโทรบอกผมกับเพื่อนอีกคน 5นาทีก่อนสอบครับ จะเตรียมตัวก็ไม่ทัน หลังจากวันนั้นเขาไม่กล้าพูดกับผมอีกเลยเพราะเพื่อนๆก็บอกว่าเขาเข้าเรียนในวันนั้นแต่ทำไมกลับไม่บอกเพื่อนว่ามีสอบ. จริงๆมีอีกเยอะของเรื่องคนนี้แต่บทสรุปของคนๆนี้คือเขาอิจฉา เพื่อนเป็นเขามาบอกผมเองว่าที่เขาทำทุกอย่างทั้งไม่ให้ชีทสรุป ไม่ให้การบ้าน ไม่บอกว่าสอบเพราะเขาอิจฉาเกรดที่เราได้ดีกว่าเขาแค่นั้นเองครับแค่ต้องการกดเกรดเราให้ต่ำลง รวมถึงเขาชอบแซะ,เบียน ผมเวลาเที่ยว กิน ซื้อของ สุดท้ายเขาก็อิจฉาที่เรารวยกว่าอยากได้ก็อยากได้ อยากกินก็กิน สุดท้ายเสียคนนี้ไปเพราะเขาอิจฉาเรา (เขาเบียนเรื่องความรวย2คนคือผมกับเพื่อนตัวย่อภ. เขาอิจฉาเรื่องเกรดและพยายามกดคือผมกับเพื่อนตัวย่อน.)ที่เหลือในกลุ่มเขาไม่ทำอะไรนะเพราะคนอื่นเกรดต่ำกว่าเขาหมดและยกให้เขาเป็นที่พึ่งพา เขาจึงไม่กดคนอื่น
แชร์ประสบการณ์3ปีเสียเพื่อน3คน
ขอเริ่มจากคนล่าสุดในปี62
เกริ่นก่อนว่าเพื่อนคนนี้รู้จักกับผมในมหาวิทยาลัย รู้จักตั้งแต่ปี1ด้วยความที่เรียนสาขาเดียวกันพอขึ้นปี2จึงสนิทกันมากกว่าเดิม ชีวิตดำเนินไปเรื่อยๆ
ผ่านปี2ไปอย่างปกติ ความสัมพันธ์เริ่มแปลกไปตั้งแต่ปี2เทอมซัมเมอร์ ขอบอกก่อนว่านิสัยผมไม่ค่อยลอกการบ้านหรือจดโพยเข้าห้องสอบ การบ้านมีบ้างที่ทำไม่ได้จะขอลอกแต่เพื่อนคนนี้มักจะขอการบ้านเสมอเมื่อไรให้ช้ามีการทักมาทวงทั้งเฟสส่วนตัวและกลุ่มรวมถึงการจดโพยเข้าห้องสอบด้วย
มาต่อที่ปี2เทอมซัมเมอร์ เขาเริ่มลงวิชาเรียนที่ไม่เหมือนผม(อันนี้แล้วแต่ใครจะลงผมเลยไม่ได้สนใจอะไร)แต่เขากลับให้ดพื่อนในกลุ่มลงเรียนตามเขาแต่เขาไม่ได้บอกเราว่าลงอะไรบ้าง(บอกคนอื่นหมดยกเว้นเรา ตอนนั้นยังไม่คิดว่ามันแปลกๆ) จบปี2ขึ้นปี3 ในช่วงที่อยู่ปี3เขาลงวิชาเรียนอะไรไม่บอกเราเลยแต่บอกคนอื่นหมดเหมือนเดิมแต่พอวิชาไหนที่เขาลงแล้วไปเจออาจารย์ที่ดุ\เข้มแต่วิชานั้นเราลงไปเจออาจารย์ใจดี เขามักจะมาแซะเราว่าทำไมเราถึงไม่บอกเชาว่าลงกับคนไหน. คณะที่ผมเรียนมีแลปทุกสัปดาห์ เขาทักมาขอแลปผมเสมอทุกๆสัปดาห์ซึ่งผมเองก็ให้แต่ให้บ้าเนื่องจากผมต้องทำงานพาสทาม ทำให้เขาไม่พอใจมักจะทักมาทวงทั้งในกลุ่มและเฟสส่วนตัวบ่อยประมาณชั่วโมงล่ะครั้ง มีครั้งนึงอาจารย์สั่งทำคลิปวีดีโอล่วงหน้า1เดือนผมจึงนัดเรื่อยๆพอถึงวันจะต้องส่งวันอังคาร(ยังจำได้แม่น)เขาจึงนัดถ่ายวันจันทร์ประจวบเหมาะกับคุณยายผมเสียที่ต่างจังหวัดจึงทำให้ไม่สามารถไปถ่ายวีดีโอได้ พอรุ่งขึ้นเขามาว่าผมว่าไม่ช่วยงานเมื่อผมถามกลับว่านัดมาล่วงหน้าเป็นเดือนแล้วทำไมไม่มาทำกันแต่จะมาทำวันที่ก่อนส่ง1วันแล้วยายเราเสียด้วยต้องไปงาน เขาจึงไม่ตอบกลับอะไรแต่ระหว่างเรียนเราแซะนะครับว่าไปเที่ยวต่างจังหวัดมาสนุกไหม(รอบแรก)ผมก็ตอบว่าผมไปงานศพมารูปในงานก็ลงนะ ผ่านไปซัก10นาทีเขาถามกลับมาใหม่ว่าแล้วที่ไปเที่ยวมาไปไหนบ้าง(รอบ2)ผมก็เลยบอกว่าเห้ยกูไปงานศพมารูปก็ลงให้แล้วยังถามอีกเหรอ เขาจึงเงียบไป
คราวนี้มาถึงช่วงสอบแสดงถึงความ
นั้นคือความ