เกาะ Monte Cristo

กระทู้สนทนา

ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

Ⓒ
1.

Ⓒ

Ⓒ
2.

Ⓒ

Ⓒ

เกาะ Monte Cristo
เป็นหนึ่งในหมู่เกาะ 7 แห่งของ
Tuscan Archipelago
ในทะเล Tyrrhenian
ห่างจากชายฝั่งอิตาลีราว 60 กิโลเมตร

ชื่อนี้ตั้งตามนวนิยายที่เป็นตำนาน
เรื่องการทรยศและแก้แค้น
ของ Alexandre Dumas
ในเรื่อง The Count of Monte Cristo
Ⓒ

Ⓒ

13.

Ⓒ

Ⓒ
14.

Ⓒ

Ⓒ
15.

Ⓒ

Ⓒ

เกาะแห่งนี้ห้ามคนเข้าพักอาศัย
ทำให้มีตำนานเต็มไปด้วย
ความลึกลับและการค้นหาสมบัติ

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้
เกาะ Monetcristo ยังคงจำกัด
จำนวนนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด
หลังจากได้รับการประกาศให้เป็น
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติมานานกว่า 40 ปีแล้ว

ทุกวันนี้
มีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่พันคนเท่านั้น
ที่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมชมเกาะในแต่ละปี
ภายใต้ระบบการออกใบอนุญาต
ที่ทางการควบคุมไว้อย่างเข้มงวด

ถ้ำ Montecristo ครั้งหนึ่ง
เคยเป็นที่หลบภัยของนักบวชหลายนาย
ที่หลบหนี Genseric
จอมโหดชนเผ่า Vandal
Ⓒ

Ⓒ

16.

Ⓒ

Ⓒ
19.

Ⓒ

Ⓒ

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5
นักบวชเหล่านี้ได้ตั้งชื่อ
เกาะแห่งนี้ว่า Mons Christi
ซึ่งได้มีการเรียกชื่อสืบต่อกันมานาน
ก่อนที่จะเป็นชื่อ Monte Cristo ในทุกวันนี้

ในตอนต้นของศตวรรษที่ 7
อาราม St. Mamilian ได้ถูกสร้างขึ้นมา
และมีการสร้างโบสถ์ขึ้นภายในถ้ำ
ที่นักบวชเคยใช้หลบภัย/หนีตาย
จากบรรดานักรบคนเถื่อน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ตระกูลผู้ดีคนร่ำรวยต่างบริจาค
เงินทองทรัพย์สินให้กับโบสถ์แห่งนี้
ทำให้โบสถ์แห่งนี้ทั้งร่ำรวย
และมีอำนาจอิทธิพลทั้งทางโลกทางธรรม

แบบใครถูกนักบวชเหล่านี้
คว่ำบาตรก็เหมือนตายทั้งเป็น
เพราะกลายเป็นคนนอกศาสนา อาจตายได้
กับไม่ได้ขึ้นสวรรค์ตามความเชื่อทางศาสนา

ในช่วงปี 1550
โจรสลัดเคราแดงตุรกี
Turkish pirate Red Beard
กับแม่ทัพเรือ Dragut นักรบคู่ใจ
ได้เข้ายึดอาราม Montecristo
และตั้งเป็นฐานทัพของพวกตน
ทำให้เกิดตำนานขุมทรัพย์มากมาย
ที่ซ่อนอยู่บนเกาะลึกลับแห่งนี้
เพราะ Dragut คือ โจรสลัด
ที่ปล้นทรัพย์สินได้จำนวนมากมาย
จึงมีความเป็นไปได้ที่จะต้องซ่อนทรัพย์สิน
ไว้ในที่ไหนสักแห่งหนึ่งบนเกาะแห่งนี้
Ⓒ

Ⓒ

24.

Ⓒ

Ⓒ
25.

Ⓒ

Ⓒ

ตลอดเวลาหลายศตวรรษที่ผ่านมา
มีคนจำนวนมากมายพยายาม
ที่จะค้นหาขุมทรัพย์ของ Dragut
แต่ก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จ

ตำนานของขุมทรัพย์ที่เร้นลับเรื่องนี้
ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ Alexandre Dumas
เขียนนวนิยาย The Count of Monte Cristo
Ⓒ

Ⓒ

Ⓒ
The Count Of Monte Cristo - Trailer
Ⓒ

Ⓒ

ในปี ค.ศ. 1842
Alexandre Dumas ได้มาที่เกาะแห่งนี้
ร่วมกับบรรดากลุ่มสหาย
Napoleon Bonaparte III
หลานชายจักรพรรดิ์นโปลีออง
ท่านตกหลุมรักเกาะแห่งนี้ทันที
และคิดว่าเกาะแห่งนี้แสนมหัศจรรย์
แสนจะโดดเดี่ยว สวยงามมาก
มีกลิ่นไอของต้นไธม์และข้าวฟ่าง

ท่านจึงตัดสินใจที่จะเขียนนวนิยาย
The Count of Monte Cristo
ตัวเอกของเรื่องคือ Edmond Dantes
ที่ได้ค้นพบสมบัติของโจรสลัดบนเกาะแห่งนี้
หลังจากถูกเพื่อนหักหลังทรยศ
ด้วยการกล่าวเท็จ/หาพยานเท็จกล่าวโทษ
จน Edmond Dantes ต้องติดคุก

ในระหว่างที่ติดคุก Edmond Dantes
ได้เป็นเพื่อนสนิทกับ Abbé Faria
อดีตนายทหารนักโทษรายหนึ่ง
ซึ่งได้สอนวิชาการ/การสู้รบ
และต่างร่วมกันแหกคุกด้วยการขุดอุโมงค์
ก่อน Abbé Faria ตายได้บอกเล่าว่า
มีขุมทรัพย์โจรสลัดจำนวนมาก
ซ่อนอยู่บนเกาะ Monte Cristo

Edmond Dantes ได้หนีออกจากคุกได้สำเร็จ
แล้วดั้นดนเดินทางไปที่เกาะแห่งนี้
จนค้นพบมหาสมบัติโจรสลัด
พร้อมเปลี่ยนชื่อตนเอง
เป็น Count Montecristo
จากนั้นก็ดำเนินการแก้แค้นทุกคน
ที่สมคบคิดและร่วมมือกับเพื่อนทรยศ
Ⓒ

Ⓒ

26.

Ⓒ

Ⓒ

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาะ Montecristo
ถูกคุกคามและครอบครอง
จากฝูงหนูดำ Black rat
ที่เชื่อกันว่าหลบซ่อนตัวมากับเรือโดยสาร
ก่อนวิ่งขึ้นไปอยู่บนเกาะแห่งนี้
แล้วขยายพันธุ์ได้อย่างทวีคูณมากมาย

แต่การเข้าไปปราบหนูในพื้นที่
ที่ภูมิประเทศมีข้อจำกัดมาก
ในการกำจัดฝูงหนูบนเกาะแห่งนี้
ด้วยวิธีการทั่วไปในชุมชนเมือง
แทบทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย

ในเดือนมกราคม 2012
มีการวางยาเบื่อหนูบนเกาะ
ด้วยยาเบื่อหนูปริมาณ 26 ตัน
เพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หนูทุกตัวบนเกาะแห่งนี้
ปฏิบัติการครั้งนี้รุนแรงราวกับ
การทิ้งระเบิดแบบปูพรมครั้งใหญ่ทั่วทั้งเกาะ

แม้ว่าจะมีความกังวล
และวิพากษ์วิจารณ์ผลกระทบที่อาจมีขึ้น
จากกลุ่มสิ่งแวดล้อมสัตว์ป่าพื้นเมือง
และน่านน้ำใกล้เคียงกับเกาะแห่งนี้
เพราะบนเกาะแห่งนี้
มี ทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่ปกคลุมพื้นหุบเขา
ต้นโอ๊กอายุหลายพันปีที่อยู่รอดได้
งู Montecristo viper
(Vipera aspis hugyi)
ที่มีอยู่ในภาคใต้ของอิตาลีและเพิ่งค้นพบ
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ Discoglossus sardus
ที่พบเฉพาะในเกาะ Tuscany และ Sardinia
วงศ์ย่อย Podarcis muralis calabresiae
ที่เจริญเติบโตบนเกาะแห่งนี้
ทั้งยังเป็นสถานที่หยุดพัก
ของนกอพยพหลายพันตัว
และเป็นที่อยู่อาศัยของนกทะเลขนาดใหญ่
ทั้งยังมีแพะป่าอิตาลี ที่นี่เพียงแห่งเดียว

สภาพแวดล้อมทางทะเล
รอบเกาะแห่งนี้ค่อนข้างสมบูรณ์
มีทุ่งหญ้าหญ้าทะเล ดอกไม้ทะเล
ใบพัดทะเล ปะการัง ปลา Moonfish
แมวน้ำ Mediterranean monk seal
สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่หายากมาก
ในน่านน้ำอิตาลีที่มาหากินที่นี่
และ พื้นสายพันธุ์เฉพาะถิ่นรวม
Limonium Montis-christi
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
Oxychilus oglasicola
(หอยทากของ Monte Cristo)
ที่ยังมีอยู่บนเกาะ Scola ใกล้ Pianosa
และสัตว์เลื้อยคลาน
Podarcis Muralis calabresiae

ความพยายามในการกำจัดฝูงหนูครั้งนั้น
ประสบความสำเร็จเป็นอย่างงดงามมาก
เพราะตอนนี้ บนเกาะ Montecristo
มีรายงานว่าเป็นเกาะปลอดหนู
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทะเล Mediterranean

การกำจัดฝูงหนูบนเกาะต่าง ๆ
ได้ช่วยฟื้นฟูประชากรของนกทะเล
Scopoli Calonectris diomedea
ที่ใกล้สูญพันธุ์จนเพิ่มขึ้นมากกว่า 90%

ความหวังในเรื่องการกำจัดฝูงหนู
จะช่วยให้การเพิ่มจำนวนของฝูงนก
Storm Petrels Hydrobates pelagicus
สายพันธุ์ที่ขาดหายไป
จากเกาะแห่งนี้ตั้งแต่ช่วงปี 1960
Ⓒ

Ⓒ

27.