สวัสดีครับ วันนี้อยากเอาประสบการณ์ความสะดวกสบาย ที่ผมเคยคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่ผมเห็นว่ามันเป็นช่องทางนึงที่ง่ายมากๆมาแชร์
จริงๆ ผมก็เด็กบ้านๆ มาจากต่างจังหวัด ตอนเรียนมหาลัย ก็ใช้พวกบัตรเซเว่น บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดอะวันการ์ดแหละครับ แต่พอทำงานแล้ว ชีวิตก็ได้รู้จักอีกหลายบัตรเลย ตอนนี้ที่แน่ๆ ก็บัตรเครดิตแหละ ใบนึง
แต่กระทู้นี้ผมอยากมาแชร์ความสะดวกสบาย ของชีวิตไร้เงินสด เพราะมันทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ชีวิตได้สิทธิพิเศษเยอะขึ้นด้วยนะครับ อยากจะเอามาแชร์เพราะเดี๋ยวนี้อะไรที่พอจะเป็นสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ก็ต้องรักษาสิทธิ์ไว้ด้วย
แต่ชีวิตผมตอนนี้ก็ใช่ว่าจะไม่พกเงินเลยนะครับ มันก็ต้องมีส่วนที่ต้องใช้เงินสดบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยใช้เงินสดเลย มาว่ากันเลยห๊ะ
บัตร MRT
อันแรกบัตรรถไฟฟ้าใต้ดิน อันนี้เมื่อก่อน ผมก็รู้สึกว่าไม่ต้องไปอะไรกับมันมากก็ได้ มันไม่ได้ลดราคาอะไรให้เราเลย ก็เลยเอาเหรียญไปหยอดตู้เพื่อแลกบัตร บางที หยอดๆ ไปเกือบจะครบตามจำนวน ไอ้เหรียญบาทเจ้ากรรมเสือ(ก) หยอดไม่ลง มีกี่เหรียญในกระเป๋าเครื่องไม่ยอมรับซักเหรียญ ต้องมาค่อยๆหยอดใหม่ แถมต้องเสียเวลาต้องไปต่อคิวด้วย แต่หลังๆ มาเริ่มรู้จักบัตร MRT เลยได้ชีวิตใหม่ที่เร็วขึ้น ไม่ต้องไปต่อคิวรออะไรยาวๆ ให้รำคาญใจแล้วครับ ก็แค่ต่อแถวติ๊ดบัตรเข้า ถึงแถวจะยาวแต่มันก็ไม่นานมากครับ
สิทธิพิเศษ : ลดเวลาในการต่อคิวแลกตั๋ว
แอพพลิเคชั่น Grab
อันนี้แกร็บนะครับ ไม่ต้องบอกหลายคนคงรู้แล้วก็ใช้กันอยู่ โหลดมาตั้งนานแล้ว 2 ปีเห็นจะได้ ชีวิตสบายขึ้นเยอะ แอพนี้ แอพเดียว มีทั้งไบค์ ทั้งอาหาร ส่งพัสดุ เคยลืมเสื้อสูทไว้ที่ร้านข้าวยังให้พี่ grabexpress ไปเอามาให้ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลากลับไปเอง โหลดไว้แอพเดียวพอไม่เปลืองความจำเครื่อง
ที่ดีงามมากๆ คือเดี๋ยวนี้ไม่ต้องเดินไปเรียกวินปากซอยให้เหงื่อแตกตอนเช้า แต่งตัวไปกดเรียก grabbike ไป พักนึงแต่งตัวเสร็จ เดินลงจากห้องมานั่งไปทำงาน ยิ่งใช้บ่อยๆ เข้า เดี๋ยวก็มีโค้ดนั่น โค้ดนี่ส่งมาให้ใช้เป็นส่วนลด แล้วเคยไปดื่มกับเพื่อนแถวตลิ่งชัน ตอนจะเที่ยงคืนแล้ว เกือบถอดใจต้องไปโบกแท็กซี่ แต่ลองกดแกร็บดู มีเฉยย ขนาดดึกและไกลขนาดนั้นนะครับ อย่างตัวผมนี่นั่ง grabbike ติดนิสัยไม่ชอบพกเงินสดเยอะๆ เลยพ่วงกับบัตรเครดิตไว้ แล้วตัดจ่ายผ่านบัตรจะได้ไม่ต้องมาพกรง พกเหรียญให้หนักกระเป๋า วันไหนเงินหมด ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตกรถกลับบ้านไม่ได้ ใช้บัตรจ่ายไปก่อน กลับบ้านได้หายห่วง
ตรงนี้เพิ่มเติมอีกนิดนะครับว่า สมมติอย่างผมนี่นั่งแกร็บบ่อยๆ มันจะมีแต้มสะสมให้เราเรียกว่าคะแนนรีวอร์ด ตรงนี้ผมนั่งจนผมเอาคะแนนไปแลก แดลี่ควีน โคอิเตะ กินจนจะเป็นเบาหวานแล้วครับ แล้วพอสิ้นเดือน ก็เอาคะแนนไปกิน บาร์บีคิว พลาซ่ากับเพื่อนที่ออฟฟิศด้วย ให้คนอื่นจ่ายราคาเต็ม ผมจ่ายน้อยกว่าเยอะเลย ชีวิตคนยุคใหม่ อะไรที่มันพอจะทำให้ชีวิตสบายขึ้น แล้วก็ได้ส่วนลดก็ต้องเอาไว้ก่อนอ่ะเนอะ

สิทธิพิเศษ : เรียกรถ สั่งอาหาร จ่ายแบบ Grab Pay ตัดผ่านบัตรเครดิตได้ ได้สิทธิพิเศษ ได้แต้ม ได้โค้ดลดราคา นั่งแกร็บไบค์ได้แบบลดราคา ไม่ต้องเหนื่อยไปรอวินปากซอย โอ้ยยยเพียบ
บัตร เซเว่นการ์ด
อันต่อมาบัตรเซเว่นนะครับ อันนี้ก็เรียกว่าเอาความสะดวกแล้วกัน เหมือนเราเติมเงินในบัตร แล้วก็บัตรเซเว่นเนี่ย มันพ่วงกับเบอร์โทรด้วย แล้วเวลาเราซื้อของหรืออะไรต่างๆ มันก็จะนับเป็นแต้มให้ ช่วงที่สะสมของพรีเมี่ยมที่เป็นชั้นวางของคุมะ ผมก็เลือกที่จะไม่เก็บแสตมป์เป็นดวง แต่เก็บในมือถือแทน แล้วก็เติมเงินจ่ายด้วยบัตรเอา เพราะว่ามันจะได้ เก็บแต้มไปในตัว ถือว่าสะดวกดีนะ ไม่ต้องพกเงินเยอะๆ กลัวหาย
สิทธิพิเศษ : เอาแต้มแลกของพรีเมี่ยมได้ (ไม่ต้องกลัวแต้มหาย แสตมป์หาย)
บัตรเครดิต TMB SO SMART
บัตรนี้ ผมสมัครหลังจากที่ทำงานไปได้ 7 เดือนแล้วครับ เหมือนไปดูคลิปของอะไรซักอย่างนี่แหละจำไม่ได้ เหมือนเขาสอนวิธีใช้บัตรเครดิตให้ได้เงินคืน เพราะอย่างว่าแหละ เราอาจจะอคติกับเรื่องพวกนี้นะ ว่าดอกสูง ดอกแพง แต่ถ้าเราจ่ายครบ จ่ายตรงเวลา มันก็เป็นประโยชน์ ผมก็เลือกเอาประโยชน์จากบัตรนี้แหละครับ เช่นเวลาผมไปซื้อของตามบิ๊กซี ท๊อปส์อะไรทำนองนี้ ผมก็จะเลือกที่จะจ่ายด้วยบัตรเครดิตนะ เพราะมันไม่มีขั้นต่ำที่จะรูดได้ พอผมรูดเสร็จ ก็โอนเงินจากบัญชีนึงไปแปะไว้บัญชีรอจ่าย พอถึงเวลารอบบิลจ่ายบัตรเครดิต ก็โอนเงินไปจ่ายค่าบัตรเครดิต
ถึงเวลารอบหน้า เงินที่เราจ่ายไป ก็จะได้คืน 1% จากยอดจ่ายเต็ม ผมไม่เคยจ่ายขั้นต่ำ จ่ายเต็มตลอด ก็ถือว่าเดี๋ยวนี้ซื้ออะไรก็ได้เงินคืน ถึงจะได้น้อย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เลยครับ
สิทธิพิเศษ : รับเงินคืน 1% ทุกยอดที่จ่ายเต็ม
แอพ K PLUS ในส่วนของ K+ Market และบัตรเดบิต K-Max PLUS (ขอรวมกันเลยนะครับ)
บัตรเดบิต อันนี้ผมยอมรับว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าบัตรอื่นหรอกนะครับ แต่ที่เพิ่มเข้ามาก็น่าจะประกันชีวิต กับอุบัติเหตุ ไม่รู้ว่าใช้ยังไง เพราะยังไม่เคยเจออุบัติเหตุ แต่ว่าที่ชอบสำหรับผม เป็นการส่วนตัวนะ ผมชอบที่ดูหนัง 100 บาทอ่ะครับ แต่มันมีสิทธิ์จำกัดแค่กี่สิทธิ์ไม่รู้ แต่ถ้าจะให้ดี ก็คือไปดูหนังตั้งแต่ต้นเดือน ก็อาจจะได้ดูหนัง 100 บาท ใช้บัตรจ่ายไปเลย หรืออีกกรณีนึง ก็คือใช้บัตรเดบิตเรานี่แหละครับ จ่ายเลย ให้ตัดเงินในบัญชี สามารถทำได้ด้วย
ในแอพเคพลัส ส่วนของเคมาร์เก็ทก็เคยซื้อแค่รอบเดียวนะครับ คือถ้ากดไปตรงไอคอนตระกร้าเนี่ย ก็จะเห็นว่ามีพวกรายการสินค้าที่ซื้อได้ คือ 1 บาท เท่ากับ 10 คะแนน แล้วถ้าเราซื้อครบ 1000 คะแนนก็เท่ากับ 100 บาท ซื้อในแอพได้อีกที ราคาของส่วนใหญ่ก็ทั่วไป ออกจะไปทางถูกกว่าด้วยซ้ำ ยังไงลองไปซื้อดูนะครับผม
สิทธิพิเศษ : ดูหนัง 100 บาท ประกันอุบัติเหตุ
อันนี้เป็นฟังก์ชั่นชีวิตที่เสริมเข้ามาง่ายๆ ที่เข้ามาซัพพอร์ตให้ชีวิตง่ายขึ้น ง่ายขึ้นมากๆ เหมือนได้สิทธิพิเศษเยอะขึ้น หรือว่าด้วยชีวิตขี้งกขึ้น ก็ไม่รู้ แต่ยังไงก็แล้วแต่ อยากแนะนำใครหลายๆ คนมาแสวงหาสิทธิพิเศษที่ลอยๆ อยู่ในอากาศเนี่ย ให้มาอยู่ในมือของเราดีกว่า ยุคนี้อะไรที่จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นได้ ก็ต้องศึกษาเอาไว้ครับ อันนี้เป็นแค่บางส่วนที่ผมใช้อยู่ และรู้มา เลยเอามาแบ่งปันกัน ส่วนใครที่มีอะไรอยากแนะนำเพิ่มอีก ก็มาเติมกันได้เลยครับ
[CR] แชร์ประสบการณ์ชีวิตที่สะดวกขึ้น ในสังคมไร้เงินสด
จริงๆ ผมก็เด็กบ้านๆ มาจากต่างจังหวัด ตอนเรียนมหาลัย ก็ใช้พวกบัตรเซเว่น บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดอะวันการ์ดแหละครับ แต่พอทำงานแล้ว ชีวิตก็ได้รู้จักอีกหลายบัตรเลย ตอนนี้ที่แน่ๆ ก็บัตรเครดิตแหละ ใบนึง
แต่กระทู้นี้ผมอยากมาแชร์ความสะดวกสบาย ของชีวิตไร้เงินสด เพราะมันทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ชีวิตได้สิทธิพิเศษเยอะขึ้นด้วยนะครับ อยากจะเอามาแชร์เพราะเดี๋ยวนี้อะไรที่พอจะเป็นสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ก็ต้องรักษาสิทธิ์ไว้ด้วย
แต่ชีวิตผมตอนนี้ก็ใช่ว่าจะไม่พกเงินเลยนะครับ มันก็ต้องมีส่วนที่ต้องใช้เงินสดบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยใช้เงินสดเลย มาว่ากันเลยห๊ะ
บัตร MRT
อันแรกบัตรรถไฟฟ้าใต้ดิน อันนี้เมื่อก่อน ผมก็รู้สึกว่าไม่ต้องไปอะไรกับมันมากก็ได้ มันไม่ได้ลดราคาอะไรให้เราเลย ก็เลยเอาเหรียญไปหยอดตู้เพื่อแลกบัตร บางที หยอดๆ ไปเกือบจะครบตามจำนวน ไอ้เหรียญบาทเจ้ากรรมเสือ(ก) หยอดไม่ลง มีกี่เหรียญในกระเป๋าเครื่องไม่ยอมรับซักเหรียญ ต้องมาค่อยๆหยอดใหม่ แถมต้องเสียเวลาต้องไปต่อคิวด้วย แต่หลังๆ มาเริ่มรู้จักบัตร MRT เลยได้ชีวิตใหม่ที่เร็วขึ้น ไม่ต้องไปต่อคิวรออะไรยาวๆ ให้รำคาญใจแล้วครับ ก็แค่ต่อแถวติ๊ดบัตรเข้า ถึงแถวจะยาวแต่มันก็ไม่นานมากครับ
อันนี้แกร็บนะครับ ไม่ต้องบอกหลายคนคงรู้แล้วก็ใช้กันอยู่ โหลดมาตั้งนานแล้ว 2 ปีเห็นจะได้ ชีวิตสบายขึ้นเยอะ แอพนี้ แอพเดียว มีทั้งไบค์ ทั้งอาหาร ส่งพัสดุ เคยลืมเสื้อสูทไว้ที่ร้านข้าวยังให้พี่ grabexpress ไปเอามาให้ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลากลับไปเอง โหลดไว้แอพเดียวพอไม่เปลืองความจำเครื่อง
ที่ดีงามมากๆ คือเดี๋ยวนี้ไม่ต้องเดินไปเรียกวินปากซอยให้เหงื่อแตกตอนเช้า แต่งตัวไปกดเรียก grabbike ไป พักนึงแต่งตัวเสร็จ เดินลงจากห้องมานั่งไปทำงาน ยิ่งใช้บ่อยๆ เข้า เดี๋ยวก็มีโค้ดนั่น โค้ดนี่ส่งมาให้ใช้เป็นส่วนลด แล้วเคยไปดื่มกับเพื่อนแถวตลิ่งชัน ตอนจะเที่ยงคืนแล้ว เกือบถอดใจต้องไปโบกแท็กซี่ แต่ลองกดแกร็บดู มีเฉยย ขนาดดึกและไกลขนาดนั้นนะครับ อย่างตัวผมนี่นั่ง grabbike ติดนิสัยไม่ชอบพกเงินสดเยอะๆ เลยพ่วงกับบัตรเครดิตไว้ แล้วตัดจ่ายผ่านบัตรจะได้ไม่ต้องมาพกรง พกเหรียญให้หนักกระเป๋า วันไหนเงินหมด ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตกรถกลับบ้านไม่ได้ ใช้บัตรจ่ายไปก่อน กลับบ้านได้หายห่วง
ตรงนี้เพิ่มเติมอีกนิดนะครับว่า สมมติอย่างผมนี่นั่งแกร็บบ่อยๆ มันจะมีแต้มสะสมให้เราเรียกว่าคะแนนรีวอร์ด ตรงนี้ผมนั่งจนผมเอาคะแนนไปแลก แดลี่ควีน โคอิเตะ กินจนจะเป็นเบาหวานแล้วครับ แล้วพอสิ้นเดือน ก็เอาคะแนนไปกิน บาร์บีคิว พลาซ่ากับเพื่อนที่ออฟฟิศด้วย ให้คนอื่นจ่ายราคาเต็ม ผมจ่ายน้อยกว่าเยอะเลย ชีวิตคนยุคใหม่ อะไรที่มันพอจะทำให้ชีวิตสบายขึ้น แล้วก็ได้ส่วนลดก็ต้องเอาไว้ก่อนอ่ะเนอะ
อันต่อมาบัตรเซเว่นนะครับ อันนี้ก็เรียกว่าเอาความสะดวกแล้วกัน เหมือนเราเติมเงินในบัตร แล้วก็บัตรเซเว่นเนี่ย มันพ่วงกับเบอร์โทรด้วย แล้วเวลาเราซื้อของหรืออะไรต่างๆ มันก็จะนับเป็นแต้มให้ ช่วงที่สะสมของพรีเมี่ยมที่เป็นชั้นวางของคุมะ ผมก็เลือกที่จะไม่เก็บแสตมป์เป็นดวง แต่เก็บในมือถือแทน แล้วก็เติมเงินจ่ายด้วยบัตรเอา เพราะว่ามันจะได้ เก็บแต้มไปในตัว ถือว่าสะดวกดีนะ ไม่ต้องพกเงินเยอะๆ กลัวหาย
บัตรนี้ ผมสมัครหลังจากที่ทำงานไปได้ 7 เดือนแล้วครับ เหมือนไปดูคลิปของอะไรซักอย่างนี่แหละจำไม่ได้ เหมือนเขาสอนวิธีใช้บัตรเครดิตให้ได้เงินคืน เพราะอย่างว่าแหละ เราอาจจะอคติกับเรื่องพวกนี้นะ ว่าดอกสูง ดอกแพง แต่ถ้าเราจ่ายครบ จ่ายตรงเวลา มันก็เป็นประโยชน์ ผมก็เลือกเอาประโยชน์จากบัตรนี้แหละครับ เช่นเวลาผมไปซื้อของตามบิ๊กซี ท๊อปส์อะไรทำนองนี้ ผมก็จะเลือกที่จะจ่ายด้วยบัตรเครดิตนะ เพราะมันไม่มีขั้นต่ำที่จะรูดได้ พอผมรูดเสร็จ ก็โอนเงินจากบัญชีนึงไปแปะไว้บัญชีรอจ่าย พอถึงเวลารอบบิลจ่ายบัตรเครดิต ก็โอนเงินไปจ่ายค่าบัตรเครดิต
ถึงเวลารอบหน้า เงินที่เราจ่ายไป ก็จะได้คืน 1% จากยอดจ่ายเต็ม ผมไม่เคยจ่ายขั้นต่ำ จ่ายเต็มตลอด ก็ถือว่าเดี๋ยวนี้ซื้ออะไรก็ได้เงินคืน ถึงจะได้น้อย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เลยครับ
บัตรเดบิต อันนี้ผมยอมรับว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าบัตรอื่นหรอกนะครับ แต่ที่เพิ่มเข้ามาก็น่าจะประกันชีวิต กับอุบัติเหตุ ไม่รู้ว่าใช้ยังไง เพราะยังไม่เคยเจออุบัติเหตุ แต่ว่าที่ชอบสำหรับผม เป็นการส่วนตัวนะ ผมชอบที่ดูหนัง 100 บาทอ่ะครับ แต่มันมีสิทธิ์จำกัดแค่กี่สิทธิ์ไม่รู้ แต่ถ้าจะให้ดี ก็คือไปดูหนังตั้งแต่ต้นเดือน ก็อาจจะได้ดูหนัง 100 บาท ใช้บัตรจ่ายไปเลย หรืออีกกรณีนึง ก็คือใช้บัตรเดบิตเรานี่แหละครับ จ่ายเลย ให้ตัดเงินในบัญชี สามารถทำได้ด้วย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้