5 สิ่งต้องเตรียมก่อนกู้ซื้อบ้านสไตล์พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัด !!!

“บ้านคือวิมานของเรา” แทบทุกคนคงฝันว่าอยากมีบ้าน หรือคอนโดฯ  เป็นของตนให้ได้สักหนึ่งที่
นอกจากจะเป็นที่อยู่ที่อาศัยแล้ว บ้าน หรือ คอนโดฯ ยังสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับคนข้างหลังได้
อีกด้วย แต่การจะให้ได้มาครอบครองไม่ได้ง่าย เพราะการกู้บ้านถือเป็นหนี้ที่มีมูลค่าสูง และต้องใช้
ระยะเวลาในการผ่อนที่นานทำให้ใครหลายๆ คนประสบปัญหา โดยวันนี้จะขอเน้นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่
ขายของตามที่ต่างๆ ที่ผ่านมาผมเคยมีโอกาสได้พูดคุยและได้ให้คำปรึกษาเรื่องการขอสินเชื่อบ้าน
มาแล้วหลายราย ซึ่งจากการให้คำปรึกษาพบว่า เพื่อนๆ กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีรายได้ดีมากบางคนถึงกับ
ซื้อรถกระบะด้วยเงินสด มีเครื่องประดับมากมาย หรือส่งลูกเรียนต่างประเทศได้ แต่เมื่อตั้งใจจะซื้อ
บ้านโดยขอสินเชื่อผ่านธนาคารต่างๆ กลับกู้ไม่ผ่าน !!!  เกิดอะไรขึ้น ???  แล้วต้องทำอย่างไร
ให้กู้ผ่าน ???

K-Expert  จึงอยากจะมาแนะนำสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เพื่อนๆ กลุ่มนี้กู้ไม่ผ่าน พร้อมวิธีการเตรียมตัว
เพื่อให้มีโอกาสในการขอสินเชื่อได้มากขึ้น มาฟังกันเลย 

- ถูกมองว่าไม่มีที่ทำมาหากินเป็นหลักแหล่ง พ่อค้าแม่ค้าลักษณะนี้มักจะตระเวนขายของไปเรื่อยๆ
ตามตลาดนัดต่างๆ ล็อกขายของต้องจับฉลากเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้กลายเป็นว่า ขายของแบบ
ไม่มีหลักแหล่งหากมีที่ขายของเป็นหลักแหล่งสักแห่งน่าจะช่วยขจัดปัญหานี้ออกไปได้

- ถูกมองว่ามีรายได้ที่ไม่แน่นอน เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มนี้จะซื้อของขายของเป็นเงินสดเกือบทั้งมด
ไม่ผ่านบัญชีธนาคาร ชอบพกเงินสดกับตัวไว้เป็นจำนวนมาก ถ้าเงินสดเหลือก็มักจะนำไปซื้อทองไว้ใส่
หรือซื้อเก็บไว้กลายเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ เพราะธนาคารไม่เห็นที่มาที่ไปของเงิน จึงไม่สามารถรู้รายได้ที่
แท้จริงได้

- ถูกมองว่าไม่มีเอกสารทางการค้า จากที่เล่าให้ฟังแล้วข้างต้นรูปแบบการค้าของพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มนี้ส่วน
ใหญ่เป็นเงินสดทั้งหมด เท่าที่เห็นจะมีแค่บิลซื้อสินค้าที่เป็นบิลเงินสดแล้วแนบนามบัตรของร้านมาประกอบ
ส่วนเวลาขายของก็ไม่ได้มีการออกบิลให้กับลูกค้า สำหรับค่าเช่าแผงก็เช่นกันไม่ได้มีการทำสัญญากับทางเจ้า
ของตลาดไว้อย่างชัดเจน ทำให้ไม่มีเอกสารที่สำคัญมาประกอบการขอสินเชื่อถึงบางครั้งจะมี แต่ก็จะถูกมอง
ว่าขาดความน่าเชื่อถือ

แล้วจะทำอย่างไรหรือเตรียมตัวอย่างไรให้เพื่อนๆ กลุ่มนี้กู้ผ่าน วันนี้ทาง K-Expert มี 5 ขั้นตอนเตรียมตัวกู้ซื้อ
บ้านสไตล์พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดมาฝากกัน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการขอสินเชื่อบ้าน

1. เก็บรวบรวมเอกสารทางการค้าทั้งหมด (ถ้ามี) สำคัญมากนะครับ เพื่อนๆ ต้องเก็บเอกสารทางการค้าทุก
อย่างไว้ไม่ว่าจะเป็น บิลซื้อ-บิลขาย สัญญาเช่าแผงหรือร้านค้า ใบเสร็จค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะเอกสารทาง
การค้าเหล่านี้นำมาใช้อ้างอิงในการขอสินเชื่อได้ ทั้งนี้ อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ไปจดทะเบียนการค้า  เพื่อยืนยัน
ว่าเราได้ทำการค้าจริง ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและในอนาคตหากต้องการขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น  หรือต้องการ
ใช้เงินทุนในจำนวนที่มากขึ้นจะทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น

2. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ข้อนี้จะทำให้เพื่อนๆ รู้ว่า ในแต่ละเดือนมีรายได้เท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ มี
เงินเหลือหรือมีกำไรเท่าไหร่ สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้วิเคราะห์ประสิทธิภาพของธุรกิจเราเองได้  และยัง
สามารถนำข้อมูลในส่วนนี้มาประกอบการขอสินเชื่อได้อีกด้วย

3. ตรวจสอบเครดิตบูโร เพื่อนๆ บางคนอาจเคยไปกู้เงินหรือไปค้ำประกันให้คนอื่น  แต่ไม่แน่ใจว่าประวัติที่
ผ่านมาเราเป็นอย่างไรบ้าง การตรวจสอบเครดิตบูโรจะช่วยให้เพื่อนๆ ได้รู้ว่า ประวัติทางการเงินที่ผ่านมาของ
เราเป็นอย่างไร  มีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องหรือไม่ ถ้ามีปัญหาเหล่านี้ ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ไปเคลียร์ปัญหาให้
เรียบร้อยก่อน ไม่ว่าจะเป็น การชำระหนี้ให้หมดก่อน หรือเจรจาปรับโครงสร้างหนี้

4. เปิดบัญชีกระแสรายวัน หรือบัญชีออมทรัพย์ หากเพื่อนๆ ยังไม่เคยมีบัญชีธนาคาร หรือเคยมี แต่อาจ
จะไม่สะดวกใช้งาน ก็สามารถเปิดบัญชีใหม่กับธนาคารที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นสาขาใกล้บ้าน หรือใกล้ตลาดที่
ขายของก็ตาม พร้อมทำบัตรเดบิต  และที่ขาดไม่ได้คือ สมัครใช้บริการ Mobile Banking และบริการ QR
Payment  เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมให้ทั้งเพื่อนๆ เอง และลูกค้าที่มาซื้อของกับเพื่อนๆ
อีกด้วย

5. เปิดบัญชีฝากประจำ 24 เดือน หรือบัญชีทวีทรัพย์ เพื่อนๆ ที่พอมีเงินเหลือจากการขายของ แนะนำว่า
ควรไปเปิดบัญชีประเภทนี้เพิ่ม เพื่อใช้สำหรับเก็บเงินดาวน์บ้าน ข้อดีคือ ได้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากปกติ และ
ดอกเบี้ยที่ได้รับยังไม่เสียภาษีอีกด้วย  นอกจากนี้ เพื่อนๆ ยังได้ลองฝึกผ่อนบ้านไปในตัวด้วย  เพราะบัญชีนี้
เพื่อนๆ ต้องฝากเงินเท่าๆ กันทุกเดือน ตั้งแต่ 500 – 25,000 บาท เป็นเวลา 24 เดือนติดต่อกัน ซึ่งจะมีความ
คล้ายกับการผ่อนบ้านเลยนะครับ

ทางทีมงาน K-Expert หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ในเรื่องของการเตรียมตัวซื้อบ้าน ซึ่งอาจจะต้อง
ใช้เวลาเตรียมความพร้อมสัก 1-2 ปีขึ้นไป หรืออาจจะใช้เวลานานกว่านั้นก็อย่าเพิ่งท้อกันนะครับ ทีมงานหวังว่า
ความฝันของเพื่อนๆ ซึ่งไม่จำกัดอยู่แค่พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดแต่รวมถึงอาชีพอิสระต่างๆ ที่อยากจะมีบ้านเป็นของ
ตนเองสักหลังคงไม่ไกลเกินเอื้อมนะครับ