เนื่องจากผมได้อ่าน "พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย" โดยประชาชน พ.ศ.2556 ที่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก
เลยเกิดสงสัยว่าเคยมีร่าง พรบ. ใดบ้างไหมในอดีต ที่เกิดจากการเข้าชื่อของประชาชน10,000คน ที่ผ่านขั้นตอนยุ่งยากและผ่านสภา จนเป็นกฎหมายได้
พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.2556 กำหนดไว้ ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. การริเริ่มเสนอร่างพ.ร.บ.ใช้คนไม่น้อยกว่า 20 คน
ขั้นตอนแรก
ให้มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เป็น “ผู้ริเริ่ม” จำนวนไม่น้อยกว่า 20
คน ยื่นความประสงค์ต่อประธานรัฐสภา โดยต้องจัดทำร่างพ.ร.บ.
พร้อมหลักการและเหตุผลไปเสนอด้วย
2. ประธานฯ ตรวจสอบหลักการและเนื้อหาภายใน 15 วัน
ขั้นตอนที่สอง
ประธานรัฐสภาจะตรวจสอบว่าร่างพ.ร.บ.ที่มีผู้ริเริ่มเสนอมานั้นมีหลักการและเนื้อหาเป็นไปตามหมวด
3 สิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย และหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ หรือไม่
โดยประธานรัฐสภาจะต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 15 วัน
หากเห็นว่าร่างพ.ร.บ.ที่เสนอมานั้นหลักการและเนื้อหาไม่เป็นไปตามหมวด
3 และหมวด 5 ของรัฐธรรมนูญ
ให้แจ้งผู้ริเริ่มทราบเป็นหนังสือพร้อมทั้งส่งเรื่องคืน
เพื่อประชาชนจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาและเงินทุนในการระดมรายชื่อ
3. ชักชวนประชาชนเข้าชื่อไม่กำหนดระยะเวลา
ขั้นตอนที่สาม
เมื่อประธานรัฐสภาพิจารณารตรวจสอบร่างพ.ร.บ.แล้ว
ผู้ริเริ่มจึงจะนำร่างพ.ร.บ.นั้นไปชักชวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงลายมือชื่อร่วมกันเสนอ
โดยเอกสารการลงลายมือชื่อทุกแผ่นจะต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับ
1) ชื่อตัวและชื่อสกุล
2) หมายเลขประจำตัวประชาชน
3) ข้อความปรากฎเพื่อให้ทราบว่าเป็นการลงลายมือชื่อเพื่อเสนอร่างพ.ร.บ.ใด
4) สามารถตรวจสอบร่างพ.ร.บ.ได้ที่ใด
โดยประชาชนที่ร่วมเข้าชื่อ ต้องแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องด้วย แต่ไม่ต้องแนบสำเนาทะเบียนบ้าน สำหรับขั้นตอนการชักชวนประชาชนให้ลงลายมือชื่อสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ไม่ได้จำกัดระยะเวลาในการดำเนินการ
4. ครบหมื่นชื่อยื่นคำร้องต่อประธานรัฐสภา
ขั้นตอนที่สี่
เมื่อผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า
10,000 คน แล้ว ให้ยื่นคำร้องขอเข้าชื่อเสนอร่างพ.ร.บ.ต่อประธานรัฐสภา
พร้อมเอกสารดังนี้
1. สำเนาร่างพ.ร.บ.ที่จะเสนอให้รัฐสภาพิจารณา พร้อมทั้งบันทึกหลักการและเหตุผลในการเสนอ
2. เอกสารการลงลายมือชื่อของประชาชนจำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คน พร้อมด้วยสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3.
บัญชีรายชื่อผู้แทนของผู้เข้าชื่อเสนอร่างพ.ร.บ.จำนวนไม่เกิน 60 คน
ที่จะทำหน้าที่ชึ้แจงร่างพ.ร.บ.
ต่อสภาและเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.นั้น
5. ตรวจสอบไม่ถึงหมื่นชื่อ ต้องหาเพิ่มภายใน 90 วัน
ขั้นตอนที่ห้า
เมื่อประธานรัฐสภาได้รับเรื่องแล้ว
ต้องตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน
ถ้าเห็นว่าถูกต้องแล้ว
ประธานจะจัดให้มีการประกาศรายชื่อของผู้เข้าชื่อเสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับนั้นต่อไป
ในกรณีที่ตรวจสอบแล้วเห็นว่า
มีรายชื่อประชาชนหรือมีเอกสารไม่ถูกต้องครบถ้วน
ทำให้จำนวนผู้เข้าชื่อมีจำนวนไม่ถึง 10,000 คน
ให้แจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้ริเริ่มเพื่อให้จัดให้เข้าชื่อเสนอเพิ่มเติมให้ครบ
ภายใน 90 วัน
6. ประกาศรายชื่อให้ประชาชนตรวจสอบก่อนเข้าสภา
ขั้นตอนที่หก
เมื่อเห็นว่ารายชื่อถูกต้องครบถ้วนแล้ว ถึง 10,000 คน
ให้ประธานรัฐสภาประกาศรายชื่อของผู้ที่เข้าชื่อเสนอร่างพ.ร.บ.ในช่องทางต่างๆ
ดังนี้
1. สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หรือ เว็บไซต์ www.parliament.go.th
2. จัดทำบัญชีรายชื่อเพื่อให้ประชาชนได้ตรวจสอบ ณ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้สภาผู้แทนราษฎร
3. มีหนังสือแจ้งไปยังผู้มีรายชื่อเป็นผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมายทุกคน
หากผู้ใดพบว่า
มีรายชื่อของตนเป็นผู้เข้าชื่อเสนอร่างพ.ร.บ.นั้น
โดยที่ไม่ได้ร่วมลงชื่อเสนอ
ผู้นั้นสามารถยื่นคำร้องคัดค้านต่อประธานรัฐสภาเพื่อให้ขีดฆ่ารายชื่อออกหากพ้นกำหนด
30 วัน ไม่มีผู้ใดคัดค้านให้ถือว่ารายชื่อนั้น เป็นชื่อที่ถูกต้อง
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการข้างต้นแล้วประธานรัฐสภาจะพิจารณานำร่างพ.ร.บ.นั้นเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของสภา
เพื่อพิจารณาว่าจะออกเป็นกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้หากประธานเห็นว่าร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเกี่ยวกับการเงินจะต้องส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนด้วย
ที่มา: https://ilaw.or.th/node/4682
ตั้งแต่อดีตมาเลยไม่จำกัดเฉพาะ รธน2560 นะครับ
ในอดีตเคยมี "ร่างพระราชบัญญัติ" ใดหรือไม่ ที่มาจากการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยประชาชน ได้ผ่านสภา จนออกเป็นกฎหมาย
เลยเกิดสงสัยว่าเคยมีร่าง พรบ. ใดบ้างไหมในอดีต ที่เกิดจากการเข้าชื่อของประชาชน10,000คน ที่ผ่านขั้นตอนยุ่งยากและผ่านสภา จนเป็นกฎหมายได้
พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.2556 กำหนดไว้ ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตั้งแต่อดีตมาเลยไม่จำกัดเฉพาะ รธน2560 นะครับ