Helloooooo~
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เผือกจะพาไปนั่งรถไฟ ไป ไป ไม่บอก ให้เดาๆ 555
ใบ้ให้ว่าตามรอยละครเรื่องกรงกรรม นั้นก็คือ นั้นก็ครืออออออออ
ปู๊นๆ ฉึกฉักๆ สถานีต่อไป... ชุมแสงงงงงงงงงง จ.นครสวรรค์
จะน่าไปแค่ไหน วันนี้ได้รู้กัน! ตามมาเลยจ้า xoxo
คำเตือน: ทริปนี้ร้อนสุดๆ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเผือกมี must have item อย่างแชมพู Head&Shoulders แต่แค่มีมันธรรมดาไป!
คนคูลๆต้องใช้... สูตรเย็นลบห้าองศา!! เย็นจัดปลัดบอก แถมสบายหัวสุดๆ ก่อนออกเดินทางขอตุนความคูลสักหน่อย
เย็นจริง ขนาดผมแห้งก็ยังทิ้งความเย็นไว้นิดๆ ทริปนี้หัวไม่ร้อนไม่คันคะยือแน่นอน บอกเลยร้อนนี้เผือกพร้อมมาก
เพื่อตามรอยกกรงกรรมอย่างแท้จริง ทริปนี้เราจะนั่งรถไฟไปกัน ซึ่งนี่คือการ นั่ง-รถ-ไฟ-ครั้ง-แรก ของเผือก
มันก็จะงงๆ มึนๆ ไม่รู้ขบวนไหนเป็นตู้ไหน แอบกลัวนิดๆด้วย แต่ทุกอย่างผิดคาดไปหมด
ทุกคนที่ได้คุยน่ารักและมีน้ำใจให้กัน ซึ่งเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจมากๆ ของกินก็มีเกือบทุกสถานี
ใครขี้หิวไม่ต้องกลัวเพราะอาหารเพียบแถมราคาประหยัดด้วย นั่งชิลล์ๆ มองวิวบ้าง หลับบ้าง กินบ้าง
5 ชั่วโมงแปบเดียวววว เดี๋ยวก็ถึงชุมแสง
โอ้ยยยยยย ปวดตู๊ส! ในที่สุดเราก็ถึง “ชุมแสง” ที่นี่เป็นอำเภอเล็กๆ ที่ติดแม่น้ำน่าน ในจังหวัดนครสววรค์
เมื่อรถไฟจอดเทียบชานชาลาก็เดินตุเลง ตุเลง หอบหิ้วกระเป๋าและหน้ามึนๆ ลงมาอย่างงงๆ
สิ่งแรกที่รู้สึกคือที่นี่คลาสสิคมากกกก
เกือบทุกอย่างเหมือนโดนหยุดเวลาไว้ ดูได้จากป้ายที่ติดอยู่ตามผนัง
บ้านเรือน และสามล้อเครื่องที่จอดเรียงรายกันอยู่ (การเดินทางในชุมแสงเผือกจะใช้วิธีการเดินและนั่งสามล้อเท่านั้นนะคะ)
เมื่อถ่ายรูปเล่นที่สถานีเสร็จ จุดต่อไปคือตลาด 100 ปี ชุมแสง แหม่! แค่ได้ยินชื่อก็น่าไปแล้ว
โดยวิธีการไปก็ง่ายโพดๆ แค่มองตรงไปจะเห็นซอย เดินตรงเข้าไปโลดดด สุดซอยเลี้ยวขวา
จะเจอมุมถ่ายรูปและป้ายบอกทางจุดเช็คอินอื่นๆ อย่างง่ายดาย (ทริปนี้ไม่มีหลงเพราะป้ายเยอะ 555)
เมื่อถึงจุดหมายเราก็จะเจอบ้านอัศวรุ่งเรืองพานิช แฟนๆ ละครคงคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี
แถมยังมีแกลอลี่เล็กๆ ที่ถ่ายทอดภาพบรรยกาศเก่าๆของชุมแสง แต่ที่ทำเอาใจเต้นแรงคืออออออ
>< งู้ยยยยย พี่เจมส์จิ(อาซา) แล้วยังจะมี อาใช้ อาตง อาสี่ มีแต่หนุ่มๆ เยอะแยะไปหม๊ดดดด
นี่ขนาดมีแค่ป้ายยังทำให้เผือกหยุดถ่ายรูปได้นานขนาดนี้
ถ้าเจอตัวจริงมีหวังอยู่ยันหว่างอะพูดเลย 555
โอ้ยยย ตอนนี้ที่นี่ 38 องศา คุณพระ! นี่สาบานว่าประเทศไทย?! แต่เผือกบอกเลยว่าวินาทีนี้เผือกหัวไม่ร้อน
แถมยังรู้สึกสบายหัว ไม่คัน ไม่มัน ทั้งๆที่นั่งรถไฟโต้ลมท่าแดดเบอร์นี้ ยิ่งมาเจออากาศแบบนี้
ปกติคงหัวร้อนและมันไปนานแล้ว แต่นี่ไม่ร้อน ไม่มัน ไม่คันเลย สงสัยเพราะเมื่อเช้าสระผมด้วยแชมพูเฮดแอนด์โชว์เดอร์
สูตรเย็น -5 องศา และขอเติมความหวานเย็นซาบซ่าให้ได้อารมณ์ฟิน -5 องศา เหมือนตอนเช้า
ด้วยน้ำแข็งใสถ้วยละ 10 บาท อ่านไม่ผิดค่ะ 10 บาทจริงๆ!! มีเครื่องให้เลือกกรุบกริบ แต่ทุกอย่างที่ชิมคืออร่อย สดชื่นนนนนน
ระหว่างที่เรากำลังเดินไปตรอกเรณู เผือกก็เจอคุณยายนั่งคุยกันอยู่ เลยขอเข้าไปเม้ามอยด้วยสักหน่อย
คุยไปคุยมาก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกขอคนที่นี่ คือเผือกบอกเลยว่าคนที่นี่ดีใจมากๆที่มีคนมาเที่ยวและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
แถมคุณยายยังบอกอีกด้วยว่าฝากบอกต่อด้วยนะ ซึ่งเผือกขอใช้พื้นที่ของ pantip บอกคุณยายตรงนี้เลยว่า
เผือกมาบอกต่อแล้วและหวังว่าที่นี้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไปเรื่อยๆ นะคะ
รัก 😊
ตรอกเรณู...
มุมนี้ถ้าใครดูละครจะต้องคุ้นๆ ว่านี่คือจุดที่เรณูมานั่งร้องไห้ เผือกก็ขอเก็บภาพเอาลง IG ให้สักนิดละกันนะค้าบบบ
ตั้งแต่มาที่นี่บอกเลยไม่เหนื่อยอะไรนะ เหนื่อยถ่ายรูป คือมุมถ่ายรูปเยอะมากกกกกกกก เดิน 3 ก้าวถ่ายรูป 1 รูป
และด้วยการแต่งกายสีจัดจ้านสะดุดตา บวกกับถ่ายรูปตลอดเวลาของเผือกนั้น
ทำให้ลุงป้าน้าอาที่ขายผักขายปลาอย่างเรียบง่ายแถวนั้น เรียกไปถ่ายรูปเสมือนเป็นแม่ค้า
โอ้ยยยย เขิล! แต่พี่เขารู้ใจเวอร์ ขอแปลงร่างเป็นแม่ค้าสักวัน เอาปลาหรือผักอะไรดีจ๊ะพี่จ๋า? 😊
คุณป้าขายตะกร้าสานใบละ 20 บาท แถมแนะนำให้ไปศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสงด้วย เดี๋ยวไว้เราจะไปกันนะเด้อออ
เรายังคงเดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ก็หันไปเจอกับ กับ กับ ร้านราดหน้าตาโก๊ะ ที่กำลังผัดอย่างเมามัน แถมใช้เตาถ่าน
จังหวะนั้นคือน่าสนใจมากกก ขอแวะเติมพลังสักนิด คือมันอร่อยนะยูวววว เส้นหนานุ่มมาก น้ำไม่เหนียวเหมือนขี้มูกเกินไป
และที่สำคัญผักอร่อยมากกกกกก กรอบและหวาน ฟรินนนนน
พอกินราดหน้าเสร็จ ออกมาก็เจอกับน้ำจับเลี้ยง ด้วยร่างที่เหนื่อยล้าและเจ็บคอ
ขอซดสักหน่อย ถุงละ 5 บาท แม่เจ้าโว้ยยยยย ที่นี่เขาขายของราคานี้คือทำการกุศลแน่ๆ เอากำไรจากไหน งงใจมาก
ขอรีวิวกรุบๆว่าอร่อย ขมกำลังดี ไม่ขอเปรียบเทียบกับร้านอื่น แต่ขอพูดสั้นๆว่า หวานเป็นลมขมเป็นยานะจ๊ะ
แวะพักกราบไหว้ขอพร พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน กันสักนิดก่อนเที่ยวต่อ...
พิกัดต่อไปของเราคือ สะพานหิรัญนฤมิต ที่นี่ถือเป็นไฮไลท์อีกจุด เพราะเป็นสะพานเล็กๆ
ที่รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เดินทางข้ามแม่น้ำน่าน และที่สำคัญถ่ายรูปสวยยยย
ใครมองหามุมถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง สวีทๆ มาเที่ยวพอดี ก็แวะมาถ่ายกันนะ
หลังจากที่เดินถ่ายรูปจนหมดพลังขอเปิดวาร์ปมาที่วัดเก่าแก่ของอำเภอชุมแสง นั้นก็คือ วัดเกยไชยเหนือ
แต่สิ่งแรกที่เห็นเมื่อเข้าไปคือ ราชาจระเย้ยักษ์! ซึ่งมีนามว่า “พญาด่างเกยไชย”
อีกจุดที่พิเศษของวัดเกยไชยเหนือ คือ ที่นี่เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน
มาถึงจุดที่ชาวบ้านแถวนี้แนะนำให้มานั้นก็ครืออออ... ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ชุมแสง
เป็นศาลเจ้าจีนเล็กๆ ที่สวยงามและมีความปราณีตมากๆ ดูได้จากรูปวาดบนกำแพงด้านในของศาล
แต่ละรูปสวยและเก็บรายละเอียดต่างๆ อย่างดี
[SR] แบงค์ 1,000 ใบเดียว! เยือนถิ่นนางย้อย ตามรอยกรงกรรม
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้