รพ.บำรุงราษฎร์แสดงความเสียใจ ทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี

รพ.บำรุงราษฎร์แสดงความเสียใจ ทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี

พฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2562 เวลา 21.00 น.

รพ.บำรุงราษฎร์ ออกเอกสาร แสดงความเสียใจ ทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี ระบุที่ผ่านมาดูแลเต็มที่และจะดูแลต่อเนื่อง พร้อมให้การช่วยเหลือด้านอื่นเพิ่มเติม

จากกรณีมีผู้ป่วยชายรายหนึ่งออกมาเปิดเผยผ่านรายการทีวี โดยระบุว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี โดยไม่รู้ตัวจากการรักษาโรคด้วยการให้เลือดจากรพ.ชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ซึ่งตอนแรกทางรพ.ให้การดูแลรักษา จึงไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ก็หายจากการรักษาไปประมาณ 2 ปี เพราะไปรักษาด้วยสมุนไพร กระทั่งกลับเข้ามารักษาที่รพ.ดังกล่าวอีกครั้งทางรพ.กลับระบุว่าไม่มีประวัติการรักษาและเป็นช่วงเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ แต่ก็ไม่สามารถหาเอกสารได้เนื่องจากไม่คนทำเอกสารกันทางรพ.จึงแนะนำให้เข้ารับการรักษาตามระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองแทน ถ้าไม่ไหวค่อยกลับมาที่รพ.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ค. รพ.บำรุงราษฎร์ ได้มีการออกเอกสารชี้แจง โดยในเอกสารระบุว่า เป็นผู้ป่วยของทางรพ.บำรุงราษฎร์เอง ผู้ป่วยรายดังกล่าวเข้ารับการรักษาอาการโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เริ่มจากปี พ.ศ. 2547 คือ เมื่อ 15 ปีก่อน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการรักษาได้เพราะถือเป็นความลับของผู้ป่วย แต่ขอชี้แจงขอชี้แจงข้อเท็จจริง 1. ในการให้เลือดนั้น รพ. มีข้อปฏิบัติในการรับเลือดจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อให้การรักษาแก่ผู้ป่วย ด้วยเป็นสถาบันที่มีการคัดเลือกและตรวจเลือดผู้บริจาคตามมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล มีมาตรการคัดกรองผู้บริจาคโลหิตด้วยแบบสอบถามและซักประวัติพฤติกรรมความเสี่ยง มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธีซีโรโลยี่ ด้วยน้ำยาที่มีความไวสูงสุด และตรวจด้วยวิธี Nucleic acid amplification test (NAT) ดังนั้นผลิตภัณฑ์เลือดจะมีความปลอดภัยสูง ผ่านการตรวจคัดกรองการติดเชื้อต่างๆ รวมถึงการตรวจคัดกรองเชื้อเอชไอวีด้วย

ในช่วงปี พ.ศ. 2547 ซึ่งผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษา ทางศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติฯ ได้ใช้เทคโนโลยีการตรวจคัดกรองเลือดผู้บริจาคที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยเทคนิค NAT ที่สามารถตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้มาถึงปัจจุบัน  แต่อย่างไรก็ตามการตรวจคัดกรองการติดเชื้อในเลือดยังมีข้อจำกัดกรณีที่ผู้บริจาคเพิ่งได้รับเชื้อเข้ามาใหม่ซึ่งในเลือดจะมีปริมาณเชื้อไม่มากพอที่จะตรวจพบได้ด้วยวิธีใด ๆ จึงอาจทำให้ผู้ป่วยได้รับเชื้อเหล่านี้ แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นมีน้อยมาก ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าทางรพ.ต่างๆ ล้วนมีข้อปฏิบัติในการให้ผู้ป่วยรับทราบถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการได้รับเลือดซึ่งรวมถึงเชื้อเอชไอวีด้วย แล้วจึงลงนามยินยอมรับการให้เลือดเพื่อการรักษาที่จำเป็น

2. เรื่องการดูแลรักษาเพื่อเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม  รพ. รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายดังกล่าว และยึดมั่นในการดูแลให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือค่าดูแลรักษาเรื่องเอชไอวี และอาการข้างเคียงอื่นๆ อันเป็นผลจากเชื้อเอชไอวี โดยปรากฏในประวัติย้อนหลังผู้ป่วย ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษา เป็นจำนวนเงิน กว่า 7 หลัก รวมการเข้ารักษาทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน 266 ครั้ง ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักการการบริบาลด้วยความเอื้ออาทรแก่ผู้ป่วยที่รพ.ฯ ยึดมั่นมาตลอดกว่า 38 ปีของการดำเนินงาน

ทั้งนี้ รพ. ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีความเห็นใจต่อตัวผู้ป่วยตลอดจนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ รพ. ขอถือโอกาสนี้ ยืนยันที่จะให้การดูแลรักษาผู้ป่วยรายนี้เป็นอย่างดีที่สุดต่อไป รวมถึงการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลตามหลักคุณธรรมและมนุษยธรรมอย่างเหมาะสมต่อไป.

https://www.dailynews.co.th/politics/708320
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่