●●จดหมายตอบโบว์ ‘อย่าแส่’ จากคนเชียร์พรรคภูมิใจไทย ดูทั้งหมด●●

●●จดหมายตอบโบว์ ‘อย่าแส่’ จากคนเชียร์พรรคภูมิใจไทย ดูทั้งหมด●●

             
คุณโบว์-ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวการเมืองที่ตอบโจทย์มุ่งผลประโยชน์ของฝ่ายพรรคเพื่อไทยและพวก
ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กดดันเพื่อมิให้พรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค
พลังประชารัฐ สนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ

ปรากฏว่า มีผู้อ่านที่อ้างว่าเป็นผู้สนับสนุนพรรคภูมิใจไทยลงคะแนนให้พรรคภูมิใจไทย และมีความรักชาติ
แผ่นดินส่วนรวมรักประชาธิปไตยไม่น้อยไปกว่าใคร ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกมาบ้าง
โดยเรียกว่า “จดหมายตอบโบว์” มีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจบางตอนระบุว่า

“ถึงคุณโบว์
อ้างถึง จดหมายเปิดผนึกของคุณถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ฉันเป็นคนลงคะแนนให้พรรคภูมิใจไทย ลงมาหลายรอบแล้ว
ส่วนคุณเป็นใคร ลงคะแนนให้พรรคไหน
ฉันไม่เชื่อว่าลงคะแนนให้ภูมิใจไทย แล้วมาแส่อะไรด้วยมิทราบ

คุณพยายามกดดันพรรคภูมิใจไทย มิให้สนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ
เดาว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยหันไปสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ซึ่งมิได้เป็น สส.ให้ เป็นนายกฯ คุณก็คงจะเรียก สส.พรรคภูมิใจไทยว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย

ตรงกันข้าม ถ้าพรรคภูมิใจไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐคุณกลับพยายามตีตราว่าเป็นฝ่ายเผด็จการ
คิดแบบนี้ มันคิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวเกินไปมั้ย

ทุกพรรคมันก็ผ่านการเลือกตั้งมาเหมือนกันทั้งนั้น ฉันลงคะแนนให้พรรคภูมิใจไทย คุณลงคะแนนให้พรรคไหนอนาคตใหม่ของนายธนาธร หรือเพื่อไทยของนายวัฒนา ชายที่รักของคุณ

คุณหญิงสุดารัตน์อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 7.8 ล้านเสียง
พลเอกประยุทธ์อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรค ได้คะแนนมากที่สุด 8.4 ล้านเสียง

คุณอ้างประชาธิปไตย อ้างเสียงประชาชน อ้างการเลือกตั้งแต่จะมากดดันไม่ให้พรรคภูมิใจไทยของฉัน
สนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ได้อย่างไร เอาสมองส่วนไหนคิด

หรือแค่กลัวว่าถ้าพลเอกประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ ฝ่ายที่การเมืองที่คุณแอบกิ๊กจะไม่ได้ครองอำนาจรัฐไปอีกนาน

คุณพยายามโจมตีเสียง สว. และวิธีคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อ ทั้งๆ ที่ ก็มาตามขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญที่ผ่าน
ประชามติกำหนดไว้ตั้งแต่ต้น

คุณอ้างว่ามี “การพลิกสูตรคำนวณสส. ที่ส่งผลให้เกิดการลดจำนวนที่นั่งในฝ่ายประชาธิปไตย และเพิ่มจำนวน
ให้พรรคเล็กที่ได้เสียงไม่ถึง 71,000 คะแนน ตามเกณฑ์ที่จะได้สส.พึงมีตามรัฐธรรมนูญ”

ถ้าคุณอ่านหนังสือออก ช่วยไปอ่านเอกสารที่ กกต.แจกจ่ายรายละเอียด “หลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณ สส.
แบบบัญชีรายชื่อ” ความยาว 14 หน้า จะได้เข้าใจเสียทีว่า เขาใช้สูตรวิธีคำนวณเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไรเป็นไป
ตามกฎหมายแต่ละวรรค แต่ละมาตราอย่างไร และเป็นไปตามแบบที่ กรธ.เคยเปิดเผยไว้ตั้งแต่ปี 2561 ก่อนจะ
มีการเลือกตั้งเสียอีก พรรคเล็กๆ พวกนี้ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ ยังไม่รู้ว่าพรรคไหนได้คะแนนมากน้อยแค่ไหนถึงจะ
ได้เป็น สส.

ส่วนที่พวกคุณมาอ้างว่าเป็นสูตรคำนวณที่ลดที่นั่งฝ่ายประชาธิปไตยเนี่ย มันอ้างเอง เออเอง เคลมเอาเอง
โดยใช้สูตรที่เข้าใจเอาเอง หลังรู้คะแนนพรรคของพวกตัวเอง

ถามจริงๆ ไม่อายตัวเองบ้างเหรอ อ้อ แล้วพรรคที่ได้ประโยชน์จากสูตรนี้ มันมีแต่พรรคฝ่ายหนุนพลเอก
ประยุทธ์จริงเหรอ คุณหาอ่านข้อมูลข่าวเสียบ้าง…

สุดท้าย คุณอ้างว่า “..หากภูมิใจไทยเลือกอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ก็จะเกิดรัฐบาล 296 เสียงที่พร้อมบริหาร
ประเทศทันที แต่ถ้าไม่ ก็จะเกิดฝ่ายค้านที่เข้มแข็งแทน ด้วย 245 เสียงจากเจ็ดพรรคบวกกับบางส่วนของประชาธิปัตย์ที่อาจตัดสินใจรักษาหลักการประชาธิปไตยและเลือกเป็นฝ่ายค้านอิสระ อาจเกิดปัญหารัฐบาล
เสียงข้างน้อยอย่างที่คุณอนุทินเคยประกาศว่าไม่ต้องการ แต่เหนือสิ่งอื่นใดการตัดสินใจนั้นจะเป็นเครื่อง
กำหนดเองว่าพรรคภูมิใจไทยได้ทำสิ่งที่น่าภูมิใจทั้งต่อตนเองและประเทศชาติในฐานะนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแล้วหรือยัง...”

ฉันอยากจะบอกคุณว่า การจะทำคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ มันจะต้องยืนอยู่ข้างพวกคุณ สนับสนุน
พวกคุณเท่านั้นหรือ ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วสามารถทำนโยบายหาเสียงที่ฉันลงคะแนนให้ได้ จะไม่ถือว่าเป็น
ประโยชน์เหรอ ไม่เป็นประชาธิปไตยเหรอ คุณอย่ามาแส่นักเลย

พรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่คุณอ้างนั้น กี่คนมีคดีทุจริตติดตัวอยู่ หนีคุกหนีตะรางกี่คน ถูกเรียกค่าเสียหายคืน
แผ่นดินแล้วยังไม่จ่ายกี่หมื่นกี่แสนล้านบาท?

คุณรู้จักนักการเมืองที่มีคดีทุจริตสินบนบ้านเอื้ออาทรมั้ย
เคยสนิทชิดใกล้ เคยได้กินข้าว เคยได้ร่วมห้อง เคยได้ผลประโยชน์อะไรจากจำเลยคดีโกงคนนั้นมั้ย

คุณไม่อายที่จะเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย แล้วเอาวาทกรรมนั่นมาตีตรากล่าวหาคนอื่นบ้างหรือ
หยุดเถอะ จะอาเจียน...”

คุณโบว์และแนวร่วมพึงรับฟัง นี่คือพื้นฐานของประชาธิปไตย

สารส้ม

Cr.  https://www.naewna.com/politic/columnist/39978
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่