ผมดูฟุตบอลมานาน
รู้สึกโชคดีและดีใจ
ที่ได้ดูแมตช์ในตำนานแบบสดๆ ทุกนัด
แมตช์ที่ผมรู้สึกประทับใจ
ในหัวจิตหัวใจความเป็นนักสู้ ที่ไม่ยอมแพ้
เป็นเกมส์การแข่งขันที่เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์
แบบพลิกนรก กลับมาจากหลุมก็ว่าได้
มีดังนี้
1. นัดชิง UCL ปี 1999
- แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด VS บาเยิร์นมิวนิค
- แข่งที่แคมป์นู บาร์เซโลนา สเปน

สำหรับเกมส์นัดนี้
ในช่วงนั้นโดยชื่อชั้น ประสบการณ์
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เป็นรองบาเยิร์นมิวนิค อย่างมาก
เรียกได้ว่า
ปีศาจแดง ตกเป็นผีรองบ่อน
ของเสือใต้ ก็ไม่ผิดนัก
เริ่มเกมส์มาเพียงแค่ 6 นาที
มาริโอ บาสเลอร์ ก็ยิง Free kick
ให้บาเยิร์น ออกนำไปก่อน แบบสบายๆ
เกมส์การแข่งขัน ล่วงมาถึงนาทีที่ 90
ก็ไม่มีใครทำประตูเพิ่มเติมได้
ถ้วย UCL อยู่ใกล้บาเยิร์น ที่นำ 1-0 แค่เอื้อมมือคว้าเท่านั้น
แต่แล้วเหตุการณ์ ก็พลิกผัน
เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเท่านั้น
ไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิง
เหล่าพลพรรคนักเตะปีศาจแดง
ซึ่งมีนิยามในหัวจิตหัวใจว่า
จะไม่ยอมแพ้
จนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา
ต่างดาหน้ากัน ดันขึ้นมาบุก
เหมือนฉลามบาดเจ็บ ได้กลิ่นคาวเลือด
ที่ตั้งใจจะจู่โจม ครั้งสุดท้ายในชีวิต
แบบไม่มีอะไรจะเสีย
และสุดท้าย
สวรรค์ก็มีผลตอบแทน
ให้ผู้ที่มุ่งมั่นต่อสู้ แบบไม่ท้อถอย
เบ็คแฮม เตะมุม
ชไมเคิล พยายามโถมตัวเข้าไปโหม่ง
บอลหลุดมาถึงกิ๊กส์ที่หน้ากรอบเขตโทษ
กิ๊กง้างเท้ายิงบอลไปที่ประตู
และปิดจ็อบ โดยเชอริงแฮม ตวัดยิงตามน้ำเข้าประตูไป
ผ่านมาอีกแป๊บเดียว
เบ็คแฮม ได้เตะมุมอีกครั้ง
เชอริงแฮม โถมตัวขึ้นโหม่ง
บอลตกมาถึงโซลจาร์
และโซลจาร์ ก็ตวัดเท้ายิงบอลเสย เข้าประตูไป
ทำให้แมนฯยูไนเต็ด ชนะ บาเยิร์นมิวนิค
2-1
คว้าแชมป์ UCL ครั้งแรก ให้เฟอร์กี้
แบบช็อคแฟนบอลบาเยิร์นมิวนิค
และประทับใจแฟนบอลทั่วโลก
2. นัดชิง UCL ปี 2005
- ลิเวอร์พูล VS เอซีมิลาน
- แข่งที่อะตาเติร์ก อิสตันบูล ตุรกี

เพียงแค่นาทีแรก
เปาโล มัลดินี่
ก็ทำประตู ให้มิลานขึ้นนำ
ไปอย่างรวดเร็ว
และเฮอร์นัน เครสโป
ก็ยิงเบิ้ล อีก 2 ประตู
ให้มิลานออกนำถึง 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก
แฟนบอลลิเวอร์พูล
หลายท่านถอดใจ ไม่กล้าดู ไม่กล้าลุ้นต่อ
ปิดทีวี ทำใจ
และเอาใจช่วยแบบเงียบๆ ในจินตนาการ
แต่นักเตะลิเวอร์พูล ไม่ทำแบบนั้น
พวกเค้าสู้ยิบตา
ทุกคนสวมหัวใจสิงห์เข้าสู้ อย่างไม่ย่อท้อ
จนถึงช่วง 6 นาที
แห่งปาฏิหาริย์
พวกเค้าทำประตู
ได้ถึง 3 ลูก ในเวลาเพียงแค่ 6 นาที
ตามตีเสมอมิลาน
3-3
จนครบ 120 นาที
ไม่มีทีมไหนทำประตูเพิ่มได้
ต้องยิงจุดโทษ ตัดสินแชมป์
และเป็นเจอร์ซี่ ดูเด็ค
ที่โชว์ฟอร์มฮีโร่
โดยงัดทีเด็ด
ใช้ท่าร่างสาหร่าย ที่พลิ้วไหว
ทำลายสมาธิคู่ต่อสู้
จนสามารถเอาชนะจุดโทษ
ทำให้ลิเวอร์พูล
คว้าแชมป์ UCL ใบที่ 5
ไปอย่างยิ่งใหญ่ ประทับใจคนดู
สรรค์สร้างตำนาน "ปาฏิหาริย์ที่อิสตันบูล" ขึ้น
3. รอบรองชนะเลิศ UCL ปี 2018-2019
- ลิเวอร์พูล VS บาร์เซโลนา
- แข่งที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล อังกฤษ

บาร์เซโลน่า กุมความได้
จากการถลุงบั้นท้ายลิเวอร์พูล
โดยเอาชนะนัดแรก ในบ้านตัวเอง มาถึง 3-0
จนย่ามใจ ว่าเข้ารอบอย่างแน่นอน
แต่พลพรรคนักเตะลิเวอร์พูล ก็ไม่ย่อท้อ
ช่วยกันเล่น ดาหน้ากันถล่มประตู ในนัดที่สอง
ใส่นักเตะมนุษย์ต่างดาว อย่างบาร์เซโลนา
จนยานแม่จากต่างดาวตก
แบบพลิกความคาดหมาย
จบเกมส์เอาชนะไป 4-0
เมสซี ถึงกับยืนงง โงนเงน
ลิเวอร์พูลพลิกนรก
เข้ารอบชิง UCL ด้วยสกอร์รวม 4-3
ไปลุ้นแชมป์ ถ้วยใหญ่ใบที่ 6 ของสโมสร
4. รอบรองชนะเลิศ UCL ปี 2018-2019
- ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส VS อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
-แข่งที่โยฮันครัฟฟ์ อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์

นัดแรก ไก่เดือยทอง
ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ในบ้านตัวเอง โดยพ่ายแพ้ไป 0-1
นัดที่สอง
อาแจ็กซ์ ช่วงชิงความได้เปรียบ จากการเล่นในบ้าน
ยิงเพิ่มอีก 2 ลูกในครึ่งแรก
เพิ่มความได้เปรียบ ในสกอร์รวมเป็นถึง 3-0
ด้วยความเสียเปรียบแบบสุดกู่
พลพรรคนักเตะสเปอร์ส จึงต้องสู้ตายแบบไม่มีอะไรจะเสีย
จุดพลิกผัน คือได้ 2 ประตู
อย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง
จากลูคัส มูรา
ผู้มีความคม ประดุจมีดโกน
กำลังใจกลับมา
สู่พลพรรคไก่เดือยทอง คนองเดชแล้ว
เพราะอีกเพียงลูกเดียวเท่านั้น ก็จะได้เข้ารอบ
แต่จนแล้วจนรอด ก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้สักที
จนล่วงเข้าสู่นาที 90+5
ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของเกมส์
ด้วยหัวจิตหัวใจนักสู้ ไม่ยอมแพ้แม้วินาทีสุดท้าย
นักเตะสเปอร์ส ลำเลียงบอลขึ้นมา
และลูคัส มูร่า คนเดิม ก็ซัดแฮททริคเข้าไป
แบบช็อคแฟนบอลและนักเตะอาแจกซ์ ทั้งสนาม
เป็นประตูนำชัย ให้ฝูงไก่เดือยทอง ผยองคนองเดช
เข้ารอบชิง UCL เป็นครั้งแรกของสโมสร
ได้เข้าไปลุ้นคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ UCL ครั้งแรก
เพื่อมาประดับตู้โชว์ของสโมสร อีกด้วย
นัดที่ 5
ไม่รู้ว่าจะเป็นนัดชิง UCL ปีนี้รึเปล่า ?
4 ฟุตบอลนัดประวัติศาสตร์ในตำนาน - ปาฏิหาริย์พลิกนรก จากจิตวิญญาณนักสู้ ผู้ไม่ยอมแพ้ - ที่ตราตรึงและประทับใจผม ^ ^
รู้สึกโชคดีและดีใจ
ที่ได้ดูแมตช์ในตำนานแบบสดๆ ทุกนัด
แมตช์ที่ผมรู้สึกประทับใจ
ในหัวจิตหัวใจความเป็นนักสู้ ที่ไม่ยอมแพ้
เป็นเกมส์การแข่งขันที่เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์
แบบพลิกนรก กลับมาจากหลุมก็ว่าได้
มีดังนี้
1. นัดชิง UCL ปี 1999
- แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด VS บาเยิร์นมิวนิค
- แข่งที่แคมป์นู บาร์เซโลนา สเปน
สำหรับเกมส์นัดนี้
ในช่วงนั้นโดยชื่อชั้น ประสบการณ์
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เป็นรองบาเยิร์นมิวนิค อย่างมาก
เรียกได้ว่า
ปีศาจแดง ตกเป็นผีรองบ่อน
ของเสือใต้ ก็ไม่ผิดนัก
เริ่มเกมส์มาเพียงแค่ 6 นาที
มาริโอ บาสเลอร์ ก็ยิง Free kick
ให้บาเยิร์น ออกนำไปก่อน แบบสบายๆ
เกมส์การแข่งขัน ล่วงมาถึงนาทีที่ 90
ก็ไม่มีใครทำประตูเพิ่มเติมได้
ถ้วย UCL อยู่ใกล้บาเยิร์น ที่นำ 1-0 แค่เอื้อมมือคว้าเท่านั้น
แต่แล้วเหตุการณ์ ก็พลิกผัน
เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเท่านั้น
ไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิง
เหล่าพลพรรคนักเตะปีศาจแดง
ซึ่งมีนิยามในหัวจิตหัวใจว่า
จะไม่ยอมแพ้
จนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา
ต่างดาหน้ากัน ดันขึ้นมาบุก
เหมือนฉลามบาดเจ็บ ได้กลิ่นคาวเลือด
ที่ตั้งใจจะจู่โจม ครั้งสุดท้ายในชีวิต
แบบไม่มีอะไรจะเสีย
และสุดท้าย
สวรรค์ก็มีผลตอบแทน
ให้ผู้ที่มุ่งมั่นต่อสู้ แบบไม่ท้อถอย
เบ็คแฮม เตะมุม
ชไมเคิล พยายามโถมตัวเข้าไปโหม่ง
บอลหลุดมาถึงกิ๊กส์ที่หน้ากรอบเขตโทษ
กิ๊กง้างเท้ายิงบอลไปที่ประตู
และปิดจ็อบ โดยเชอริงแฮม ตวัดยิงตามน้ำเข้าประตูไป
ผ่านมาอีกแป๊บเดียว
เบ็คแฮม ได้เตะมุมอีกครั้ง
เชอริงแฮม โถมตัวขึ้นโหม่ง
บอลตกมาถึงโซลจาร์
และโซลจาร์ ก็ตวัดเท้ายิงบอลเสย เข้าประตูไป
ทำให้แมนฯยูไนเต็ด ชนะ บาเยิร์นมิวนิค
2-1
คว้าแชมป์ UCL ครั้งแรก ให้เฟอร์กี้
แบบช็อคแฟนบอลบาเยิร์นมิวนิค
และประทับใจแฟนบอลทั่วโลก
2. นัดชิง UCL ปี 2005
- ลิเวอร์พูล VS เอซีมิลาน
- แข่งที่อะตาเติร์ก อิสตันบูล ตุรกี
เพียงแค่นาทีแรก
เปาโล มัลดินี่
ก็ทำประตู ให้มิลานขึ้นนำ
ไปอย่างรวดเร็ว
และเฮอร์นัน เครสโป
ก็ยิงเบิ้ล อีก 2 ประตู
ให้มิลานออกนำถึง 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก
แฟนบอลลิเวอร์พูล
หลายท่านถอดใจ ไม่กล้าดู ไม่กล้าลุ้นต่อ
ปิดทีวี ทำใจ
และเอาใจช่วยแบบเงียบๆ ในจินตนาการ
แต่นักเตะลิเวอร์พูล ไม่ทำแบบนั้น
พวกเค้าสู้ยิบตา
ทุกคนสวมหัวใจสิงห์เข้าสู้ อย่างไม่ย่อท้อ
จนถึงช่วง 6 นาที
แห่งปาฏิหาริย์
พวกเค้าทำประตู
ได้ถึง 3 ลูก ในเวลาเพียงแค่ 6 นาที
ตามตีเสมอมิลาน
3-3
จนครบ 120 นาที
ไม่มีทีมไหนทำประตูเพิ่มได้
ต้องยิงจุดโทษ ตัดสินแชมป์
และเป็นเจอร์ซี่ ดูเด็ค
ที่โชว์ฟอร์มฮีโร่
โดยงัดทีเด็ด
ใช้ท่าร่างสาหร่าย ที่พลิ้วไหว
ทำลายสมาธิคู่ต่อสู้
จนสามารถเอาชนะจุดโทษ
ทำให้ลิเวอร์พูล
คว้าแชมป์ UCL ใบที่ 5
ไปอย่างยิ่งใหญ่ ประทับใจคนดู
สรรค์สร้างตำนาน "ปาฏิหาริย์ที่อิสตันบูล" ขึ้น
3. รอบรองชนะเลิศ UCL ปี 2018-2019
- ลิเวอร์พูล VS บาร์เซโลนา
- แข่งที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล อังกฤษ
บาร์เซโลน่า กุมความได้
จากการถลุงบั้นท้ายลิเวอร์พูล
โดยเอาชนะนัดแรก ในบ้านตัวเอง มาถึง 3-0
จนย่ามใจ ว่าเข้ารอบอย่างแน่นอน
แต่พลพรรคนักเตะลิเวอร์พูล ก็ไม่ย่อท้อ
ช่วยกันเล่น ดาหน้ากันถล่มประตู ในนัดที่สอง
ใส่นักเตะมนุษย์ต่างดาว อย่างบาร์เซโลนา
จนยานแม่จากต่างดาวตก
แบบพลิกความคาดหมาย
จบเกมส์เอาชนะไป 4-0
เมสซี ถึงกับยืนงง โงนเงน
ลิเวอร์พูลพลิกนรก
เข้ารอบชิง UCL ด้วยสกอร์รวม 4-3
ไปลุ้นแชมป์ ถ้วยใหญ่ใบที่ 6 ของสโมสร
4. รอบรองชนะเลิศ UCL ปี 2018-2019
- ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส VS อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
-แข่งที่โยฮันครัฟฟ์ อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์
นัดแรก ไก่เดือยทอง
ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ในบ้านตัวเอง โดยพ่ายแพ้ไป 0-1
นัดที่สอง
อาแจ็กซ์ ช่วงชิงความได้เปรียบ จากการเล่นในบ้าน
ยิงเพิ่มอีก 2 ลูกในครึ่งแรก
เพิ่มความได้เปรียบ ในสกอร์รวมเป็นถึง 3-0
ด้วยความเสียเปรียบแบบสุดกู่
พลพรรคนักเตะสเปอร์ส จึงต้องสู้ตายแบบไม่มีอะไรจะเสีย
จุดพลิกผัน คือได้ 2 ประตู
อย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง
จากลูคัส มูรา
ผู้มีความคม ประดุจมีดโกน
กำลังใจกลับมา
สู่พลพรรคไก่เดือยทอง คนองเดชแล้ว
เพราะอีกเพียงลูกเดียวเท่านั้น ก็จะได้เข้ารอบ
แต่จนแล้วจนรอด ก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้สักที
จนล่วงเข้าสู่นาที 90+5
ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของเกมส์
ด้วยหัวจิตหัวใจนักสู้ ไม่ยอมแพ้แม้วินาทีสุดท้าย
นักเตะสเปอร์ส ลำเลียงบอลขึ้นมา
และลูคัส มูร่า คนเดิม ก็ซัดแฮททริคเข้าไป
แบบช็อคแฟนบอลและนักเตะอาแจกซ์ ทั้งสนาม
เป็นประตูนำชัย ให้ฝูงไก่เดือยทอง ผยองคนองเดช
เข้ารอบชิง UCL เป็นครั้งแรกของสโมสร
ได้เข้าไปลุ้นคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ UCL ครั้งแรก
เพื่อมาประดับตู้โชว์ของสโมสร อีกด้วย
นัดที่ 5
ไม่รู้ว่าจะเป็นนัดชิง UCL ปีนี้รึเปล่า ?