เริ่มเข้าเรื่องเลยนะคะตัวเราเองเล่าไม่เก่งและไม่มีความรู้ทางกฏหมายเลยเน้นเลยยยค่ะเรื่องนี้เกิดขึ้นกับพ่อเราโดยตรงพ่อทำงานรับซื้อไม้ยางพารามานานเหตุเกิดเมื่อกลางปี2559 พ่อเรารับซื้อไม้ยางจากสวนยางพาราปกติโดยที่พ่อจะมีลูกน้องเป็นคนไปทำทางตัดไม้และเอาไม้ลงมาจากสวนเพื่อส่งขายบริษัท  โดยที่ส่วนใหญ่พ่อจะไม่ค่อยได้ไปดูสวนเนื่องจากเป็นพื้นที่สีแดงเลยต้องให้ลูกน้องเป็นคนขึ้นไปทำ  ลูกน้องก็ขึ้นไปทำงานปกติ  ระยะเวลาทำงานประมาณ1สัปดาห์หลังจากงานปกติเสร็จก็มีคนในหมู่บ้านมาขอช่วยบอกว่ามีไม้ที่ตัดอยู่ในป่าซึ่งป่านั้นเป็นป่าสงวนโดยไม้เหล่านั้นจะเอาไปทำสาธารณูประโยชน์ให้ส่วนรวม  จะเอาไม้ไปทำมัสยิดแต่ไม่สามารถเอาไม่ออกมาจากป่าได้  จึงขอช่วยให้ลูกน้องช่วยเอารถแทรกเตอร์ที่มีช่วยไถทำทางให้เพื่อที่เขาจะได้นำไม่ออกจากป่า  ตอนแรกลูกน้องก็ไม่ได้ทำแต่คนที่มาขอช่วยมาหลายครั้งด้วยที่คงกลัวว่าจะทำงานแถวนั้นไม่ได้และมีเหตุการณ์อยู่แล้วลูกน้องจึงไปช่วยโดยการเอารถแทรกเตอร์ไปเกลี่ยทางเอาเศษไม้ที่ขวางๆทางออกเพื่อที่คนในหมู่บ้านจะได้นำไม้ที่ตัดแล้วออกมา  หลังจากทำได้ไม่มากรถดันเสียอยู่ในป่า  พ่อเราเลยสงสัยว่าทำไมลูกน้องถึงยังไม่เอารถลงมาจากป่ายางอีกทั้งที่งานเสร็จแล้ว  หลังจากนั้นไม่กี่วัน  ลูกน้องเลยโทรมาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด  และ..ป่าไม้ขึ้นไปจับเพราะเป็นเขตป่าสงวน  แต่ตอนที่ป่าไม้ขึ้นไปจับ  มีหลักฐานเป็นรถแทรกเตอร์และกองไม้ที่ถูกตัดไว้แล้วกองอยู่  หลังจากทราบเรื่องพ่อเราเลยไปติดต่อป่าไม้และตำรวจแล้วก็ถูกดำเนินคดี  หลังจากนั้นลูกน้องก็หนีไป  พ่อเราก็ไปตามที่ตำรวจเรียกทุกครั้ง  แต่ไม่เคยมีทนายไปด้วย ตอนนั้นพ่อจึงบอกตำรวจว่าคนในหมุ่บ้านมาติดต่อพ่อเอง  พ่อจึงให้ลูกน้องไปช่วย เพราะคิดว่ารับไปแล้วเรื่องจบ ตำรวจจึงดำเนินดคี หลักๆ4ข้อหา โทษเกือบ20ปี  เราเพิ่งมารู้เรื่องทีหลังจึงหาทนาย เพื่อช่วยคดีพ่อ ตอนนี้พ่อเราแพ้ดคีค่ะ จำคุก6ปีกว่า ศาลชั้นต้นไม่อนุญาติให้ประกันตัว จึออนุญาติอุทรณ์ แต่ก็ไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากกลัวจำเลยหนี ตอนนี้พ่อเราอยู่ในเรือนจำ2สัปดาห์ แล้วค่ะ ทนายกำลังอุทรณ์คดี เพื่อขอศาลอุทรณ์ประกันตัว เราสามารถทำอะไรได้อีกบ้างคะ เพื่อให้พ่อได้ประกันตัว