ร.พ.สัตว์เล็กเชียงใหม่​ โรงพยาบาลหรือโรงฆ่าสัตว์?

คือเรื่องมีอยู่ว่าอย่างนี้นะครับ
วันนี้​ 07/05/62
            ผมเลี้ยงหมาไว้อยู่ตัวหนึ่งพันธ์ปอม​ ปกติผมก็เลี้ยงแกไว้ในบ้านบ้างนอกบ้านบ้างแต่เมื่อวานผมเอาน้องไว้นอกบ้านเพราะน้องไปเล่นดินมาเลยมัดไว้นอกบ้าน​ ก่อนจะนอนผมยังแอบมองอยู่น้องก็ยังปกติดี​ แต่ช่วงเช้าผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาช่วงราวๆหกโมงเช้า​ ได้ยินเสียงน้องเห่าดังเห่าไม่หยุดผิดปกติ​ จึงลุกขึ้นมาออกไปดูปรากฎว่าน้องโดนผึ้งรุมต่อยแบบเต็มหน้าเต็มตาเต็มปากเต็มหู​ ย้ำนะครับเต็มแบบเยอะมากๆ​ ผึ้งเกือบ​ 40-50​ ตัว​ ผมเห็นดังนั้นเลยรีบอุ้มน้องเข้าไปหาแฟนในบ้านและรีบชวนกันออกมาหาหมอด้วยความขาดสติ​ จึงรีบขึ้นรถออกมาเลยกระเป๋าเงินก้ลืมไปหมด​ แต่โชคดีในความที่แฟนของผมยังมีสติเลยค้นหาข้อมูลการรักษาเบื้องต้นว่าให้เอาเหล็กในของผึ้งออก​ ระหว่างที่ผมขับรถออกไปแฟนผมก็คอยดึงเอาเหล็กในออกเรื่อยๆผมร้อนใจมากยอมรับเลยว่าขับรถเร็วแบบผิดปกติมาก​ บางคนที่ไม่เคยผูกพันกับหมาแมวอาจมองเป็นเรื่องแปลกแต่คนที่รักและผูกพันกับหมาแมวคงเข้าใจความรู้สึกผมดี​ ในระหว่างที่ขับรถไปเกือบจะถึง​  ร.พ.สัตว์เล็ก​ แฟนผมเอาเหล็กในออกมาได้​ 20​ กว่าอันแล้วแต่​ ยังออกไม่ถึงครึ่งเลย​ ย้ำนะครับยังไม่ถึงครึ่งเลย​ (ความจริงจะแวะ​ ร.พ.แถวบ้านแต่ไม่มีที่ไหนเปิดเลยเลยหาข้อมูลเจอที่​ร.พ.สัตว์เล็กเปิด​ 24ชั่วโมง)​ พอไปถึงผมก็รีบจอดรถแล้วรีบอุ้มน้องไปหาหมอเลย​ เข้าห้องฉุกเฉิน​ พอไปถึงเจอหมอคนหนึ่ง​ บอกหมอหมดครบทุกอย่างว่าน้องโดนผึ้งต่อยมา​ 40-50​ กว่าตัวหรืออาจจะมากกว่านั้น​ ซึ่งตอนนั้นเหล็กในยังเหลืออยู่เต็มใบหน้าปากและหู​ ซึ่งก่อนมาผมเอาที่จุดสำคัญๆอย่างในตาลิ้นและปากออกเกือบหมดแล้ว​ บอกว่าน้องไม่ไหวแล้วอ่อนแรงมาก​ หมอพูดขึ้นมาเลยครับประโยคแรก​ หมอจะฉีดยาแก้แพ้​ ให้น้ำเกลือ​ และเอายาไปกินนะ​ แต่เหล็กในหมอไม่เอาออกให้ให้เจ้าของเอาออกเอง​ ผมก็งง​ เอามารักษาก็จ่ายเงินทำไมถึงไม่เอาออกให้​ แต่ด้วยความร้อนใจก็เลยบอกว่าได้ครับ​ หมอเดินหายไปซัก​ 20​ นาที​ จากนั้นเดินเข้ามากับผู้ช่วยพยาบาล​ โกนขนขาข้างหน้าและเจาะเลือดไปตรวจระหว่างเจาะเลือดน้องหมาก้ไหลออกเหมือนยังทำไม่ค่อยชำนาญ​ พอเจาะเลือดเสร็จก็ให้น้ำเกลือ​ พอให้น้ำเกลือเสร็จก็ฉีดยาแก้แพ้​ ด้วยความที่เราเป็นห่วงจึงถามหมอเพิ่มเติมว่าแล้ว น้องโดนต่อยมาเยอะมากรักษาแค่นี้จะพอหรอ​ หมอตอบกลับมาสั้นๆเลยว่า​ พอดีหมอจะออกเวรแล้ว​ หมอจะส่งต่อให้หมอคนต่อไปมารับดูต่อตอนนั้นเวลา​ หกโมงเกือบเจ็ดโมง​ หมอคนต่อไปเข้าเก้าโมง ด้วยความที่เราไว้ใจว่าถึงมือหมอแล้ว​ พอหมอให้น้ำเกลือเสร็จก็เดินหายไปเลย​ ผมกับแฟนจึงช่วยกันเอาเหล็กในน้องออกให้หมด​ จนประมาณแปดโมง​ พอดี​ ผมกับแฟนพึ่งเอาเหล็กในจากน้องออกหมด​ นับคร่าวๆได้เกือบ​ 40​ อัน​ ซักแปปน้องก็ฉี่และถ่ายเป็นเลือดเป็นเกร็ดๆออกมา​ ด้วยความที่เหมือนน้องลุกไม่ไหวน้องเลยถ่ายอึเป็นก้อนออกมาด้วย​ พอประมาณแปดโมงเกือบแปดโมงครึ่งหมอก็เข้ามาแต่เป็นหมอตรวจอาการตาเข้ามาดูตาน้องก็บอกว่าตาชั้นนอกอักเสบและจะจ่ายยาให้​ พอหมอตรวจตาเสร็จที่นี้ก็ตาหมอคนที่มาเปลี่ยนเวรเข้ามาก็มาบอกแค่ผลเลือดที่ตรวจไป​ บอกว่าผลเลือดปกติดีแต่มีเม็ดเลือดที่สร้างขึ้นมาใหม่และมันทำร้ายเม็ดเลือดอันอื่น​ ผมก็เลยเล่าอาการที่น้องเจอโดนผึ้งต่อยกี่ตัว​ มีเลือดออกไม่แน่ใจว่าจากจิ๋มหรือตูดน้อง​ ก็บอกว่าน้องอาจจะโดนต่อยมาเยอะมาก​ คือผมพึ่งบอกหมอไปว่า​ 40-50​ ตัวหมอบอกว่าอาจจะเยอะมากคือ?  แล้วหมอก็บอกว่าฉีดยาแก้แพ้ให้แล้วน้องดูดีขึ้นไม่มีอันตรายเดี๋ยวขอตรวจชีพจรแล้วก็เอาน้องกลับบ้านได้รอดูอาการ​ 2-3​ วันไม่ดีขึ้นให้พามาดูอาการ​ แล้วคุณหมอก็ตรวจชีพจรบอกว่าปกติดี​ แล้วก็ให้เราอุ้มน้องออกมารอรับยา​ ในใจความจริงสงสัยมากว่าน้องโดนผึ้งต่อยมาเกือบยกรังนะ​ ฉีดยาแก้แพ้เข็มเดียวก้ให้กลับใช่หรอ​ แต่ด้วยความที่เราเชื่อว่าอยู่ในการวินิจฉัยของหมอแล้วเราก็ไว้ใจ​ ตอนออกมานั่งรอชำระเงิน​และรับยานั้น​ ผู้ช่วย หมอก็เดินตามออกมาวัดไข้น้องอีกที​ ลืมบอกไปครับครั้งแรกวัดไข้น้องอยู่​ 106.5 อุณหภูมิหมาปกติอยู่​ 102 เห็นหมอบอกมาแบบนั้น​ ก่อนที่หมอคนที่สองจะเข้ามาได้มีผู้ช่วยมาวัดไข้ให้อีกรอบแล้วหมอบอกว่าไข้ลดลงมาเหลือ​ 102​ อุณหภูมิปกติแล้ว​ แต่ตอนที่นั่งรอแล้วหมอมาตรวจไข้อีกรอบเนื่องด้วยลืมหรืออะไรไม่แน่ใจ​ ผู้ช่วยบอกว่าไข้น้องขึ้นมาอีกแล้ว​ แต่ทางหมอก็ไม่พูดอะไร​ ไม่บอกว่าต้องรอดูอาการหรืออะไรบอกเดี๋ยวไข้จะลดลงไปเอง​ พอรับยาเสร็จพาน้องขึ้นรถ​ น้องก็เอาแต่จะนอนอย่างเดียวซึ่งในขณะนั้นคิดในใจว่าน้องจะเป็นไรหรือเปล่า​ แต่ในเมื่อหมอบอกว่าไม้เป็นไรจึงขับรถกลับบ้านปกติ​ บ้านผมอยู่ที่สันกำแพงครับไกลจาก​ ร.พ.นั้นมาก​ พอมาถึงบ้านน้องตัวอ่อนไม่มีแรงผมรีบเดินไปหยิบกระเป๋าเงิน​ แฟนผมตะโกนเข้ามาว่าน้องร้อง​ ผมเลยรีบวิ่งออกมาดูพออุ้มน้องขี้นมา​ น้องตะโกนร้องดังมากสุดเสียงในอ้อมแขนของผม​ เหมือนกับน้องจะบอกลาผมหลังจากบอกลาแฟนของผมไปแล้วพอน้องร้องครั้งสุดท้ายเหมือนใช้แรงเฮือกสุดท้ายเสร็จน้องก็หยุดหายใจไปเลย​ ตัวนิ่มไปเลยผมเลยรีบบอกแฟนผมไปสตาทรถไป​ ร.พ.สัตว์ใกล้บ้านที่ใกล้ที่สุดซึ่งตอนเช้าเค้าไม่เปิด พอไปถึงบอกว่าน้องนิ่งไปแล้ว​ หมอและพยาบาลที่นี่มาช่วยกันหมดเลยทุกคน​ 4-5​ คนมาช่วยน้องหมดหมอบอกว่าเหงือกและลิ้นน้องเริ่มม่วงซีดแล้ว​ จะให้หมอช่วยอยู่ไหม  ผมบอกว่าหมอช่วยลูกของผมด้วย  หมอก็รีบใช้เครื่องช่วยออกซิเจนและฉีดยากระตุ้นหัวใจทันที​ หมอฉีดยาทั้งหมด​ 2​ ครั้ง​ แต่น้องไปไม่กลับแล้ว​ คงเพราะ​ ทรมานมากๆ​ หมอที่​ ร.พ.นี้แม้จะช่วยน้องไม่ได้แต่เค้าดูมีความกระตือรือล้นมาก​ ซึ่งตอนนี้น้องก็จากไปอย่างไม่กลับมาแล้ว​ วินาทีที่หมอให้ผมไปดูเครื่องวัดหัวใจมันนิ่ง​ ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจริงๆ​ มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ผมเลยอยากจะมาเตือนใจเพื่อนๆพี่ๆน้องๆลุงป้าน้าอาคนไหนที่คิดจะพา​ สัตว์ที่ท่านรักไปรักษา​ ที่​ ร.พ.สัตว์เล็กนี้ให้ท่านลองหาคลินิคอื่นหรือ​ ร.พ.อื่นๆดูก่อน​ เค้าอาจไม่ได้รักสัตว์ของท่านเหมือนที่ท่านรัก​ ผมอยากให้เคสของผมเป็นเคสสุดท้าย​ ซึ่งความจริงก็เป็นความผิดของผมเองด้วยส่วนหนึ่งที่เลือกไปรักษาที่​ ร.พ.นี้​ และผิดเองที่ไม่เฉลียวใจสักนิดว่าน้องอาการแย่มากน้องไม่ได้นอนพักแต่น้องนอนทรมานเพื่อข่มใจน้องอาจจะทนจนถึงที่สุดเพื่อมาตายที้บ้านก็ได้​ เพื่อมาอยู่บ้านหลังนี้กับผมและแฟนเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อบอกลา​ ผมอยากจะฝากไปถึงหมอสองคนนั้นที่​ ร.พ.สัตว์เล็กที่รักษาอาการหมาของผมว่า  ถ้าคุณไม่ได้รักในอาชีพนี้จริงๆถ้าคุณไม่ได้รักสัตว์และพร้อมจะทุ่มเทเพื่อรักษาให้เค้าได้มีชีวิตต่อไปกับเจ้าของๆเค้าจริงผมขอให้คุณเปลี่ยนความคิดใหม่สักนิดเถอะ​ เค้าคือคนในครอบครัวของคนๆนั้นหนึ่งชีวิตนั้นอยู่ในมือคุณ​ ถ้าน้องไม่ไหวจริงๆหมอควรจะบอกเจ้าของให้รับรู้​ ถ้าเกินกว่าที่จะแก้ปัญหาได้ให้รีบบอกเจ้าของเค้าจะได้หาที่อื่นรักษาได้อย่างทันท่วงที​ ไม่ใช่มาเล่นกับชีวิตสัตว์แบบนี้​ หมอที่​ ร.พ.ที่ผมพาน้องไปกระตุ้นหัวใจ​ ไปถึงเค้าตรวจให้หมดเลยในลิ้นปากลำคอตา​ ว่าน้องโดนเยอะทั้งๆที่ยังไม่ได้บอกอาการด้วยซ้ำ​ แต่คุณกลับมองแค่ผิวเผินด้วยตาเปล่าแล้วรักษาเหมือนโดนผึ้งต่อย​ 3-4​ ตัว​ ทั้งๆที่น้องโดนมา​ 40-50​ ตัว​ ผมไม่แน่ใจว่าถ้าผมพาไปที่อื่นน้องจะรอดไหม​ แต่ผมมั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าอย่างน้อยถ้าไปที่อื่นวันตายของน้องคงไม่ใช่วันนี้แน่ๆ​ อาจจะเป็นพรุ่งนี้มะรืนนี้แต่อย่างน้อยน้องก็ยังได้อยู่บนโลกนี้นานกว่านี้​ เลยอยากจะมาเตือนทุกคน​ ถ้าไปฉีดวัคซีนก็ยังพอไปได้ครับ​ แต่ถ้าน้องถึงขึ้นป่วยหนักอุบัติเหตุ​ ไปที่อื่นเถอะครับถ้าคุณไม่อยากที่จะเสียครอบครัวของคุณไปเหมือนผม​ รักและคิดถึงหนูเสมอ​ EMMA.

R.I.P.​
EMMA.​
07/05/62​ อายุได้​ 3​ เดือน​ 27วัน​
เกิดวันที่​ 16​ มกราคม​ 2562
ตายเมื่อวันที่​ 07​ พฤษภาคม​ 2562
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่