โจรไม่โจร มีคนมาขอยืมเงินกลับบ้านบน BTS !!!!

สวัสดีค่ะ รบกวนอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วรบกวนช่วยออกความเห็นต่อคำถามสำหรับเรื่องที่เล่าไปหน่อยนะคะ 

ขอเขียนยาวหน่อยนะคะ 

เหตุเกิดเมื่อเย็นวันอาทิตย์ ที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมานี้ค่ะ เวลาประมาณบ่าย3:45 

เรากำลังเดินขึ้นบันไดที่ BTS ราชเทวี (ตรงซ.พญานาค) พร้อมกับคุยโทรศัพท์(เราคุยกับป้าเรื่องซื้อขนมปังดีโอโร่บนbts) พอวางสายก็มีคุณลุงคนนึงกำลังเดินสวนมา (ลุงดูเหนื่อยหอบ เหงื่ออกทั้งหน้า อายุประมาณ60 สูงน่าจะ160) คุณลุงก็ถามเราว่าจากที่นี่ไปโรงพยาบาลศิริราชไกลไหม เราไม่เเน่ใจเลยบอกว่าเดี๋ยวหาในเน็ตให้นะคะ คือเราเต็มใจช่วยมากๆๆๆ เราก็เสิร์ชเจอรถเมล์สาย 177 เราก็บอกเขา เขาก็ขอบใจ บอกว่าลุงทำกระเป๋าตังหาย เดินมานานเเล้ว จะเดินไปรพ. เขาบอกถามตำรวจเขาบอกให้ขึ้นมาบนนี้ ไม่เข้าใจไม่รู้จะไปยังไง เราก็แบบคุณลุงเอาเงินหนูขึ้นรถเมล์มั้ยคะ เราก็หยิบกระเป๋าเงินเเละ เขาก็ห้ามบอกไม่ต้อง ชั้นอายเค้า คุณลุงบอกว่าจะเดินตามรถเมล์ไป พูดกี่รอบเขาก็จะไม่เอาเงินเราเด็ดขาด จะเดินตามรถเมล์อย่างเดียว 

เขาถามมี bts ที่ใกล้รพ.ศิริราชมั้ย เราจำได้ว่าตากสิน เเล้วนั่งเรือ เรสเลยบอกเขาไป เราบอกวันนี้btsเดินทางฟรี คุณลุงก็ยิ้มแล้วก็ขอบคุณนั่นนี่ งั้นเดี๋ยวหนูซื้อน้ำให้นะคะ (เรากะไปซื้อที่ดีโอโร่เพราะจะซื้อขนมปังให้ป้าพอดี) เขาก็ห้ามบอกไม่เอาไม่เป็นไร งั้นเอาขนมปังมั้ยคะ เขาก็ไม่เอา เขาก็พูดขอบคุณ+ชม ละเขาก็เล่าเรื่องตัวเอง เขาบอกลุงชื่อสุรชาต (ไม่เเน่ใจว่า สุรชาต/สุรชาติ) เขาบอกเขาเป็นหมอที่ ม.มหิดล ศาลายา เขาถามเราทำงานที่ไหน เราบอกว่าเราพึ่งขึ้นม.6 มาเรียนพิเศษเฉยๆ กำลังกลับบ้าน เขาก็ถามเรียนที่ไหนแถวไหน เราบอกเรียนที่ xx แถว xx คุยสักพักเขาก็ อะ นั้นเลี้ยงน้ำลุงหน่อยละกัน ก็เดินไปซื้อที่ดีโอโร่ เพราะตอนเเรกยืนคุยที่บันไดหน้าคอนโดไพน์ เราก็เต็มใจเพราะเเค่น้ำเปล่า 

พอเราจะเดินไปส่งลงที่ป้ายรถเมล์ตรงหน้าร้านสเต็กเนิร์ด ก่อนจะลงบันไดคุณลุงก็บอกว่าขอพักเหนื่อยหน่อยนะ เขาก็ยืนมองไปที่ถนน เราก็ยืมเกร็งๆ เพราะตอนนี้ 4โมงแล้ว (เรายังไม่ได้ซื้อขนมปังให้ป้าเลย บวกกับบ้านเราไกลอีก ไม่อยากกลับเย็น) เรานึกได้ว่ามียาดมก็เลยให้ไป คือมันเก่าฝาก็แตก เขาก็ขอบคุณงั้นงี้ ตัวเเค่นี้พกยาดมด้วยบลาๆ เขาก็ถามมีเศษกระดาษไหม เรามีเเต่ชีทที่เรียนเลยหยิบออกมา เขาก็ฉีกไปนิดนึง เราก็หยิบปากกาให้เขานึกว่าจะเขียนว่าจะไปยังไงไรงี้ เเต่ลุงถามเบอร์เราพร้อมจดชื่อไว้ บอกว่าถ้าลุงถึงบ้านเเล้วจะโทรมา จะได้คืนเงินค่าน้ำด้วยไรงี้ ละเขาก็เล่าเรื่องตัวเองอีกว่าเป็นหมอที่ม.มหิดล ศาลายา รู้จักไหม ที่นครปฐม เนี่ยว่าจะกลับบ้านอยู่นั้นไรงี้ (เขาเล่าเกี่ยวกับอาจารย์ใหญ่ เราจำไม่ค่อยได้อะ ประมาณแบบสอนลูกศิษย์ผ่ามั้ง ลืม555) เราก็งงตอนเเรกไหนบอกจะไปศิริราช ไม่ไปแล้วหรอ เขาบอกเคลียร์งานเสร็จหมดเเล้วว่าจะกลับบ้านเลย เขาบอกสัญญากับลุง2ข้อนะ เขาก็นึกๆบอกข้อเเรกไม่ว่าลุงจะส่งเงินกลับมาเท่าไหร่ ห้ามปฏิเสธ ข้อสองให้พาลุงไปส่งขึ้นรถ เราก็พยักหน้า เขาบอกพยักหน้านี่เข้าใจหรอ เราก็ยิ้มแห้งๆ เขาบอกเนี่ย ส่งลุงขึ้นรถ taxi หน่อย 

เราก็เดินลงบันได เขาก็บอกน้ำเปล่าไม่เย็นเลย เหนื่อย กินเเล้วไม่สดชื่น เเล้วตรงป้ายรถเมล์มีร้านน้ำ ก็เลยพาคุณลุงไปซื้อ คุณลุงสั่งชาเขียวละก็ให้เราดูดก่อน (เราไม่กินหวาน แงง555) ละลุงก็พูดว่า เดี๋ยวกลับไป ลุงจะให้เราหมื่นนึง เป็นการตอบเเทน เรารีบปฏิเสธไม่เขาก็แบบอย่าปฏิเสธ (ในใจเราคือจะให้ทำไมเยอะแยะ เหมือนในหนังหรอ เเล้วก็คิดว่าที่บอกว่ากลับไปจะโอนมาให้นี่มีบัญชีฉันหรอวะ) ตอนนั้นคือเฉยๆไม่ได้อะไรกะอีเงินหมื่น เเค่เลี้ยงน้ำเปล่า ชาเขียว พาคุณลุงส่งขึ้นรถก็สบายใจละ 

***** แต่อยู่ๆคุณลุงก็ชะงัก "ทำไงดีไม่มีเงินจ่ายค่ารถtaxi" เราก็บอกว่าไปเก็บเงินปลายทางได้ค่ะ "ไม่มีใครอยู่ที่หอน่ะสิ" คุณลุงก็บอกtaxiรอเเล้วก็ไปเอาเงินบนห้องได้มั้ยคะ "มันต้องทำเรื่องเบิกกุญแจใหม่น่ะสิ" เราเริ่มหน้าแหยเเล้วอะ "ลุงขอยืมเงินขึ้นtaxiก่อนได้ไหม" เท่าไหร่คะ "เเล้วเรามีเท่าไหร่ล่ะ" อห หน้าเราเเหยสุดๆเลยค่ะ ความคิดแรกที่ผุดคือทำไมถามแบบนี้ รูปคำถามมันแปลกๆ อีกใจก็คิดว่าคุณลุงคงไม่อยากรบกวนเรา (คือในความคิดคือทำไมไม่นั่งรถเมล์ไปศิริราช คนรู้จักต้องมีเเน่ๆ ถ้าลุงยืมเงินเขาต้องมั่นใจว่าได้จากลุงคืน) เราเปิดกระเป็าตังมีเเค่ 140 ให้คุณลุงดูพร้อมยิ้มแห้ง แล้วคุณลุงก็ "มี atm มั้ย กดได้มั้ย" เราก็ยืนตัวแข็งละ คือในบัญชีมีหมื่นกว่าบาท ถ้าบอกไปลุงจะเอาหมดมั้ยวะ "มีเเค่ไม่กี่ร้อยค่ะ" "ลุงเอา250บาทพอ ขึ้นทางด่วนรถไม่น่าติด" คือใจเราก็ยังเห็นใจคุณลุงอยู่ที่กระเป๋าตังหาย แต่เราก็ไม่ได้ถามถึงโทรศัพท์นะว่าหายด้วยมั้ย คือหน้าเราเเหยจนลุงเเซวว่า แหม ขี้งกไปได้ เดี๋ยวชั้นคือให้แกน่า เรายิ้มแห้งสุด เราถามเเล้วจะคืนยังไงคะ เขาก็งงๆ บอกเออมีบัญชีไหม ของอะไร เราบอกมีของกสิกร เขาบอกได้เดี๋ยวโอนคืน ใจเราหวังเเค่เงินที่เขายืมเพราะเราก็เเค่วัยเรียน อยากได้เงินตัวเองคืนเท่านั้น เเต่ทำไมลุงไม่ถามเลขบัญชี หรือรอโทรมาถามหลังจากถึงบ้าน?

เราเดินขึ้นไปบน bts อีกรอบเพื่อกดเงิน "ลุงขอเพิ่มอีก50บาทละกัน เผื่อไว้ก่อน" เรากดมา300 ให้ลุง ตอนกดคือกลัวลุงเห็นเงินในบัญชี ตอนกดแล้วก็ระวังหลังตลอดเราไม่รู้ว่าเหมือนลงมองดูไหมฉันไปดูก็หันไปพอดี ตอนนั้นรู้สึกอยากไปจากตรงนี้เเล้ว เริ่มรส.แปลกๆอยากรีบกลับบ้าน แต่เราลืมไม่ได้ซื้อขนมปังให้ป้าเลย เลยบอกลุงว่าเดี๋ยวหนูไปซื้อขนมปังก่อนนะคะ เราก็เดินไปที่ดิโอโร่ เขาก็เดินตามมามีถามว่าเงินพอไหม ซื้อเสร็จจะไปส่งลุงขึ้น taxi ลุงบอกเดี๋ยวลุงไปขึ้นที่สนามกีฬาแล้วกันน่าจะใกล้กว่า เราบอกวันนี้ bts เดืนทางฟรีหนิ เราก็งงเเต่ก็พยักหน้า คือสติไปหมดละ เบลอมาก เราก็ชี้ป้ายบอก"คุณลุงนั่งไปสยามนะคะสถานีเดียวเเล้วก็เปลี่ยนขบวนไปสนามกีฬา คุณลุงขึ้นบันไดนี้นะคะ" เขาถามเเล้วเราล่ะ เราจะไปอนุ เลยขึ้นอีกฝั่ง เขาก็หยักหน้ารัวๆ ไปๆๆๆ (อารมณ์แบบไล่ รีบๆไปเถอะ ไม่รู้เราคิดเองไหม คือฟังที่เดียวเเล้วเข้าใจเลยหรอ ไอไปสยามเเล้วเปลี่ยนขบวนไรนั่นอะ) ก่อนเราจะไปก็บอกอย่าลืมโทรมานะคะ เขาบอกประมาณ6โมงครึ่งเเหละไม่เกินหรอก เราจะได้ไม่ต้องห่วงว่าเขาถึงบ้านไหม ละเขาก็เดินขึ้นบันไดไป เราก็รีบขึ้นบันได btsมาพอดีรีบขึ้นขบวนนั้นเลย 

เราต่อรถตู้กลับบ้าน เราคิดมากตลอดทาง เพราะเรามีหลายสิ่งที่คาใจเยอะมาก จนคืนนั้น2ทุ่มลุงก็ยังไม่โทรมา เรานอนไม่หลับ เช้าก็ตื่นตีห้า เรายังคิดมากอยู่ เริ่มแอบคิดแล้วว่าโดนหลอกไหม เราพลาดเอง ไม่รอบคอบพอนี่ยอมรับมากๆเลย

เรื่องที่คาใจ 
1.เราไม่ได้ถามว่าคุณลุงเดินมาจากจุดไหน ตำรวจที่คุณลุงพูดคือฝั่งไหน เราไม่เห็นตำรวจ

2.กระเป๋าเงินหายที่ไหนรู้ตัวตอนไหน ทำไมไม่แจ้งตำรวจว่ากระเป๋าเงินหาย เราเชื่อว่ายังไงตำรวจต้องช่วยแน่ๆ

3.คุณลุงชื่อสุรชาต? สุรชาติ? เราไม่ได้ถามนามสกุล เรากลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาท เเต่เเล้วก็รู้สึกพลาด ทำไมไม่ถาม เราเอาชื่อสุรชาต สุรชาติ มาเสิร์ชหาชื่อหมอในม.มหิดล ศาลายา ไม่เจอคุณลุง 

4.คุณลุงมือถือก็หายหรอ นี่ไม่กล้าถาม เบอร์ก็ไม่ได้ถาม กลัวขี้ยิ้มไป ถ้าไม่หายคงติดต่อคนรู้จักละเนอะ 

5.ทำไมถึงต้องนั่ง taxi ไปนครปฐม ไปศิริราชไม่ดีกว่าหรอ ถ้าเป็นหมอจริงๆ ไปดูงานที่ศิริราช ต้องมีหมอหรือลูกศิษย์บ้างแหละ

6.คุณลุงตั้งใจจะหลอกเราไหม ตอนนี้ความรู้สึกคือโดนหลอกละ เเต่คือเราก็แอบคิดว่าหรือคุณลุงทำกระดาษที่จดเบอร์เราหายเลยติดต่อเราไม่ได้ 

7.เราไม่น่าสติเเตกอยากกลับบ้านเลย น่าจะตามลุงไปส่ง จะได้รู้ว่าขึ้นtaxiจริงไหม บอกtaxiไปไหน เเต่คือลุงไล่เราอะนึกออกไหม55

ป.ล.ลึกๆยังแอบคิดว่าลุงทำกระดาษหาย เราคิดว่าการเจอใครเป็นโชคชะตา เราเรียนเสร็จ3โมงครึ่งเราไปแวะเข้าห้องน้ำ ออกมาจังหวะนี้ เราอาจจะเข้าเร็วกว่านี้หรือช้ากว่านี้ก็ได้ แต่เราได้มาเจอลุงให้ได้ช่วยเขาหรือให้เขาหลอกกันแน่ เราชอบช่วยคนแก่อยู่เเล้ว เเต่ไม่เคยช่วยในรูปแบบให้ยืมเงิน

ทั้งที้ทั้งนั้น เป็นความผิดพลาดของเราเองค่ะ ถ้าโดนหลอกจริงๆ เสียเงินไปไม่เฟลเท่าเสียความรู้สึกค่ะ เต็มใจเเละตั้งใจช่วยจริงๆแบบไม่คิดอะไรเลย เเต่ในทางกลับกันถ้าลุงทำกระเป๋าเงินหายจริงๆ ถ้าลุงเจอคนอื่นไม่รู้ว่าจะโดนปฏิเสธไหม เราดีใจมากๆที่ได้ช่วยลุง ขอให้คุณลุงถึงบ้านปลอดภัยค่ะ

ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 35
จขกท คะ เราเจอคนเดียวกันแน่เลย ขอเล่าส่วนของเรายาวหน่อยนะคะ

     เมื่ออาทิตย์ก่อนแถวสามย่านเรากำลังเดินกลับหอคนเดียว ลุงคนนี้ท่าทางเหนื่อยๆ มาถามทางไป bts สนามกีฬา แกบอกว่าไปเข้าห้องน้ำแล้วกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์หายจนต้องเดินเท้ามาตลอดทาง พอเราบอกทางไป bts เสร็จ แกเดินมาหาอีกรอบบอกว่าช่วยชี้ทางตรงถนนให้หน่อย ลุงถามยามมายามบอกว่าเดินไปอีกทางใกล้กว่า แกทำท่าหลงถนนอยู่นานจนเราเสนอออกค่าแท็กซี่ไป bts สนามกีฬาให้ แกบอกว่าไม่เอาๆ ขอเป็นน้ำกับยาดมดีกว่า เราก็ไปซื้อให้นะเห็นว่าของเล็กน้อย ถ้าเขาเดือดร้อนจริงก็อยากช่วย

      ตลอดทางที่เดินไปร้านสะดวกซื้อแกชวนเราคุยบอกว่าเป็นอาจารย์แพทย์อยู่มหิดลนะ สอนด้านจิตวิทยา (เราเริ่มเอะใจว่า จิตเวชรึเปล่า? แต่ไม่เป็นไรคนเราพูดผิดได้) เราเริ่มหลอกถามเรื่องเรียนแพทย์ไป (เพราะลุงดูไม่เหมือนอาจารย์เลย วิธีพูดแทนตัวเองว่า ชั้น คือแปลกมากสำหรับอาจารย์ผู้ชาย แต่เรายังไม่อยากรีบตัดสินคนอื่นไง) แกตอบเราปัดๆทุกอย่าง บอกแค่จบมานานแล้วชั้นแก่จนเป็นอาจารย์ของอาจารย์หนูแล้วเนี่ย ทำท่าไม่ให้เราถามเซ้าซี้ นี่เขาเป็นผู้ใหญ่กว่านะ

       พอซื้อของให้เสร็จเราจะกลับหอแล้วแกเดินตัวติดเราเลย บอกว่าเดี๋ยวกลับไปทำธุระที่มหิดลไม่ทันขอค่าแท็กซี่ไปมหิดลเลยนะเดี๋ยวส่งคืนให้ พร้อมขอเรา 2 อย่างเหมือนที่ จขกท เจอเลย เรายังไม่ยอมให้ตังแกนะ บอกแกเรียกแท็กซี่ถามค่าเดินทางก่อน ไม่ก็เรียกพี่วินไปลง BTS สนามกีฬาแล้วค่อยไปลงมหิดลเราจะได้รู้ค่าเดินทางแน่นอนกว่า เสนอไปแกไม่เอาสักอย่างอ้างเรื่อยๆ  ตอนนั้นเราจะเรียก grab กะบอกคนขับว่าถ้าลุงขอลงที่อื่นที่ไม่ใช่มหิดลไม่ต้องให้ลงนะแต่มือถือเราก็ดันแบตหมด…พอเห็นเราทำหน้าไม่ค่อยพอใจ (เพราะในใจคิดว่ามิจฉาชีพแน่ๆละ) แกหันไปไหว้ศาลพระภูมิเลยจ้า บอกว่าถ้าคิดอะไรไม่ดีกับชั้นขอให้ต้องมาขอโทษด้วย ชั้นคืนให้อยู่แล้วไม่เกินหกโมงเนี่ยแหละ เราเลยให้ตังแกไปแบบคิดว่าคงไม่ได้คืนแน่ๆละ ถ้าลุงมีเจตนาโกงจริงสักวันกรรมคงตามสนองแกเอง พอได้ตังไปแกบอกขอเพิ่มได้ไหมกลัวไม่พอ(น่าจะแอบเห็นตังในกระเป๋าเรา เราพึ่งกดเงินมาพอดี) ขอ 1,000 เลยนะ เลยบอกไปตรงๆว่า ไม่ค่ะ ให้ไม่ได้จริงๆ แกหงุดหงิดละบอกว่า ก็เนี่ยพูดไปยังงั้นแหละถ้าเป็นเพื่อนกันคงขอได้อยู่แล้ว มีบ่นว่าเราขี้งกด้วย 5555 แกก็ไล่เราบอกว่ากลับหอเลยแกจะเรียกแท็กซี่เอง เราก็ไม่ยอมนะเพราะจริงๆหอเราอยู่เกือบติดร้านสะดวกซื้อเลย แต่ไม่กล้าเข้าไปเพราะกลัวลุงรู้ที่อยู่ เลยบอกว่า จะช่วยเรียกแท็กซี่ด้านหน้านี่แหละค่ะ เดี๋ยวลุงหลงทางอีก จริงๆคืออยากเห็นว่าขึ้นแท็กซี่จริงไหม ไปยืนรอแท็กซี่อยู่นานไม่มีมาเลยสักคัน ถึงกับต้องเดินข้ามไปหาแท็กซี่อีกฝั่งแต่เย็นวันนั้นรถติดสุดๆแถมแท็กซี่ไม่ว่างเลย ดวงจะเสียตังแท้ๆ ลุงก็บ่นเราไม่เชื่อใจลุงงั้นงี้ กลับหอไปก่อนเดี๋ยวลุงเรียกเอง รอบนี้เราถอดใจเดินกลับแล้วเดี๋ยวเย็นเกินท้องฟ้าจะมืด

       สุดท้ายเราก็ไม่ได้เงินคืนนะ อาการวันนั้นเป็นแบบเดียวกับ จขกท เลย เข้าใจมากๆ เพราะพึ่งเคยเจอมิจฉาชีพกับตัวครั้งแรก เพื่อนถึงกับบ่นว่าแกดูดีๆด้วยโว้ยก่อนจะสงสารใคร =_= ถือว่าได้บทเรียนค่ะ หลายวันก่อนเราไปขอเปิดกล้องวงจรปิดที่ร้านสะดวกซื้อมา ได้ภาพลุงด้วย ชัดระดับนึงเลยแหละ อยากให้ จขกท ดูมากเลยว่าใช่คนเดียวกันมั้ย แต่จากวิธีการลุงเราคิดว่าใช่ 100% แน่ๆ นี่กะจะปริ้นป้ายเตือนคนในหอแล้วค่ะเด็กมหาลัยเยอะ อ่านคอมเมนต์แล้วลุงแกมาแถว ม. เราบ่อยนะเนี่ย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เค้าไม่เต็มเต็ง

อิหนู วันหน้าวันหลังมีผู้ชายแปลกหน้ามาต่อความยาวสาวความยืด  พาเดินไปคุยต่อหน้าพี่เจ้าหน้าที่ที่บีทีเอสเลยจ้า
หรือลากคนแถวนั้นแหละ มาช่วยด้วย
อย่าคิดเองเออเอง เป็นพลเมืองดีเองอยู่คนเดียว โลกสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
ไม่ได้สอนให้มองโลกในแง่ร้าย
แต่คนบนโลกนี้ไม่ได้มีแต่คนที่ตรรกะปกติหรือคนจิตใจปกติ

ลุงรู้ว่าเดินตามรถเมล์กลับไปศาลายาแล้วจะกลับบ้านได้ ก็ปล่อยลุงไปเถอะ
คนดีๆมีน้ำใจไม่ได้มีแค่เราแค่คนเดียว ถ้าเค้าลำบากจริงๆ สมัยนี้ถ่ายคลิปลงเฟซบุ๊คปั๊บ มีคนมีน้ำใจแวะรับไปส่งให้ถึงที่เลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่