Trivia & Easter Eggs จาก Avengers: Endgame เท่าที่หามาได้... [สปอยล์แน่นอน!]

สวัสดีครับชาวพันทิปทุกท่าน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เรารู้อยู่แล้วว่า ใน Endgame นั้น เป็นการใส่บทสรุปหลาย ๆ อย่างของจักรวาล MCU ไว้ด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่แค่หนังเรื่องเดียว แต่รวมไปถึงทุก ๆ เรื่องที่ผ่านมาใน MCU ทั้ง 22 เรื่อง ดังนั้นเราจะเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ในหนังจำนวนมากเลยทีเดียว

กระทู้นี้เลยจะขอรวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ ที่ซ่อนในหนัง ทั้งที่ผมเจอเอง ทั้งใน thread https://www.reddit.com/r/marvelstudios/comments/bhquvi/the_official_avengers_endgame_easter_egg/
รวมไปถึงส่วนเล็ก ๆ น้อยจาก IMDb ละกัน

- "สี่เกลอเจาะเวลา" (Hot Tub Time Machine) หนังปี 2010 ที่ถูกพูดถึงในหนังโดยโรห์ดี้ (Don Cheadle) มี Sebastian Stan ร่วมแสดงด้วย

- ในบรรดาหนังรวมทีมอเวนเจอร์ส มีแค่ภาคก่อน (Infinity War) ที่ไม่ได้ฉายตรงกับปีของหนัง เควนติน ทารานติโน่
2012 - The Avengers ตรงกับ Django Unchained
2015 - Age of Ultron ตรงกับ The Hateful Eight
2018 - Endgame ตรงกับ Once Upon a Time In Hollywood

- มี 8 จาก 19+2 นักแสดงทั้งหมดใน MCU ที่เคยชนะรางวัลออสการ์ (+2 คือที่ลือกันว่าจะมาแสดงในอนาคตอย่าง Angelina Jolie และ Rachel Weisz) ปรากฏในหนังเรื่องนี้ (Brie Larson (Carol Danvers), Michael Douglas (Hank Pym), William Hurt (Secretary Ross), Gwyneth Paltrow (Pepper Potts), Natalie Portman (Jane Foster), Robert Redford (Alexander Pierce), Tilda Swinton (The Ancient One) และ Marisa Tomei (Aunt May))

- Time Heist นั้น สื่อถึงซีรีส์ที่ Karen Gillan เคยแสดงอย่าง Doctor Who ที่เคยมีตอนชื่อเดียวกันนี้ในซีซั่น 8 ตอนที่ 5 แต่ว่าในตอนนั้นเธอไม่ได้แสดงแล้ว

- ฉากมิดเครดิตของกัปตัน มาร์เวล ที่เธอนั้นถามถึง นิก ฟิวรี่ ตอนแรกนั้นคาดว่าน่าจะถูกถ่ายทำเพื่อมาใช้ใน Endgame ก่อนที่จะถูกตัดไปในขั้นตอนสุดท้ายของการถ่ายทำและกลายไปเป็นมิดเครดิต (อาจเป็นเหตุเดียวกันกับที่ แคทเธอรีน แลงเธอร์ฟอร์ด ไม่ได้อยู่ในหนังเมื่อฉายจริง)

- Alan Silvestri เป็น Composer ให้กับ Back to the Future ทั้งไตรภาค และคนดูมาแล้วคงเก็ทว่า ทำไมถึงเป็น fact
// เขาไม่ได้เป็น Composer ให้หนัง Avenger แค่ภาคเดียวคือ Age of Ultron

- ถ้าเอาจำนวนวันที่โทนี่และเนบูล่า ติดอยู่ในอวกาศ (22 วัน) มาดูหนัง MCU ทีละเรื่องจนถึง Cap Marvel (หรือ 21 วันเพราะโทนี่สับสน และตัด Cap Marvel ที่กำลังจะออกโรงไปก็ได้) จะสามารถดูได้วันละเรื่องจนครบ

- (อันนี้ผมเจอเอง) เผ่า Saurian ที่แครอลพูดถึง (ตอนที่เธอจะไปฆ่าธานอสและจะแวะเอายามาให้) เป็นหนึ่งในเผ่าเอเลียนที่คล้ายสัตว์เลื้อยคลาน โดยมีที่มาจากคอมิคที่อาศัยในรัฐนิวเมกซิโก แต่ในคอมิคนั้นจะเป็นแครอลเวอร์ชั่น Ms Marvel ที่ปรากฏอยู่กับเผ่านี้และมีความเกี่ยวข้องกัน

- (อันนี้ผมเจอเอง) ในฉากปรับทุกข์นั้น Joe Russo จะพูดถึงทีมนิวยอร์กเมตซ์ ซึ่งทีมนี้มีปรากฏในเรื่อง MIB3 ที่มี จอช โบรลิน (K -- Thanos) แสดงด้วย และ MIB3 ก็มีเรื่องของการย้อนเวลาเช่นกัน -- ซึ่งในภาคแรกนั้น จะมีฉากที่โฮมรันไปแล้วเจอจานบิน ซึ่งนั่นก็เป็นฉากที่อิงถึงทีมเมตช์เช่นเดียวกัน

- และในบทสนทนานั้น หนึ่งในคนที่อยู่ในบทสนทนาคือ Jim Starlin ซึ่งเป็นคนที่สร้างธานอส ในคอมิค (คนที่ถามโจว่า แล้วคุณทำยังไง นั่นหละ)

- ฉากที่ตัดมาที่รถตู้ของ สกอตต์ แลง ก่อนที่หนูจะช่วยกู้โลกและมี Ken Jeong ในหนัง ตัวเลขของกรงที่เก็บรถตู้คือ "616" สื่อถึงเลขจักรวาลหลักของมาร์เวลทั้งหมด (Earth-616) และเหตุที่ใช้หนู เป็นเพราะโควท “I only hope that we never lose sight of one thing - that it was all started by a mouse.” ซึ่งมีที่มาจากโควทประจำของดิสนีย์
(https://twitter.com/disney/status/534843499242590208) และในฉากที่ตัดภาพไปหา Ken Jeong นั้น เขากำลังอ่านหนังสือ "Terminal Beach" ที่เขียนโดย J G Ballard วางขายในปี 1964 ซึ่งในเวอร์ชั่นสหรัฐฯ หนังสือเล่มนี้จะมีตอนที่ใช้ชื่อว่า "End-Game"

- (อันนี้ก็เจอเองเพราะสงสัยเอง) ชุดของแครอลหลังผ่านไป 5 ปีนั้น เป็นหนึ่งในชุดที่มีการออกแบบสำหรับหนังเดี่ยวของเธอมา โดยจะเห็นว่าดีไซน์นั้นเป็นแบบเดียวกับที่อยู่ในหนัง แต่สีสลับกัน (ในหนังช่วงแรก สีแดงจะมากกว่าน้ำเงิน) แต่ดีไซน์นั้นเปลี่ยนมาเป็นสีแบบที่เราเห็นกันในหนังเดี่ยวในตอนสุดท้าย
ส่วนที่เอามาใช้ใน 5 ปีหลังจากนั้นคือแบบสลับสีในภาพ (แต่เท่าที่จำได้ไม่มีผ้าคาดเอวหรืออาจมีแต่สั้นกว่าในภาพ) เป็นการออกแบบโดย Kris Anna
http://www.tencentticker.com/projectrooftop/2018/09/06/movie-makeover-captain-marvel/
ซึ่งขั้นตอนนี้ มีออกมาตั้งแต่ช่วงปี 2015 (โดยถ้าผมจำไม่ผิด ตั้งแต่ก่อนประกาศว่าใครจะได้บท) 
https://twitter.com/captmarvelnews/status/660937630251655168
พูดง่าย ๆ คือเป็นชุดที่มาจากดีไซน์ที่ออกแบบไว้นานแล้ว
ซึ่งรายละเอียดของชุดนั้น การจัดสีจะคล้ายกับชุด Original ในปี 1977 ตรงที่วางสีน้ำเงินพาดอก และรวมไปถึงชุดออริจินัลของ วอลเตอร์ ลอว์สัน ในคอมิคด้วย

- ชุดของรอคเก้ตหลังผ่านไป 5 ปี มี ref มาจากชุดในเกม Marvel vs. Capcom รวมไปถึงทีมคอมิคในปี 2008 ที่ปรากฏครั้งแรกใน Annihilation: Conquest" #6

- ในฉากที่คุยกันเรื่องมณีพลัง ฮัลค์นั้นได้ทานไอติมรสของตัวเอง คือรส "Hulka Hulka Burnin’ Fudge" ซึ่งเคยถูกพูดถึงใน IW มาแล้ว เพราะเป็นรสโปรดของหว่อง (มีซีนนึงที่ธอร์นั่งแคะไอติมอยู่เหมือนกันแต่เห็นไม่ชัดว่ารสอะไร)
และในฉากนั้น จะเห็นว่าทุกคนทานบะหมี่กล่อง (Noodle Box) ซึ่งถ้ายึดตามกูเกิ้ล จะเห็นว่ามีอยู่สามร้านทั่วนิวยอร์ก (กองฯ อเวนเจอร์อยู่ในนิวยอร์ก)

- Ratchet ที่โทนี่เรียกแทน Rocket สื่อถึงเกม Ratchet and Clank ซึ่งเป็นเกมที่มีตัวคล้าย ๆ รอคเก้ต ที่โทนี่จะเอามาเรียกคือ Ratchet ตัวละครเอกที่เป็นตัวคล้าย ๆ แรคคูนหูแหลมสีเหลือง
และที่น่าจะเป็น Easter Eggs ต่อได้อีกคือ เกมนี้พัฒนาโดย Insomniac Games ซึ่งเป็นค่ายเดียวกันกับที่พัฒนาเกม Spider-Man ใน PS4 ล่าสุด ซึ่งภาคนี้มีชุดจาก MCU ไปด้วย

- ศึกที่ฮาโรคินที่ธอร์พูดกับฟริกก้าเพื่อจะโกหกเรื่องตา เป็นศึกที่ซิฟกับธอร์เคยไปรบด้วยกันและธอร์บอกว่าซิฟฉลองหนักจนแทบเปิดศึกหนสอง -- พูดถึงใน The Dark World // ว่าแต่นางหายไปเลย

- Matthew Berry ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันฟุตบอลใน ESPN คือหนึ่งใน cameos ที่ปรากฏในหนัง โดยเป็นเอเจนท์ที่เดินมาพร้อมกับ อเลกซานเดอร์ เพียร์ซ และพยายามแย่งกระเป๋าเก็บลูกบาคก์ ที่น่าตลกคือ มีคนสปอยล์หนังโดยทวีตว่าแกอยู่ในหนังนี่หละ

- "เด็กใหม่เหรอ?"
Yvette Nicole Brown ที่แสดงเป็นอาเจ๊ในลิฟท์และที่ไปฟ้องเจ้าหน้าที่ เคยร่วมงานกับพี่น้องรัสโซ่มาแล้วในซีรีส์ Community (2009-2015) ซึ่งสองพี่น้องนี้เคยกำกับ โดยเป็นนักแสดงเช่นเดียวกับ Ken Jeong และ Brie Larson
ก่อนหน้านี้เธอทำงานเกี่ยวกับคอมิคฮีโร่มาแล้ว แต่เป็นการพากย์เสียงในแอนิเมชั่นของ DC

- Edith ซึ่งเป็นชื่อที่เรดสกัลพูดถึงนั้น ตามคอมิคจะเป็นชื่อแม่แท้ ๆ ของคลินท์ (ชื่อพ่อนั้นจะเป็นฮาโรลด์) และชื่อ Edith นั้น จะเป็นชื่อที่หมายถึงชื่อผู้หญิงอย่างเดียว โดยเป็นศัพท์อังกฤษโบราณที่แปลว่า "ให้มีชัยในสงคราม" หรือ มั่งคั่ง, อวยพร+สงคราม
ตามคอมิคนั้น พ่อของคลินท์เป็นคนที่ดุร้าย และมักจะรังแกเขาเสมอ ทำให้เขามีปูมหลังที่แย่กับพ่อ ทำให้คนที่เลี้ยงเขามาจริง ๆ จะเป็นแม่ และอาจเป็นเหตุที่ทำไมเรดสกัลต้องใช้ชื่อแม่ และแปลว่าโดนสาปโดยที่ไม่ได้รู้แค่ชื่อของพ่อแม่ แต่รู้ทุกเรื่องตามที่โม้ไว้ตั้งแต่ภาคก่อน และเป็นไปได้ว่าปูมหลังของคลินท์ในหนังนั้นจะยึดตามคอมิค

- ในฉากที่เนบูล่า (2014) พยายามดึง Sanctuary II ข้ามมิติควอนตัมมาปี 2023 จะมีเฮลิคอปเตอร์ปรากฏอยู่ข้างหลังด้วย (เป็นรุ่นเดียวกันกับที่ นิค ฟิวรี่ ใช้ในภาคก่อน ๆ) ซึ่งสื่อถึงมุก "Thanoscopter" รวมไปถึงอาวุธของธานอส ที่มีลักษณะคล้ายใบพัดของ ฮ. ด้วย ก่อนที่ จิม สตาร์ลิน จะออกมาให้คำตอบว่า อาวุธของธานอสออกแบบจากใบพัด ฮ. ที่มาจากมุก Thanoscopter จริง ๆ

- นอกจาก Howard Stark และ Howard Potts (ชื่อปลอมโทนี่) แล้ว มีอีก Howard นึงคือ Howard the Duck ที่ปรากฏในหนัง โดยเป็นฉากที่วาร์ปผ่าน Portal มาจาก Contraxia (ดาวหิมะใน GotG Vol.2) ซึ่งเป็นดาวสุดท้ายที่ฮาเวิร์ดปรากฏตัวใน MCU ก่อนที่จะมาโผล่ในหนังเรื่องนี้อีกที

- Asgardians of the Galaxy อาจสื่อถึงคอมิคก็จริง แต่ตัวของคอมิคที่เป็น ref นั้นออกมาไม่นานมาก คือเมื่อกันยายนปีก่อนนี่เอง (Asgardians of the Galaxy #1) โดยทีมในหนังตอนนี้ ไม่มีตัวละครใดตรงกันกับในคอมิค

- ประโยคที่กรู้ทได้มีโอกาสพูดแค่หนเดียวในหนังนั้นหมายถึง "measuring contest" ซึ่งแปลว่าการประลองที่ตัดสินกันด้วย "ชีวิต" ว่าใครจะได้คุมยาน เลยทำให้สองคนนี้ไม่กล้าที่จะสู้กัน (เพราะธอร์อ้วนก็อึดจัดจนไม่น่าสู้ใครไหว ส่วนควิลล์ขนาดทหารธรรมดายังทำเขาล้มคว่ำได้)

- "Don't do anything stupid 'til I get back"
"How could I? You're taking all the stupid with you."
ฉากในท้ายเรื่องที่กัปตันพูด ref จากฉากใน The First Avenger ที่ตอนนั้นบัคกี้เป็นคนพูดกับสตีฟ (ตอนสตีฟคิดจะเกณฑ์ทหารที่สตาร์คเอกซ์โป) แต่ในเรื่องนี้จะกลับกัน
(แต่ในเสียงไทยนั้น สองเรื่องนี้พากย์ประโยคเดียวกันมาไม่เหมือนกัน
https://nataliaalianov.tumblr.com/post/184479438973/this-is-the-exact-same-words-steve-and-bucky)
และอีกประโยคจากหนังภาคก่อนคือ "I know you did the best you could" ที่โทนี่พูดกับฮาเวิร์ดก่อนข้ามมิติควอนตัมกลับ เป็นประโยคที่ตัว BARF ของเขาใน Civil War พูดกับโฮโลแกรมของฮาเวิร์ดเหมือนกัน แม้จะเปลี่ยน you เป็น ยิ้ม ก็ตาม

- รูปแบบของ End Credits ที่มีลายเซ็นของนักแสดง มี ref มาจาก Star Trek VI: The Undiscovered Country ซึ่ง Star Trek ก็ถูกพูดถึงในหนังเช่นกัน แต่ภาคที่มีการย้อนเวลาจะเป็นภาคสี่อย่าง The Voyage Home ทว่า เควิน ไฟกี้ เคยบอกไว้ว่า ที่ inspired ตัวของเขานั้นจะเป็นซีรีส์ Star Trek: The Next Generation ตอน All Good Things...
ซึ่งจริง ๆ จะอ้างอิงถึง Star Trek ภาค 2009 ก็ได้ ที่มีการย้อนเวลามาทางหลุมดำแล้วต้องมีการแก้ไขสิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยที่เคิร์กต้องทำทุกอย่างให้ตรงตามเงื่อนไข
(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่