ผมขอแชร์ วิธีการใช้บัตรเครดิตของผมก่อนเลยนะครับ
ผมแบ่งการใช้จ่ายบัตรเครดิต เป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ
1. หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ - หนี้ก้อนนี้คือหนี้ที่เกิดจากการรูดซื้อสินค้าหรือบริการ แล้วก่อให้เกิดรายได้ เช่น การรูดซื้อสินค้า เพื่อนำไปขายต่อ เป็นต้น การรูดในส่วนนี้ จะเน้นใช้บัตรที่มี cash back เป็นหลัก เพราะเป็นหนี้ที่มีการหมุนเร็ว เมื่อมี cash back มาช่วย จะทำให้เราได้ต้นทุนสินค้าที่ถูกลง
2. หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ - หนี้ก้อนนี้คือ หนี้ที่เกิดจากความอยาก เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ของใช้ต่าง ๆ ที่ใช้แล้วไม่ได้เงินเข้ามา ในส่วนนี้ จะเน้นไปที่บัตร ที่สามารถผ่อน 0 % ได้ยาว ๆ เพื่อให้เกิดภาระต่อเดือนที่น้อยที่สุด
3. หนี้ที่หลีกหนีไม่ได้ - หนี้ก้อนนี้คือ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ซึ่งไม่สามารถหลีกหนีได้ ก็จะใช้บัตรที่ได้ประโยชน์จากการชำระในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นแต้ม หรือ เงินคืนก็ตาม
จะเห็นได้ว่า หนี้ที่ผมก่อกับบัตรเครดิต ไม่มีส่วนไหนเลยที่เกิดจากการกดเงินสด เพราะการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิต ถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมหันต์เลยทีเดียว เพราะดอกเบี้ยนั้นโหดแสนโหด หลายท่านที่เกิดปัญหาหนี้บัตรเครดิต ก็จะมาจากการกดเงินสดนี้ซะส่วนมาก สำหรับผมจึงถือเป็นข้อห้ามของการใช้บัตรเครดิต ข้อแรก เลยทีเดียว
ข้อสำคัญต่อมาคือ จ่ายให้ตรง อย่าจ่ายขั้นต่ำ ไม่เช่นนั้น ดอกเบี้ยก็จะตามมา หากมีการจ่ายขั้นต่ำ ทางบัตรจะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่ วันที่รูด ไม่ใช่วันครบกำหนด และอัตราดอกเบี้ยก็แพงมากเลยทีเดียว ดังนั้นนี่คือ กฎของการใช้บัตรเครดิต ข้อที่ 2 ของผม
ทริคของผมในการบริหารหนี้บัตรเครดิต ในส่วนของ ข้อ 2 และ ข้อ 3 คือ เราต้องมีเงินสดสำหรับที่จะซื้อสิ่งของนั้น ๆ เช่น ถ้าผมต้องการทีวีซักเครื่องนึง ผมจะต้องมีเงินสดพอที่จะจ่ายค่าตัวของทีวีเครื่องนั้นก่อน และนำเงินค่าทีวีนั้นฝากเข้าไปไว้ในบัญชี เพื่อนำมาชำระแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน หากยังไม่มีเงิน ผมจะไม่ซื้อเด็ดขาด เพราะนั่นหมายความว่า เรากำลังก่อหนี้ ที่อาจะเป็นภาระในอนาคต
ผมใช้บัตรเครดิตมาหลายปี ได้ประโยชน์กับบัตรเครดิตก็มากมาย บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า บัตรเครดิตพวกนี้จะได้อะไรจากเรา แต่ก็นั่นแหละครับ หลัง ๆ ผมเห็นกระทู้ ปัญหาบัตรเครดิตมากมาย จึงเข้าใจว่า เพราะเหตุใด จึงแย่งกันให้สมัครบัตรเครดิตซะเหลือเกิน
สุดท้ายฝากไว้ให้ท่านผู้ใช้ ที่พึ่งจะเริ่มใช้บัตรนะครับ บัตรเครดิต ถ้าใช้เป็น ก็เกิดประโยชน์ แต่หากใช้ไม่เป็น ก็มีแต่โทษ เท่านั้นครับ
อยากฝากให้ ผู้ที่เริ่มหัดใช้บัตรเครดิต ได้ศึกษารายละเอียดวิธีการใช้บัตรเครดิต ให้มาก ๆ อย่าได้ตกเป็นเหยื่อของดอกเบี้ยบัตรเครดิตเชียวนะครับ มันจะถอนตัวยาก และจะเป็นปัญหาชีวิตในภายภาคหน้าได้
ปล.ผมไม่ใช่กูรูหรือผู้รู้อะไรมากมายครับ เพียงแต่อยากแชร์วิธีการใช้บัตรที่ทำอยู่ เผื่อเป็นความรู้ให้กับผู้ใช้ใหม่ ๆ ได้บ้าง สำหรับกูรูที่ผ่านมาอ่าน หากผมพูดตรงไหนผิดไปก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สำหรับท่านที่กำลังเก็บสะสมแต้มอยู่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ หมั่นตรวจสอบโปรโมชั่นของบัตรอยู่เสมอ ๆ เพื่อจะได้ไม่พลาดสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
และสุดท้ายขอขอบคุณ บัตรเครดิต กรุงศรี ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

ชวนมาแชร์ วิธีการใช้บัตรเครดิต ให้เกิดประโยชน์ ในแบบฉบับของท่านสมาชิก ซักนิดครับ เผื่อเป็นประโยชน์กับผู้ใช้มือใหม่ครับ
ผมแบ่งการใช้จ่ายบัตรเครดิต เป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ
1. หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ - หนี้ก้อนนี้คือหนี้ที่เกิดจากการรูดซื้อสินค้าหรือบริการ แล้วก่อให้เกิดรายได้ เช่น การรูดซื้อสินค้า เพื่อนำไปขายต่อ เป็นต้น การรูดในส่วนนี้ จะเน้นใช้บัตรที่มี cash back เป็นหลัก เพราะเป็นหนี้ที่มีการหมุนเร็ว เมื่อมี cash back มาช่วย จะทำให้เราได้ต้นทุนสินค้าที่ถูกลง
2. หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ - หนี้ก้อนนี้คือ หนี้ที่เกิดจากความอยาก เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ของใช้ต่าง ๆ ที่ใช้แล้วไม่ได้เงินเข้ามา ในส่วนนี้ จะเน้นไปที่บัตร ที่สามารถผ่อน 0 % ได้ยาว ๆ เพื่อให้เกิดภาระต่อเดือนที่น้อยที่สุด
3. หนี้ที่หลีกหนีไม่ได้ - หนี้ก้อนนี้คือ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ซึ่งไม่สามารถหลีกหนีได้ ก็จะใช้บัตรที่ได้ประโยชน์จากการชำระในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นแต้ม หรือ เงินคืนก็ตาม
จะเห็นได้ว่า หนี้ที่ผมก่อกับบัตรเครดิต ไม่มีส่วนไหนเลยที่เกิดจากการกดเงินสด เพราะการกดเงินสดผ่านบัตรเครดิต ถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมหันต์เลยทีเดียว เพราะดอกเบี้ยนั้นโหดแสนโหด หลายท่านที่เกิดปัญหาหนี้บัตรเครดิต ก็จะมาจากการกดเงินสดนี้ซะส่วนมาก สำหรับผมจึงถือเป็นข้อห้ามของการใช้บัตรเครดิต ข้อแรก เลยทีเดียว
ข้อสำคัญต่อมาคือ จ่ายให้ตรง อย่าจ่ายขั้นต่ำ ไม่เช่นนั้น ดอกเบี้ยก็จะตามมา หากมีการจ่ายขั้นต่ำ ทางบัตรจะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่ วันที่รูด ไม่ใช่วันครบกำหนด และอัตราดอกเบี้ยก็แพงมากเลยทีเดียว ดังนั้นนี่คือ กฎของการใช้บัตรเครดิต ข้อที่ 2 ของผม
ทริคของผมในการบริหารหนี้บัตรเครดิต ในส่วนของ ข้อ 2 และ ข้อ 3 คือ เราต้องมีเงินสดสำหรับที่จะซื้อสิ่งของนั้น ๆ เช่น ถ้าผมต้องการทีวีซักเครื่องนึง ผมจะต้องมีเงินสดพอที่จะจ่ายค่าตัวของทีวีเครื่องนั้นก่อน และนำเงินค่าทีวีนั้นฝากเข้าไปไว้ในบัญชี เพื่อนำมาชำระแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน หากยังไม่มีเงิน ผมจะไม่ซื้อเด็ดขาด เพราะนั่นหมายความว่า เรากำลังก่อหนี้ ที่อาจะเป็นภาระในอนาคต
ผมใช้บัตรเครดิตมาหลายปี ได้ประโยชน์กับบัตรเครดิตก็มากมาย บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า บัตรเครดิตพวกนี้จะได้อะไรจากเรา แต่ก็นั่นแหละครับ หลัง ๆ ผมเห็นกระทู้ ปัญหาบัตรเครดิตมากมาย จึงเข้าใจว่า เพราะเหตุใด จึงแย่งกันให้สมัครบัตรเครดิตซะเหลือเกิน
สุดท้ายฝากไว้ให้ท่านผู้ใช้ ที่พึ่งจะเริ่มใช้บัตรนะครับ บัตรเครดิต ถ้าใช้เป็น ก็เกิดประโยชน์ แต่หากใช้ไม่เป็น ก็มีแต่โทษ เท่านั้นครับ
อยากฝากให้ ผู้ที่เริ่มหัดใช้บัตรเครดิต ได้ศึกษารายละเอียดวิธีการใช้บัตรเครดิต ให้มาก ๆ อย่าได้ตกเป็นเหยื่อของดอกเบี้ยบัตรเครดิตเชียวนะครับ มันจะถอนตัวยาก และจะเป็นปัญหาชีวิตในภายภาคหน้าได้
ปล.ผมไม่ใช่กูรูหรือผู้รู้อะไรมากมายครับ เพียงแต่อยากแชร์วิธีการใช้บัตรที่ทำอยู่ เผื่อเป็นความรู้ให้กับผู้ใช้ใหม่ ๆ ได้บ้าง สำหรับกูรูที่ผ่านมาอ่าน หากผมพูดตรงไหนผิดไปก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สำหรับท่านที่กำลังเก็บสะสมแต้มอยู่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ หมั่นตรวจสอบโปรโมชั่นของบัตรอยู่เสมอ ๆ เพื่อจะได้ไม่พลาดสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
และสุดท้ายขอขอบคุณ บัตรเครดิต กรุงศรี ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ