ได้ยินแม่พูดอยู่เสมอว่าน่าจะไปแอฟริกาซะตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่เพื่อนคนหนึ่งชวน แต่ไม่ได้ไปด้วย อยากไปเห็นสัตว์อยู่ในทุ่งหญ้าเหมือนในสารคดี เลยตีความว่ามันคือประโยคบอกเล่ามาตลอด จนมาไม่นานนี้เอง ก็เริ่มคิดว่าถ้าไม่เป็นคนพาแม่ไปซะเอง แม่คงไม่ได้ไปแน่ๆ เพราะแอฟริกาก็รู้อยู่ หาแนวร่วมยากจะตาย คงไม่มีเพื่อนของแม่คนไหนที่จะจัดทริปนี้หรอก ขนาดเพื่อนๆของเราเองยังไม่มีใครสนใจใคร่รู้ในทวีปนี้สักเท่าไหร่ บวกกับคำถามในใจที่ว่าปิดเทอมหน้าจะพาลูกชายไปเที่ยวที่ไหนดี “แอฟริกา” จึงเริ่มที่จะเป็นคำตอบ จะได้พาแม่เที่ยวแอฟริกาให้สมใจอยาก และได้พาลูกเที่ยวปิดเทอมในคราวเดียวกัน นั่นแหละค่ะ! ทั้งหมดมันก็เริ่มมาจากตรงนั้น
เราจึงเริ่มหาข้อมูล โดยเริ่มจากประเทศ South Africa ก่อนเลย เพราะเป็นประเทศที่รู้จักมากที่สุด คุ้นหูมากที่สุด และรู้สึกว่ามันปลอดภัยมากที่สุดในทวีปแอฟริกา แต่พอดูๆแล้วมันไม่ใช่แนวแฮะ เพราะนอกจากซาฟารีแล้ว มันดูจะมีแต่แนวเมืองๆให้เที่ยว ซึ่งไม่ใช่จุดประสงค์ของเราสามคน เราอยากไปสัมผัสกับธรรมชาติมากกว่าที่จะเดินดี๊ด๊าอยู่ในเมืองศิวิไลซ์ เพราะกรุงเทพนี่ก็แสนจะศิวิไลซ์พอแล้ว ว่าแล้วจึงหาข้อมูลต่อไปว่ามีที่ไหนอีกบ้างที่จะไปซาฟารีได้ มีธรรมชาติอย่างอื่นให้เที่ยว และที่สำคัญ ปลอดภัย จึงมาเจอ “นามิเบีย” โผล่ขึ้นมา
พอมีไอเดียนี้ในหัวปุ๊บ ผีนักท่องเที่ยวก็เข้าสิงปั๊บ มีความขยันระดับสิบในการหาข้อมูลทั้งของไทยและต่างชาติ และแล้ว “นามิเบีย” ก็ได้มาตอบโจทย์ทริปครั้งนี้อย่างสมบูรณ์ มีความตื่นเต้นมาก รีบไปบอกลูกกับแม่แทบจะในทันทีทันใด “เมษาหน้า เราจะไปนามิเบียกันค่ะ” โดยไม่เว้นช่วงให้ถามต่อ รีบให้ข้อมูลที่อ่านมาแน่นเอียดว่า “นามิเบียอยู่แอฟริกาตอนใต้ค่ะ ทางใต้ติดกับประเทศ South Africa และมีเพื่อนบ้านอื่นๆคือ แองโกลา แซมเบีย ซิมบับเว และบอสวานา”

“หลักๆแล้ว เราจะไปซาฟารี ส่องหา Big 4 ที่ Etosha National Park ซึ่ง Big 4 ของที่นี่ก็คือ ช้าง สิงโต แรด และ เสือดาว นอกจากนี้แล้วเราจะไปทะเลทราย Namib ทะเลทรายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก” อธิบายต่อพร้อมอวดภาพตามสถานที่ต่างๆของนามิเบียอย่าง proudly present มากๆ คือหลังจากหาข้อมูลไปมากมาย มาถึงจุดที่เริ่มจะอินกับการที่จะไปเที่ยวแอฟริกายิ่งกว่าแม่ซะอีก แต่ก็อดห่วงแม่ไม่ได้ เพราะแม่นั้นอายุ 60กว่าๆแล้ว “แม่ไปไหวมั้ยคะ นั่งเครื่องบินนานหน่อย แล้วก็มีนั่งรถ เดินนู่นนี่อีก” ในใจขอให้แม่ตอบว่าไหวเถอะ แล้วแม่ก็ตอบว่า “แม่โอเค” เหมือนเสียงจากสวรรค์ ณ ตอนนั้น ส่วนลูกชายนั้นบอกว่า “อยากให้ถึงเดือนเมษาเร็วๆจัง”
ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณแหล่งข้อมูลต่างๆในพันทิป ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเชิงวิชาการ การเดินทาง ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กล้อง และภาพสวยๆ ที่นำมาสู่ inspiration สำหรับทริปครั้งนี้
การท่องเที่ยวทวีปแอฟริกาครั้งแรกของเราสามคน คุณยาย 60+, คุณแม่ 40+ และคุณลูกชาย 12 จึงเริ่มต้นขึ้น
[CR] Namibia ... เที่ยวนามิเบียไปกับ GenX
เราจึงเริ่มหาข้อมูล โดยเริ่มจากประเทศ South Africa ก่อนเลย เพราะเป็นประเทศที่รู้จักมากที่สุด คุ้นหูมากที่สุด และรู้สึกว่ามันปลอดภัยมากที่สุดในทวีปแอฟริกา แต่พอดูๆแล้วมันไม่ใช่แนวแฮะ เพราะนอกจากซาฟารีแล้ว มันดูจะมีแต่แนวเมืองๆให้เที่ยว ซึ่งไม่ใช่จุดประสงค์ของเราสามคน เราอยากไปสัมผัสกับธรรมชาติมากกว่าที่จะเดินดี๊ด๊าอยู่ในเมืองศิวิไลซ์ เพราะกรุงเทพนี่ก็แสนจะศิวิไลซ์พอแล้ว ว่าแล้วจึงหาข้อมูลต่อไปว่ามีที่ไหนอีกบ้างที่จะไปซาฟารีได้ มีธรรมชาติอย่างอื่นให้เที่ยว และที่สำคัญ ปลอดภัย จึงมาเจอ “นามิเบีย” โผล่ขึ้นมา
พอมีไอเดียนี้ในหัวปุ๊บ ผีนักท่องเที่ยวก็เข้าสิงปั๊บ มีความขยันระดับสิบในการหาข้อมูลทั้งของไทยและต่างชาติ และแล้ว “นามิเบีย” ก็ได้มาตอบโจทย์ทริปครั้งนี้อย่างสมบูรณ์ มีความตื่นเต้นมาก รีบไปบอกลูกกับแม่แทบจะในทันทีทันใด “เมษาหน้า เราจะไปนามิเบียกันค่ะ” โดยไม่เว้นช่วงให้ถามต่อ รีบให้ข้อมูลที่อ่านมาแน่นเอียดว่า “นามิเบียอยู่แอฟริกาตอนใต้ค่ะ ทางใต้ติดกับประเทศ South Africa และมีเพื่อนบ้านอื่นๆคือ แองโกลา แซมเบีย ซิมบับเว และบอสวานา”
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้