ชายที่ผมรู้จักคนนึง เค้าซื้อของขวัญเล็กๆน้อยๆให้แฟนอยู่เรื่อยๆ ทั้งตามเทศกาลและโอกาสแรนดอมทั่วไป เป็นของยี่ห้อโอเค ปานกลางค่อนข้างดี ไม่ได้เว่อร์มาก แต่ให้ค่อนข้างถี่ และก็มีให้การ์ดบอกความรู้สึกด้วยเป็นครั้งคราว แฟนสาวมักจะบอกว่าไม่ต้องซื้ออะไรให้ แต่เค้าก็ยังจะให้ เพราะทุกครั้งที่ให้ แฟนสาวก็จะแฮปปี้ทุกครั้ง
แฟนสาวของเค้าจะเป็นคนตรงๆ ตามเทศกาลต่างๆก็จะบอกแฟนหนุ่มว่าให้บอกว่าอยากได้อะไร ละจะซื้อให้ แต่ชายคนนี้เป็นคนเรียบง่าย ของใช้จำเป็นหลักๆทุกอย่าง มีครบหมดแล้ว เป็นคนไม่ซื้อของซี้ซั้ว ไม่สะสมอะไร แต่งตัวเรียบง่าย ไม่ใช้ของแบรนด์เนม และไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษ สิ่งที่ในใจอยากได้จริงๆจะเป็นของชิ้นใหญ่ราคาสูงไปเลย ทุกครั้งจึงบอกแฟนสาวว่า ไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษ ไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรก็ได้ จะได้ไม่ต้องเปลืองเงิน
ดังนั้น แฟนสาวจึงไม่เคยให้ของขวัญอะไรกับแฟนหนุ่มเลย ไม่ว่าจะเป็นการ์ดตามเทศกาล ดอกไม้ หรือสิ่งของเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
แฟนหนุ่มไม่มีปัญหาอะไรตลอดมา
จนมาวันนึงรู้ว่า แฟนสาวซื้อของตามเทศกาลต่างๆให้เพื่อนที่ค่อนข้างสนิท ในใจแฟนหนุ่มก็เข้าใจว่าตนเป็นคนบอกแฟนสาวเองว่าไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษ แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้มาว่าเพื่อนของแฟนสาวก็ไม่ได้เรียกร้องของขวัญจากแฟนสาวและไม่ได้ให้อะไรแฟนสาวกลับคืนตอบแทน แฟนสาวเต็มใจที่จะเป็นฝ่ายให้ฝ่ายเดียว
ตัวแฟนหนุ่มจึงเริ่มรู้สึกว่า ทำไมตนไม่ได้อะไรจากแฟนสาว ไม่ว่าจะเป็นแค่การ์ด ดอกไม้ ชอคโกแลต หรืออะไรเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ราคาแค่สิบเหรียญ ยี่สิบเหรียญก็โอเค
แฟนหนุ่มไม่รู้จะพูดกับแฟนสาวตรงๆหรืออ้อมๆยังไง คิดว่าเรื่องแบบนี้มันพูดไม่ได้ มันน่าสมเพช เพราะถ้าบอกไปว่าอยากได้อะไร ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็จะดูเหมือนเป็นการเรียกร้อง เพราะอยากให้แฟนสาวให้เองด้วยใจ เหมือนอย่างที่แฟนสาวให้เพื่อนได้ โดยที่เพื่อนไม่ได้เรียกร้องอะไร, เหมือนอย่างที่แฟนสาวบอกกับตนว่าไม่ต้องซื้ออะไรให้นะ แต่ตนก็ยังซื้อให้
หลักๆแล้วแฟนหนุ่มเข้าใจและยอมรับ ว่าตนเป็นคนบอกแฟนสาวเองว่าตนไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษ จึงคิดว่าตนไม่มีสิทธิ์จะมารู้สึกไม่โอเค
,,,,,, จากเรื่องที่เล่ามา แฟนหนุ่มควรคิดอย่างไรให้ตัวเองรู้สึกโอเคและช่างมันไปได้
ควรทำหรือคิดอย่างไร ให้ตนรู้สึกโอเคกับเรื่องนี้
แฟนสาวของเค้าจะเป็นคนตรงๆ ตามเทศกาลต่างๆก็จะบอกแฟนหนุ่มว่าให้บอกว่าอยากได้อะไร ละจะซื้อให้ แต่ชายคนนี้เป็นคนเรียบง่าย ของใช้จำเป็นหลักๆทุกอย่าง มีครบหมดแล้ว เป็นคนไม่ซื้อของซี้ซั้ว ไม่สะสมอะไร แต่งตัวเรียบง่าย ไม่ใช้ของแบรนด์เนม และไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษ สิ่งที่ในใจอยากได้จริงๆจะเป็นของชิ้นใหญ่ราคาสูงไปเลย ทุกครั้งจึงบอกแฟนสาวว่า ไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษ ไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรก็ได้ จะได้ไม่ต้องเปลืองเงิน
ดังนั้น แฟนสาวจึงไม่เคยให้ของขวัญอะไรกับแฟนหนุ่มเลย ไม่ว่าจะเป็นการ์ดตามเทศกาล ดอกไม้ หรือสิ่งของเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
แฟนหนุ่มไม่มีปัญหาอะไรตลอดมา
จนมาวันนึงรู้ว่า แฟนสาวซื้อของตามเทศกาลต่างๆให้เพื่อนที่ค่อนข้างสนิท ในใจแฟนหนุ่มก็เข้าใจว่าตนเป็นคนบอกแฟนสาวเองว่าไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษ แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้มาว่าเพื่อนของแฟนสาวก็ไม่ได้เรียกร้องของขวัญจากแฟนสาวและไม่ได้ให้อะไรแฟนสาวกลับคืนตอบแทน แฟนสาวเต็มใจที่จะเป็นฝ่ายให้ฝ่ายเดียว
ตัวแฟนหนุ่มจึงเริ่มรู้สึกว่า ทำไมตนไม่ได้อะไรจากแฟนสาว ไม่ว่าจะเป็นแค่การ์ด ดอกไม้ ชอคโกแลต หรืออะไรเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ราคาแค่สิบเหรียญ ยี่สิบเหรียญก็โอเค
แฟนหนุ่มไม่รู้จะพูดกับแฟนสาวตรงๆหรืออ้อมๆยังไง คิดว่าเรื่องแบบนี้มันพูดไม่ได้ มันน่าสมเพช เพราะถ้าบอกไปว่าอยากได้อะไร ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็จะดูเหมือนเป็นการเรียกร้อง เพราะอยากให้แฟนสาวให้เองด้วยใจ เหมือนอย่างที่แฟนสาวให้เพื่อนได้ โดยที่เพื่อนไม่ได้เรียกร้องอะไร, เหมือนอย่างที่แฟนสาวบอกกับตนว่าไม่ต้องซื้ออะไรให้นะ แต่ตนก็ยังซื้อให้
หลักๆแล้วแฟนหนุ่มเข้าใจและยอมรับ ว่าตนเป็นคนบอกแฟนสาวเองว่าตนไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษ จึงคิดว่าตนไม่มีสิทธิ์จะมารู้สึกไม่โอเค
,,,,,, จากเรื่องที่เล่ามา แฟนหนุ่มควรคิดอย่างไรให้ตัวเองรู้สึกโอเคและช่างมันไปได้