สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกที่เขียนรีวิวนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สามารถติดตามอ่านตอนก่อนได้ที่ลิงค์ด้านล่างนะครับ
PART 1 : Himeji & Kyoto --> https://pantip.com/topic/38819342
PART 3 : OSAKA & WAKAYAKA (END) --> https://pantip.com/topic/38822727
มาต่อกันเลยนะครับ
วันที่ 4
วันนี้ตื่นนอนประมาณ 6 โมงกว่าๆ ก็ลงมารับประทานอาหารเช้าของทางโรงแรม ซึ่งเป็นบุฟเฟต์ ในช่วงเช้านี้ สามารถเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมได้ถึง 10 โมง ซึ่งระหว่างนี้ถ้าต้องการไปแช่น้ำร้อนช่วงเช้าก็สามารถทำได้ครับ

เขาบอกที่นี่ดังเรื่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต้องลองครับ

ขนมตบท้าย
โรงแรมจะมีรถกลับไปส่งที่สถานี Ikeda 2 ช่วงเวลาคือ 9.00 และ 10.00 เนื่องจากวันนี้จะไปนารา และโกเบ ต่อ ซึ่งอยู่กันคนละทิศเลย ดังนั้นจึงต้องออกเวลา 9.00 น. เพื่อทำเวลาสักนิด
รถก็มาส่งที่สถานี Ikeda จากนั้นก็นั่งรถไฟสาย Hankyu ไปลงที่ Umeda เพื่อนั่ง subway ต่อไปยังสถานี Higobashi โดยการเดินทางในวันนี้จะใช้บัตร KTP ใบที่ 2 โดยเริ่มวันนี้เป็นวันแรก (1/3)

ทางเดินในสถานี UMEDA หรูหราเชียว ซึ่งในสถานีนี้ก็จะมีห้างอยู่หลายห้าง สามารถทะลุขึ้นไปได้
โรงแรมที่จะพักในอีก 5 คืนที่เหลือคือ Righa Nakanoshima ซึ่งอยู่ติดกับสถานี Higobashi เลย สามารถขึ้นลิฟต์ที่ทางออกหมายเลข 10 ขึ้นมาโรงแรมจะอยู่ทางขวามือ ไม่ต้องเดินไกล

ขออนุญาตนำภาพจาก www.agoda.com มาใช้ เนื่องจากสภาพและสถานที่ เหมือนในรูปเลย
พอมาถึงโรงแรมก็ทำการฝากกระเป๋า และออกเดินทางต่อสู่นารา
การเดินทางไปยังนาราก็จะนั่งรถ subway ไปยังสถานี namba และนั่งรถไฟสาย Kintetsu Nara ไปยังสถานี Kintetsu Nara (ต้นสายไปสุดสายไม่ต้องเปลี่ยนรถเลย)
พอมาถึงสถานี เดินออกมา ก็สามารถเลือกการเดินทางได้ 2 แบบ คือขึ้นรถบัสไปยังป้ายบริเวณสวนนารา หรือจะเดินไปก็ได้ (เดินประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะถึงวัดโทไดจิ) ซึ่งทางที่จะเดินไปจะเป็นเนินขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งจะไม่สะดวกสำหรับ พ่อกับแม่ ดังนั้นจึงใช้วิธีนั่งรถบัสสาย 2 ไป ราคาจะอยู่ที่เที่ยวละ 220 เยน (ไม่สามารถใช้บัตร KTP ได้) ถ้าจะนั่งแค่ ไป-กลับ วัดโทไดจิ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋ววันนะครับ เพราะราคาตั๋ววันจะอยู่ที่ 500 เยน ซึ่งจะไม่คุ้ม หลังจากลงรถเมล์ (ป้าย N-7 โดยรถ Kintetsu Nara จะอยู่ป้าย N-3) ก็จะโผล่บริเวณสวนนาราพอดี เดินตรงเข้าไปก็จะเป็นวัดโทไดจิ จัดการซื้อตั๋วค่าเข้าเป็นจำนวน 600 เยน

สวนเต็มไปด้วยน้องกวาง
ภายในวัดจะมีเสาไม้ที่เจาะรูอยู่ ซึ่งเขาบอกว่าถ้าขอพร แล้วสามารถลอดผ่านช่องนี้ได้ พรนั้นจะเป็นจริง (ซึ่งก็มีคนลอดได้อยู่นะ แต่ต้องตัวผอมๆหน่อย)

เสาที่ว่าครับ
หลังจากไหว้พระ ชมสวนเสร็จก็กลับมาขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งตรงข้าม กลับไปยังสถานี

แวะซื้อไอติมระหว่างทางกลับ อร่อยครับ
ป้ายสถานีจะมีตลาดคนเดิน (Higashimuki Street) สามารถไปเดินเล่น หรือหาของกินได้
พอถึงสถานีก็ทำการกลับไปยังโรงแรมเพื่อเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตาสักหน่อย จึงนั่งรถกลับไปยังสถานี Namba เพื่อต่อรถไฟใต้ดินไปยังสถานี Higobashi ต่อ แต่ถ้าใครจะยิงตรงไปยัง Kobe เลยก็สามารถทำได้
หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จ ก็ออกมาหาของกิน โดยมื้อนี้จะไปกินข้าวหน้าปลาไหลที่ร้าน Unatoto ที่เพิ่งมาเปิดในไทยหลังจากกลับจากทริปนี้ไม่นาน โดยร้านนี้มีอยู่หลายสาขา แต่สาขาที่เลือกจะไปกินอยู่ที่สถานี Hommachi ซึ่งนั่งไปไม่ไกลจากที่พักมาก เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ไปกันเลย

ร้านดูเงียบๆ ไม่มีคน ไม่รู้เพราะช่วงเที่ยงวันธรรมดาหรือเปล่า
หลังจากอิ่มเรียบร้อย ก็ทำการเดินทางกันต่อ โดยเป้าหมายต่อไปคือโกเบ โดยเริ่มต้นที่สถานี Umeda จากนั้นสามารถนั่งรถไฟทั้งสาย Hankyu และ Hanshin เพื่อไปสถานี KOBE-SANNOMIYA ได้ทั้งคู่ (แต่ Hanshin จะไวกว่าหน่อยนึง สามารถดูระยะเวลาได้ที่ Hyperdia)
ตอนแรกตั้งใจจะไปศาลเจ้า Ikuta Shirne แต่เนื่องจากมาถึงก็เริ่มมืดแล้ว จึงตัดสถานที่นี้ออก แล้วไป Tetsujin Street แทน โดยสามารถนั่งรถใต้ดินของโกเบไปได้ โดยใช้บัตร KTP เลย ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
เริ่มจาก SANNOMIYA(SUBWAY) - SHINNAGATA ออกทางออก 1 ขึ้นมาก็จะเจอกับ Tetsujin Street สามารถเดินทะลุห้างตรงบริเวณนั้นได้ เดินไม่ไกลก็จะเจอ Tetsujin No.28 จัดการแชะรูปเลย

ตัวใหญ่มาก
พอเสร็จก็กลับมายังใต้ดิน เพื่อไปถ่ายรูปบริเวณอ่าวโกเบกันต่อ โดยนั่งจาก SHINNAGATA - HARBORLAND เดินขึ้นจากสถานีไม่ไกลก็จะเจอ MOSIAC ซึ่งเป็น ศูนย์รวมร้านอาหาร ริมน้ำของโกเบ โดยวันนี้ตั้งใจมากินร้าน Kannonya Cheesecake ซึ่งเขาว่าเป็นร้านขนมชีสเค้กชื่อดังของที่นี่

ระหว่างทางเดิน ก็เจออังปังแมนด้วย
เดินหาร้านสักพักก็จะเจอ เป็นร้านเล็กๆน่ารัก (ไม่ได้ถ่ายหน้าร้านมา)
ที่นี่จะบังคับสั่งเมนูตามจำนวนคน ไม่สามารถ มา 4 คน สั่ง 3 จาน ได้

พิชซ่าชีส เขาแนะนำว่าอร่อย แต่ความเห็นส่วนตัวก็เฉยๆนะครับ

อันนี้ไฮไลท์ของทางร้าน ขนมชีสเค้ก
ความเห็นส่วนตัว คิดว่าชีสเค้กก็ไม่ได้อร่อยมาก ไม่ถึงขนาดต้องมากินถึงที่นี่ และราคาแต่ละเมนูก็แอบแพงอยู่เหมือนกัน
หลังจากอิ่มท้อง ก็เดินไปด้านหลังถ่ายรูปอ่าวโกเบยามค่ำคืนหน่อย

จุดที่ใครๆก็มาถ่ายกัน

บรรยากาศดีนะครับ เย็นสบายจนหนาวเลย
เดินรับลมจนสมใจแล้ว ก็ทำการกลับไปยังที่พัก โดยนั่งใต้ดินโกเบ ขึ้นที่สถานี SHINNAGATA จากนั้นก็นั่งรถไฟสาย HANKYU หรือ HANSHIN กลับสถานี UMEDA จากนั้นก็นั่งรถใต้ดิน ไปสถานี HIGOBASHI เพื่อกลับที่พัก นอนเอาแรง เพราะพรุ่งนี้จะไป UNIVERSAL กันต่อ
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 4
ค่าอาหาร+ขนม 9940 เยน
ค่าตั๋วเข้าชม 2400เยน
ค่ารถบัส 440 เยน
ค่าของฝาก ของใช้ และอื่นๆ 5790 เยน
รวม 18570/4 = คนละ 4642.50 เยน
[CR] พาครอบครัวชมใบไม้เปลี่ยนสี ณ Kansai 9 วัน 8 คืน ไม่ยากอย่างที่คิด [Part 2 : NARA & KOBE & UNIVERSAL]
สามารถติดตามอ่านตอนก่อนได้ที่ลิงค์ด้านล่างนะครับ
PART 1 : Himeji & Kyoto --> https://pantip.com/topic/38819342
PART 3 : OSAKA & WAKAYAKA (END) --> https://pantip.com/topic/38822727
มาต่อกันเลยนะครับ
วันที่ 4
วันนี้ตื่นนอนประมาณ 6 โมงกว่าๆ ก็ลงมารับประทานอาหารเช้าของทางโรงแรม ซึ่งเป็นบุฟเฟต์ ในช่วงเช้านี้ สามารถเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมได้ถึง 10 โมง ซึ่งระหว่างนี้ถ้าต้องการไปแช่น้ำร้อนช่วงเช้าก็สามารถทำได้ครับ
โรงแรมจะมีรถกลับไปส่งที่สถานี Ikeda 2 ช่วงเวลาคือ 9.00 และ 10.00 เนื่องจากวันนี้จะไปนารา และโกเบ ต่อ ซึ่งอยู่กันคนละทิศเลย ดังนั้นจึงต้องออกเวลา 9.00 น. เพื่อทำเวลาสักนิด
รถก็มาส่งที่สถานี Ikeda จากนั้นก็นั่งรถไฟสาย Hankyu ไปลงที่ Umeda เพื่อนั่ง subway ต่อไปยังสถานี Higobashi โดยการเดินทางในวันนี้จะใช้บัตร KTP ใบที่ 2 โดยเริ่มวันนี้เป็นวันแรก (1/3)
โรงแรมที่จะพักในอีก 5 คืนที่เหลือคือ Righa Nakanoshima ซึ่งอยู่ติดกับสถานี Higobashi เลย สามารถขึ้นลิฟต์ที่ทางออกหมายเลข 10 ขึ้นมาโรงแรมจะอยู่ทางขวามือ ไม่ต้องเดินไกล
พอมาถึงโรงแรมก็ทำการฝากกระเป๋า และออกเดินทางต่อสู่นารา
การเดินทางไปยังนาราก็จะนั่งรถ subway ไปยังสถานี namba และนั่งรถไฟสาย Kintetsu Nara ไปยังสถานี Kintetsu Nara (ต้นสายไปสุดสายไม่ต้องเปลี่ยนรถเลย)
พอมาถึงสถานี เดินออกมา ก็สามารถเลือกการเดินทางได้ 2 แบบ คือขึ้นรถบัสไปยังป้ายบริเวณสวนนารา หรือจะเดินไปก็ได้ (เดินประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะถึงวัดโทไดจิ) ซึ่งทางที่จะเดินไปจะเป็นเนินขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งจะไม่สะดวกสำหรับ พ่อกับแม่ ดังนั้นจึงใช้วิธีนั่งรถบัสสาย 2 ไป ราคาจะอยู่ที่เที่ยวละ 220 เยน (ไม่สามารถใช้บัตร KTP ได้) ถ้าจะนั่งแค่ ไป-กลับ วัดโทไดจิ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋ววันนะครับ เพราะราคาตั๋ววันจะอยู่ที่ 500 เยน ซึ่งจะไม่คุ้ม หลังจากลงรถเมล์ (ป้าย N-7 โดยรถ Kintetsu Nara จะอยู่ป้าย N-3) ก็จะโผล่บริเวณสวนนาราพอดี เดินตรงเข้าไปก็จะเป็นวัดโทไดจิ จัดการซื้อตั๋วค่าเข้าเป็นจำนวน 600 เยน
ภายในวัดจะมีเสาไม้ที่เจาะรูอยู่ ซึ่งเขาบอกว่าถ้าขอพร แล้วสามารถลอดผ่านช่องนี้ได้ พรนั้นจะเป็นจริง (ซึ่งก็มีคนลอดได้อยู่นะ แต่ต้องตัวผอมๆหน่อย)
หลังจากไหว้พระ ชมสวนเสร็จก็กลับมาขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งตรงข้าม กลับไปยังสถานี
ป้ายสถานีจะมีตลาดคนเดิน (Higashimuki Street) สามารถไปเดินเล่น หรือหาของกินได้
พอถึงสถานีก็ทำการกลับไปยังโรงแรมเพื่อเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตาสักหน่อย จึงนั่งรถกลับไปยังสถานี Namba เพื่อต่อรถไฟใต้ดินไปยังสถานี Higobashi ต่อ แต่ถ้าใครจะยิงตรงไปยัง Kobe เลยก็สามารถทำได้
หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จ ก็ออกมาหาของกิน โดยมื้อนี้จะไปกินข้าวหน้าปลาไหลที่ร้าน Unatoto ที่เพิ่งมาเปิดในไทยหลังจากกลับจากทริปนี้ไม่นาน โดยร้านนี้มีอยู่หลายสาขา แต่สาขาที่เลือกจะไปกินอยู่ที่สถานี Hommachi ซึ่งนั่งไปไม่ไกลจากที่พักมาก เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ไปกันเลย
หลังจากอิ่มเรียบร้อย ก็ทำการเดินทางกันต่อ โดยเป้าหมายต่อไปคือโกเบ โดยเริ่มต้นที่สถานี Umeda จากนั้นสามารถนั่งรถไฟทั้งสาย Hankyu และ Hanshin เพื่อไปสถานี KOBE-SANNOMIYA ได้ทั้งคู่ (แต่ Hanshin จะไวกว่าหน่อยนึง สามารถดูระยะเวลาได้ที่ Hyperdia)
ตอนแรกตั้งใจจะไปศาลเจ้า Ikuta Shirne แต่เนื่องจากมาถึงก็เริ่มมืดแล้ว จึงตัดสถานที่นี้ออก แล้วไป Tetsujin Street แทน โดยสามารถนั่งรถใต้ดินของโกเบไปได้ โดยใช้บัตร KTP เลย ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
เริ่มจาก SANNOMIYA(SUBWAY) - SHINNAGATA ออกทางออก 1 ขึ้นมาก็จะเจอกับ Tetsujin Street สามารถเดินทะลุห้างตรงบริเวณนั้นได้ เดินไม่ไกลก็จะเจอ Tetsujin No.28 จัดการแชะรูปเลย
พอเสร็จก็กลับมายังใต้ดิน เพื่อไปถ่ายรูปบริเวณอ่าวโกเบกันต่อ โดยนั่งจาก SHINNAGATA - HARBORLAND เดินขึ้นจากสถานีไม่ไกลก็จะเจอ MOSIAC ซึ่งเป็น ศูนย์รวมร้านอาหาร ริมน้ำของโกเบ โดยวันนี้ตั้งใจมากินร้าน Kannonya Cheesecake ซึ่งเขาว่าเป็นร้านขนมชีสเค้กชื่อดังของที่นี่
เดินหาร้านสักพักก็จะเจอ เป็นร้านเล็กๆน่ารัก (ไม่ได้ถ่ายหน้าร้านมา)
ที่นี่จะบังคับสั่งเมนูตามจำนวนคน ไม่สามารถ มา 4 คน สั่ง 3 จาน ได้
ความเห็นส่วนตัว คิดว่าชีสเค้กก็ไม่ได้อร่อยมาก ไม่ถึงขนาดต้องมากินถึงที่นี่ และราคาแต่ละเมนูก็แอบแพงอยู่เหมือนกัน
หลังจากอิ่มท้อง ก็เดินไปด้านหลังถ่ายรูปอ่าวโกเบยามค่ำคืนหน่อย
เดินรับลมจนสมใจแล้ว ก็ทำการกลับไปยังที่พัก โดยนั่งใต้ดินโกเบ ขึ้นที่สถานี SHINNAGATA จากนั้นก็นั่งรถไฟสาย HANKYU หรือ HANSHIN กลับสถานี UMEDA จากนั้นก็นั่งรถใต้ดิน ไปสถานี HIGOBASHI เพื่อกลับที่พัก นอนเอาแรง เพราะพรุ่งนี้จะไป UNIVERSAL กันต่อ
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 4
ค่าอาหาร+ขนม 9940 เยน
ค่าตั๋วเข้าชม 2400เยน
ค่ารถบัส 440 เยน
ค่าของฝาก ของใช้ และอื่นๆ 5790 เยน
รวม 18570/4 = คนละ 4642.50 เยน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้