[CR] พาเพื่อนเที่ยวแชงกรีล่า ลี่เจียง ช่วงสงกรานต์ 5วัน5คืน แบบกลับมายังมีแรงเหลือ

ทริปไปตะลุยหิมะหนีร้อนตอนสงกรานต์ ในแชงกรีล่าและลี่เจียง ของแกงค์เรา 4 คน เดินทางในคืนวันที่ 10 เม.ย.62 และกลับถึงไทย 16 เม.ย.62
รีวิวนี้เราตั้งใจจะช่วยให้ข้อมูลการเดินทางค่ะ เพราะพวกเราไปซึมซับบรรยากาศจริงๆ เลยถ่ายกันด้วยกล้องมือถือเน้นถ่ายเล่นกันเองมากกว่า ขอไม่เน้นภาพสวยๆนะคะ แต่รับรองก่อนไปทำการบ้านมาแน่นเลยค่ะ เลยคิดว่าทำรีวิวให้ข้อมูลเพื่อนๆ ดีกว่า
ทริปเราเริ่มขึ้นในคืนวันที่ 10 เม.ย.62 ไฟล์ทเราเดินทางด้วยสายการบิน airasia เวลา 21.40 น. และเครื่องจะลงที่สนามบินคุนหมิงเวลา 01.00 น.ค่ะ ใช้เวลาเดินทางจริงๆประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่จีนเวลาเร็วกว่าที่ไทย 1 ชั่วโมงค่ะ

มาถึงตม.จีน เค้าจะมีที่วางใบกรอกเอกสารเข้าประเทศ เราใช้เวลาในการกรอกเอกสารนิดหน่อยค่ะ ตรงตม.จะมีช่องสำหรับนัก่องเที่ยวไทย สบายเลยค่ะมีเสียงพากษ์ภาษาไทยว่าให้วางมือตำแหน่งไหนบ้าง มองกล้องตรงไหนสบายค่ะ ไม่ต้องกังวล 

แพลนของเราคือออกจาก ตม.จีน จะพักโรงแรมในสนามบินเลย เพราะมีเดินทางไปแชงกรีล่าในตอนเช้าไฟล์ทแรกสุด 6.45 น. ด้วยสายการบินภายในประเทศ China Southern Airlines ที่เราจองมาไว้เรียบร้อยแล้วจาก trip.com (เอาจริงๆเพื่อไม่ให้เสียเวลาควรจองมาก่อนเลยค่ะ ใช้แอปฯ trip.com ก็ง่ายดีด้วย โหลดไว้ในมือถือได้เลย เพราะถ้าเราทำเอกสารหาย เราก็เปิดแอปฯให้เจ้าหน้าที่ที่เค้าน์เตอร์ดูได้ค่ะ) ราคาที่จองได้ประมาณ 1,900/คนค่ะ

ผ่าน ตม.รับกระเป๋า ถ้าใครต้องการไปพักโรงแรมในสนามบินก็ออกมาที่ประตู 1 ได้เลยค่ะ (ตอนแรกพวกเราหลงสุดๆ เดินวนไปวนมา สนามบินคุนหมิงมีป้ายก็จริง แต่หาทางขึ้นไปแต่ละชั้นแบบงงมาก สับสนหาทางไปแต่ละชั้นไม่เจอ พนักงานในสนามบินแทบไม่มีเลย น่าจะเพราะดึกแล้วด้วย ส่วนคนที่ยืนตรง information ก็ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย สื่อสารได้แค่เค้าเปิดแอปเหมือน google translate ให้พวกเราเท่านั้น แต่ภาษาที่แปลมาก็งง ไม่เข้าใจกันซะที 555)
ถ้าใครจะหาโรงแรมในสนามบินคือ ออกจากประตูที่ 1 เดินไปขึ้นลิฟท์ซ้ายสุด จะมีลิฟท์ให้กดไปชั้น 3 พอออกจากลิฟท์จะเจอโรงแรมเลยค่ะ

แต่วันที่เราเดินทาง อาจจะเพราะดึกแล้วด้วยและกว่าจะหาทางไปโรงแรมเจออีก พอไปถึงเค้าน์เตอร์ก็เจอพนักงานหลับฟุบอยู่ พยายามเรียกจนกว่าจะคุยกันรู้เรื่องว่า "Full" ที่พักเต็มจร้า ก็ใช้เวลาพักใหญ่ เราตัดสินใจว่าจะทำไงดี เลยไปถามที่พักแบบเป็น Lounge เป็นที่นั่งอย่างดีหน่อยเอนหลับได้ เข้าไปถามราคาโหดมาก 2 ชั่วโมง 600 บาท/คน เลยไม่เอาไม่คุ้ม
ความพยายามเรายังไม่จบ เดินต่อไปในชั้นนั้น มีที่นอนแบบเป็น sleep box เห็นราคาป้ายแล้วตกใจคนละ 88 หยวน/2ชั่วโมง/คน(ถ้าสื่อสารกันไม่ผิดอ่ะน๊า) แล้วคือพนักงานส่ายหน้าว่าเต็มแล้วจร้าเช่นเคยด้วย
สุดท้ายเราเลยจะหาที่พักงีบ เผื่อรอเวลาไปพักใน gate  สรุปคือ ทุกเก้าอี้ ทุกร้านอาหาร ทุกที่ว่างคือมีคนยึดเพื่อหลับไปหมดแล้ว
มีจุดเดียวที่เราพักได้คือ หน้าเค้าน์เตอร์เช็คอิน ชั้น2 ซึ่งพอขึ้นไป มีคนนอนกันเกลื่อนพื้น ตอนแรกทำใจไม่ได้ สุดท้ายคือเอาว่ะ ดีกว่าไม่มีที่พักวางของหรือพักขาได้บ้าง เรายอมนั่งพักสายตากันหน้าร้านขายของตรงด้านหน้าจุด check-in 
ซึ่งวินาทีนี้สนามบินปิดทำการแล้ว เพราะฉะนั้นจะเหลือแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยยืนสอดส่องให้ มองออกไปข้างนอกประตูสนามบินปิดไม่ให้ใครเข้าแล้ว

ลุกไปเข้าห้องน้ำ เราต้องลุ้นว่าเปิดไปแล้วห้องนั้นจะมีแจ็คพ็อตมั้ย ส่วนใหญ่เป็นส้วมแบบนั่งยองที่ไม่มีที่ฉีดก้น ส่วนน้ำก็เย็นมากๆ 555
กลับมานอนงีบที่เดิม พื้นเย็นมาก บันเทิงดีเนอะ
นั่งๆนอนๆรอเวลา ใกล้ๆตี 5 เริ่มมีเจ้าหน้าที่มาที่บางเค้าน์เตอร์ และเปิดแผงกั้นให้คนไปยืนรอที่เค้าน์เตอร์ check-in ของบางสายการบินได้

ก่อนเข้า ตม. เวะกิน kfc รองท้อง เพราะกว่าจะถึงแชงกรีล่าคือ 8.05 น. กลัวจะน็อคซะก่อน
ผ่านเข้า ตม.แบบโหดนิดหน่อย ดูเค้าจริงจังเคร่งคัดมาก
จุดดีของการได้นั่งเครื่อง China Eastern Airlines คือ เราโหลดกระเป๋าได้คนละ 20 กก. ไม่ต้องแบกเป้ ให้พี่ ตม.ที่เคร่งครัดได้ตรวจค้นกันมากด้วย

ผ่าน ตม.เข้ามา โอ้โห เพิ่งรู้ว่าสนามบินคุนหมิงที่นี่กว้างมาก มี gate เกือบ 70 gate ให้รอขึ้นเครื่อง 

นั่งรอไม่นาน ก็ประกาศเรียกขึ้นเครื่อง ตรงเวลามากชอบจังจุดนี้ ไม่มีดีเลย์เลยด้วย
เราเลยขึ้นเครื่องไปนั่งรอ แอร์แจกน้ำดื่มให้ และที่นั่งกว้างใช้ได้ค่ะ

เราใช้เวลาเดินทางไปแชงกรีล่าประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ก่อนขึ้นเครื่องเราส่ง wechat ไปบอกเจ้าของที่พักที่แชงกรีล่าว่าเครื่องจะถึงที่นั่น 8.05 เป็นไฟล์ทไหน (ซึ่งวันก่อนเดินทางเราได้คุยกับเจ้าของที่พักแล้วว่าให้ช่วยมารับเราที่สนามบินด้วย)
เราจองที่พักผ่าน agoda ซึ่งในแอปมีข้อความให้เราคุยกับเจ้าของที่พักได้ และเราได้ขอ wechat เพื่อสอบถามข้อมูลและติดต่อเรื่องให้เค้ามารับ ติดต่อเรื่องทัวร์ และเรื่องที่เที่ยวต่างๆ ซึ่งเจ้าของที่พักน่ารักมากดูแลเราอย่างดี ให้คำปรึกษาดีมาก และที่สำคัญเค้าคุยภาษาอังกฤษได้
การไปเที่ยวที่นี่ การสื่อสารค่อนข้างยาก หาคนคุยภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นอย่าฉะล่าใจค่ะ โหลด google translate ไว้ช่วยได้เยอะค่ะ
และที่สำคัญ ควรซื้อซิมไปจากเมืองไทย เพราะซิมจากไทยเล่น lime facebook google ได้เหมือนเดิมค่ะ

นั่งเครื่องมาสักพัก พอจะเริ่มเห็นแสงสว่าง มองออกไปนอกหน้าต่าง คิดว่าคงใกล้แชงกรีล่ามากแล้ว
เราจะเห็นภูเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะ สูงทะลุปุยเมฆหนาๆ ยิ่งใกล้เครื่องจะลง เราจะเห็นแผ่นดิน ทะเล แม่น้ำ และหุบเขาหิมะ สวยมากกก จนบางทีรู้สึกว่าเราคุ้มค่าแล้วจริงๆ ที่ตัดสินใจมาเยือนแชงกลีล่า
ตอนเครื่องแลนดิ้ง มองไปเห็นทุ่งหญ้าสีเหลืองอ่อน มีจามรี วัว มายืนกินหญ้า ข้างรั้วสนามบิน เห็นอาคารทรงธิเบตอยู่ห่างๆกัน โหหหหห ฟิน สวยสุดๆ

และแล้วเราก็ถึงสนามบินแชงกรีล่า
แล้วก็ได้เวลาเตรียมตัวเอาเสื้อกันหนาวออกมาใส่รอกันเลยค่ะ อากาศข้างนอกประมาณ 7 องศา
คุณ Yi เจ้าของที่พักเราส่งคนมารอรับที่ประตูทางออกแล้ว เค้า wechat มาบอก
ระหว่างทางนั่งรถไปก็แอบปลื้มกับวิวสวยๆ เป็นธรรมชาติ 2 ข้างทาง
และแล้วก็ถึงที่พักของเรา Yi's Guesthouse
ไปถึง คุณyi เจ้าของที่พักรอรับเราอยู่ เค้าไม่คิดเงินค่าไปรับพวกเราจากสนามบินเลยด้วย
ที่พักของเราคืนนี้ ราคาประมาณ 900 บาท แต่เราไปถึงเช้ามาก คุณยี่เลยให้พวกเราฝากของแล้วแนะนำให้ไปหาอะไรกินกันก่อน
เราเลยคุยเกี่ยวกับเรื่องไปเที่ยว คุณยี่แนะนำว่าอย่าซื้อทัวร์เลยมันไม่คุ้ม ใช้เช่ารถดีกว่า แล้วจะให้คนขับดูแลซื้อตั๋ว และเป็นไกด์ให้
ราคา 180 หยวน/คน  ถ้าเอาออกซิเจนกระป๋อง ราคากระป๋องละ 25 หยวน
เราเดินไปกินข้าว ซึ่งรอบๆ มีร้านอาหาร ร้านขายของชำ ร้านขายของที่ระลึก อยู่เยอะมาก แต่ดูๆแล้วส่วนใหญ่น่าจะสื่อสารไม่ได้ เลยเลือกร้านที่มีเมนูอังกฤษ และมีอาหารเช้าแบบ breakfast ด้วยน่าจะดีสุดในตอนนี้
ระหว่างนั่งกินข้าว คุณยี่ wechat มาถามว่าวันนี้ท้องฟ้าโปร่ง จะสะดวกขึ้นเขาวันนี้เลยมั้ย เพราะไม่มั่นใจอากาศวันพรุ่งนี้
จริงๆแล้ว พวกเราไม่ได้นอนกันมาทั้งคืน แต่ก็กลัวว่าพรุ่งนี้ฟ้าปิดก็อดเที่ยว เลยตัดสินใจไปวันนี้กันเลย
เราเดินเอาของไปเก็บเปลี่ยนเสื้อผ้า และเตรียมอุปกรณ์กันหนาว ให้พร้อมไปลุยภูเขาหิมะกัน (แต่สภาพร่างกายดูจะไม่พร้อมนะ)

พอพร้อม คุณยี่ตามคุณลุงคนขับรถมาให้ แกเป็นคนขับที่ยิ้มเก่ง มีความเป็นคนธิเบตใจดี ใส่เสื้อหนังสีดำ เท่เชียว
คุณลุงพาเราเดินทางสู่ Shika Snow Mountain
และพาเราไปส่งที่ทางขึ้นกระเช้า ซื้อตั๋วให้ บอกเราว่าจะมารับอีก 3 ชั่วโมง (สื่อสารกันภาษากายล้วนๆ + เครื่อคิดเลขหน่อยๆ)
ตอนจะเดินขึ้นบันได อาการเริ่มมาแล้ว อาการแพ้ที่สูงนั่นเอง เหมือนจะหน้ามืดเล็กน้อย
ทั้งๆที่กินยา diamox ที่เตรียมมาตั้งแต่เมืองไทยแล้วก่อนจะขึ้นเขามา แปลกตรงที่ผู้ชายตัวใหญ่ 2 คนแพ้หนัก โดยเฉพาะแฟนเราแพ้หนักมาก ปวดหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม เป็นหนักขึ้นตอนระหว่างเดิน จนขึ้นกระเช้า
คิดว่าเป็นเพราะว่าเราเดินทางมาเมืองที่อยู่สูงเลย (ทางที่ดีที่สุดน่าจะมาจากลี่เจียงก่อนจะได้ค่อยๆไต่ระดับความสูงกันไป อาจจะดีกว่า) แต่ดูจากพยากรณ์อากาศเลยกลัวว่าถ้าไปลี่เจียงก่อนเสี่ยงจะเจอฝนที่นี่ เราเลยปรับแผนเป็นแชงกรีล่าก่อนค่ะ

ทุลักทะเลกันพอสมควรกว่าเราจะมาถึงกระเช้าขั้นที่ 2 และ ขั้นที่ 3
เพราะกระเช้าอาจจะไม่ทันสมัยมากเลยค่อนข้างหวาดเสียว เป็นระบบรอกทางเดียว ถ้ามีการจอดก็จะจอดทั้งหมดทั้งราง เสียงดังออดแอดบ้างเล็กน้อย
แวะจอดชั้นที่ 2 คนส่วนใหญ่จะไปเดินเล่นถ่ายรูปตรง blue moon valley แต่พวกเราไม่แวะค่ะ ไม่ไหวไปต่อเลยดีกว่า
จะเข้าห้องน้ำ ผู้ชายบ่นว่าสภาพคือไม่ไหวจะเคลียร์ อืม อั้นล่ะ
พอกระเช้าไปสุดทาง เดินออกมาจากกระเช้า โอ้โห วิว  สวย อลังการ ดีงาม
หันไปมองแฟนเราที่ขอนั่งพักดมออกซิเจนปื้ดๆๆๆ เลยขอเดินนำไปถ่ายรูป ฟินมาก
ที่นี่สวยมาก หนาวกำลังดี คาดว่าน่าจะ -2 ภึง -5 องศา ล่ะมั้ง ไม่มั่นใจนะคะ แต่เสื้อหนาว ฮีทเทค ลองจอน เอาอยุ่ค่ะ
ข้างบนอากาศเบาบาง แต่สวย สงบ คนไม่พลุกพล่าน มีคนไทยมาเที่ยวกันครึ่งนึงของนักท่องเที่ยวบนนี้เลยมั้ง
[img]https://f.ptcdn.info/680/063/000/
ชื่อสินค้า:   Shangri-La Lijaing China ทะเลสาบน้ำนม
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่