ก่อนอื่นผมขอเกริ่นเรื่องเล่าเรื่องของผมก่อนครับ
ผมเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัด วันหนึ่งผมได้เห็นพี่หนูดี วนิษา เรซ จากหนังสือครับ ซึ่งจบจาก Harvard
คนที่ผมรู้จักคนหนึ่งก็จบมาจาก MIT ครับ ผมเลยตั้งเป้าหมายว่าสักวันต้องไปเรียนในมหาวิทยาลัยระดับโลกให้ได้ครับ
ผมมีความรู้สึกนี้ตั้งแต่ ม.2 ตอนที่ผมได้รู้จักคนที่จบมาจาก MIT (ตอนนี้ผมกำลังจะเข้าปี 1) แต่ว่ามันมีอุปสรรคหลายอย่างครับ ส่วนใหญ่มาจากตัวผมเองทั้งนั้น ทุกวันนี้ผมก็ยังโทษตัวเองหลายเรื่องที่ปี 1 ผมต้องเรียนต่อในไทย แต่ผมโยนอดีตทิ้งไปแล้ว ทุกวันนี้ผมพยายามที่สุดเพื่อที่จะได้ไปสู่ฝัน
ทำไมผมจึงโทษตัวเอง
ใครๆก็รู้ครับว่านักเรียนที่สอบได้ทุนไปเรียนปตรีที่ต่างประเทศส่วนใหญ่คือ นักเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เตรียมอุดม พวกนักเรียนโอลิมปิกทั้งหลายใช่ไหมครับ เมื่อผมรู้ผมก็ควรที่จะสอบเรียนต่อโรงเรียนพวกนี้ให้ได้ หรือพยายามให้ไปแข่งโอลิมปิกให้ได้ แต่
ผมแพ้ความขี้เกียจตัวเอง และตอนนั้นผมยังสับสนหลายอย่างครับ
ตอนนั้น ผมไม่ชอบการเรียน(ตอนนี้ก็ยังไม่ชอบ) ผมคิดว่ามันตอบโจทย์ที่ผมอยากจะเข้า MIT หรือ Harvard ไม่ได้ แทนที่ผมจะไปหาความรู้ด้วยตัวเอง ไม่ครับ ผมประชดด้วยการเล่นเกมและเสพสื่อลามกแม้ว่าผมจะมองว่ามันไม่ดี ตอนสุดท้าย ผมติดครับ ตอนนั้นเป็นช่วงที่กำเนิดวิทย์เพิ่งจะเปิดด้วย แทนที่ผมจะอ่านหนังสือไปสอบกำเนิดวิทย์ ผมกลับติดสื่อลามกไปแล้ว แบบว่าดูได้ตลอดเวลาเลยครับ พอสอบไม่ติดกำเนิดวิทย์ ผมก็เสียใจครับ แต่ผมคิดว่ายังมีมหิดลวิทยานุสรณ์อีก แต่คราวนี้แทนที่ผมจะอ่านหนังสือ ผมก็ไปเสพสื่อลามกอีกเช่นเคย ผลคือผมไม่ติดสักที่ครับ ผมคิดว่าการบ้านของโรงเรียนไม่ตอบโจทย์ที่ผมอยากจะเข้ามหิดลวิทยานุสรณ์ แทนที่ผมจะรีบทำให้เสร็จและอ่านหนังสือ ผมประชดด้วยการเล่นเกมและเสพสื่อลามก จนชีวิตผมตอนนั้นเรียกว่าห่วยสุดๆก็ได้ครับ แต่ชีวิตผมพลิกเมื่อผมได้ไปเข้าค่ายหนึ่งที่มีแต่คนเก่งๆ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ ข้อดีคือผมได้คิดที่จะปรับปรุงตัวเอง ข้อเสียคือผมเสีย self จากการที่ได้เห็นคนที่เก่งกว่ามากๆครับ จนตอนนั้นผมเคยคิดถึงว่าชีวิตตัวเองไร้ค่าเลยครับ แต่ผมก็กลับมาได้
ตอนม.ปลายผมได้ย้ายมาเรียนที่จังหวัดใกล้เคียงครับ เพราะนั่นเป็นที่เดียวที่ผมคิดว่าดีที่สุดที่คนห่วยๆอย่างผมจะสอบได้ นั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผมที่ผมคิดว่า มีผลอย่างมากกับผมครับ ผมทิ้งนิสัยขี้เกียจไป แต่ได้นิสัยใหม่มาครับ คือ ขี้กลัว และผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากตอนม.ต้นครับ
สืบเนื่องมาจากการที่ผมเข้าค่ายที่มีแต่คนเก่งๆ ทำให้เรากลัวครับ กลัวที่จะมีคนอื่นมองว่าเราเป็นคนโง่ และผมก็ประชดตัวเองครับที่ตัวเองโง่ ด้วยการดูสื่อลามก จนนิสัยที่ผมคิดว่ามันจะหายไปตอนม.ต้นกลับมาอีกครั้ง คะแนน GAT PAT ของผม เละเลยครับ
แต่โชคดีครับ ที่โรงเรียนของผมใกล้มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และที่แห่งนี้แหละครับที่ทำให้ผมรู้จักคำว่า Startup ผมเริ่มสนใจด้านธุรกิจตั้งแต่นั้นมาครับ
มันทำให้ผมไปสนใจในสายที่ใก้เคียงกัน เช่น การทำ App หรือ Machine Learning ในธุรกิจ จนถึงตอนนี้ผมก็เลือกเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนี้ครับ เพราะผมจะได้ไปใช้บริการเกี่ยวกับ startup ที่มหาวิทยาลัย
ผมอยากเรียนต่อต่างประเทศทำไมไม่สอบทุนรัฐบาล
1. ประเด็นหลัก ผมประเมินกำลังของตัวเองไว้แล้วครับ ว่าติดสื่อลามกจัด สอบไม่ติดแน่นอน
2. แม้ว่าผมจะสอบติด แต่กำลังของผมตอนนี้ ไม่ถึงเป้าหมายที่ผมตั้งไว้ คือ MIT แน่นอนครับ
3. ผมไม่ชอบใช้ทุนคืนครับ ถ้าไปเรียนแล้วต้องกลับมาทำงานคืนให้ ผมรับไม่ได้แน่นอนครับ
สิ่งที่ผมจะทำต่อไปในอนาคต
ตอนนี้สิ่งที่ผมอยากทำต่อไป คือ การเรียน
ป.ตรี ในมหาวิทยาลัย Top 10 ของโลกครับ อาจจะเป็นป.ตรีครั้งที่ 2 หรือออกจากมหาวิทยาลัยในไทยที่ผมเรียนอยู่เพื่อไปสมัครเรียนใหม่ ไม่ว่ามันจะต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยยากของผมก็ตาม แล้วผมจะทำอย่างไรต่อไป
ผมต้องมีผลงานที่โดดเด่น มีผลสอบที่ใช้ได้ มีความรู้เป็นเลิศ เรื่องเงิน ตอนนี้ผมค่อนข้างโอนเอนไปทางทุนส่วนตัว พ่อแม่ของผมไม่ใช่คนรวยครับ เพราะฉะนั้นตอนที่เรียน ผมต้องหาเงินไปด้วย แน่นอนครับ ผมเล็งด้าน startup ไว้ แต่ธุรกิจมันไม่ได้สร้างขึ้นได้ภายใน 1 หรือ 2 ปี ตรงนี้ผมทำใจไว้แล้วครับ แม้ว่าผมจะต้องใช้เวลาหาเงินเป็น 10 ปี ผมก็ต้องไปเรียน
ป.ตรี ในมหาวิทยาลัย Top 10 ของโลกให้ได้ครับ ช่วงนี้ผมพยายามอ่านหนังสือทบทวนสิ่งที่ผมพลาดไป 6 ปีในรั้วมัธยม ผมพยายามศึกษาเรื่อง startup เพิ่มเติม และผมจะพยายามสร้างผลงานให้ประจักษ์ เพื่อที่จะได้ไปโชว์กับมหาวิทยาลัยที่ผมอยากเข้าได้ครับ
ตอนนี้ผมอาจจะไม่ใช่นักเรียนโอลิมปิก ไม่ใช่คนที่เคยเรียนกำเนิดวิทย์ มหิดลวิทยานุสรณ์ ไม่ใช่คนที่เก่งจนคนอื่นชื่นชม ไม่ใช่คนที่สร้างผลงานระดับประเทศ ระดับโลก แต่สักวันผมหวังว่าผมจะได้สิ่งที่ผมฝันไว้ครับ
นี่เป็นชีวิตของผมครับ คุณคิดอย่างไรกันบ้างครับ
ผมอยากไปเรียนมหาวิทยาลัยระดับโลก นี่เป็นแผนของผม ผมอยากทราบว่า คุณคิดอย่างไร และมีอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ
ผมเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัด วันหนึ่งผมได้เห็นพี่หนูดี วนิษา เรซ จากหนังสือครับ ซึ่งจบจาก Harvard
คนที่ผมรู้จักคนหนึ่งก็จบมาจาก MIT ครับ ผมเลยตั้งเป้าหมายว่าสักวันต้องไปเรียนในมหาวิทยาลัยระดับโลกให้ได้ครับ
ผมมีความรู้สึกนี้ตั้งแต่ ม.2 ตอนที่ผมได้รู้จักคนที่จบมาจาก MIT (ตอนนี้ผมกำลังจะเข้าปี 1) แต่ว่ามันมีอุปสรรคหลายอย่างครับ ส่วนใหญ่มาจากตัวผมเองทั้งนั้น ทุกวันนี้ผมก็ยังโทษตัวเองหลายเรื่องที่ปี 1 ผมต้องเรียนต่อในไทย แต่ผมโยนอดีตทิ้งไปแล้ว ทุกวันนี้ผมพยายามที่สุดเพื่อที่จะได้ไปสู่ฝัน
ทำไมผมจึงโทษตัวเอง
ใครๆก็รู้ครับว่านักเรียนที่สอบได้ทุนไปเรียนปตรีที่ต่างประเทศส่วนใหญ่คือ นักเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เตรียมอุดม พวกนักเรียนโอลิมปิกทั้งหลายใช่ไหมครับ เมื่อผมรู้ผมก็ควรที่จะสอบเรียนต่อโรงเรียนพวกนี้ให้ได้ หรือพยายามให้ไปแข่งโอลิมปิกให้ได้ แต่ ผมแพ้ความขี้เกียจตัวเอง และตอนนั้นผมยังสับสนหลายอย่างครับ
ตอนนั้น ผมไม่ชอบการเรียน(ตอนนี้ก็ยังไม่ชอบ) ผมคิดว่ามันตอบโจทย์ที่ผมอยากจะเข้า MIT หรือ Harvard ไม่ได้ แทนที่ผมจะไปหาความรู้ด้วยตัวเอง ไม่ครับ ผมประชดด้วยการเล่นเกมและเสพสื่อลามกแม้ว่าผมจะมองว่ามันไม่ดี ตอนสุดท้าย ผมติดครับ ตอนนั้นเป็นช่วงที่กำเนิดวิทย์เพิ่งจะเปิดด้วย แทนที่ผมจะอ่านหนังสือไปสอบกำเนิดวิทย์ ผมกลับติดสื่อลามกไปแล้ว แบบว่าดูได้ตลอดเวลาเลยครับ พอสอบไม่ติดกำเนิดวิทย์ ผมก็เสียใจครับ แต่ผมคิดว่ายังมีมหิดลวิทยานุสรณ์อีก แต่คราวนี้แทนที่ผมจะอ่านหนังสือ ผมก็ไปเสพสื่อลามกอีกเช่นเคย ผลคือผมไม่ติดสักที่ครับ ผมคิดว่าการบ้านของโรงเรียนไม่ตอบโจทย์ที่ผมอยากจะเข้ามหิดลวิทยานุสรณ์ แทนที่ผมจะรีบทำให้เสร็จและอ่านหนังสือ ผมประชดด้วยการเล่นเกมและเสพสื่อลามก จนชีวิตผมตอนนั้นเรียกว่าห่วยสุดๆก็ได้ครับ แต่ชีวิตผมพลิกเมื่อผมได้ไปเข้าค่ายหนึ่งที่มีแต่คนเก่งๆ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ ข้อดีคือผมได้คิดที่จะปรับปรุงตัวเอง ข้อเสียคือผมเสีย self จากการที่ได้เห็นคนที่เก่งกว่ามากๆครับ จนตอนนั้นผมเคยคิดถึงว่าชีวิตตัวเองไร้ค่าเลยครับ แต่ผมก็กลับมาได้
ตอนม.ปลายผมได้ย้ายมาเรียนที่จังหวัดใกล้เคียงครับ เพราะนั่นเป็นที่เดียวที่ผมคิดว่าดีที่สุดที่คนห่วยๆอย่างผมจะสอบได้ นั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผมที่ผมคิดว่า มีผลอย่างมากกับผมครับ ผมทิ้งนิสัยขี้เกียจไป แต่ได้นิสัยใหม่มาครับ คือ ขี้กลัว และผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากตอนม.ต้นครับ
สืบเนื่องมาจากการที่ผมเข้าค่ายที่มีแต่คนเก่งๆ ทำให้เรากลัวครับ กลัวที่จะมีคนอื่นมองว่าเราเป็นคนโง่ และผมก็ประชดตัวเองครับที่ตัวเองโง่ ด้วยการดูสื่อลามก จนนิสัยที่ผมคิดว่ามันจะหายไปตอนม.ต้นกลับมาอีกครั้ง คะแนน GAT PAT ของผม เละเลยครับ
แต่โชคดีครับ ที่โรงเรียนของผมใกล้มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และที่แห่งนี้แหละครับที่ทำให้ผมรู้จักคำว่า Startup ผมเริ่มสนใจด้านธุรกิจตั้งแต่นั้นมาครับ
มันทำให้ผมไปสนใจในสายที่ใก้เคียงกัน เช่น การทำ App หรือ Machine Learning ในธุรกิจ จนถึงตอนนี้ผมก็เลือกเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนี้ครับ เพราะผมจะได้ไปใช้บริการเกี่ยวกับ startup ที่มหาวิทยาลัย
ผมอยากเรียนต่อต่างประเทศทำไมไม่สอบทุนรัฐบาล
1. ประเด็นหลัก ผมประเมินกำลังของตัวเองไว้แล้วครับ ว่าติดสื่อลามกจัด สอบไม่ติดแน่นอน
2. แม้ว่าผมจะสอบติด แต่กำลังของผมตอนนี้ ไม่ถึงเป้าหมายที่ผมตั้งไว้ คือ MIT แน่นอนครับ
3. ผมไม่ชอบใช้ทุนคืนครับ ถ้าไปเรียนแล้วต้องกลับมาทำงานคืนให้ ผมรับไม่ได้แน่นอนครับ
สิ่งที่ผมจะทำต่อไปในอนาคต
ตอนนี้สิ่งที่ผมอยากทำต่อไป คือ การเรียน ป.ตรี ในมหาวิทยาลัย Top 10 ของโลกครับ อาจจะเป็นป.ตรีครั้งที่ 2 หรือออกจากมหาวิทยาลัยในไทยที่ผมเรียนอยู่เพื่อไปสมัครเรียนใหม่ ไม่ว่ามันจะต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยยากของผมก็ตาม แล้วผมจะทำอย่างไรต่อไป
ผมต้องมีผลงานที่โดดเด่น มีผลสอบที่ใช้ได้ มีความรู้เป็นเลิศ เรื่องเงิน ตอนนี้ผมค่อนข้างโอนเอนไปทางทุนส่วนตัว พ่อแม่ของผมไม่ใช่คนรวยครับ เพราะฉะนั้นตอนที่เรียน ผมต้องหาเงินไปด้วย แน่นอนครับ ผมเล็งด้าน startup ไว้ แต่ธุรกิจมันไม่ได้สร้างขึ้นได้ภายใน 1 หรือ 2 ปี ตรงนี้ผมทำใจไว้แล้วครับ แม้ว่าผมจะต้องใช้เวลาหาเงินเป็น 10 ปี ผมก็ต้องไปเรียน ป.ตรี ในมหาวิทยาลัย Top 10 ของโลกให้ได้ครับ ช่วงนี้ผมพยายามอ่านหนังสือทบทวนสิ่งที่ผมพลาดไป 6 ปีในรั้วมัธยม ผมพยายามศึกษาเรื่อง startup เพิ่มเติม และผมจะพยายามสร้างผลงานให้ประจักษ์ เพื่อที่จะได้ไปโชว์กับมหาวิทยาลัยที่ผมอยากเข้าได้ครับ
ตอนนี้ผมอาจจะไม่ใช่นักเรียนโอลิมปิก ไม่ใช่คนที่เคยเรียนกำเนิดวิทย์ มหิดลวิทยานุสรณ์ ไม่ใช่คนที่เก่งจนคนอื่นชื่นชม ไม่ใช่คนที่สร้างผลงานระดับประเทศ ระดับโลก แต่สักวันผมหวังว่าผมจะได้สิ่งที่ผมฝันไว้ครับ
นี่เป็นชีวิตของผมครับ คุณคิดอย่างไรกันบ้างครับ